เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 541 แต่คุณไม่คู่ควรกับผม!
ตอนที่ 541 แต่คุณไม่คู่ควรกับผม!
พัคอินอากล่าวอย่างยั่วยวน “บอดี้การ์ดและล่ามในสนามรบตอนนั้น ฉันถูกใจเธอทันที เพราะเธอเป็นคนเอเชียแล้วก็หล่อมากด้วย คิดไม่ถึงว่าจะมีความสามารถโดดเด่นมากกว่าคนอื่น เสียดายที่เธอมีชาติกำเนิดต่ำต้อย บางทีเธออาจคิดว่าแค่ไม่กี่ปี ได้กลายเป็นมหาเศรษฐีมีทรัพย์สินยี่สิบล้านล้าน แล้วจะเป็นความสำเร็จระดับสูงสุดแล้ว แต่ฉันจะบอกเธอเอาไว้นะ เธอก็ยังอยู่คนละชั้นกับบฉันมากนะ โลกใบนี้มีเรื่องที่เธอไม่รู้อีกมาก มีตระกูลลึกลับต่างๆ ที่เธอยังไม่รู้! พวกเขาถึงจะเป็นชนชั้นสูงในโลกใบนี้!”
เย่เฉินชะงักไป
ตระกูลลึกลับ!
คิดไม่ถึงว่าพัคอินอาจะรับรู้ถึงการมีอยู่ของตระกูลเย่!
มิน่าล่ะ หล่อนถึงได้ดูถูกความสำเร็จในตอนนี้ของเย่เฉิน ที่แท้แล้วหล่อนก็เคยได้ยินเรื่องของตระกูลเย่!
มันก็จริง เงินยี่สิบล้านเป็นแค่เศษเงินในสายตาคนตระกูลเย่เหมือนกัน
ก๊อกๆ!
แล้วในเวลานี้เอง จู่ๆ ก็มีคนเคาะประตู
ทันใดนั้นเองเย่เฉินก็มีท่าทีระแวดระวัง แล้วหยิบปืนขึ้นมา
“ที่รักครับ คุณอยู่ข้างในไหมครับ?”
ด้านนอกมีเสียงผู้ชายดังลอดเข้ามา
พัคอินอากล่าวเสียงเรียบ “สามีฉันเอง เธอไปเปิดประตูสิ”
เย่เฉินกล่าว “คิดว่าผมบ้าเหรอ? เปิดประตู แล้วให้สามีคุณเข้ามาฆ่าผมเหรอ? รีบใส่เสื้อผ้าเลย ไม่อย่างนั้นผมจะฉุดคุณเดี๋ยวนี้แหละ!”
พัคอินอาพูดไม่ออก “ฉันก็บอกแล้วไง ฉันสั่งให้บอดี้การ์ดออกไปแล้ว ไม่มีใครแตะต้องเธอได้หรอก! เหอะๆ ไม่คิดเลยว่าสี่ปีที่ผ่านมา เธอจะขี้ขลาดขนาดนี้ไปแล้ว”
“คุณ…”
เย่เฉินโกรธจัด เขาไม่อยากให้ผู้หญิงคนนี้ดูถูกเขาไม่ว่าจะเรื่องสถานะทางสังคม หรือความกล้าของเขา “ก็ได้ ไม่ว่ายังไงพวกบอดี้การ์ดของคุณก็ทำอะไรผมไม่ได้ ถ้าหากว่าพวกเขากล้าลงมือ ก็อย่าโทษผมล่ะถ้าผมฆ่าคนตายน่ะ!”
เย่เฉินพูดพลางเดินออกออกจากห้องน้ำ แล้ววิ่งไปเปิดประตูด้านนอก
เขาเปิดประตูอย่างระมัดระวัง แล้วก็เจอชอยฮันโฮที่เป็นชายวัยกลางคนยืนอยู่ด้านนอกประตูเพียงคนเดียว ไม่ได้มีบอดี้การ์ดสักคนเดียว
เหมือนสิ่งที่พัคอินอาพูดจะเป็นเรื่องจริง เพราะบอดี้การ์ดของเจ้าหล่อนนั้นต่างก็สลายตัวกันไปหมดแล้ว
เย่เฉินมองประเมินชายวัยกลางคนตรงหน้า เขาเป็นเพียงชายเกาหลีธรรมดามากๆ หุ่นก็งั้นๆ หน้าตาก็เฉยๆ อายุราวๆ 40 กว่าปี
ชอยฮันโฮมองเย่เฉินแล้วระบายยิ้ม โดยไม่ได้มีท่าทีตึงเครียดและไม่เป็นมิตรแม้แต่น้อยแล้วถาม “นายเป็นบอดี้การ์ดมาใหม่ล่ะสิ? คุณผู้หญิงอยู่ข้างในใช่ไหม?”
คิดไม่ถึงว่าชอยฮันโฮจะคิดว่าเย่เฉินเป็นบอดี้การ์ดของพวกเขา
ดูท่าทางว่าในเวลาปกติแล้วบอดี้การ์ดที่คอยคุ้มกันพัคอินอาคงจะมีจำนวนมาก ไม่อย่างนั้นเจ้าบ้านอย่างชอยฮันโฮไม่มีทางจะจำบอดี้การ์ดที่บ้านตนเองไม่ได้
เย่เฉินเห็นว่าไม่จำเป็นต้องลงไม้ลงมือ จึงทำตัวตามน้ำเป็นบอดี้การ์ดกล่าว “อยู่ในห้องน้ำครับ”
ชอยฮันโฮไม่พูดอะไรแต่เดินไปหาภรรยา
เย่เฉินปิดห้องแล้วเดินตามอีกฝ่ายไป
เมื่อเห็นชอยฮันโฮเดินเข้ามา พัคอินอาก็เอ่ยถามเสียงเรียบ “มาทำไม?”
น้ำเสียงของหญิงสาวเย็นชา ไม่ได้มีประแสความรักใดๆ เจือปนอยู่ในนั้น
นี่ทำให้เย่เฉินรู้สึกแปลกใจ เพราะตอนเขายังเด็กเคยอยู่ที่เกาหลีมาหนึ่งปี เขาเองก็พอจะรู้ว่าวัฒนธรรมของสามีภรรยาในประเทศนี้ผู้ชายจะอยู่เป็นฝ่ายเหนือกว่าผู้หญิงเสมอ
คนไม่เหมือนผู้หญิงชาวจีน ที่พอแต่งงานแล้วจะมีสิทธิ์ดูแลเงินทองและปกครองในบ้าน แถมยังสามารถสั่งสอนสามีได้ด้วยซ้ำบวกกับที่สถานะทางสังคมของชอยฮันโฮอยู่เหนือกว่าพัคอินอาที่เป็นแค่แม่บ้านอย่างมากด้วย
ตามหลักแล้ว ถ้าสามีอย่างชอยฮันโฮมาถึงบ้าน พัคอินอาก็ควรจะไปต้อนรับเขาที่ปหน้าประตู แล้วต้องก้มลงเปลี่ยนรองเท้าให้สามีถึงจะถูก
หรือว่าครอบครัวของพัคอินอาไม่ธรรมดา?
ชอยฮันโฮเดินไปข้างๆ พัคอินอาแล้วกล่าว “ที่รัก ผมได้ยินมาว่าลูกสาวเราเกิดเรื่องเลยรีบมา ลูกเราเป็นอะไรครับ?”
พัคอินอาค้อนใส่เย่เฉินแล้วกล่าวกับสามี “ไม่เป็นไร แค่ตกใจนิดหน่อยเฉยๆ”
ชอยฮันโฮพยักหน้ารับ “อ้อ งั้นก็ดีแล้วครับ”
พัคอินอาถามต่อ “คุณไม่เป็นห่วงฉันเหรอ?”
ชอยฮันโฮหันมองเย่เฉินที่ยืนอยู่ตรงประตูแล้วกล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “คุณอาบน้ำยังต้องมีบอดี้การ์ดเฝ้าคุณจะเป็นอะไรได้ล่ะครับ เหอะๆ”
พัคอินอามีสีหน้าไม่พอใจ “ฉันว่าคุณเอาแต่สนใจผู้หญิงคนอื่น ไม่ว่างมาสนใจฉันต่างหากล่ะมั้ง?”
สีหน้าชอยฮันโฮย่ำแย่ “วันนี้ผมยุ่งทั้งวันเลยครับ ผมขอตัวไปพักก่อนนะครับ”
ชอยฮันโฮพูดพลางตั้งท่าจะเดินออกจากห้อง
เย่เฉินจึงรีมค้อมตัวลงทำความเคารพเขาตามมารยาทของชาวเกาหลี แล้วมองเขาเดินออกจากห้องไป
ทว่าใครรจะรู้ว่าจู่ๆ พัคอินอาก็ใช้ภาษาเกาหลีกล่าวกับเขา “เย่เฉิน ช่วยขัดหลังให้ฉันหน่อย”
เย่เฉินชะงักนิ่งอยู่ที่นั่น!
ชอยฮันโฮได้ยินแบบนี้ก็ชะงักฝีเท้าลง ใบหน้าแดงก่ำ!
คิดไม่ถึงว่าพัคอินอาจะพูดกับบอดี้การ์ดของตนเองแบบนี้ต่อหน้าสามีตนเอง หล่อนจงใจยั่วโมโหเขา ดูหมิ่นเขาชัดๆ!
แต่ใครจะรู้ว่าชอยฮันโฮกลับไม่พูดไม่จา แล้วทนรับความอับอายนั้นเอาไว้ และสาวเท้าเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็ว
เย่เฉินเดินไปหาพัคอินอา แล้วมองร่างบางตรงหน้าด้วยใบหน้าเหลือเชื่อ
เขารู้สึกว่าหวังเจียเหยาถือเป็นผู้หญิงที่เลวร้ายมากแล้ว แต่หวังเจียเหยานั้นไม่ถึงหนึ่งในสิบของพัคอินอาด้วยซ้ำ!
หวังเจียเหยาอ่อยฟางเชาและหลิ่วอวี่เจ๋อ แต่อย่างน้อยๆ ก็แอบๆ ไม่ให้เย่เฉินรู้
แต่พัคอินอาคนนี้กลับกล้าพูดจาแบบนี้ทั้งๆ ที่อยู่ต่อหน้าสามีตัวเอง
ถ้าเย่เฉินเป็นสามีของพัคอินอา แล้วเขาได้ยินคำพูดแบบนี้ คิดว่าคงจะโกรธจนฆ่าคนตายไปแล้ว!
ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวจริงๆ!
เย่เฉินจึงกล่าว “ตอนนี้สามีของคุณจะต้องคิดว่าผมมีอะไรกับคุณ เขาต้องเกลียดผมเข้ากระดูกดำแน่ๆ คุณผู้หญิง ทั้งๆ ที่คุณก็ไม่ใช่ผู้หญิงมั่วๆ ทำไมถึงได้ทำแบบนี้เหรอ?”
ถึงแม้ว่าเย่เฉินและพัคอินอาจะรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ก็ยังพอจะเข้าใจหล่อนด้วย
เมื่อสี่ปีก่อนขนาดตอนจะเผชิญหน้ากับความตาย พัคอินอายังยืนยันแน่วแน่ว่าทหารชั้นต่ำคนหนึ่งไม่คู่ควรจะเป็นผู้ชายของหล่อน
ตอนนี้พัคอินอายิ่งไม่มีทางจะลดตัวลงมาวุ่นวายกับตนเอง
ความหัวสูงของหล่อนแบบนี้ เย่เฉินไม่เคยเห็นมาก่อน
ถ้าหากว่าเย่เฉินทายถูกล่ะก็ ผู้หญิงหัวสูงอย่างพัคอินอา เกรงว่าในโลกใบนี้มีผู้ชายไม่กี่คนเท่านั้นเท่านั้นที่จะเข้าตาหล่อน
ดังนั้นหล่อนไม่มีทางจะมีชู้แน่
พัคอินอากล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “หา? คิดไม่ถึงว่าเธอจะมองออกนะ ว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายเนี่ย?”
พัคอินอาพยายามจะทำให้คนอื่นรู้ว่าหล่อนชอบสนุกกับผู้ชาย เหมือนพวกผู้ชายที่มีเงินชอบเล่นสนุกกับผู้หญิง เสียดายก็แค่หล่อนล้มเหลว
เย่เฉินจึงกล่าว “ผมไม่ได้หลงตัวเองนะ ผมสามารถเอาชนะผู้ชายร้อยละ 99 ในประเทศเกาหลีเลยนะ ถ้าผมไม่เข้าตาคุณล่ะก็ ผู้ชายคนอื่นๆ ยิ่งไม่มีโอกาส”
พัคอินอายิ้มน้อยๆ “ฉันชอบผู้ชายที่เชื่อมั่นในตัวเอง ฉันชักจะสนใจเธอมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วสิ ตอนนี้ฉันให้โอกาสเธอ ไหนนวดให้ฉันแล้วเล่าเรื่องของเธอในตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้หน่อย”
เย่เฉินหัวเราะเสียงเย็น “ขอโทษด้วยนะครับ คุณไม่คู่ควร!”
“เธอพูดอะไรนะ?” พัคอินอาหัวเสียทันที แต่ในความไม่พอใจนั้นมีความแปลกใจแฝงอยู่ด้วย เหมือนตกใจว่ามีผู้ชายปฏิเสธหล่อน ไม่ยอมปรนนิบัติรับใช้ใกล้ชิด
เย่เฉินกล่าวพลางระบายยิ้ม “ขอโทษด้วยนะครับ ผมรีบ จะไปแล้ว ไม่มีเวลามานวดให้คุณ แล้วก็เมื่อสี่ปีก่อนคุณก็คิดว่าผมไม่คู่ควรกับคุณ จนวันนี้คุณก็ยังคิดแบบนั้น ผมขอสาบานว่าจะต้องมีวันหนึ่ง ผมจะต้องทำให้คุณได้รู้ว่า เป็นตัวคุณต่างหากที่ไม่คู่ควรกับผม!”