เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 567 ขอรูปหน่อย!
ตอนที่ 567 ขอรูปหน่อย!
เย่เฉินเห็นท่าทีซูมู่ชิงแปลกประหลาด ก็รู้ทันทีว่าหล่อนคิดเหลวไหล
อันที่จริงแล้วทั่วๆ ไปก็มีแม่ยายได้กับลูกเขยเยอะอยู่
เย่เฉินรีบร้อนกล่าว “คุณอย่าคิดเหลวไหลได้ไหม ผมแค่อยากได้รูปแม่คุณตอนสาวๆ เฉยๆ อยากเห็นว่าจะเหมือนคุณขนาดไหน”
ซูมู่ชิงยิ้มหวาน “ก็ได้ คุณรอเดี๋ยวนะคะ”
ซูมู่ชิงเดินไปหามารดาแล้วถาม “แม่คะ ใส่เสื้อทำไม เพิ่งกินเสร็จก็จะกลับแล้วเหรอคะ? อยู่ต่ออีกหน่อยสิคะ”
จางเชี่ยนจือมองฉินหงเหยียนด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์ จากนั้นก็กล่าวด้วยน้ำเสียงประหลาด “ไม่ใช่บ้านแกคนเดียวเสียหน่อย แม่จะอยากอยู่ตามใจได้ที่ไหนล่ะ?”
ซูมู่ชิงรู้ว่ามารดายังรับเรื่องที่ตนเองต้องมีสามีร่วมกับฉินหงเหยียนไม่ได้ ส่วนซูมู่ชิงเองก็ต้องการเวลาในการปรับตัวเหมือนกัน
อย่างไรเสียผู้หญิงประเทศนี้ในสมัยแบบนี้โดนเฉพาะผู้หญิงมีเงินมีอำนาจ ตั้งแต่เกิดมาก็ถูกประคบประหงมดูแลราวเจ้าหยิง เย่อหยิ่งอย่างมาก
จะให้หล่อนต้องไปใช้ชีวิตเป็นเหมือนผู้หญิงในอดีต ต้องให้มายอมแบ่งปันสามีกับคนอื่นๆ ไม่เรื่องง่ายเลย
ซูมู่ชิงจึงกล่าว “แม่คะ แม่มีรูปตอนสาวๆ ไหม หนูขอใบหนึ่ง”
จางเชี่ยนจือกล่าว “อยากเห็นรูปแม่ตอนสาวๆ เหรอ? ง่ายจะตายไปส่องกระจกในห้องน้ำนู่นไป แม่เนี่ยนะตอนสาวๆ สวยกว่าแกเยอะ”
ซูมู่ชิงหัวเราะ หญิงสาวก็พอจะรู้ว่ามารดาตนเองหลงตัวเองมากทีเดียว
“โอ้ยแม่คะ ขอหนูเถอะนะคะ หนูอยากเห็น” ซูมู่ชิงออดอ้อน
จางเชี่ยนจือกล่าว “รูปถ่ายตอนสาวๆ แม่ก็ไม่มีในมือถือเหมือนกัน ถ้าอยากดูตามกลับไปดูที่บ้านนู่น”
และในเวลานี้เองซูมู่ชิงก็หันมองเย่เฉินอย่างลำบากใจ
จางเชี่ยนจือสังเกตเห็นก็ถาม “สรุปใครอยากเห็นกันแน่เหรอ?”
ซูมู่ชิงคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรจึงสารภาพความจริง “เย่เฉินอยากดูค่ะ”
ทันทีที่ซูมู่ชิงกล่าวออกมา บรรยากาศในห้องนั่งเล่นก็แปลกประหลาดไปทันที
ซูหมิงเจ๋อที่กำลังชมภาพวาดและภาพพู่กันจีนก็ชะงักไป จางเชี่ยนจือก็มองเย่เฉินด้วยสายตาประหลาด
เย่เฉินเก้อเขินอย่างมาก ทำไมพ่อตาแม่ยายถึงได้มองเขาด้วยสายตาแบบนี้!
ลูกเขยจะดูภาพแม่ยายไม่ได้เลยหรือไง?!
เย่เฉินรีบร้อนอธิบาย “จริงครับ ก็ได้ยินคุณแม่พูดบ่อยๆ ว่ามู่ชิงเหมือนคุณตอนสาวๆ เป๊ะเลย ผมก็เลยอยากจะเห็นว่าคุณตอนสาวๆ หน้าตาเป็นยังไง”
ซูหมิงเจ๋อกล่าวพลางระบายยิ้ม “อย่าไปฟังเชี่ยนจือพูดเหลวไหลเลย ตอนสาวๆ หล่อนสวยสู้มู่ชิงได้ที่ไหน”
จางเชี่ยนจือได้ยินก็หัวเสีย “ตอนฉันสาวๆ สวยสู้ลูกสาวเราไม่ได้ตรงไหน? ตอนคุณแต่งงานกับฉัน ฉันก็เป็นสาวงามลำดับหนึ่งในเมืองหลวงเหมือนกันเข้าใจไหม?”
ซูหมิงเจ๋อเถียงจางเชี่ยนจือต่อ “ก็ในยุคนั้นมีผู้หญิงสวยๆ เยอะที่ไหนล่ะ คุณเป็นที่หนึ่งก็วัดอะไรไม่ได้หรอก ตอนนี้คนสวยๆ เยอะจะตาย การแข่งจันมันสูง ลูกเราต่างหากที่เป็นสาวสวยเบอร์หนึ่งน่ะ”
จางเชี่ยนจือท้าวสะเอว “ซูหมิงเจ๋อ! ตอนคุณจีบฉันตอนนั้นไม่ได้พูดแบบนี้นี่! คุณชมฉันสวยเป็นนางฟ้า บอกว่ารักฉันทันทีที่เห็น แถมยังชมฉัน ชมฉันสะโพกงอนจะมีลูกชายให้คุณได้!”
ซูหมิงเจ๋อ “…”
พวกเย่เฉินและซูมู่ชิง “…”
แม่ยายช่างเปิดเผยจริงๆ ด้วย คำพูดแบบนี้ก็ยังกล้าพูดต่อหน้าคนรุ่นหลัง
ดูไปแล้วปกติจางเชี่ยนจือน่าจะโวยวายใส่ซูหมิงเจ๋อไม่น้อย
ซูหมิงเจ๋อเห็นเข้าก็รีบอ้อนวอน “ก็ได้ๆ ผมพูดผิดเอง คุณสวยที่สุดแล้ว พอใจหรือยัง คุณดูตัวเองเถอะ ผมชมลูกสาวเรา คุณยังจะหึงอีก แต่ว่าพูดจริงๆ นะเย่เฉิน แม่ยายเธอตอนสาวๆ ในยุคนั้นก็น่าจะถือว่าเป็นสาวสวยลำดับต้นๆ จริงๆ เธอตามไปดูรูปที่บ้านสิไป”
จางเชี่ยนจือมองเย่เฉินแล้วกล่าว “ในเมื่อเธออยากจะเห็นฉันตอนสาวๆ นักก็ตามมาสิ ฉันว่าเธอมีเมียสวยๆ ตั้งสองคนก็คงจะเป็นผู้ชายที่มองคนที่ภายอกเหมือนกัน หวังว่าตอนเธอเห็นรูปฉันรู้ว่าฉันสวยขนาดไหน ต่อไปจะเกรงใจฉันบ้าง จะได้เลิกเอะอะๆ ก็ลงไม้ลงมือกับฉัน”
จางเชี่ยนจือค่อนขอดเรื่องนี้อีกครั้ง ดูแล้วเรื่องโดนลูกเขยตบ หล่อนน่าจะจำไปตลอดชีวิต
……
เย่เฉิน ซูมู่ชิงและจางเชี่ยนจือก็มาเหยียบวิลล่าของจางเชี่ยนจือเป็นครั้งแรก
เมื่อมาถึงห้องของจางเชี่ยนจือ จางเชี่ยนจือก็เปิดอัลบั้มรูปบนหัวเตียงของตนเอง
อัลบั้มรูปเล่มนี้ดูแล้วมีอายุใช้ได้ คิดว่ารูปในอัลบั้มสีน่าจะซีดไปแล้ว
จางเชี่ยนจือพลิกรื้อหาภายใน หลังจากนั้นก็หยิบรูปภาพใบหนึ่งออกมาแล้วส่งให้เย่เฉิน “นี่เป็นรูปที่ถ่ายตอนวันเกิดครบอายุ 20ปีของฉัน เธอดูเอาเถอะ”
เย่เฉินเอมไปรับภาพถ่ายที่ดูเก่าแก่ไป ถึงแม้ว่ารูปภาพจะเก่าแก่ไปเล็กน้อย รูปถ่ายเองก็ไม่ได้ชัดเจนเหมือนในนตอนนี้แต่ว่าเย่เฉินก็ยังคงตกตะลึงกับใบหน้าของหญิงสาวในภาพถ่าย!
จางเชี่ยนจือในรูปถ่ายสวมกระโปรงยาว นั่งบนระเบียง ไขว่ห้าง เพราะว่ากระโปรงแหวกออก ดังนั้นจึงเห็นเรียวขาสองข้างเล็กน้อย
จางเชี่ยนจือในตอนนั้นผอมกว่าตอนนี้มาก
ทรงผมของจางเชี่ยนจือเป็นสไตล์ทรงผมของหญิงสาวในยุค 80 เป็นลอนคลื่นเล็กน้อย ระบายยิ้มเย้ายวน
พอเห็นวงหน้าอ่อนเยาว์อิ่มเอิบ เย่เฉินก็ตกตะลึง!
สวยจริงๆ!
อายุเป็นศัตรูตัวฉกาจของผู้หญิงจริงๆ!
ต่อให้จางเชี่ยนจือจะมีเงินมากมายเท่าไร ใช้ครีมประทินผิวราคาสูงลิ่วขนาดไหน แต่ตอนนี้เจ้าหล่อนอายุ 40 แล้วไม่มีทางกลับไปสวยเหมือนตอนอายุ 20 ปีได้
เห็นเย่เฉินชะงักไป จางเชี่ยนจือก็อดหัวเราะไม่ได้ “เป็นไงล่ะ พ่อลูกเขย ตอนสาวๆ ฉันสวยใช่ไหมล่ะ? เหมือนกวนจือหลินไหมล่ะ?”
“กวนจือหลินเหรอ?” เย่เฉินนิ่งไป
จางเชี่ยนจือใช้มือปิดหน้าผาก “เฮ้อ เด็กๆ ตอนนี้ไม่รู้จักว่ากวนจือหลินเป็นใคร ฉันจะบอกให้เป็นดาราคนหนึ่ง ที่ฉันคิดว่าเป็นดาราที่สวยที่สุด!”
ถ้าเย่เฉินเคยเห็นภาพถ่ายเก่าๆ ของกวนจือหลินตอนสาวๆ จะพบว่าจางเชี่ยนจือตอนสาวๆ ไม่ได้หน้าตาด้อยไปกว่าดาราเลย!
“สวยมาก…”
เย่เฉินรับเอารูปถ่ายแล้วกล่าวชมอย่างอดไม่ได้
ซูมู่ชิงเองก็ยืนชมอยู่ข้างๆ “เฮ้อ แม่ตอนสวยๆ นี่สวยจริงๆ หนูว่าตัวเองสวยไม่ได้ครึ่งของแม่เลย”
จางเชี่ยนจืออารมณ์ดีอย่างมาก อารมณ์เมื่อตอนกลางวันมลายหายไปอย่างรวดเร็ว
จางเชี่ยนจือยิ้มกว้างจนหุบปากไม่ได้ แล้วแย่งรูปถ่ายกลับมา “พวกเธอสองตัวนี่ เมื่อกลางวันยั่งโมโหฉันแล้ว ตกเย็นมาทำเป็นหาข้ออ้างมาชมฉันแล้วจะให้เรื่องจบเหรอ? ฝันไปเถอะ!”
จางเชี่ยนจือเริ่มคิดว่าที่เย่เฉินพูดว่าอยากจะดูรูปถ่ายของหล่อน เป็นเพียงแค่ข้ออ้าง เพราะแค่อยากจะฉวยโอกาสนี้ชมหล่อน
ทว่าเย่เฉินอยากจะได้รูปถ่ายหล่อนจริงๆ
เย่เฉินมองจางเชี่ยนจือด้วยแววตาจริงจัง “แม่ครับ ผมขอรูปถ่ายใบนี้ได้ไหมครับ?”
จางเชี่ยนจือชะงักไป “เธอ… เธออยากได้รูปฉันไปทำไม?”
เย่เฉินปวดหัว หัวจะระเบิด เมื่อหาเหตุผลที่สมเหตุสมผลไม่ได้
ลูกเขยอยากได้รูปส่วนตัวของแม่ยาย ต้องใช้เหตุผลอะไรดีล่ะ!