เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 45 ขอให้นายท่านลงโทษด้วย
ซีกวาสั่งสั้นๆ “พวกเราลุย!”
ยอดฝีมือจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สิบคนรุมเขาพร้อมกัน!
ตูม ตูม ตูม!
เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ!
เสียงต่อยตีรุนแรงดังขึ้นทั่วบริเวณ
ซีกวาตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าเย่เฉินจะสามารถรับมือคนสิบคนเพียงลำพังได้!
ซีกวาหยิบมือถือขึ้นมา แล้วโทรหาหลิวเจิ้งคุน
“ท่านหลิว ท่านช่วยส่งคนมาเพิ่มอีกสักสิบคนหน่อยสิครับ คนที่ผมพามาด้วยคาดว่าสักสิบนาท่าจะโดนเย่เฉินซ้อมจนน่วมแล้วล่ะครับ”
“อะไรนะ?”
หลิวเจิ้งคุนในในตอนนั้นเพิ่งจะเล่นหมากล้อมกับพ่อบ้านฟางเสร็จ พอได้ยินก็ตกใจ
“ในประเทศเรามีคนเก่งที่สามารถสู้กับคนสิบคนด้วยตัวลำพังคนเดียวได้เหรอ! อัจฉริยะภาพแบบนี้ฉันต้องเก็บเป็นเด็กในสังกัดให้ได้!”
“ส่งโลเคชั่นมา ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!”
หลิวเจิ้งคุนรีบตามไปอย่างรวดเร็ว
ตอนที่มาถึงลานจอดรถ นักเลงทั้งหมดที่เขาส่งมาก่อนหน้านี้นอนแผ่บนพื้นหมดแล้ว
ส่วนเย่เฉินนั้นเสื้อผ้ายับไปเล็กน้อย แต่คนไม่ได้เป็นอะไร
เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้หลิวเจิ้งคุนตกใจ แล้วเดินไปหาเย่เฉินด้วยความตื่นตระหนก
ยิ่งเข้าใกล้เย่เฉินเท่าไหร่ ความตื่นตระหนกบนใบหน้าหลิวเจิ้งคุนก็มากขึ้นตามไปด้วย
“เย่เฉิน…คือ…”
ทันใดนั้นเองทุกคนก็ได้เห็นหลิวเจิ้งคุนทรุดตัวคุกเข่าทันทีที่เห็นเย่เฉิน แล้วตะโกนเสียงดัง
“คุณชาย!”
ใบหน้าของเย่เฉินนั้นเหมือนกับคุณชายสามในรูปที่พ่อบ้านฟางให้หลิวเจิ้งคุนดูไม่มีผิดเพี้ยน!
แล้วในตอนนั้นเอง พวกหวังซ่าวเจี๋ย ซีกวา ต่างก็ตกตะลึง
“ท่านหลิว ท่านพูดอะไรน่ะ? เขาเป็นเขยที่แต่งเข้าของบ้านเรา ทำไมท่านเรียกเขาเป็นคุณชายล่ะ?” หวังซ่าวเจี๋ยถาม
ซีกวาถามอย่างตกใจ “ดูคนผิดหรือเปล่า?”
หลิวเจิ้งคุนไม่สนใจทั้งสองคน มองเย่เฉินอย่างนอบน้อม
“คุณชาย ผมเป็นลูกน้องของท่านฟาง เรื่องวันนี้ผมหลิวเจิ้งคุนตายร้อยครั้งก็ไม่พอ ขอคุณชายลงโทษด้วย!”
เย่เฉินถึงได้เข้าใจแจ่มแจ้ง ที่แท้ก็เป็นลูกน้องของพ่อบ้านฟาง
พูดไปแล้วก็เรียกซีกวามา “ขยะเอ้ย ยังไม่รีบคุกเข่าขอโทษนายน้อยอีก!”
ซีกวาไม่กล้าชักช้าอีก คุกเข่าลงแล้วตะโกน
“พี่เย่เฉิน คุณชายเย่เฉิน ผมซีกวาล่วงเกินท่าน ขอให้ท่านใจกว้างให้อภัยผมด้วย!”
หวังซ่าวเจี๋ยที่อยู่ด้านข้างก็ชะงักไป คิดไม่ถึงว่าลูกพี่ใหญ่ในอวิ๋นโจวอย่างซีกวาจะโขกศีรษะให้เย่เฉิน พร้อมกับอ้อนวอนเขา!
“ช่างเถอะ ไม่ต้องโขกแล้ว เดี๋ยวคนอื่นเห็นเข้าจะคิดว่าฉันเป็นลูกพี่ของพวกนักเลงหัวไม้”
ที่นี่คือลานจอดรถใต้ดินของบริษัท เย่เฉินจึงกลัวว่าจะดูไม่ดี
เย่เฉินกล่าว “ซีกวาโขกศีรษะขอโทษคงไม่ต้องแล้ว นายแค่ไปอธิบายกับคนตระกูลหวังให้ชัดเจนว่าฉันไม่ได้ขายนาฬิกาให้นายก็พอ”
ซีกวารีบตอบ “ครับ ผมจะไปบอกคนตระกูลหวังเดี๋ยวนี้ว่าหวังซ่าวเจี๋ยเป็นคนบอกให้ผมทำแบบนี้”
“นี่ พี่กวาจะขายผมไม่ได้นะ!”
หวังซ่าวเจี๋ยอยากห้ามซีกวา แต่กลับถูกซีกวาปล่อยหมัดใส่หน้า
ในเวลานี้เองหลิวเจิ้งคุนเดินมาด้วยไอสังหารเต็มใบหน้า “แกเองเหรอที่ทำร้ายคุณชายของเรา? เด็กๆ จับเขาโยนลงแม่น้ำหวงผู่หน่อย!”
หวังซ่าวเจี๋ยรู้ว่าหลิวเจิ้งคุนเป็นใคร เขาตกใจรีบลนลานอ้อนวอนเย่เฉิน
หวังซ่าวเจี๋ยคุกเข่าลงแล้วกอดขาเย่เฉิน
“น้องเขย พวกเราเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน นายจะปล่อยให้เขาทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ!”
เย่เฉินชักขากลับจากการเกาะกุมของหวังซ่าวเจี๋ย “ใครเป็นน้องเขยคุณกัน!”
หวังซ่าวเจี๋ยคลานกลับมาเกาะที่ขาเย่เฉินต่อ
“พี่เฉิน ผมสำนึกผิดแล้วครับ พี่ให้อภัยผมเถอะนะ ผมยกน้องสาวให้พี่ก็ได้ พี่ชอบเขามากไม่ใช่เหรอ?”
เย่เฉินอับอายจนฟาดมือลงบนใบหน้าอีกฝ่าย
“ผมเห็นหล่อนเป็นน้องสาว ผมไปชอบหล่อนตอนไหน!”
หวังซ่าวเจี๋ยกล่าวต่อ “อย่างนั้นคืนนี้ผมจะจัดงานเลี้ยง มอมเจียเหยาให้เมาแล้วส่งหล่อนให้พี่เอาไหม?”
เย่เฉินฟาดฝ่ามือลงบนหน้าอีกฝ่ายอีกครั้ง “คุณนี่มันเดียรัจฉานจริงๆ หวังเจียเหยากับหวังหยวนหยวนก็เป็นน้องสาวคุณนะ แถมคนหนึ่งยังเป็นน้องสาวแท้ๆ ด้วยแต่คุณกลับทำเหมือนพวกเขาเป็นสิ่งของ? ยังมีความเป็นคนอยู่ไหมเนี่ย?”
หวังซ่าวเจี๋ยไม่กล้าเถียงคำสั่งสอนของเย่เฉินด้วยซ้ำไป
พอเห็นหวังซ่าวเจี๋ยกลัวจริงๆ เขาจึงกล่าวต่อว่า
“หวังซ่าวเจี๋ย ผมปล่อยคุณไปก็ได้ แต่พอคุณกลับไปแล้ว ต้องเอาเรื่องที่ใส่ความผมไปบอกคนตระกูลหวังด้วยล่ะ”
“ครับๆ ขอบคุณครับพี่เฉิน!”
หวังซ่าวเจี๋ยรีบลุกขึ้นแล้วรีบเดินออกไป
พอหวังซ่าวเจี๋ยไปแล้ว หลิวเจิ้งคุนก็คุกเข่าลงต่อหน้าเย่เฉินอีกครั้ง “คุณชาย ผมพาลูกน้องร้อยคนมาด้วยจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผมยินดีมอบให้คุณชายใช้ได้เลย!”
เย่เฉินพยักหน้า พวกนักเลงจากต่างประเทศก็พอจะมีประโยชน์อยู่บ้าง
ยกตัวอย่างเช่นใช้จัดการจงเหว่ยที่เป็นขาใหญ่ของธุรกิจอาหารของอวิ๋นโจวคนนั้น
……
วิลล่าเขตซีซาน
“ซ่าวเจี๋ย แผลบนหน้าของแกมันเรื่องอะไร? ไม่ใช่ว่าโดนเดียรัจฉานเย่เฉินคนนั้นต่อยมาอีกนะ”
คุณนายหวังเห็นบาดแผลของหวังซ่าวเจี๋ยหนักขึ้นก็สงสารหลานชายอย่างยิ่ง
หวังซ่าวเจี๋ยรีบร้อนปฎิเสธ “ผมขับรถแล้วไม่ทันระวังเอาไปชนไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเย่เฉินครับ”
หลังจากนั้นเขาก็มองไปที่คุณนายหวังรวมไปถึงครอบครัวหวังจื้อหย่วนแล้วพูดว่า “คุณย่าครับ อาสองครับ ที่จริงแล้วเย่เฉินไม่ได้ขโมยนาฬิการิชาร์ด มิลล์ไปหรอกครับ แต่ผมเอาไปแล้วใส่ความเขา”
“อะไรนะ?” คุณนายหวังตกตะลึง
หวังจื้อหย่วนและซูหลานเองก็ตื่นตะลึงไปเช่นกัน
คุณนายหวังค่อนข้างรักใคร่หลานชายคนนี้มาก “ใส่ความก็ใส่ความไปสิ เย่เฉินก็ไม่ได้มือใสสะอาดอะไรขนาดนั้น ต่อให้ไม่ได้ขโมยของบ้านเราก็อาจจะขโมยของของคนอื่น ไม่อย่างนั้นจะเอาเงินจากไหนมาเช่าโรงแรมห้าดาว?”
“จริงสิ ซ่าวเจี๋ย วันนี้หลานไปที่บริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ป ได้เจอคุณเย่หรือเปล่า?”
หวังซ่าวเจี๋ยส่ายหน้า
คุณนายหวังทำหน้าสงสัย “คุณเย่คนนี้หมายความว่ายังไงกันแน่? หรือว่าอยากให้ฉันออกหน้าด้วยตัวเองหรือเปล่า เขาถึงจะยอมเจรจาด้วย?”
ในเวลาแบบนี้จู่ๆ หวังเจียเหยาก็กล่าวขึ้นมา “คุณย่าคะไม่งั้นให้หนูลองดูไหมคะ?”