เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 518 เย่เซวียนเป็นคนดีเหรอ
ตอนที่ 518 เย่เซวียนเป็นคนดีเหรอ?
ฉินเสี่ยวตั่วเขยิบเข้าไปใกล้เย่เฉิน ไม่ได้มีท่าทีจะหลบหน้าเขาด้วยซ้ำ ทำให้เขากลายเป็นฝ่ายเขินอายแทน เพราะว่าในหัวเขามันจะย้อนคิดถึงภาพเหตุการณ์ในรถ
คิดไม่ถึงว่าสาวน้อยที่เพิ่งจะกลายเป็นสาวเต็มตัวอย่างฉสจจะใจกว้างกว่าเย่เฉินที่เคยแต่งงานถึงสองครั้ง
ฉินเสี่ยวตั่วกล่าววว่า “เย่เฉิน นายอย่าทำเหมือนจะสู้รบกับพี่เย่เซวียนสิ พี่เขาดีกับฉันกับพี่สาวฉันมากนะ เขาเป็นคนดี! พวกนายสองคนมีอะไรเข้าใจผิดกันก็คุยกันดีๆ จะต้องคลี่คลายความเข้าใจผิดได้แน่!”
เย่เฉินเดาว่าฉินเสี่ยวตั่วอยู่กับเย่เซวียนมานาน คงจะรู้อะไรมาบ้างจึงย้อนถาม “เขาดีกับพวกเธอมากงั้นเหรอ? งั้นเขาจับตัวหงเหยียนไปจากฉันแล้วทำไมไม่บอกฉันสักคำ”
ฉินเสี่ยวตั่วกล่าว “พี่เย่เซวียนเขาดีกับเราสองพี่น้องจริงๆ นะ เขาช่วยพ่อฉันเอาไว้ ช่วงที่ผ่านมาฉันอยู่กับพ่อฉันตลอดเลย ฉันไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้ฉันจะได้กินข้าวกับพ่อ ไปเที่ยวกับพ่อ ฉันรู้สึกขอบคุณเขามากๆ เลย!”
เย่เฉินงุนงง “อะไรนะ? คุณบอกว่าฉินอ้าวหมิงพ่อคุณอยู่บนเกาะเหรอ?”
“ใช่แล้ว” ฉินเสี่ยวตั่วพยักหน้าอย่างรุนแรง
“มิน่าล่ะเขาถึงได้พาตัวฉินหงเหยียนไปได้โดยไม่เกิดร่องรอยการต่อสู้ด้วยซ้ำ”
วันที่ฉินหงเหยียนหายตัวไปวันนั้น ในเรือนสี่ประสานนั้นไม่มีร่องรอยการต่อสู้เกิดขึ้น
ด้วยความสามารถของฉินหงเหยียน ต่อให้สู้ไม่ได้ แต่อย่างน้อยๆ หล่อนก็ควรทิ้งเบาะแสอะไรเอาไว้
เย่เฉินไม่เข้าใจ “เขาช่วยฉินอ้าวหมิงทำไมไม่บอกผมล่ะ? ผมจะต้องเห็นด้วยกับเขาแน่ๆ หงเหยียนเป็นแฟนผม ผมจะต้องไม่บอกเรื่องนี้กับตระกูลแน่ๆ ทำไมหงเหยียนถึงไม่ยอมติดต่อผมล่ะ?”
เย่เซวียนเป็นคนขวางโลก เขาเอาตัวฉินอ้าวหมิงงไปจากตระกูล จะละเมิดกฏของตระกูลแน่
แต่ถึงแม้ว่าเย่เฉินจะเชื่อฟังคุณปู่ แต่พอเรื่องนี้เกี่ยวกับแฟนตัวเอง เย่เฉินย่อมไม่แฉเย่เซวียน
ฉินเสี่ยวตั่วกล่าว “เพราะเขาอยากให้นายแต่งงานกับคุณหนูตระกูลซู”
เย่เฉินชะงัก “อยากให้ผมแต่งงานกับซูมู่ชิงเหรอ? ทำไมล่ะ?”
ฉินเสี่ยวตั่วส่ายหน้า “ฉันเองก็ไม่รู้สาเหตุชัดๆ หรอกค่ะ รอไปถึงที่เกาะ นายก็ไปถามพี่รองของตัวเองเถอะ”
เย่เฉินครุ่นคิดอย่างละเอียด ไม่รู้ว่าพี่รองตั้งใจจะทำบ้าอะไรสี่ปีก่อนถึงได้หอบซูมู่ชิงมาให้ตนเอง ตอนนี้ก็พยายามจะเอาตัวฉินหงเหยียนไป เพื่อให้เขาต้องแต่งงานกับซูมู่ชิง
ทำไมต้องให้เขาแต่งงานกับซูมู่ชิงให้ได้?
พอพูดถึงซูมู่ชิงเย่เฉินก็คิดถึงหล่อนขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคิดถึงเรื่องนักฆ่าที่โดนส่งมาฆ่าเขาในสวนสนุกที่บริเวณชานเมืองเมืองเสินเฉิง
ถ้าฆาตกรพวกนั้นเป็นคนของพี่ใหญ่ขึ้นมาจริงๆ…
เย่เฉินเป็นห่วงซูมู่ชิงขึ้นมาจับใจ!
“ขอตัวก่อนนะ”
เย่เฉินเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวแล้วโทรหาซูมู่ชิง
บางทีวันนี้อาจจะยังมีเครื่องบินที่ห้ามใช้โทรศัพท์ตอนเครื่องขึ้น แต่กฎที่ล้าหลังนี้ไม่จำเป็นกับเหอเฟิงหมายเลข 3
“ฮัลโหล ที่รัก”
ซูมู่ชิงรับสายอย่างรวดเร็ว เสียงของหล่อนยังเสนาะหูชวนประทับใจ
“ที่รัก คุณสบายดีใช่ไหมครับ?” เย่เฉินถาม
ซูมู่ชิงตอบ “ใช่ค่ะ ฉันมาเดินเล่นกับซือซือสักเดี๋ยวหนึ่ง เพิ่งกลับห้อง คุณล่ะคะเป็นยังไงบ้างเจอพี่หงเหยียนหรือยังคะ?”
เย่เฉิน “ตอนนี้กำลังจะเดินทางไปหาหล่อนครับ อีกเดี๋ยวก็น่าจะเจอหล่อนแล้วล่ะครับ”
ซูมู่ชิงชะงักไปเล็กน้อยแล้วตอบ “งั้นขอให้สำเร็จนะคะที่รัก”
เย่เฉินจึงกล่าวว่า “ที่รัก คุณอยู่ที่ปราสาทชินไหม? มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า? พี่ชายผมเขาดีกับคุณไหม?”
ซูมู่ชิงกล่าว “พี่ใหญ่ดีกับฉันมาก เขาให้ฉันเลือกธุกิจอื่นๆ อีกสิบที่ แล้วก็แนะนำคนนั้นคนนี้ให้ฉันรู้จักอีกที เล่าเรื่องเกี่ยวกับตระกูลของคุณให้ฉันฟังเยอะแยะเลย ที่รักพี่ชายของคุณนี่นิสัยดีจริงๆ! ฉันไม่เคยเห็นพี่ชายที่ดีแบบนี้มาก่อนเลย”
เย่เฉินกล่าวว่า “งั้นก็ดีแล้ว คุณอยู่ที่นั่นให้สบายใจเถอะนะ ถ้าอยากกลับบ้านก็ให้พ่อบ้านฟางไปส่ง”
ซูมู่ชิง “ได้ค่ะ”
เย่เฉิน “จริงสิ หวังเจียเหยายังอยู่ที่ปราสาทไหม?”
ซูมู่ชิง “ยังอยู่ หล่อนยังทำงานเป็นคนใช้ที่บ้านตระกูลเย่อยู่เลย แต่ว่าหล่อนจ้างครูสอนภาษาต่างประเทศมาเยอะเลยค่ะ ให้สอนภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เกาหลี อิตาลีอะไรพวกนั้น ดูแล้วหล่อนยังจินตนาการฝันหวานอยากเป็นภรรยาคุณอยู่นะคะ”
เย่เฉินยิ้มเย็น “หล่อนฝันอยู่จริงๆ นั่นแหละ ปล่อยให้พยายามไปนั่นแหละ ผมวางก่อนนะ มีอะไรก็ติดต่อผมมานะครับ”
ณ ประเทศอังกฤษ
ซูมู่ชิงกดวางสาย หวังเจียเหยาเคาะประตูห้องแล้วเดินเข้าไป
“คุณนายเย่” หวังเจียเหยาเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเรียบร้อย
ซูมู่ชิงปรายตามองหวังเจียเหยาแล้วถาม “มีอะไร?”
หวังเจียเหยารายงาน “มีแขกมาที่ปราสาทค่ะ คุณชายเย่ให้คุณหนูลงไปรับแขก”
“อ้อ ได้สิ บอกพี่ใหญ่หน่อยว่าเดี๋ยวฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวลงไป” ซูมู่ชิงกล่าว
หวังเจียเหยาไม่ได้รีบร้อนจะออกไปจากห้องแต่ย้อนถาม “เอ่อ…ช่วงนี้เย่เฉินโทรมาบ้างไหม?”
ซูมู่ชิงเองก็ไม่ได้ปิดบังหวังเจียเหยา “โทรมาสิ เขาเพิ่งโทรมา บอกว่ากำลังจะไปเจอฉินหงเหยียนแล้ว”
หวังเจียเหยาถามอย่างประหลาดใจ “คุณไม่กลัวเหรอ? ถ้าหากว่าเขาไปเจอแม่นั่นเข้าไม่เอาคุณแล้วจะทำยังไง? หรือไม่ก็ฉินหงเหยียนจะสั่งให้เขาเลิกกับคุณ เธอไม่กลัวเหรอ?”
ซูมู่ชิงระบายยิ้ม “ฉันรู้แค่ว่าถ้าหากว่าฉินหงเหยียนอยากแย่งเย่เฉินกับฉัน งั้นฉันก็คงไม่มีโอกาสได้แต่งงานกับเย่เฉินหรอก ฉันคิดว่าที่ฉันได้แต่งงานกับเย่เฉินเป็นเพราะพี่หงเหยียนช่วยให้เราได้สมหวัง”
หวังเจียเหยาตกตะลึง “อะไรนะ? หล่อนช่วยให้พวกคุณสมหวังเหรอ? ฉันว่าคุณเข้าใจผิดแล้วล่ะ ฉินหงเหยียนเป็นนังจิ้งจอกจอมยั่ว ตอนอยู่ที่อวิ๋นโจวมักจะเป็นมือสังหารผู้บริหาร อ่อยผู้บริหารชายไปทั่วจนภรรยาพวกเขาเกีลยดหล่อนจะตายไป หล่อนชำนาญนักล่ะกับการทำลายครอบครัวคนอื่น จะช่วยให้เธอสมหวังได้ยังไง!”
ซูมู่ชิงส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายใจ คิดไม่ถึงว่าหวังเจียเหยาจะรู้จักฉินหงเหยียนน้อยกว่าซูมู่ชิง
ถ้าฉินหงเหยียนเป็นผู้หญิงแบบนั้นจริงๆ เย่เฉินจะต้องทุ่มเทตามหาหล่อนขนาดนี้ไปทำไมกัน?
“คุณออกไปเถอะค่ะ” ซูมู่ชิงกล่าวเสียงเย็นชา
หวังเจียเหยาแค่นเสียงแล้วเดินสะบัดตูดออกไป
ซูมู่ชิงเปลี่ยนเสื้อแล้วเดินลงไปที่ห้องรับแขก
และในเวลานี้เองเย่เทียนคุยกับชาวัยกลางคนคนหนึ่ง ชายคนนั้นนั่งสูบซิการ์บนโซฟาอย่างวางท่า
ข้างกายเขายังมีหญิงสาวอายุประมาณ 30 ปี
หลังจากซูมู่ชิงเดินลงมา เย่เทียนก็รีบกล่าว “คุณอาครับ อังเคิลฮั่ว นี่คือภรรยาที่เพิ่งแต่งเข้ามาของน้องสาม”
“มู่ชิง นี่คือเพื่อนสนิทหลายปีของตระกูลเย่ ฮั่วอิงเหลียง”
ซูมู่ชิงเดินมาอย่างมีมารยาทแล้วเรียก “สวัสดีค่ะคุณอาฮั่ว”
ฮั่วอิงเหลียงยังคงนั่งบนโซฟาท่าเดิม ไม่ยับตัวเดินมาทักทายหล่อนด้วยซ้ำ เขาปรายตามองฉินหงเหยียน “เรียกฉันว่าอังเคิลเถอะ เย่เฉินนี่ตาถึงนะ ภรรยาสวยมากเลยนะเนี่ย”
ฮั่วอิงเหลียงสูบบุหรี่อย่างสบายอารมณ์ อีกทั้งยังนั่งอย่างสบายใจ
ก่อนหน้านี้ซูมู่ชิงเองก็เคยพบแขกที่มาที่นี้บ้าง ส่วนมากล้วนแต่รักษามารยาท เคารพพวกเขาอย่างมาก ไม่เคยมีใครร่าเริงเป็นกันเองแบบนี้มาก่อน
ดูไปแล้ว ฮั่วอิงเหลียงน่าจะเป็นคนใหญ่คนโตในระดับเดียวกัน!