เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 539 ผมเปลี่ยนไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง!
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 539 ผมเปลี่ยนไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง!
ตอนที่ 539 ผมเปลี่ยนไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง!
คนที่เคยมีประสบการณ์ความรักมาก่อนต่างก็เข้าใจว่าในเกมความรักนี้ ใครหวั่นไหวก่อน คนนั้นเป็นคนแพ้
เย่เฉินที่อายุน้อยด้อยประสบการณ์พอมาเจอผู้หญิงที่อายุมากกว่าเขาถึง 10 ปี ตั้งแต่เริ่มเกมเย่เฉินก็ไม่อาจต้านทานหล่อนได้เลย
เพียงแต่เย่เฉินคาดไม่ถึงเลยว่า แค่พัคอินอาจะจำเขาไม่ได้ด้วยซ้ำไป นี่ทำให้เขาเสียใจมากเหลือเกิน!
พัคอินอายิ้มแล้วหันมองเย่เฉิน มือเรียวยาวของเจ้าหล่อนแตะใบหน้าหล่อเหลาของเขา แล้วพูดจาด้วยท่าทีเย้ายวน
“ทำไม สุดหล่อ ฉันควรต้องจำเธอได้เหรอ? ฉันเคยนอนกับเธอ ให้เธออยู่คลายเหงาให้ฉันเหรอ? เหอะๆ งั้นแปลว่าเธอจะต้องดูแลฉันไม่ดีแน่ๆ เลย ฉันก็เลยจำเธอไม่ได้ จะผิดก็คงผิดที่เธอไม่เก่งเอง!”
คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะเยาะเย้ยเย่เฉินต่อหน้าคนอื่น!
พัคอินอามีสามีแล้ว อีกทั้งคนก็รู้จักสามีของหล่อนทั้งประเทศเกาหลี เป็นผู้ชายที่มีชื่อเสียงและใหญ่โตมากทีเดียว!
และแน่นอนว่าพัคอินอาใช้ภาษาอังกฤษในการสนทนาทำให้บอดกี้การ์ดของหล่อนฟังไม่เข้าใจ
คำพูดของพัคอินอาทำให้เย่เฉินยอกแสลงใจ!
ตลอดเวลาที่ผ่านมาพัคอินอาสูงส่งเหลือเกินในใจเย่เฉิน แต่หล่อนกลับพูดว่าเย่เฉินเป็นผู้ชายที่หล่อนเอาไว้แก้เหงาในแต่ก่อนเท่านั้นเองเหรอ?
หรือว่าส่วนตัวของหล่อนเป็นผู้หญิงที่มีชีวิตสำมะเลเทเมาอย่างนั้นเหรอ?
งั้นตอนนั้นที่ซีเรียหล่อนจะวางท่าสูงส่งไปทำไม!
ในตอนนั้นที่พวกเชาหลบซ่อนตัวกันอยู่ที่หุบเขา ไม่มีเสบียงใดๆ ถ้ามีศัตรูมาอีก พวกเขาสองคนจะต้องตายที่นั่นแน่นอน!
ก่อนจะตายหล่อนก็ยังไม่ยอมมีอะไรกับเย่เฉิน แต่ในเวลาปกติแล้วทำไมหล่อนถึงทำตัวแบบนี้ได้?
พัคอินอาได้ใจแบบนี้เพราะที่นี่เป็นถิ่นหล่อน แล้วรอบตัวยังมีบอดี้การ์ดคอยดูแล
ถึงยขนาดที่กล้าตบหน้าเย่เฉินไม่ปยุด
เย่เฉินทนแล้วทนอีกจนทนไม่ไหว ตลอดสี่ปีที่ผ่านมาผู้หญิงคนที่เขาใฝ่ฝันแต่ไม่ได้มาครอบครองคนนี้อยู่ในใจเย่เฉินมาตลอด แต่ในตอนนี้กลับพบว่าเจ้าหล่อนลืมเขาไปหมดใจ!
หนำซ้ำยังพูดจาดูหมิ่นตนเองแบบนี้!
เพี้ยะ!
เย่เฉินฟาดฝ่ามือใส่หน้าที่แสนสะสวยของพัคอินอา
พัคอินอาโดนตบจนเบลอไป หล่อนใช้มือกุมหน้า ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีคนกล้าตบตนเอง
ท่าทางแบบนี้เหมือนว่าชีวิตนี้ตนเองไม่เคยโดนตบมาก่อน!
บอดี้การ์ดคนอื่นๆ ก็เหมือนเสียสติไป พวกเขามีท่าทีตื่นตระหนก แล้วตั้งท่าจะใช้ปืนยิงเย่เฉิน
ทว่าพัคอินอากลับแย่งปืนมาเล็งใส่เย่เฉิน ผมเผ้ายุ่งเหยองเพราะโดนเย่เฉินตบ
หล่อนใช้ปืนเล็งเย่เฉิน “แกรู้ไหมว่าในโลกใบนี้ไม่มีใครเคยตบฉันมาก่อน!”
เย่เฉินกล่าวเสียงเย็นชา “คุณใช้ปืนเล็งผมเหรอ? จะฆ่าผมเหรอ? คุณคิดจะยิงผู้ชายที่เคยเอาตัวบังกระสุนให้คุณเหรอ?”
ทันใดนั้นเองพัคอินอาก็นิ่งไป แล้วก็มีท่าทีอ่อนลง “นาย… นายพูดอะไร?”
เย่เฉินกล่าวว่า “เมื่อสี่ปีก่อน ในสงครามที่ซีเรีย ถ้าผมไม่เอาตัวบังกระสุนให้คุณ คุณคงจะตายไปนานแล้ว!”
เมื่อสี่ปีก่อน สถานการณ์ค่อนข้างอันตราย จู่ๆ ก็มีคนซ่อนอยู่ในโพรงหญ้า อยากจะลอบทำร้ายพัคอินอา คิดจะยิงหล่อน
ในตอนนั้นเย่เฉินโอบพัคอินอาเพื่อหนีตาย ทำให้ไม่ทันหลบ
และเพราะในตอนนั้นเย่เฉินสวมชุดเกราะกันกระสุน แต่พัคอินอาไม่ได้สวมใส่ ถ้าหากว่าพัคอินอาโดนยิงล่ะก็ หล่อนอาจจะไม่ตายในทันที แต่อาจจะตายเพราะสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายต่างๆ
เย่เฉินเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมถึงได้ยินยอมรับกระสุนแทนหญิงสาว
บางทีเขาอาจไม่อยากเห็นผู้หญิงหน้าตาสะสวยตายในสนามรบ หรือบางทีเย่เฉินในตอนนั้นอาจจะชอบหล่อนเข้าแล้ว
และแน่นอนว่าหลังจากที่โดนยิงไปแล้ว เย่เฉินที่สวมเกรากระสุนเลยไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย ตอนนั้นยังตะเกียกตะกายขึ้นมาพาหญิงสาวหนีต่อด้วยซ้ำไป
ทว่าถ้าเย่เฉินไม่รับกระสุนแทนพัคอินอา หล่อนคงตายไปแล้ว!
พัคอินอามองเย่เฉินอีกครั้ง ทันใดนั้นเองก็นึกขึ้นมาได้ “เธอคือทหารชั้นเลวคนนั้น!”
ในที่สุดหล่อนก็จำเขาได้
ทหารชั้นเลว เป็นสรรพนามที่พัคอินอาเรียกเย่เฉิน
หล่อนไม่เคยถามชื่อเย่เฉินมาก่อน และเรียกเขาว่าทหารชั้นเลวมาตลอด
น้ำเสียงของพัคอินอาไพเราะ ทุกครั้งที่หล่อเรียกเขาว่าทหารชั้นเลว เย่เฉินรู้สึกอบอุ่นใจเสมอ
สุดท้ายแล้วพัคอินอาก็วางปืนลง เย่เฉินพูดถูก หล่อนไม่สามารถเล็งปืนใส่คนที่เคยบังกระสุนให้หล่อนได้
ทันใดนั้นเองพัคอินอาก็หัวเราะออกมา “เธอทำที่เกาหลีทำไม?”
เย่เฉินกล่าวพลางระบายยิ้ม “มาที่นี่เพื่อมานอนกับคุณไง คุณบอกผมเองไม่ใช่เหรอว่าให้ผมมาหาคุณที่เกาหลีน่ะ”
พัคอินอาหัวเราะอย่างมีจริต “ฉันบอกว่าตอนเธอประสบความสำเร็จแล้วค่อยมาหาฉัน ถ้าเธอเป็นแค่นายทหารตัวเล็กๆ ล่ะก็ เธอไม่คู่ควรจะเป็นผู้ชายของฉันหรอกนะ ดังนั้นเธอบอกฉันหน่อยหลายปีมานี้เธอเลื่อนยศไปถึงไหนแล้ว?”
มือถือของพัคอินอาดังขึ้นเอาในตอนนี้พอดิบพอดี
“ฮัลโหล”
พัคอินอายื่นมือเรียวยาว หยิบโทรศัพท์ของหล่อนขึ้นมา
“คุณผู้หญิงครับ ผมเจอข้อมูลของเย่เฉินแล้ว ส่งเข้าไปที่โทรศัพท์ของคุณแล้วครับ!”
คนในโทรศัพท์กล่าว
“รู้แล้ว”
พัคอินอาวางสาย แล้วเปิดข่าวที่ได้มาล่าสุด
ก่อนนี้ที่ลีมินจีโดนฆ่า หล่อนก็สั่งให้คนหาข้อมูลของเย่เฉิน
ในขณะที่หญิงสาวเพิ่งเปิดข้อมูลของเย่เฉินที่ลูกน้องส่งมา สิ่งที่ผ่านเข้ามาในสายตาของหล่อนเป็นอย่างแรกก็คือรูปภาพของเขา
เมื่อเห็นรูปถ่ายใบนี้ พัคอินอาก็ตกใจทันที นั่นเพราะหน้าตาเหมือนทหารชั้นเลวตรงหน้าไม่มีผิดเพี้ยน
“เธอคือเย่เฉินคนที่ฆ่าลีมินจีเหรอ?” พัคอินอากล่าวอย่างตกใจ
และในทันใดนั้นเองที่บอดี้การ์ดที่อยู่ที่นั่นรู้ว่าเย่เฉินเป็นบุคคลอันตราย ก็เตรียมจะเข้าชาร์จเย่เฉินทันที
เย่เฉินรู้ว่าตนเองเป็นคนฆ่าลีมินจี อาจจะโดนพวกเขาล้างแค้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้นเขาจึงลงมือทันที!
เย่เฉินจึงคว้าตัวพัคอินอาที่อยู่ด้านหน้าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะแย่งปืนมาจากมือหล่อนแล้วเล็งไปที่ศีรษะของหล่อน จากนั้นก็จับหล่อนเป็นตัวประกัน
“ปล่อยคุณผู้หญิงนะ!”
“ถ้ากล้าแตะต้องเส้นผมคุณผู้หญิงแม้แต่นิดเดียว ฉันจะสับแกเป็นชิ้นๆ เลย!”
เย่เฉินไม่ได้สนใจบอดี้การดพวกนี้แม้แต่น้อย แต่หันไปกล่าวกับพัคอินอาว่า “บอกให้ลูกน้องคุณถอยไป!”
พัคอินอาโดนปืนเล็งที่ศีรษะ ก็ไม่กล้าขัดขืน หล่อนสั่งให้ทุกคนออกไปจากห้องแล้วปิดประตูห้องลง
ตอนนี้เย่เฉินและพัคอินอาตัวแนบชิดกัน เย่เฉินได้กลิ่มหอมจจากเรือนร่างของพัคอินอาอย่างชัดเจน
เพราะเคยแตะต้องสาวสวยอย่างหวังเจียเหยา ฉินหงเหยียนและซูมู่ชิงมาก่อน ทำให้ผู้ชายตรงๆ อย่างเขามีความรู้เกี่ยวกับน้ำหอมแบรนด์ต่างๆ เป็นอย่างดี
แต่ว่า เขาไม่เคยได้กลิ่นน้ำหอมบนร่างพัคอินอามาก่อนเลย
กลิ่นน้ำหอมหอมละมุน ดึงดูดเย้ายวนใจได้อย่างมาก
และในตอนนี้พัคอินอาก็เปิดปากกล่าว “เอาล่ะ ลูกน้องฉันออกไปหมดแล้ว เธอวางปืนเถอะ เลิกบีบคอฉันทีได้ไหม? หรือว่าเธอคิดถึงฉันมาตลอดสี่ปีจนอยากจะอยู่ใกล้ๆ ฉันจนทนไม่ไหวแล้วใช่ไหม?”
“ชิ”
เย่เฉินแค่นเสียง แล้วปล่อยตัวพัคอินอาด้วยท่าทีขยะแขยง
เขาไม่อยากให้พัคอินอารู้สึกว่าตนเองเป็นคนที่แอบรักหล่อน
หลังจากที่เขาปล่อยพัคอินอาแล้ว หล่อนก็จัดระเบียบเสื้อผ้าของตนเอง แล้วนั่งลงบนโซฟาในห้องอย่างมีมาด เจ้าหล่อนยกขาขึ้นพาดบนขาอีกข้าง แล้วเริ่มไถโทรศัพท์อ่านข้อมูลของเย่เฉินที่ลูกน้องส่งมาให้
“เย่เฉิน เคยเป็นประธานบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ป เฉินเย่กรุ๊ป เฉินเย่เอ็นเตอร์เทนเมนท์ มีทรัพย์สินมากกว่ายี่สิบล้านล้านวอน!”