เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 498 ไป๋หู่ออกหน้า
ตอนที่ 498 ไป๋หู่ออกหน้า!
ประเทศอังกฤษเป็นถิ่นของเย่เฉิน คิดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าจับตัวแม่ยายเขาไป ไม่รู้จักกลัวอะไรเลย!
เย่เฉินพาซูมู่ชิงไปที่ห้องรับแขก พร้อมกันก็เรียกพ่อบ้านฟางมาเพื่อบอกให้เขาเตรียมเงินสดจำนวนสิบล้านปอนด์
เงินจำนวนนี้สำหรับคนที่รวยๆ แล้วทรัพย์สินที่มีอาจจะเป็นเพียงแค่ของที่ประดับหน้าตา แต่ถ้าให้หาเงินสดมาอาจจะไม่มีก็ได้
แต่สำหรับคนตระกูลเย่แล้ว เงินสดพันล้านก็ยังเป็นเรื่องธรรมดา
ปราสาทแห่งนี้ไม่ได้มีแค่เงินสด ทั้งทอง เครื่องประดับต่างๆ ล้วนแต่อยู่เต็มปราสาท
ในตอนนี้เองเย่เทียนในชุดนอนก็เดินลงมาจากด้านบน
“น้องสาม น้องสะใภ้ ดึกดื่นแบบนี้ทำอะไรกัน?”
เย่เทียนเดินลงมาพลางถามอย่างประหลาดใจ
เย่เฉินหันมองพี่ชาย “พี่ใหญ่ ผมทำพวกพี่ตื่นหรือเปล่าครับ?”
เย่เทียนส่ายหน้า “อ้อ ไม่หรอก พี่มาเข้าห้องน้ำพอดี ได้ยินเสียงก็เลยเดินลงมาดู เอ๊ะ? เตรียมเงินเยอะแยะไปทำอะไรเนี่ย?”
เย่เฉินตอบพี่ชายอย่างตรงไปตรงมา “ก็แม่ของมู่ชิงเล่นพนันได้เงินมาเยอะเลยครับที่คาสิโน ตอนที่ออกมาโดนจับตัวไป พวกโจรจะเอาเงินสิบล้านครับพี่”
“อะไรนะ? เรียกค่าไถ่เหรอ? ใครทำไมใจกล้าแบบนี้กล้าจับตัวคนของตระกูลเย่เรา!”
เย่เทียนหัวเสีย
เย่เทียนล้วงมือถือออกมาแล้วกล่าว “เย่เฉิน นายไม่ต้องเตรียมเงินสดหรอกนะ ที่อังกฤษนี่ไม่มีเรื่องอะไรที่ตระกูลเย่เคลียร์ไม่ได้! นายส่งที่อยู่มาให้พี่ เดี๋ยวพี่จะให้ไป๋หู่ไปช่วยแม่ยายนายออกมาเอง”
จางเชี่ยนจือเป็นแม่ยายของเย่เฉิน ถึงแม้ว่าแม่ยายของเขาคนนี้จะดูถูกเหยียดหยามเขา มักจะเหน็บแนมเขาเสมอ
แต่อย่างไรเสียหล่อนก็เป็นแม่แท้ๆ ของภรรยา
พอจางเชี่ยนจือเจอเรื่องแบบนี้ ตนเองที่เป็นลูกเขยอยากจะช่วยแม่ยายตนเองออกมาด้วยความสามารถของตนเอง
เย่เฉินจึงกล่าว “ไม่ต้องหรอกครับพี่ ผมให้ชิงหลงไปช่วยก็ได้ครับ”
ในตอนนี้เอง รอยยิ้มประหลาดก็ผุดขึ้นบนใบหน้าพี่ชาย “ทำไมล่ะ น้องสาม นายไม่เชื่อว่าพี่จะช่วยแม่ยายนายออกมาอย่างปลอดภัยใช่ไหม? ก็จริงน่ะนะ ชิงหลงเก่งกว่าไป๋หู่จริงๆ ล่ะนะ งั้นนายก็บอกให้ชิงหลงไปเถอะ”
คำพูดนี้ของเย่เทียนทำให้น้องชายอย่างเย่เฉินได้ยินเข้าก็ไม่สบายใจ!
ชิงหลง ไป๋หู่ จูเชว่ ถามเรียงกันตามอายุแล้ว ควรจะถูกจับคู่แบบนี้ เย่เทียนกับชิงหลง เย่เซวียนกับไป๋หู่ ส่วนเย่เฉินควรจะคู่กับจูเชว่
แต่เย่ฉงไห่กลับยกชิงหลงที่เก่งที่สุดให้เย่เฉินที่เด็กที่สุดแทน
ถึงแม้ว่าเย่เทียนจะไม่พูดอะไร แต่เย่เฉินรู้ดีว่าพี่ชายคนโตของตัวเองย่อมต้องไม่พอใจ แล้วรู้สึกไม่ยุติธรรม!
เย่เฉินไม่อยากจะทำให้สายสัมพันธ์ของพี่น้องต้องแย่ลงไปเพราะเรื่องนี้จึงรีบร้อนกล่าว “จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไงครับพี่ใหญ่ พี่คิดอะไรแบบนั้นล่ะครับ ผมไม่ได้คิดแบบนั้นเลยนะครับ ไป๋หู่คลุกคลีอยู่กับเรื่องพวกนี้มากกว่าชิงหลงเสียอีก เขาย่อมต้องเข้าใจคนพวกนั้นมากกว่าอยู่แล้ว งั้นต้องรบกวนพี่ด้วยนะครับ ช่วยส่งไป๋หู่ไปช่วยแม่ยายผมด้วยนะครับ”
เมื่อได้ยินน้องชายชมคนของตัวเอง รอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนใบหน้าเขา เขาพยักหน้ารับแล้วหันมองเย่เฉินและซูมู่ชิงพลางกล่าว “พวกเธอสบายใจเถอะ พี่จะต้องพาคุณน้ากลับมาอย่างปลอดแน่นอน”
พูดจบเขาก็เดินห่างออกไปแล้วโทรศัพท์
เย่เฉินตบบ่าภรรยาแล้วปลอบ “ที่รัก คุณสบายใจได้เลยครับ ไป๋หู่มือขวาพี่ใหญ่คนนี้เก่งมาก เขามีประสบการณ์ในการจัดการเรื่องพวกนี้มาก่อนครับ ที่พวกเขากล้ากระตุกหนวดเราแปลว่าพวกเขาเป็นแค่โจรกระจอกแน่นอน ไม่อย่างไม่นั้นจะต้องเคยได้ยินชื่อตระกูลพวกเราบ้าง ไป๋หู่จัดการคนพวกนั้นน่าจะง่ายเหมือนปอกกล้วยเลยล่ะครับ”
เย่เฉินแจกแจงเรื่องพวกนี้ เขาเชื่อในความสามารถของไป่หู่ เชื่อว่าเขาจะต้องสามารถจัดการเรื่องพวกนี้ได้เรียบร้อย ไม่จำเป็นต้องส่งชิงหลงไปด้วยซ้ำ
เหมือนกับการชู้ตบาสสามแต้ม เด็กประถมก็ทำได้้ แล้วทำไมต้องส่งนักกีฬา NBA ไปด้วยล่ะ?
แน่นอนว่าความสามารถไป๋หู่กับชิงหลงไม่ได้ต่างกันมากมายนัก
ถ้าหากว่าให้แข่งกันตัวต่อตัว แล้วจะให้สู้กันหาคนชนะให้ได้นั้น อาจจะ 5-5 เสมอกัน ชิงหลงอย่างมากอาจจะชนะอีกฝ่ายได้มากกว่าครั้งหนึ่ง
จุดที่ชิงหลงมีมากกว่าไป๋หู่ก็คือ มันสมอง การมองภาพโดยรวม นิสัยรวมไปถึงความสามารถในการรับมือสงครามที่แข็งแกร่งกว่า
……
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ณ บริเวณโรงงานร้างในเขตชนบทของลอนดอน
ฟ้ายังไม่สว่าง ชายหนุ่มที่สูงเกือบสองเมตร ถือกระเป๋าใบใหญ่เดินเข้าไป
คนผู้นี้ก็คือไป่หู่ หนึ่งในสามขุนพลของตระกูลเย่!
เขาสูง 198 ซม. น้ำหนัก 65 กก. มีรอยสักในบริเวณมือ หลังมือ ทำให้คนหวาดกลัว
มียามเฝ้าที่ประตู เห็นไป๋หู่ก็หวาดกลัว แต่ในมือพวกเขามีอาวุธจึงไม่กลัวอีกฝ่ายมากนัก
“นายคือคนตระกูลเย่เหรอ? เอาเงินค่าไถ่มาด้วยหรือเปล่า?” ฝรั่งที่เฝ้าประตูถาม
ไป๋หู่ยิ้มเจ้าเล่ห์ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มักจะปรากฏในตอนที่เขาลงมือฆ่าคนเท่านั้น
เขาไม่พูดไม่พา แต่ยกถุงในกระเป๋าให้อีกฝ่ายดูแทน
“ค้นตัว!”
หนึ่งในยามหันไปกล่าวกับอีกคน
ฝรั่งผู้นี้ค้นตัวไป๋หู่แต่ก็ไม่เห็นว่าเขาจะมีอาวุธอะไร
“เข้าไปได้!”
ในเมื่อไป๋หู่ไม่ได้ได้อาวุธอะไรย่อมสามารถปล่อยเขาเข้าไปได้
ถึงแม้ว่าไป๋หู่จะรูปร่างสูงใหญ่ ดูแล้วน่าจะต่อยตีเก่งใช้ได้ แต่พวกคนที่อยู่ข้างในล้วนแต่มีปืนจึงไม่ได้หวาดกลัวเขาแต่อย่างใด
ไป๋หู่ถือถุงเข้าไปด้านใน ก็เห็นจางเชี่ยนจือและเพื่อนๆ ของหล่อนสี่คนถูกมัดติดกับเก้าอี้
หญิงวัยกลางคนสี่คนที่โดนมัดอยู่นั้นไม่ได้น่ามองอะไรนักหนา ล้วนแต่เป็นผู้หญิงวัยกลางคนร่างออกจะท้วมน้อยๆ
แต่ว่าจางเชี่ยนจือรักษาหุ่นเอาไว้เป็นอย่างดี หลังจากโดนจับมัดก็เห็นเรือนร่างที่เจ้าหล่อนเพียรพยายามดูแลมาหลายปี
หลังจากโจรเห็นเข้าก็อยากจะแตะต้องจางเชี่ยนจือ เดิมทีเขาอยากจะล่วงเกินหล่อน แต่จางเชี่ยนจือบอกว่ตนเองอายุ 60 กว่าปีแล้ว ทำเอาพวกโจรตกใจกันไปตามๆ กัน
เพราะชาวต่างชาติพวกนี้โดยเฉพาะวัยรุ่นที่ยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร แยกอายุของคนเอเชียไม่ออกด้วยซ้ำไป
เมื่อโจรเห็นไป๋หู่ก็ถาม “เอาเงินสิบล้านปอนด์มาด้วยหรือเปล่า? ถุงเน่าๆ นั่นของนายใส่พอหรือไง?”
ไป๋หู่ยิ้ม “ถ้าไม่เชื่อก็ลองมาตรวจเอาเอง”
โจรคนนั้นแค่นเสียง “ถ้าในนี้ไม่มีเงินสิบล้านปอนด์นะ ฉันเป่ากบาลแกแน่!”
หัวหน้าโจรถือปืนเดินมา เปิดซิปกระเป๋า แล้วก็พบว่าด้านในเป็นแค่เศษกระดาษ!
หัวหน้าโจรโกรธจัด “fu*k! แกมันรนหาที่ตาย! กล้าหลอกฉันเรอะ!”
หัวหน้าโจรยกมือขึ้น อยากจะยิงไป่หู่ แต่ไป๋หู่กลับต่อยไปที่หน้าอกอีกฝ่ายด้วยความเร็วอย่างที่สุด
วินาทีต่อมาก็ยกปืนขึ้นมาจัดการอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว!
ที่นี่มีคนสิบกว่าคน พวกเขาตอนนี้ต่างก็เล็งปืนมาที่ไป๋หู่!
แต่ไป๋หู่กลับไม่มีท่าทีหวาดกลัวแม้แต่น้อย แล้วจัดการคนอีกสองคนด้วยกระสุนสองนัดแล้ว ก็กลิ้งตัวไปแย่งปืนมาได้อีกกระบอก พลางใช้ศพเป็นเป้ากำบังให้ตัวเอง จัดการคนอีกสิบกว่าคนในห้องจนนอนแอ้งแม้งคาพื้น!
ยามสองคนที่เฝ้าประตู ก็โดนคนที่ไป๋หู่พามาด้วยยิงตาย!
ไม่ได้มีโอกาสเข้าไปช่วยคนข้างในด้วยซ้ำ!
จางเชี่ยนจือและเพื่อนๆ ดีใจอย่างยิ่ง
“มีคนมาช่วยเราแล้ว! รอดแล้ว! จะต้องเป็นลูกเขยของเชี่ยนจือส่งคนมาช่วยเราแน่!”
“ว้าว ทั้งสามารถในการเตะต่อย ยิงปืนของผู้ชายคนนี้สุดยอดไปเลย! เชี่ยนจือ ลูกเขยเธอมีลูกน้องแบบนี้ ดีมากจริงๆ!”
จางเชี่ยนจือร้องไห้ออกมาอย่างซาบซึ้งใจ “ไอ้สารเลวเย่เฉินในที่สุดก็ไม่ทำให้ฉันผิดหวัง!”