เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 495 หวังเจียเหยาเป็นคนรับใช้
ตอนที่ 495 หวังเจียเหยาเป็นคนรับใช้!
จางเชี่ยนจือกดวางสายอย่างไม่พอใจ
เย่เฉินเองก็เหนื่อยใจ เขาคืนโทรศัพท์ให้ภรรยาแล้วกล่าวด้วยใบหน้ารู้สึกผิด “ขอโทษด้วยนะครับที่รัก ผมไม่ได้ใจแคบอะไรกับแม่คุณ แล้วก็ไม่ได้อยากจะปฏิเสธเพียงแต่ว่า…”
ซูมู่ชิงกล่าว “ฉันเข้าใจค่ะที่รักที่คุณแม่เรียกร้องแบบนี้ก็เกินไป ถ้าเอารถม้าทองคำออกไปแล่นตามท้องถนนจะต้องทำให้เกิดแรงกระเพื่อมในสังคมแน่ๆ ฉันรู้ว่าตระกูลของคุณเนี่ยเก็บเนื้อเก็บตัว เมื่อวานที่ฉันนั่งรถม้าก็ทำให้พวกตำรวจต้องมาคอยอารักขาปิดถนนอีก ฉันล่ะเกรงใจมากเลย”
เย่เฉินพยักหน้ารับ เขาเองก็ดีใจที่ภรรยาของตนเองเป็นคนมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนอยู่เสมอแบบนี้
ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นๆ จะต้องอแงกับสามี พูดจาไม่น่าฟังไปแล้ว
เย่เฉิน “ที่จริงแล้วเมื่อวานเป็นครั้งแรกที่รถม้าของที่บ้านเราขับเขาเขตตัวเมือง ก่อนหน้านี้พวกคุณปู่เขาไม่เคยนั่งรถม้าคันนั้นมาก่อน”
ซูมู่ชิงตกใจจนเอามือปิดปาก “พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ยังไม่เคยนั่งรถคันนั้นในเมืองมาก่อนเหรอคะะ?”
เย่เฉินส่ายหน้า
ซูมู่ชิงไม่เชื่อหูตัวเอง “พี่สะใภ้จะไม่ว่าฉันไม่มีมารยาทใช่ไหมคะ? พี่สะใภ้จะไม่โกรธฉันเพราะเรื่องนี้ใช่ไหมคะ?”
เป็นสะใภ้ตระกูลเย่เหมือนๆ กัน หล่อนเพิ่งจะมาถึงก็ใช้รถม้าของตระกูลเย่เสียแล้ว
หนำซ้ำคงยูมิที่เป็นสะใภ้คนโตของตระกูล แต่งงานเข้าตระกูลเย่มาหลายปียังไม่เคยใช้มาก่อน
ซูมู่ชิงรู้สึกว่าคงยูมิอาจจะริษยาตนเองเพราะเรื่องนี้ หล่อนเองก็สนใจในความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวตระกูลเย่มาก
เย่เฉินระบายยิ้ม “ไม่หรอกครับ พี่ชายและพี่สะใภ้ พวกเขาดีกับผมมาก พวกเขาไม่อิจฉาคุณหรอก สบายใจเถอะ”
……
ในเวลาเดียวกันที่สนามบินฮีทโธรว์ ที่ลอนดอน
“เขยขยะเอ้ย! โมโหจะบ้า! ทำไมฉันถึงได้มีลูกเขยขี้งกแบบนี้นะ!”
หลังจากกดวางสายแล้ว จางเชี่ยนจือก็ยังด่าเย่เฉินต่อ
คุณนายที่อยู่ร่วมวงก็กล่าวถาม “เชี่ยนจือว่ายังไงบ้างง? เย่เฉินไม่สะดวกมารับเราใช่ไหม? งั้นเราเรียกรถไปกันเองก็ได้เหมือนกัน”
จางเชี่ยนจือยิ้มอย่างเก้อเขิน “ต้องขอโทษด้วยนะ อายพวกเธอจังเลย ลูกเขยฉันอย่างเย่เฉินเนี่ยเหลวไหลจริงๆ! ฉันจะพาพวกเธอไปโรงแรม เราไปเล่นไพ่ที่คาสิโนกัน!”
จางเชี่ยนจือพาเพื่อนๆ อีกสี่คนไปที่ Punto Banco อันเป็นคาสิโนที่มีประวัติความเป็นมาถึง 192 ปี
“ลูกเขยขยะ ลูกเขยจอมงก! เย่เฉิน คืนนี้ฉันจะเล่นเงินให้เสียสิบล้านปอนด์! ให้แกต้องมาตามใช้หนี้ให้ฉัน!”
จางเชี่ยนจือคิดในใจอย่างไรเสียบ้านของเย่เฉินก็ออกจะมีอิทธิพลมากในประเทศอังกฤษ งั้นหล่อนจะเสียเงินเท่าไรก็ได้ ไม่มีอะไรต้องกังวล
ดังนั้นจางเชี่ยนจือจึงวางเดิมพันครั้งละมากๆ ไม่คิดหน้าคิดหลัง เล่นพนันไปโดนอยากจะเสียเงิน
แต่ใครก็คาดไม่ถึงว่าหล่อนที่อยากจะเสียกลับได้เงินเรื่อยๆ ไม่หยุดหย่อน!
“แหมๆ เชี่ยนจือ วันนี้เธอโชคดีจริงๆ ได้เงินไปเท่าไรแล้วล่ะ? น่าจะได้สักล้านแล้วล่ะมั้ง”
จางเชี่ยนจือหัวเราะร่วน “ได้มาสองล้านแล้ว! สวรรค์ คืนนี้ตั้งเป้าจะหอบเงินร้อยล้านหรือเปล่าเนี่ย? บ้าไปแล้ว”
ซูมู่ชิงโทรหาหล่อนพอดี
“ฮัลโหลแม่คะ อยู่ไหน? เดี๋ยวหนูกับเย่เฉินขับรถไปรับ แม่ของเย่เฉินเขารู้แล้วว่าแม่มาเลยอยากเจอแม่มาก รอแม่ทานข้าวเย็นค่ะ” ซูมู่ชิงกล่าว
จางเชี่ยนจือแค่นเสียง “คนตระกูลเย่อยากเจอฉันก็จะได้เจอตามใจเหรอ? อยากเจอแม่มากทำไมไม่มาตอนแกแต่งงานล่ะ? แม่ไม่ว่างคืนนี้ไปไม่ได้ เล่นไพ่อยู่ พรุ่งนี้ค่อยว่าแล้วกัน!”
ซูมู่ชิงได้ยินว่าแม่กำลังจะเล่นไพ่ เจ้าหล่อนพอจะรู้ว่ามารดาตนเองติดไพ่มากเลยกับ “แม่คะ อย่าเล่นเงินเยอะนะ เอาแค่นิดหน่อยพอสนุกก็พอนะ อย่าเสียเยอะเกินล่ะ”
จางเชี่ยนจือกล่าว “แกพูดอะไรของแก แกรู้ไหมว่าหลายชั่วโมงมานี้แม่ได้เงินมาเท่าไหร่? เกือบสองล้านหยวนแล้วนะ! แม่แกเนี่ยวันนี้เฮงสุดๆ ฮ่าๆ…”
ซูมู่ชิงไม่ค่อยเห็นมารดาของตนเองมีความสุขมากขนาดนี้รู้ว่ามารดามีความสุขที่ได้เล่นไพ่ ต่อให้มีรถม้าก็ไม่ทำให้หวั่นไหว
“ก็ได้ค่ะ ในเมื่อแม่กำลังมือขึ้น ก็ค่อยๆ เล่นนะคะ พรุ่งนี้เช้าเดี๋ยวหนูไปหา”
เมื่อกดวางสายแล้วซูมู่ชิงก็หันไปกล่าาวกับเย่เฉิน “คืนนี้แม่ไม่มาทานข้าวแล้วค่ะ แม่กำลังเล่นไพ่ในคาสิโน”
เย่เฉินพยักหน้ารับ “เล่นที่ไหนครับ? เสียเท่าไหร่เดี๋ยวผมให้คนไปจ่ายให้”
ซูมู่ชิงหัวเราะ “ไม่ต้องหรอกค่ะ วันนี้แม่ดวงดี ได้เงินมาสองล้าน”
เย่เฉินตกใจหรือว่าแม่ยายของตนเองเป็นเทพพนันนะ?
แล้วก็ได้เวลารับประทานอาหารเย็นอย่างรวดเร็ว
คนตระกูลเย่ไม่ได้ตั้งมาตรฐานอะไรกับอาหารเช้าหรือเที่ยง แต่ให้ความสำคัญกับอาหารเย็นอย่างมาก อาหารมื้อนี้จึงมีอาหารหลากหลาย คนทุกคนในบ้านต้องมากินข้าวร่วมกัน
บนโต๊ะอาหารเรียงรายไปด้วยอาหารหลากหลาย มีทั้งอาหารจีนและฝรั่ง
แต่วันนี้นอกจากคนงานที่เสิร์ฟอาหารแล้ว ยังมีหวังเจียเหยา
หวังเจียเหยาสวมชุดสาวใช้ นี่เป็นเครื่องแบบของสาวใช้ตระกูลเย่แต่เพราะพวกเขาสนิทสนมกับชาแนล ดังนั้นเสื้อผ้าของสาวใช้จึงได้ดีไซน์เนอร์ของแบรนด์เป็นคนออกแบบให้
เดิมทีนี่เป็นเพียงแค่ยูนิฟอร์มของสาวใช้ทั่วๆ ไปเท่านั้นเอง
แต่ว่าหลังจากหวังเจียเหยาสวมชุดนี้แล้ว ผู้ชายอกสามสอกอย่างเย่เทียนและเย่เฉินเห็นก็เหม่อลอยไป
สวรรค์ ชุดสาวใช้ตระกูลเย่ของเราก็เย้ายวนใจดี!
ผ้ากันเปื้อนสีขาวบนร่างเน้นให้เอวของหญิงสาวดูคอดเล็ก ถุงน่องสีขาวที่สวสมอยู่นั่นชวนให้คนอยากจะปลดทิ้ง
กระโปรงสีดำยาวพอดีๆ ทำให้เห็นเรียวขายาวนวลเนียนของหวังเจียเหยา
บวกกับบุคลิกที่ใสซื่อของหญิงสาว พอสวมใช้สาวใช้แล้วก็บาดตาบาดใจเหลือเกิน!
“อึก…”
เย่เทียนกลืนน้ำลาย
เย่เฉินไม่ได้มีท่าทีอะไรกับอดีตภรรยาของตนเองแต่กลับคิดถึงภาพที่ไม่น่ามองของพวกเขาสองคนที่เกิดขึ้นในอดีต
ตอนที่ทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากันนั้น หวังเจียเหยาก็เคยวสวมชุดแบบนี้มาก่อน….
แววตาหยาดเยิ้มของเจ้าหล่อนทอดสายตามองเย่เฉินเป็นระยะ เหมือนอยากให้อีกฝ่ายนึกถึงภาพที่งดงามในอดีต
“ผู้หญิงคนนี้สุดยอดจริงๆ…”
จู่ๆ เย่เฉินก็ใจเต้นระรัวเมื่อมองหวังเจียเหยา ผู้หญิคนที่เคยสวมเชา ทรยศเขา
เดินคิดว่าตนเองจะขยะแขยงจนอาเจียนเมื่อเห็นอีกฝ่าย แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเสน่ห์ของผู้หญิงคนนี้จะมีถึงขนาดนี้!
“หวังเจียเหยาสวยเกินไปแล้ว พี่รองไอ้สารเลว!”
คนที่จำทุกอย่างไม่อาจลืมเลือน เกลียดชังหวังเจียเหยา เย่เฉินเองก็นึกถึงเย่เซวียนที่เป็นคนผูกเขากับหวังเจียเหยาเข้าด้วยกัน
“คุณชายสาม คุณนายน้อย นี่เป็นปลาหิมะนึ่งที่ห้องครัวทำให้คุณทั้งสอง”
หวังเจียเหยาในชุดสาวใช้ยกอาหารมาให้เย่เฉิน
เย่เฉินได้กลิ่นที่คุ้นเคย เป็นกลิ่นน้ำหอมที่เขาได้กลิ่นมาตลอดสามปี!
“อืม” เย่เฉินพยักหน้ารับด้วยใบหน้าเรียบเฉย
หวังเจียเหยากลับไม่ขยับช้อนสายตามองเย่เฉิน “นายท่าน พอใจกับการบริการของฉันไหมคะ?”