เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 573 อายุน้อยลง 10 ปี!
ตอนที่ 573 อายุน้อยลง 10 ปี!
“โอ้ย… ซี้ด… ซี้ด… พู่ว…”
คนเกาหลีที่โดนจับมัดอยู่นั้นหน้าแดงขึ้นมาถึงสองระดับ อีกทั้งยังหอบหายใจอ้าปากอย่างหนักด้วย
น้ำลายก็ไหลออกมาไม่หยุด
“น้ำ ขอน้ำให้ฉันหน่อย โอ้ย เผ็ดจะตายแล้ว ขอฉันดื่มน้ำหน่อย!”
คนเกาหลีเผ็ดจนล้มลงบนพื้นทั้งที่โดนมัดติดกับเก้าอี้ แล้วยังคงดิ้นกระแด่วๆ บนพื้นไม่หยุด
พออี้หัวเห็นภาพนี้ก็ยินดีอย่างมาก “ฮ่าๆ พี่เฉิน ยาที่ให้เขากินออกฤทธิ์แล้ว ยาจัดความรู้สึกบ้าบออะไรของเขาหมดฤทธิ์ไปแล้ว!”
เย่เฉินเห็นเขาดิ้นบนพื้นแล้วสาวเท้าเดินไปข้างหน้าพลางกล่าว “นายอยากจะแสดงศักยภาพและพลานุภาพของตระกูลพัคที่ยิ่งใหญ่ไม่ใช่เหรอ? ซอสพริกแค่ขวดเดียวก็ทำเอานายดิ้นขนาดนี้ อ่อนแอเกินไปแล้วแล้วรีป่าว?”
คนเกาหลีนอนราบบนพื้น คว้าเข้าที่กางเกงของเย่เฉินแล้วกล่าว “ขอน้ำให้ฉันหน่อย ทำไมแกถึงมียาที่ลดฤทธิ์ยาของตระกูลพัคได้ล่ะ? แกเป็นใครกันแน่!”
คนเกาหลีคนนี้รู้ซึ้งในศักยภาพของตระกูลพัคเป็นอย่างดี และรู้ว่ายาของตระกูลพัคนั้นก้าวหน้าไปกว่าโลกหลายสิบปี ไม่ใช่ว่าใครก็จะสามารถแก้ฤทธิ์ยานี้ได้
และในครั้งรี้เขาเองก็สำนึกได้ว่า เย่เฉินที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่คนธรรมดา!
เย่เฉินกล่าว “บอกฉันมาเดี๋ยวนี้เลย พัคซุงวูคิดจะทำอะไรกันแน่!”
คนเกาหลีก็เป่าปากไม่หยุด แต่ก็ยังฝืนทำใจแข็ง “แกคู่ควรจะรู้เรื่องของตระกูลพัคที่ไหน!”
เย่เฉินรีบหยิบมีดพกด้ามหนึ่งออกมา แล้วปักลงขาของคนเกาหลีทันที!
“โอ้ย!”
คนเกาหลีรร้องโหยหวนทันที แล้วเลือดสดๆ ก็ทะลักออกจากขาอย่างรวดเร็ว!
เย่เฉินกล่าว “ถ้าหากว่านายไม่บอก งั้นฉันจะทิ่มลงขาไปเรื่อยๆ รับรองเลยว่าก่อนนายจะตายเนี่ยนะ ฉันแทงนายได้สักร้อยเลย! ถ้าหากว่านายมีความสามารถทนรับมีดได้ร้อยครั้งล่ะก็ นายจะไม่พูดก็ได้ ไม่อย่างนั้นนะ ฉันขอแนะนำให้นายรีบพูดน่าจะดีที่สุด!”
พูดจบแล้ว เย่เฉินไม่ให้เวลาคนเกาหลีคนนั้นตอบกลับหรือตั้งตัว แต่เขาก็แทงมีดครั้งที่สองไปทันที!
“โอ้ย!”
คนเกาหลีคนนั้นร้องโหยหวนด้วยควมเจ็บปวด
อี้หัวที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ตกใจความแข็งแกร่งและความแน่วแน่ของเย่เฉิน
คนเกาหลีรู้ว่าเย่เฉินไม่ได้ล้อเล่น ครั้งนี้เขาเจอตัวจริงเข้าแล้ว ดังนั้นในตอนที่เย่เฉินแทงดาบครั้งที่สาม คนเกาหลีก็รีบร้อนกล่าว “ผมพูด! ผมพูด! จะบอกทั้งหมดแล้ว!”
“ฮึ”
เย่เฉินแค่นเสียงเย็น เขาเดาได้นานแล้ว คนเกาหลีคนนี้ไม่มีทางปากแข็งได้นาน ขอแค่เขย่าขวัญอีกฝ่ายได้ เขาต้องยอมแพ้แน่ๆ!
เย่เฉินดึงดาบกลับมา “รีบพูดมาเลย ทำไมพัคซุงวูถึงต้องหารูปผู้หญิงวัยกลางคนวัย 40 ปี ทำไมไม่ไปตามหาสาวสวยๆ อายุ 17-18 ปีล่ะ?”
เย่เฉินก็ยังไม่เข้าใจในจุดนี้
ผู้หญิงอายุมากกว่า 40 ปี ต่อให้ดูแลผิวพรรณมากเท่าไร ก็ยังเป็นแค่ผู้หญิงมีอายุเท่านั้น มีผู้ชายคนไหนไม่ชอบผู้หญิงสาวๆ บ้าง?
คนเกาหลีกล่าวว่า “เจ้านายของฉันรู้สึกว่าผู้หญิงอายุ 17-18 ปีเนี่ย อายุน้อยเกินไป ไม่มีประสบการณ์ เอาใจคนไม่เป็น ไม่สนุก ส่วนผู้หญิงที่อายุมากกว่า 40 เนี่ย รู้งาน ทำเป็นหลายอย่าง มีประสบการณ์ดีด้วย เจ้านายฉันชอบแบบนี้”
และในตอนนี้เองอี้หัวที่อยู่ข้างๆ ก็กล่าว “พี่เฉิน เขาไม่ได้พูดความจริงแน่เลย เมื่อครู่เขายังบอกเลยว่าเจ้านายของเขาไม่ชอบผู้หญิงที่หน้าเหี่ยวมีริ้วรอย ชอบผู้หญิงหน้าเด็กๆ อยู่เลย”
เย่เฉินยกมีดขึ้นอีกครั้ง คนเกาหลีคนนั้นรีบกล่าว “อย่าแทงผมเลย ลูกพี่ อย่าแทงผมเลย! ผมพูดเรื่องจริงทั้งนั้น! เจ้านายของผมไม่ชอบผู้หญิงแก่หน้าเหี่ยวจริงๆ เพียงแต่ชอบนิสัยและประสบการณ์ของพวกหล่อน แล้วเขายังชอบบุคลิกภาพแล้วก็วิธีการสนทนาของพวกหล่อนด้วย!”
เย่เฉินเหมือนจะจับสังเกตอะไรได้ เขาจึงเอ่ยถาม “หรือว่าอยากจะทำให้พวกหล่อนอ่อนเยาว์ลงหลังจากที่พาตัวพวกหล่อนไปงั้นเหรอ?”
ที่จริงแล้วยาที่ทำให้คนอายุน้อยลง 2-3 ปีนั้น ตระกูลเย่และเจ็ดตระกูลที่เหลือก็มี
ยาที่เย่เฉินเอามาให้จางเชี่ยนจือคราวนี้ก็มียาแบบนี้ด้วย
คนเกาหลีจ้องเย่เฉิน “คุณ…คุณเก่งเกินไปแล้ว! ถูกต้อง เจ้านายของพวกเราสามารถทำให้ผู้หญิงพวกนั้นอายุน้อยลง 10 ปี!กลับไปมีสภาพเมื่อ 10 ปีก่อน! ดังนั้นผมเลยต้องตามหาผู้หญิงวัยกลางคนที่หน้าตาสะสวยตอนสาวๆ ต่อให้หล่อนอายุ 40 ปีก็ไม่เป็นไร เพราะไปที่เกาหลี เราก็จะสามารถทำให้หล่อนกลับมีสวยเหมือนตอนอายุ 30 หรืออาจจะ 20 ปีได้ด้วยซ้ำไป!”
เย่เฉินและอี้หัวตกตะลึง โดยเฉพาะอี้หัว
อี้หัวกล่าว “แกโม้ใช่ไหมน่ะ? ให้คนอายุ 40 กลายเป็นคนอายุ 30 เหรอ? แกมีเวทย์มนตร์กันหรือไง? ฉันรู้ว่าคนเกาหลีศัลยกรรมเก่ง แต่ต่อให้เก่งขนาดไหนก็ทำได้แค่ให้หน้าตาสวยขึ้น คงทำให้อายุน้อยลงไม่ได้หรอกมั้ง?”
คนเกาหลีคนนั้นหัวเราะร่วน “ด้วยโลกทัศน์ของแก จะเข้าใจเรื่องทฤษฎีวิทยาศาสตร์ได้ยังไง! ใครบอกว่าเราจะย้อนวัยไม่ได้เหรอ? สำหรับคนอื่นอาจจะเป็นอย่างนั้น แต่สำหรับคนตระกูลพัคแล้ว ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้!”
แล้วในตอนนี้เอง เย่เฉินกลับปิดปากเงียบ
“อายุน้อยลง 10 ปี… หน้าตาย้อนกลับไปเหมือนเมื่อ 10 ปีก่อนเหรอ?”
เย่เฉินเพิ่งจะกลับมาจากโรงงานผลิตยาลับของตระกูลเย่ ไปได้ยาชะลอวัยที่ดีที่สุดที่นั่นมา แต่ก็ทำให้อายุน้อยลงแค่ 2-3 ปี
อีกทั้งยังต้องใช้เวลาพักใหญ่ๆ
หรือว่าเทคโนโลยีทางการแพทย์ของตระกูลพัคดีกว่าตระกูลเย่อย่างนั้นเหรอ?
เย่เฉินกล่าวกับอี้หัว “นายซักเขาไปนะ ฉันขอไปห้องน้ำก่อน”
“ครับพี่”
เย่เฉินเดินออกจากห้องแล้วโทรหาเฮเลน
เฮเลนก็คือนักวิจัยยาที่เก่งที่สุดในด้านการแพทย์ของตระกูลเย่
“ฮัลโหล”
“เฮเลน ผมถามคุณหน่อยสิว่าเทคโนโลยีทางการแพทย์ของแปดตระกูลลึกลับเนี่ย มีของใครที่สามารถทำให้คนอายุน้อยลงได้สัก 10 ปีไหม?”
“อะไรนะคะ? อายุน้อยลง 10 ปีเหรอ? ใช่ของตระกูลพัคไหม?”
เย่เฉินกล่าว “ใช่ ตระกูลพัคแอบคัดเลือกคนอย่าลับๆ พวกเขาเลือกผู้หญิงวัยกลางคนอายุ 40 ปี แล้วเงื่อนไขก็คือตอนสาวๆ ต้องหน้าตาสะสวยด้วย ผมได้ข่าวมาว่าพวกเขาสามารถทำให้ผู้หญิงอายุ 40 กลับไปสวยเหมือนตอน 30 ได้”
เฮเลนมีท่าทีตกใจ “คุณพระ ตระกูลพัคของเกาหลีเก่งจริงๆ ด้วย! คิดไม่ถึงเลยว่าเทคโนโลยีในเรื่องความสวยความงามของตระกูลพัค น่าจะพัฒนาไปจนน่ากลัวมากแล้ว! เย่เฉินในทั้งแปดตระกูลของเรา มีจุดถนัดที่ไม่เหมือนกัน คนเกาหลีเองให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอกด้วย ดังนั้นหลายสิบปีมานี้พวกเขาเลยเอาแต่ศึกษาหาวิธีที่จะทำให้หน้าตาสวยขึ้น อ่อนวัยขึ้น ถ้าหากว่าเป็นตระกูลพัคล่ะก็ ฉันเชื่อว่าพวกเขาจะทำได้!”
เย่เฉินเองก็ตกใจเหมือนกัน คิดไม่ถึงว่าตระกูลพัคจะเก่งจนน่ากลัวขนาดนี้!
สามารถย้อนวัยให้คนอ่อนวัยลงได้ถึง 10 ปี! ออกจะเกินไปแล้ว!
ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็ สาวสวยๆ ก็คงไม่ต้องกลัวจะแก่อีกต่อไป!
เฮเลนกล่าวว่า “เทคโนโลยีแบบนี้เกรงว่าจะมีแค่ตระกูลพัคจากเกาหลีเท่านั้นที่ทำได้ ที่จริงแล้วตระกูลเย่เองก็มีทีมที่กำลังทำวิจัยเรื่องนี้โดยเฉพาะ เสียดายแค่ที่ไม่ค่อยคืบหน้าตอนนี้ยังทำให้คนอายุน้อยลงได้แค่ 3 ปี ต่างจากตระกูลพัคมากจริงๆ….”
เย่เฉินถอนหายใจ เขารับไม่ได้!
คิดไม่ถึงว่าตระกูลเย่จะด้อยกว่าตระกูลพัค!