เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 502 สอบถามความลับของตระกูลเย่
ตอนที่ 502 สอบถามความลับของตระกูลเย่!
คงยูมิสวมกิโมโนลายหงส์สีชมพู ช่วยขับเสน่ห์ของคุณหนูตระกูลใหญ่และแสนร่ำรวยชาวญี่ปุ่นออกมา
หล่อนเป็นพวกที่ยิ่งพิศยิ่งสวย ยิ่งดูยิ่งน่าสนใจ
ต่อให้หล่อนอยู่เทียบเคียงกับดาราที่สวยที่สุดอย่างคุโด้ ชิสุกะของประเทศญี่ปุ่นยังด้อยกว่าคงยูมิ!
คงยูมิยิ้มแล้วกล่าวกับจางเชี่ยนจือ “คุณนายซู ถ้าหากว่าคุณชอบ เดี๋ยวดิฉันส่งให้คุณสักชุดนะคะ”
จางเชี่ยนจือรีบร้อนกล่าว “ก็ได้ ขอบคุณค่ะๆ”
และในตอนนี้เย่เทียนก็หันไปถามคงยูมิ “คงยูมิ ผมบอกให้คุณไปเอาของ คุณจัดการเรียบร้อยหรือยัง?”
คงยูมิพยักหน้ารับ “เรียบร้อยแล้วค่ะ”
คงยูมิหยิบเอาสมุดโน้ตเล่มยาวของ smythson เล่มหนึ่งออกมาแล้วส่งให้เย่เทียน
หลังจากที่เย่เทียนลุกขึ้นแล้วก็ส่งสมุดโน้ตให้เย่เฉิยและซูมู่ชิง
เย่เฉินถามอย่างประหลาดใจ “นี่คืออะไรครับ?”
เย่เทียนกล่าว “ในนี้จดบันทึกร้านทั้งหมดที่มีในโลก รวมไปถึงคาสิโนที่มาเก๊าและลาสเวกัส ร้านเหล้าที่ประเทศญี่ปุ่น สร้างโรงงาน และโรงพยาบาลศัลยกรรมของประเทศเกาหลีเป็นต้น นาย มู่ชิง คุณและคุณนายซูสามารถดูได้ ลองดูได้นะว่าในนั้นมีของที่ชอบหรือเปล่า เลือกได้ตามสบายเลย พี่ยกให้”
ซูมู่ชิงซาบซึ้งใจ พี่ใหญ่ใจดีเกินไปแล้วกระมัง?
ยกทรัพย์สินทั้งหมดที่ตัวเองมีให้กับน้องชายจนเองเลือกตามใจ
จางเชี่ยนจือรีบกล่าวชม “ท่านซู คุณสอนลูกหลานได้ดีจริงๆ เลยค่ะ ดูสิคะว่าเย่เทียนกับเย่เฉินรักกันขนาดไหน เย่เทียนที่เป็นพี่ชายยอมน้องชายไปหมด ไม่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นอะไร แถมยังยกทรัพย์สินของเขาให้เย่เฉินเลือกตามใจชอบ เฮ้อ ถ้าคนที่บ้านเรารักกันได้สักครึ่งของพวกเขาก็คงจะดี”
ซูหมิงเจ๋อเองก็รีบเยินยอตามภรรยา “ท่านซู ท่านต้องสอนผมนะครับ ว่าสอนลูกหลานยังไง ผมจะตั้งใจเอาอย่างท่านครับ”
เย่ฉงไห่หัวเราะร่วน “ฉันไม่ได้ทำอะไรหรอก เป็นเพราะพวกเด็กๆ นิสัยดี ส่วนเย่เทียนกับยูมิก็ไม่เห็นพวกของนอกกายสำคัญอะไร มู่ชิง ในเมื่อเสี่ยวเทียนพูดแล้ว ถ้ามีร้านที่ชอบก็เลือกเลย ไม่ต้องเกรงใจ”
จางเชี่ยนจือมีสีหน้าดีใจ “งั้นเราไม่เกรงใจแล้วนะคะ คิกคิก”
จางเชี่ยนจือทรุดตัวนั่งลงข้างๆ ซูมู่ชิงแล้วเริ่มลงมือพลิกสมุดโน้ตไปมา แล้วพบว่าเย่เทียนมีร้านรวงต่างๆ อยู่ในโลกมากกว่า 800 แห่ง!
มีทั้งคลินิคเสริมความงามยันโรงแรม คาสิโน เรียกได้ว่ามีทุกอย่างที่จะคิดได้จริงๆ อีกทั้งยังถือเป็นสถานที่หรูหราของที่นั้นๆ อีกด้วย
จนสุดท้ายแล้วซูมู่ชิงและจางเชี่ยนจือเลือกไป 15 แห่ง
เย่เทียนจัดการแจ้งคนดูแลร้านทั้ง 15 แห่งทันที ให้พวกเขาเปลี่ยนชื่อเจ้าของร้านเป็นพวกเย่เฉิน
……
สองวันต่อมา อาสาวของเย่เฉินก็ชิงหนีไปก่อน หนึ่งงสัปดาห์ต่อมาซูหมิงเจ๋อก็กลับบ้านเช่นกัน
แต่ว่าจางเชี่ยนจือไม่ได้กลับบ้านกับซูหมิงเจ๋อแต่อย่างใด แต่เลือกจะอยู่ต่อ เพื่ออยู่เป็นเพื่อนลูกสาว
แต่ผ่านไปแค่หนึ่งวัน คุณย่าของคงยูมิเกิดป่วยทำให้หล่อนต้องกลับไปญี่ปุ่น
ในตอนบ่ายของวันหนึ่ง เย่เฉินและซูมู่ชิงกำลังอยู่ในสวนผลไม้ สวมหมวกกันแดดเดินไปเก็บผลไม้ในสวน หยิบผผลไม้ไปพลางหัวเราะคิกคักกัน
แต่จางเชี่ยนจือในตอนนี้นั้นแอบอยู่ในห้องกับเย่เทียน
จางเชี่ยนจือจัดแจงเสื้อผ้า ใบหน้าแดงก่ำแล้วกล่าว “เย่เทียน ขอบคุณนะ ฉันไม่ได้มีความสุขแบบนี้มานานแล้ว คุณทำให้ฉันกลับไปมีความสุขเหมือนตอนสาวๆ เลย!”
เย่เทียนหัวเราะ “ผมก็แค่อยู่เป็นเพื่อนคุณชั่วครั้งชั่วคราว ผมต้องขอบอกคุณเอาไว้ก่อนเลยนะครับว่า ผมไม่มีทางเลิกกับเมียผมนะ”
จางเชี่ยนจือพยักหน้าแล้วกล่าว “แน่นอน ฉันเข้าใจ ฉันเองก็ไม่มีทางหย่าเหมือนกัน”
ทั้งสองคนต่างก็เป็นผู้ใหญ่ที่มีสมอ เรื่องแบบนี้มันก็แค่ตอบสนองความต้องการในใจ ไม่มีใครเห็นเป็นเรื่องจริงจัง จนถึงขนาดจะต้องแต่งงานอยู่ด้วยกัน
จางเชี่ยนจือเองก็เข้าใจดี ด้วยอายุอานามของตนเองไม่คู่ควรกับอีกฝ่ายแม้แต่น้อย
จางเชี่ยนจือมองเย่เทียนแล้วกล่าว “เฮ้อ ถ้าตอนแรกเย่เซวียนโยนลูกสาวฉันไว้ที่คุณคงจะดี ฉันเองอยากได้คุณเป็นลูกเขยมากกว่า”
เย่เทียนหัวเราะร่วน “น้องชายคนที่สามของผมเป็นคนเก่งมากนะ คุณลองชอบเขาแบบที่ชอบผมดูสิครับ”
จางเชี่ยนจือกล่าว “เย่เฉินเนี่ยนะ ถ้าลูกชายฉันลุกขึ้นยืนไม่ได้ฉันก็ไม่อยากเห็นเขา! เฮ้อ จริงด้วย เย่เทียนฉันขอถามคำถามส่วนตัวกับคุณหน่อยได้ไหม? คุณจะบอกฉันหรือเปล่า?”
เย่เทียนกำมือจางเชี่ยนจือเอาไว้แน่น แล้วกล่าวอย่างสนิทชิดเชื้อ “เราเป็นแบบนี้กันแล้ว ผมไม่มีทางปิดบังคุณหรอกนะ คุณอยากรู้อะไรล่ะครับ?”
จางเชี่ยนจือถาม “ตระกูลเย่ของพวกคุณ… มีความลับอะไรเหรอ?”
ซูหย่วนหางเองอยากจะรู้ความลับของตระกูลเย่เป็นอย่างมาก ถ้าหากว่าจางเชี่ยนจือได้ข้อมูลมาบ้าง ก็คุ้มกับที่มาประเทศอังกฤษแล้ว
เย่เทียนกล่าว “ที่จริงแล้วตระกูลเย่เราไม่ได้มีความลับอะไรหรอกครับ เราจงใจกุเรื่องความลับของตระกูลที่ว่าขึ้นมาเอง จะได้ให้พวกตระกูลร่ำรวยอย่างพวกคุณสนใจพวกเรา แบบนี้พวกคุณจะได้เสนอผลประโยชน์ให้เรา หาวิธีใกล้ชิดเรา แล้วจะได้ยอมดองกับตระกูลเรา เช่นซูมู่ชิงลูกสาวของคุณ หรือภรรยาผมคงยูมิ หล่อนเองก็เป็นลูกหลานผู้มีอิทธิพลของญี่ปุ่นเหมือนกัน”
จางเชี่ยนจือชะงัก “หา? ไม่มีความลับอะไรเลยเหรอ? โกหกเหรอ?”
เย่เทียนกล่าวพลางระบายยิ้ม “คุณคงไม่คิดว่าตระกูลเย่เราเป็นคนหลอกลวงหรอกใช่ไหมครับ?”
จางเชี่ยนจือยิ้มเก้อเขิน “ไม่เลยค่ะๆ นี่เป็นวิธีการอย่างหนึ่ง เฮ้อ พ่อสามีของฉันก็คิดว่าตระกูลเย่ของพวกคุณมีความลับอะไรเสียอีก ดึงดันให้มู่ชิงแต่งงานกับเย่เฉิน ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ฉันไม่มีทางยอมให้ลูกสาวของฉันแต่งงานกับเขาหรอก! เสียดายจริงๆ ตอนนี้มู่ชิงกับเย่เฉินรักกันอย่างลึกซึ้ง ตอนนี้ฉันคงจะแยกพวกเขาออกจากกันไม่ได้แล้ว!”
เย่เทียนกล่าว “ที่จริงแล้วความรักระหว่างเย่เฉินกับลูกสาวของคุณอาจจะไม่ได้มั่นคงลึกซึ้งอะไรขนาดนั้น ลูกสาวของคุณรักเย่เฉินจริงๆ แต่น้องสามของผมอาจจะมีแค่ความชอบ หรือติดค้าง ผู้หญิงที่เขาชอบจริงๆ คือฉินหงเหยียน!”
จางเชี่ยนจือได้ยินแบบนี้ก็หัวเสีย “ว่ายังไงนะ? เขาแต่งงานกับลูกสาวของฉัน มีลูกด้วยกันแล้ว ยังคิดถึงแฟนเก่าอยู่อีกเหรอ?”
เย่เทียนกล่าวพลางระบายยิ้ม “ฉินหงเหยียนไม่ใช่แฟนก่าของเย่เฉินนะครับ พวกเขาสองคนยังไม่เคยเลิกกันเลย ผมได้ยินน้องสามบอกว่าตอนนั้นฉินหงเหยียนหายตัวไป เขาสงสัยว่าเป็นฝีมือคนตระกูลซู แล้วที่เขาจำใจแต่งงานกับซูมู่ชิงก็เพื่อหาข่าวของฉินหงเหยียน ถ้าหากมีวันหนึ่งเย่เฉินเจอตัวฉินหงเหยียนแล้ว เขาจะต้องอยากอยู่กับหล่อนแน่ๆ แต่ฉินหงเหยียนอายุมากกว่า คุณลองคิดๆ ว่าพอจะยอมให้ลูกสาวคุณเป็นรองฉินหงเหยียนได้ไหม?”
โครม!
จางเชี่ยนจือโยนแก้วในมือลงบนพื้นแล้วโวยวาย “อย่าได้คิดที่จะให้ลูกาสวฉันเป็นรองใคร! ตอนนี้เขาแต่งงานกับลูกสาวของฉันแล้ว ไม่ว่าเขากับคนแซ่ฉินรักกันลึกซึ้งขนาดไหน ฉันไม่ยอมให้เขาแต่งงานกับใครอีก! ลูกสาวฉันรักเขาแค่คนเดียว เขาก็ต้องรักหล่อนแค่คนเดียวเหมือนกัน! ถ้าหากว่าเขาทำไม่ได้เขาก็ต้องหย่าเดี๋ยวนี้!”
พอเย่เทียนได้ยินคำว่าหย่า ใบหน้าผุดรอยยิ้มขึ้นมา