เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 401 สง่าราศีของพี่ชายคนโตแห่งตระกูลเย่
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 401 สง่าราศีของพี่ชายคนโตแห่งตระกูลเย่
ตอนที่ 401 สง่าราศีของพี่ชายคนโตแห่งตระกูลเย่!
ยามของตระกูลซูชะงักไปทันที “อ้าว! ที่แท้คือพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ของนายท่านของเรา! เชิญเลยครับๆ!”
เย่เฉินได้แจ้งเรื่องพี่ชายและพี่สะใภ้ของเย่เฉินจะมาร่วมงานตั้งนานแล้ว ตระกูลซูก็บอกยามตั้งแต่แรกแล้ว
ซูเจิ้นหางเองถึงกับสั่งด้วยตนเองว่าจะต้องเกรงใจ ให้เกียรติคนบ้านนี้ให้มากๆ ห้ามทำพวกเขาโกรธโดยเด็ดขาด!
และในเวลานี้เองบรรดาแขกในงานต่างก็ยืนดูฉากจุมพิตอันดูดดื่มระหว่างเจ้าบ่าวและเจ้าสาวอยู่ จึงไม่มีใครได้สังเกตเหตุการณ์ทางนี้
เย่เทียนเดินไปตบบ่าน้องชาย“น้องสาม”
เย่เฉินถึงหลุดออกจากภาพมายา
ในภาพจำของเขานั้นคนที่เขาเพิ่งจึมพิตไปไม่ใช่ซูมู่ชิง แต่เป็นฉินหงเหยียน!
ซูมู่ชิงที่น่าสงสาร ถ้าหากหล่อนรู้ความจริงคงจะเจ็บปวดใจ!
เย่เฉินหมุนตัวไปเห็นผู้หญิงที่ดูผู้ดีคนนั้นก็ดีใจอย่างมาก
“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้!”
เย่เฉินรีบเดินเข้าไปกอดพี่ชายทันที!
และในเวลานี้เองคนตระกูลซูต่างก็ตื่นเต้น
ซูเจิ้นหางจ้องเย่เทียนไม่กระพริบตา ซูมู่หลินถึงขั้นที่อยากจะลุกออกจากรถเข็นออกมา!
ตระกูลซูที่ยิ่งใหญ่แต่กลับตื่นเต้นเช่นนี้เมื่อเจอคนตระกูลเย่จนเสียมารยาท!
เหล่าแขกเหรื่อต่างก็เริ่มถกเถียงกันขึ้นมา
“ญาติของเจ้าบ่าวมาแล้ว พี่ชายเขาดูแล้วสุขุมดีจังเลย”
“พี่สะใภ้ของเจ้าบ่าวบุคลิกดีจัง ดูก็รู้ว่าเป็นลูกผู้รากมากดี!”
“นั่นสิ ถึงแม้ว่าจะไม่สวยเท่าคุณหนูซู แต่ผู้หญิงแบบนี้ดูแล้วสบายตา อีกทั้งไม่น่าเบื่ออีกด้วย”
แล้วหน้าตาของพี่สะใภ้เย่เฉินก็กลายเป็นหัวข้อของคนอื่นในงาน
จะต้องรู้ว่าในงานนั้นมีสาวงามอยู่ถึงสองคนนั้นคือหวังเจียเหยาและซูมู่ชิง
หากตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นๆ ได้แต่ในงานยังมีคนที่สวยขนาดนี้อยู่ นับว่าพี่สะใภ้ของเย่เฉินมีสเน่ห์มากพอตัว
ที่จริงแล้วพี่สะใภ้ของเย่เฉินเป็นลูกครึ่งจีน-ญี่ปุ่น ชื่อของหล่อนคือ
คงเป็นนามสกุล ส่วนยูมิเป็นชื่อมาจากฝั่งแม่
เย่เทียนตบบ่าน้องชาย “น้องสาม นายเปิดเผยดีนี่ ถึงกล้าจูบเจ้าสาวนายต่อหน้าคนหมู่มากขนาดนี้ ไม่อายเลย”
คงยูมิเองก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “นั่นสิ สูงขึ้น หล่อขึ้นด้วยนะ”
ซูมู่ชิงมองทั้งสองคนอย่างตื่นเต้น “พวกคุณคือพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ของเย่เฉินใช่ไหมคะ? สวัสดีค่ะทุกคน ฉันชื่อซูมู่ชิง ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ!”
เย่เทียนและคงยูมิจับมือทักทายซูมู่ชิง
คงยูมิชมด้วยรอยยิ้ม “สวยจริงๆ ด้วย มิน่าล่ะเย่เฉินถึงได้จูบคุณเหมือนคนโง่เลย”
ซูมู่ชิงเขินอายใบหน้าแดงก่ำ
และในเวลานี้เองซูเจิ้นหางก็เป็นฝ่ายเดินมาพวกเขา
ถึงแม้ว่าเย่เทียนจะเป็นอายุน้อยกว่าซูเจิ้นหาง แต่เขากลับให้ความสำคัญกับคนระดับนี้มาก
หนึ่งคือเย่เทียนเป็นลูกชายคนโต แถมยังผ่านทุกด่านภารกิจแล้ว และน่าจะรู้ความลับของตระกูลทั้งหมดแล้ว
อนาคตเป็นไปได้อย่างมากว่าจะกลายเป็นผู้กุมทุกอย่างของตระกูลเย่
สองก็คือเย่เทียนคนนี้เป็นคนลึกลับ ซูเจิ้นหางเคยส่งคนไปหาข่าวเรื่องเขามามจำนวนนับไม่ถ้วนแต่ก็ไม่เคยได้ภาพเขาแม้แต่ใบเดียว!
ดธอคือพี่ชายคนโตของเย่เฉินใช่ไหม? ยินดีต้อนรับนะ!”
ซูเจิ้นหางเป็นฝ่ายเดินไปหาแล้วกล่าวทักทายเขา
เย่เทียนเองก็ไม่ขัดขืน เขาจับมือกับซูเจิ้นหาง “ท่านซู คุณปู่ของผมอยากจะมาเอง แต่ว่าช่วงนี้เขาไม่ค่อยสบายก็เลยไม่ได้มา เขาวานผมมาบอกท่านว่าเขายินดีอย่างมากที่ได้เกี่ยวดองกับตระกูลซู”
ซูเจิ้นหางเองก็ตื่นเต้น“ฉันเองก็ดีใจที่ได้ดองกับคุณปู่ของเธอ”
แขนในงานต่างก็สัสนกับภาพที่กำลังเห็นตรงหน้า
พวกเขารู้ว่าตระกูลซูยิ่งใหญ่ขนาดไหนในประเทศนี้ แต่ชนรุ่นหลังอย่างเย่เทียนเป็นแค่พี่ชายคนโตของหลานเขยซูเจิ้นหาง
คิดไม่ถึงว่าชายชราจะเป็นฝ่ายเดินไปหา แถมยังเป็นฝ่ายื่นไมตรีให้เขา!
ตระกูลเย่นี้น่าจะมีประวัติควาเป็นมาไม่ธรรมดา!
เย่เทียนดูทรทงอำนาจ อีกทั้งไม่ยิ้มแย้มเขากล่าวเสียงเย็นชา
“ที่ประตูเมื่อกี้ผมเห็นคนพูดว่านี่คืองานแต่งงานของตระกูลซู ชื่อของซูมู่ชิงก็นำหน้าของน้องชายผม นี่ออกจะน่าเกลียดเกินไปมั้ง? ปกติแล้วชื่อผู้ชายต้องอยู่ข้างหน้าผู้หญิงไม่ใช่เหรอ?”
ซูเจิ้นหางเก้อเขินเล็กน้อย ดูแล้วพี่ชายคนนี้น่าจะอยากทวงความยุติธรรมให้พี่ชาย!
จางเชี่ยนจือที่ไม่ชอบครอบคัวเย่เฉินอยู่แล้วก็กล่าววว่า “น้องชายเธอแต่งเข้าตระกูลซูของเรา ชื่อผู้หญิงอยู่ด้านหน้า แล้วชื่อผู้ชายอยู่ด้านหลังก็เป็นธรรมดานี่นา!”
“แต่งเข้าเหรอ?” เย่เทียนแค่นเสียง “ผมคงต้องพูดตรงๆ ตระกูลซูของคุณยังไม่มีสิทธิ์จะให้ทายาทรุ่นที่สามของตระกูลเย่แต่งเข้าบ้านคุณ”
ซูมู่ชิงที่อยู่ไกลออกไปและเดินกลับมาไม่ได้ก็ตะโกนกร้าว “ปัญญาอ่อน ดูถูกใคร!”
เย่เทียนเพิ่งจะเดินเข้ามา ซูมู่ชิงก็ตื่นเต้นอย่างยิ่ง เขามองแค่ปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเย่เทียนเป็นคนใหญ่คนโต และร้ายกาจอย่างเหลือเกิน!
ชีวิตนี้ของซูมู่หลินชอบงัดข้อกับพวกคนที่ชอบคุยโวแบบนี้เป็นที่สุด!
ดังนั้นเสียงร้องตะโกนของเขาเหมือนแค่อยากจะมีตัวตนเท่านั้น
ซูเจิ้นหางกลับกลัวว่าซูมู่ชิงจะไปล่วงเกินเย่เทียนเข้า จึงถามตำหนิหลานชายอย่างรวดเร็ว
“มู่หลิน หุบปาก! ห้ามพูด!”
เหล่าแขกในงานต่างก็ชะงักนิ่งไป นี่จะทำอะไร?
ญาติบ่าวสาวกำลังจะทะเลาะกันแล้วเหรอ?
“หล่อเกินไปแล้ว…”
หวังเจียเหยาที่เห็นพฤติกรรมทั้งหมดตั้งแต่ที่เย่เทียนปรากฏกายขึ้น รวมถึงแววตาเย่อหยิ่งไม่เห็นหัวใครของเย่เทียนในขณะที่มองซูเจิ้นหางก็ตกหลุมรักเขาเข้าอย่างจัง
ถึงแม้ว่าเย่เทียนจะไม่หล่อเหลาเท่าเย่เฉิน แต่หวังเจียเหยาชอบผู้ชายที่แข็งแกร่ง มีฐานะสูงส่ง และมีเงินทอง
ผู้ชายอย่างเย่เทียนหล่อเหลาอย่างเหลือเกิน!
เย่เทียนปรายตามองจางเชี่ยนจือ แล้วกล่าวกับภรรยาของตนเอง “ที่รักคุณช่วยเอาสัญญามาให้ผมหน่อย”
“ครับ”
หญิงสาวหยิบสัญญาออกมาจากให้ถุงที่ถือเอาไว้
จากนั้นก็หยิบปากการาคาแสนดอลลาร์ออกมาจากกระเป๋า
แล้วเย่เฉินก็ส่งสัญญาและปากกาไปให้ซูมู่ชิง
ซูมู่ชิงชะงักไป “พี่ใหญ่ นี่พี่…”
เย่เทียนกล่าวต่อ “นี่คือหนังสือสัญญาส่งมอบกรรมสิทธิ์ของธุรกิจร้านเหล้าที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ คุณปู่จะยกธุรกิจร้านเหล้าในอังกฤษท้ั้งหมดให้คุณกับน้องสาม… แค่คุณเซ็นชื่อเท่านั้น บาร์ทั้งหมดในอังกฤษก็จะเป็นของพวกคุณ”
แขกในงานฮือฮากันทันที
“ไม่มั้ง? อังกฤษใหญ่ขนาดนี้ จะมีร้านเหล้ากี่ร้านกันเนี่ย? ซื้อแค่ร้านเดียวยังพอจะเชื่อแต่ทั้งประเทศเนี่ยนะ?”
“ฉันได้ยินมาว่าบาร์ทั้งหมดในอังกฤษโดนบริษัทใหญ๋ซื้อกิจการไป หรือว่าจะเป็นตระกูลเย่?”
“สวรรค์ ร้านเหล้าเยอะแยะขนาดนี้น่าจะต้องใช้เงินสักร้อยล้านเลยนะ! ที่ประเทศอังกฤษร้านเหล้าเงินสะพัดสุดๆ เพราะทุกคนชอบดูบอล แล้วถ้าจะดูบอลพวกเขาจะไปที่ร้านเหล้ากัน!”
“คุณหนูตระกูลซูจะกลายเป็นเจ้าของกิจการบาร์ในอังกฤษเหรอ? สุดยอด คนตระกูลเย่นี่เจ๋งจริงๆ! สุดยอดไปเลย!”
และในเวลานี้เองที่จริงแล้วกระทั่งเย่เฉินก็นิ่งไป เพราะเขารู้ว่าธุรกิจร้านเหล้านี้สำคัญอย่างมาก อีกทั้งยังได้กำไรมากด้วย
“พี่ครับผมเป็นน้องคนที่สาม คุณปู่จะยกบริษัทพวกนี้ให้ผมได้ยังไงครับ?”
เย่เฉินถาม
เย่เทียนยิ้ม “ความคิดคุณปู่ทั้งนั้น ฉันกับพี่สะใภ้นายไม่อยากได้ธุรกิจอะไรหรอก พี่รองของนานยช่วงหลังๆ มานี้ก็ดื้อเต็มทน ดังนั้นก็เลยไม่ได้แบ่งธุรกิจพวกนี้ให้เขา แล้วยกทั้งหมดให้นายแทน”
คนตระกูลซูอ้าปากค้าง
เย่เทียนเป็นพี่ใหญ่ที่แสนดีจริงๆ!