เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 437 คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเรื่องจริง
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 437 คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเรื่องจริง
ตอนที่ 437 คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเรื่องจริง!
ในห้องรับรองนั้นพวกสวี่เจี๋ยต่างก็กำลังรอดูอะไรสนุกๆ
หลงอีเยี่ยนไขว่ห้างแผ่บารมีของผู้บริหารหญิงออกมาอย่างเต็มเปี่ยม หล่อนจ้องเย่เฉินด้วยใบหน้าไม่ค่อยพอใจแล้วกล่าว
“เย่เฉิน ฉันได้ยินวังเหม่ยฉีบอกว่าเมื่อวานนายบอกกับพวกเขาว่าวังเหม่ยฉีเป็นดาราในสังกัดนาย นายนี่ดูแลกระทั่งฉัน ฉันนี่เป็นลูกน้องนาย มีเรื่องแบบนี้ไหม?”
ใบหน้าสวี่เจี๋ยระบายยิ้ม แล้วรีบร้อนแทรก “พวกเราเป็นพยานได้ เมื่อวานเย่เฉินคุยกับเราแบบนี้จริงๆ”
“จริงด้วย พูดจายโสโอหังเสียด้วย เขาบอกว่าคุณหลงเป็นลูกกระจ๊อกของเขา เขาให้คุณหันซ้ายคุณก็ต้องหันซ้าย”
เพื่อนผู้ชายอีกคนใส่สีตีไข่
พวกสวี่เจี๋ยล้วนแต่รอดูเย่เฉินหน้าแตก ถ้าหากว่าวันนี้พวกเขาไม่อยู่ด้วยล่ะก็เกรงว่าเย่เฉินคงจะปฏิเสธแน่ๆ
แต่ว่าพวกเขาที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็อยู่ที่นี่ จะปล่อยให้เย่เฉินกลับกลอกเท่าไหร่ก็จะไม่กล้าพลิกลิ้นอีก!
“ฮึ ไอ้คนหลอกลวงเย่เฉิน ฉันจะรอดูว่านายจะแก้ตัวยังไงวันนี้!”
สวี่เจี๋ยลอบสะใจคิดว่าเย่เฉินวันนี้จบเห่แล้ว!
เย่เฉินยืนตัวตรง เขากล่าวกับหลงอีเยี่ยนด้วยท่าทีนิ่งเฉย “ใช่ ผมเคยพูดแบบนี้”
เพี้ยะ!
ทันใดนั้นเองก็เห็นหลงอีเยี่ยนตบโต๊ะเสียงดัง แล้วรื้อชุดช้อนส้อมในซองอาหาร แล้วหยิบชามขนาดเล็กออกมา
หลงอีเยี่ยนหัวฟัดหัวเหวี่ยงด้วยท่าทีโกรธเกรี้ยว “สารเลว! เย่เฉิน ฉันไม่รู้จักนายด้วยซ้ำ วันนี้เพิ่งมาเจอหน้ากันวันแรก มีสิทธิ์อะไรมาว่าฉันเป็นลูกน้องนาย คิดไม่ถึงว่านายจะกล้าเอาฉันมาวางท่า บอกมานายใช้ชื่อฉันไปหลอกลวงคนมาเท่าไหร่แล้ว เคยหลอกเอาเงินแฟนคลับดาราในสังกัดฉันบ้างหรือเปล่า! ดูแล้วฉันคงจะต้องแจ้งความ จับ 18 มงกุฎ แล้วให้ทางตำรวจจัดนายหนักๆ เลย!”
หล่อนพูดพลางตั้งท่าจะโทรศัพท์หาตำรวจ
วังเหม่ยฉีรีบร้อนดึงหลงอีเยี่ยนพลางกล่าว “คุณหลง อย่าเลยนะคะ เย่เฉินรู้จักผู้กำกับเจียง ถ้าคุณอยากจะจับเขา ก็อาจจะทำลายความสัมพันธ์ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเรากับผู้กำกับเจียงนะคะ”
หลงอีเยี่ยนสะบัดวังเหม่ยฉีทิ้งแล้วตำหนิ “ยัยเด็กโง่ ถ้าหากว่าเขารู้จักผู้กำกับเจียง เขาจะอ้างฉันทำไมบ้าอะไร!”
ชื่อเสียงและสถานะของผู้กำกับเจียงเหนือกว่าหลงอีเยี่ยนเป็นสิบๆ เท่าดังนั้นหลงอีเยี่ยนจึงมั่นใจอย่างมากว่าเย่เฉินจะต้องไม่รู้จักผู้กำกับเจียง
ใครจะรู้ว่าในตอนนี้คิดไม่ถึงว่าสวี่เจี๋ยจะก้าวออกมาขอร้องแทนเย่เฉิน
สวี่เจี๋ยกล่าว “คุณหลง คุณอย่าแจ้งความเลย เย่เฉินเขาเป็นสามีของเพื่อนสมัยเด็กของผม ถ้าเขาโดนจับก็คงไม่ดีนัก”
เย่เฉินชะงักไปเล็กน้อย สวี่เจี๋ยอ้อนวอนแทนเขาเหรอ?
เกรงว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นแบบที่เห็น!
คิดไม่ถึงว่าประโยคต่อมาของสวี่เจี๋ยบอกว่า “ไม่งั้นเอาอย่างนี้ ให้เขาคุกเข่าขอโทษคุณ แล้วคุณยอมให้อภัยเขาดีไหมครับ”
“คุกเข่าขอโทษเนี่ยนะ”
ทั้งเย่เฉินและหลงอีเยี่ยนต่างก็ตกตะลึงไป
หลงอีเยี่ยนมองประเมินเย่เฉินเล็กน้อย หลงอีเยี่ยนโลดแล่นในวงการบันเทิงมานาน เจอสาวสวยหนุ่มหล่อในวงการนี้มาก็มาก
คิดไม่ถึงว่าจะมาสังเกตได้ในตอนนี้ว่าเย่เฉินเองก็หล่อเหลา รูปร่างกำยำ สามารถเป็นดาราได้เลย
หลงอีเยี่ยนเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ให้ผู้ชายเย่อหยิ่ง หล่อเหลา คุกเข่าให้ตนเองก็ถือเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจมากทีเดียว!
เดิมหลงอีเยี่ยนเป็นสาวแกร่ง คิดว่าผู้หญิงแข็งแกร่งกว่าผู้ชาย ดังนั้นจึงชอบให้ผู้ชายอยู่ใต้ฝ่าเท้าหล่อน
ดังนั้นหลงอีเยี่ยนจึงวางมือถือลงแล้วกล่าว “ได้สิ เย่เฉิน เห็นแก่ที่นายหน้าตาพอใช้ได้ ฉันจะให้โอกาสนายได้คุกเข่าขอโทษฉัน”
เจตนาที่หญิงสาวพูดแบบนี้เพราะอยากให้เย่เฉินขายหน้า ที่ไม่มีแม้กระทั่งสิทธิ์จะคุกเข่าขอโทษ ทำราวกับว่านี่เป็นการให้ความเมตตาเย่เฉินอย่างไรอย่างนั้น
เย่เฉินหัวเราะ “ฮ่าๆ ให้ผมคุกเข่าขอโทษคุณเหรอ? คุณไม่สมควรได้รับมันหรอกนะ!”
หลงอีเยี่ยนหัวเสียทันที “อะไรนะ? นายบอกว่าฉันไม่คู่ควรเหรอ? แกมันไอ้คนสารเลว แกดูถูกฉัน ถ้าเก่งมากก็อย่าอ้างชื่อฉันไปทั่วสิ!”
สวี่เจี๋ยก็ช่วยพูดแทนหลงอีเยี่ยน “จริงด้วย ถ้านายคิดว่าคุณหลงไม่คู่ควร แล้วเมื่อวานพูดถึงหล่อนก่อนทำไม นายก็ไม่ได้รู้จักหล่อนเสียหน่อย!”
เย่เฉินกล่าว “หลงอีเยี่ยน ที่ผมพูดว่าคุณเป็นลูกน้องผมเนี่ยเพราะเห็นคุณเป็นคนกันเอง เลยให้โอกาสคุณได้ทำงานให้ทำ หลังจากที่คุณได้ยินแล้วจะต้องรู้สึกเป็นเกียรติมากแน่!”
หลงอีเยี่ยนหัวเราะร่วน “ฮ่าๆ นายนี่โม้เก่งใช้ได้เลย บอกคนว่าฉันได้เป็นลูกน้องนายเนี่ยถือเป็นเกียรติของฉันแล้วเหรอ นายคิดว่าตัวเองเป็นใคร!”
เย่เฉินตอบ “ผมเป็นใครเหรอ? ผมก็เจ้านายของคุณไง!”
หลงอีเยี่ยนตบโต๊ะแล้วผุดลุกขึ้นทันที “แก!”
สวี่เจี๋ยกล่าว “เย่เฉิน นายเลิกขี้โม้ได้แล้ว ทำไมต้องพูดไม่ดีด้วย ไร้มารยาทจริงๆ คุณหลงแจ้งความเถอะครับ เราไม่ช่วยเขาแล้ว!”
เย่เฉินแค่นเสียง “ผมไม่ได้พูดคำหยาบ แต่ผมหมายถึงหลงฉี่อวิ้นพ่อคุณจริงๆ น่ะ พ่อคุณทำงานให้ผม ตอนนี้เขาเกษียณแล้ว ยกบริษัทให้คุณ ผมเห็นคุณเป็นคนกันเองผมเห็นแก่หน้าคุณ ถึงได้บอกว่าคุณเป็นคนของผม แต่ถ้าคุณไม่เต็มใจก็อัปเปหิตัวเองออกจากบริษัทชิงกั่วเอ็นเตอร์เทนเมนท์ไปสิไป!”
ทุกคนชะงักไป หลงอีเยี่ยนจ้องเขา “นาย…นายรู้จักพ่อฉันด้วยเหรอ?”
สวี่เจี๋ยรีบร้อนกล่าว “คุณหลงอย่าเชื่อคำเขานะครับ! เขาจะต้องไปค้นเจอว่าพ่อคุณยกบริษัทนี้ให้คุณ! ดังนั้นถึงได้จงใจโยงเรื่องนี้ไปหาพ่อคุณ เขาไม่มีทางรู้จักคุณหลงฉี่อวิ้นแน่นอน!”
และในเวลานี้เองจู่ๆ ประตูห้องรับรองนั้นก็เปิดออก
เสียงทุ้มหนาทรงพลังดังขึ้น “ใครบอกว่าเราไม่รู้จักกัน!”
แล้วก็พบชายภายใต้แว่นตาดำ เปียผม สวมสูท เดินเข้ามาด้วยท่าทีหล่อเหลา
ร่างกายและการแต่งตัวของชายคนนี้ดูแล้วเหมือนคนอายุ 20 กว่าปี
บวกกับแว่นตาที่บดบังใบหน้าทำให้อย่างมากก็ดูอายุแค่ 30 กว่าแค่ถ้าพินิจร่องรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าก็จะพบว่าเจ้าของร่างตรงหน้าอายุ 60 ปีแล้ว
ชายที่ดูหนุ่มแน่นทันสมัยคนนี้ก็คือหลงฉี่อวิ้น!
“คุณพ่อ!”
หลงอีเยี่ยนเห็นแค่เท่านี้ก็รู้ได้ในทันทีว่าพ่อตนเองมา
หลงอีเยี่ยนกลายเป็นเด็กน้อยทันที โถมตัวเข้าหาอ้อมกอดอีกฝ่าย
“พ่อคะ มาได้ยังไง?” หล่อนถามอย่างดีใจ
หลงฉี่อวิ้นถอดแว่นตา แล้วลูบศีรษะหลงอีเยี่ยนเบาๆ แล้วไม่ได้สนใจหล่อนอีก แต่เดินเข้ามาหาเย่เฉินทันที
เมื่อเห็นหลงฉี่อวิ้นค้อมตัว 90 องศาทำความเคารพเย่เฉินและกล่าวอย่านบนอบว่า “คุณเย่ครับ! ผมขอโทษด้วย เครื่องบินดีเลย์ ผมเลยมาช้า!”
เมื่อวานหลงฉี่อวิ้นยังเมาเละอยู่ที่เกาะทางใต้กับเหล่าดาราเน็ตไอดอลหางแถว วันนี้เช้าตรู่จึงรีบบินไฟลท์เช้ามา
ทุกคนนิ่งไป คิดไม่ถึงว่าเย่เฉินจะรู้จักกับหลงฉี่อวิ้นพ่อของหลงอีเยี่ยนจริงๆ!
อีกทั้งฝ่ายสูงวัยกว่ายังเคารพเย่เฉินอย่างมาก!
“เป็น…ไม่ได้…”
ในใจสวี่เจี๋ยลนลาน
เย่เฉินปรายตามองหลงฉี่อวิ้นเล็กน้อย แล้วพบว่าชายผู้นี้ดูท่าทางสดใส ไม่เหมือนคนอายุ 60 ปีแม้แต่น้อย
“คุณเย่เชิญนั่งครับ”
หลงฉี่อวิ้นเชิญเขานั่งอย่างสุภาพ
จากนั้นก็หันไปตำหนิลูกสาว “อีเยี่ยน ยังไม่รีบยกน้ำชาขอโทษคุณเย่อีก!”
“อ้อค่ะ”
หลงอีเยี่ยนรีบยกกาน้ำชาขึ้นมารินชาใส่แก้วให้เย่เฉินแล้วประคองมันขึ้นมา ค้อมตัวลงเล็กน้อยขณะยื่นไปหาเย่เฉิน
ทว่าเย่เฉินกลับไม่รับแก้วชาแต่กล่าวว่า “ท่าผิด!”