เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 421 ผลการตรวจ DNA
ตอนที่ 421 ผลการตรวจ DNA!
เย่เฉินกำลังเข้าห้องน้ำอยู่ในตอนที่ศาสตราจารย์ก่วนโทรมา
เมื่อเย่เฉินกดรับสาย เขาก็โพล่งถามอย่างอดไม่ได้ “ศาสตราจารย์ก่วนครับ ผลตรวจออกมาหรือยัง?”
ศาสตราจารย์ก่วนกล่าว “ครับผม คุณเย่ ผลตรวจออกมาแล้ว ผมขอรับรองได้เลย รายงานฉบับนี้ถูกต้องแน่นอน อีกทั้งยังไม่มีทางปลอมแปลงได้แน่นอน”
เย่เฉินย่อมเชื่อใจศาสตราจารย์ก่วนมากอยู่แล้ว เย่เฉินรู้จักนิสัยที่แท้จริงของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี
ศาสตราจารย์ก่วนเองก็รู้ถึงศักยภาพของเย่เฉินต่อให้คนตระกูลซูอยากจะข่มขู่หรือว่าจ่ายเงินให้เขาก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
จู่ๆ ศาสตราจารย์ก่วนก็โพล่งถาม“ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณเย่ทำอะไรอยู่?”
เย่เฉินเองก็ตอบตามตรง “ผมอยู่ในห้องน้ำ”
“ถ่ายหนักหรือเบาครับ?” ศาสตราจารย์ก่วนซักไซร้
เย่เฉินเก้อเขิน “คุณคิดว่าผมจะถ่ายเบาไปพร้อมๆ กับคุยกับคุณเหรอครับ?”
ศาสตราจารย์ก่วนตอบ “สภาพคุณเย่ในตอนนี้คงไม่เหมาะจะให้ผมบอกผลคุณหรอกนะครับ จะรอให้คุณทำธุระเสร็จก่อนแล้วผมค่อยบอกผลคุณดีกว่า”
เย่เฉินชะงักไปทำไมไม่สะดวกบอกงั้นเหรอ?
หรือว่าซือซือไม่ใช่ลูกสาวของเย่เฉิน?
ทันใดนั้นเองเย่เฉินก็เริ่มคิดเลอะเทอะเรื่อยเปื่อย!
ศาสตราจารย์ก่วนคนนี้มักจะทำให้คนคาดเดาอะไรไม่ออก
เขาเป็นคนส่วนน้อยที่เย่เฉินไม่เคยรู้เลยว่าเขาคิดอะไรอยู่
คราวก่อนตอนที่เย่เฉินตรวจ DNA ลูกของเขากับหวังเจียเหยา สีหน้าสับสนของศาสตราจารย์ก่วนนั้นก็ทำให้เย่เฉินกระวนกระวายอยู่นาน
ดังนั้นครั้งนี้เย่เฉินจึงไม่ไปฟังผลที่เทียนไห่ เขาไม่อยากเข้าใจผิดเพราะสีหน้าสับสนของอีกฝ่าย!
“ก็ได้ อีกเดี๋ยวผมโทรหา”
หลังจากห้านาทีผ่านไป เย่เฉินก็กดโทรหาศาสตราจารย์ก่วน
เมื่อเขากดรับสายเย่เฉินก็กล่าวถาม “คุณเย่ ผมพอจะดูออกว่าคุณร้อนใจมากเลยทีเดียว ก่อนที่จะรายงานผลคุณ ผมขอแนะนำให้คุณสงบจิตสงบใจก่อน”
จากคำพูดของศาสตราจารย์ก่วนทำให้เย่เฉินยิ่งรู้สึกว่าผลตรวจน่าจะไม่ดีเท่าไหร่!
เย่เฉินสูดลมหายใจเข้าปอดลึกแล้วกล่าวต่อ “เอาล่ะ ไม่ว่าผลจะเป็นยังไงผมก็รับได้ทั้งนั้น คุณพูดมาเถอะ”
ศาสตราจารย์ก่วนก็พูดอีก “ผมยินเหมือนฝั่งคุณจะวุ่นวายเลยนะ ผมขอแนะนำให้คุณหาที่เงียบๆ ฟังรายงานดีกว่า”
เย่เฉินหยิบรีโมทมาปิดทีวีของโรงแรม ทันใดนั้นเองภายในห้องก็เงียบลง
“ศาสตราจารย์ก่วน คุณไม่ต้องทรมานใจผมแล้ว คุณบอกผมมาเถอะครับว่าซือซือใช่ลูกของผมหรือเปล่า!”
เย่เฉินทนไม่ไหวแล้ว
“ก็ได้” ศาสตราจารย์ก่วนยังคงสงบนิ่งจนเกินจะคาดเดา “งั้นผมจะรายงานผคุณตอนนี้เลย ทำใจให้ดีๆ ล่ะครับ จากข้อมูลและ DNA ที่ตรวจได้สนับสนุนว่าคุณเป็นบิดาโดยลสายเลือดของซือซือ!”
“แม่ง!”
ทันทีที่ได้ยินผลรายงานเย่เฉินไม่เพียงแต่ดีใจ แต่เขายังสบถคำด่าศาสตราจารย์ก่วนอีกเป็นชุด
“ซือซือเป็นลูกผมแล้วคุณจะพูดอ้อมไปอ้อมมาทำไม แถมยังให้ผมถ่ายเบาให้เสร็จ สั่งให้ผมปิดทีวีอีก คุณบอกตรงๆ ก็จบแล้วไม่ใช่หรือไง? เมื่อไม่กี่นาทีเมื่อครู่ คุณรู้ไหมว่าผมกังวลใจจนมีสภาพแบบไหน!”
ศาสตราจารย์ก่วนคนนี้นิสัยน่ารังเกียจจริงๆ ที่ศูนย์ตรวจเมื่อคราวก่อนเขาก็จงใจทำหน้าสับสนทำให้คนกังวล จนทำให้เย่เฉินที่อ่านสีหน้าอารมณ์คนอื่นได้ กังวลจนทำอะไรไม่ถูก
คิดไม่ถึงว่ารับสายคราวนี้ก็ทรมานใจเขาอยู่นาน!
ศาสตราจารย์ก่วนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผมกลัวคุณจะดีใจแล้วตกส้วมนี่นา ฮ่าๆ”
เย่เฉินสบถด่าเขา “ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ ผมจะไม่ไปตรวจ DNA ที่ศูนย์ตรวจของคุณอีก!”
ศาสตราจารย์ก่วนตอบพลางหัวเราะร่วน “ผมเองก็หวังว่าคุณเย่จะไม่ต้องมีเรื่องให้กังวลและต้องคาดเดาไปเองแบบนี้อีกนะครับ ขอให้ครอบครัวคุณมีความสุขนะ”
“อ่อ แค่นี้นะ”
เย่เฉินกดวางสาย แล้วกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ!
ซือซือเป็นลูกของเขา!
ซือซือเป็นลูกของเขาจริงๆ!
เขาก็คิดว่าเซ้นส์ของตัวเองไม่มีทางพลาด อีกทั้งซือซือยังมีพรสวรรค์ทางด้านดนตรีเหมือนเขาเลย ที่ทั้งแข็งแกร่งและยังอดทนด้วย!
ข้อสงสัยทั้งหมดล้วนแต่เป็นเรื่องเท็จ ซูมู่ชิงไม่เคยหลอกลวงเขา หล่อนเป็นผู้หญิงที่ดี ผู้ชายคนเดียวในชีวิตของหล่อนคือเขา!
เย่เฉินลุกลี้ลุกลนรีบจัดการตัวเองแล้วออกไปจากโรงแรม แล้วหันไปสั่งกับซีกวาให้ทำเรื่องเช็คเอ้าท์ คืนนี้เขาจะกลับไปอยู่ที่บ้านซูมู่ชิง จะไม่พักอยู่โรงแรมต่อแล้ว!
เขาซื้อขนม Skittles ที่เด็กหญิงชอบที่สุดหนึ่งถุง เย่เฉินอยากจะกลับไปเจอหน้าซือซือที่บ้านของซูมู่ชิงใจแทบขาด
ในตอนนี้ซือซืออยู่ในสนามหญ้าหน้าบ้าน เด็กหญิงกำลังเรียนวาดรูปกับคนแก่ผมขาวคนหนึ่ง
เมื่อเห็นเย่เฉินถือซองขนมเดินมา ซือซือก็รีบวางพู่กันลงแล้วโผเข้าหาเย่เฉิน “คุณพ่อ!”
“ลูกรัก!”
เย่เฉินอุ้มซือซือขึ้นมาอย่างดีอกดีใจ
ชายชราคนนั้นเห็นเย่เฉินก็รีบทักทายเขา “คุณคือพ่อของซือซือล่ะสิ มิน่าล่ะซือซือถึงได้หน้าตาสะสวยแบบนี้ ผมว่าแล้วลูกสาวหน้าตาสวยเหมือนพ่อ ส่วนสูงจะได้จากแม่”
ซูมู่ชิงเดินเข้ามาแล้วแนะนำอีกฝ่ายกับเย่เฉิน “ท่านผู้นี้คือครูสอนวาดรูปของซือซือ อาจารย์จาง อาจารย์จางเป็นนักวาดภาพชั้้นยอดของประเทศเรา”
เย่เฉินมองชายชราผู้นี้ ท่าทางเขาสุขุม มีความรู้ ก็ชื่นชมเขาอย่างมาก และเป็นฝ่ายยื่นมือไปทักอีกฝ่ายก่อน
“อาจารย์จาง สวัสดีครับ ผมคงต้องฝากลูกสาวผมไว้กับอาจารย์แล้ว”
ซือซือถามอย่างใสซื่อ “อาจารย์บอกว่าหน้าตาสวยเหมือนพ่อ ตัวสูงเหมือนแม่ งั้นทำไมหนูตัวไม่สูงเท่าแม่สักทีล่ะคะ ที่หนูไม่สวยเหมือนแม่เพราะแม่หนูไม่สวยเหรอคะ?”
เย่เฉินเองก็ขบขันไปกับตรรกะของเด็กหญิง เขาหัวเราะ “คุณแม่ของลูกเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกนี้แล้วล่ะ ซือซือก่อนจะอายุ 20 ปีหนูอย่าหวังเลยว่าจะตัวสูงเท่าแม่”
ถึงแม้ว่าซูมู่ชิงจะไม่เข้าใจคำชมเชยอ้อมๆ ของเย่เฉินนักว่าคืออะไร แต่พอจะมองออกว่าวันนี้เขาอารมณ์ดีมากทีเดียว
ส่วนสาเหตุที่เขาดีใจนั้นก็เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะผลตรวจ DNA
คราวนี้ซูมู่ชิงไม่ได้รับไมตรีจากเขา แต่หญิงสาวหัวเสีย หล่อนเดินกระฟัดกระเฟียดกลับห้องไป
เย่เฉินเองก็รีบร้อนเดินตามทันที เขาเอื้อมมือไปคว้าหญิงสาวมากอดจากด้านหลัง
“ขอโทษด้วยนะครับ มู่ชิงผมไม่ควรจะสงสัยคุณ”
ซูมู่ชิงโดนเย่เฉินกอดแบบนี้ หากเป็นเมื่อก่อนหญิงสาวคงจะมีความสุขมาก แต่ตอนนี้เจ้าหล่อนกลับผลักเขาทิ้ง
“ผลตรวจ DNA ออกมาแล้วหรือไง?”
เย่เฉินพยักหน้ารับ “คุณไม่ได้หลอกลวงผม แต่ผมคิดมากไปเอง”
เย่เฉินดึงมือซูมู่ชิงเอาไว้ “หลายวันมานี้ ผมต้องขอโทษด้วยคืนนี้ผมจะต้องชดเชยให้คุณอย่างงาม”
ซูมู่ชิงกลับกล่าวว่า “คุณอยู่ที่โรงแรมไปเถอะค่ะ ไม่ต้องกลับบ้านมาหรอก ฉันและซือซือดูแลกันเองได้ ไม่ต้องการคุณหรอกค่ะ”
เป็นครั้งแรกที่เย่เฉินเห็นซูมู่ชิงพูดกับตนเองด้วยท่าทีแบบนี้
ดูแล้วซูมู่ชิงน่าจะโกรธเขาจริงๆ หล่อนรักเขาขนาดนั้นแต่เขากลับสงสัยในความซื่อสัตย์ของตนเอง
ทว่าเย่เฉินกลับไม่ได้เสียใจเพราะเรื่องนั้นแต่อย่างใด กลับกันเขากลับรู้สึกว่าซูมู่ชิงที่กำลังโกรธนั้นน่ารักมากทีเดียว
แต่ไหนแต่ไรมาซูมู่ชิงหัวอ่อนเชื่อฟังเขามาตลอด แต่ผู้หญิงที่หัวอ่อน ว่านอนสอนง่าย มันน่าเบื่อและดูปลอมเหลือเกิน
คนทุกคนล้วนแต่มีอารมณ์ ซูมู่ชิงที่เป็นแบบนี้ดูเหมือนเป็นมนุษย์มากขึ้น
เย่เฉินฝืนจุมพิตซูมู่ชิงแล้วกล่าว “ที่รัก คืนนี้รอผมนะครับ ตอนนี้ผมขอออกไปข้างนอกประเดี๋ยว ผมจะต้องสืบให้ได้ว่าเป็นฝีมือใครกันแน่ที่ปั่นหัวผม!”