เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 578 แพทย์แผนจีนของตระกูลเย่ร้ายกาจเกินใครเทียบ!
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 578 แพทย์แผนจีนของตระกูลเย่ร้ายกาจเกินใครเทียบ!
ตอนที่ 578 แพทย์แผนจีนของตระกูลเย่ร้ายกาจเกินใครเทียบ!
เย่เฉินและซูหลานนั่งรถไฟความเร็วสูงกลับเมืองหลวง แล้วก็กลับไปหาเหอเฟิงหมายเลข 3 ส่วนชิงหลง ซีกวา เสี่ยวหวังและอี้หัวก็อยู่บนเครื่องบินเหมือนกัน
ทว่าหลังจากที่เย่เฉินมารวมตัวกับพวกเขาแล้ว ก็ไม่ได้เดินทางไปเกาหลีในทันทีทันใด
เย่เฉินมักรู้สึกว่าไปเกาหลีครั้งนี้น่าจะต้องเจอพัคซุงวู
ถึงแม้ว่าแผนของเย่เฉินจะแอบเข้าไปในโรงพยาบาลส่วนตัวของตระกูลพัค พอได้ยาของตระกูลพัคแล้วก็จะแอบหนีไป
แต่ไม่รู้ว่าทำไม เย่เฉินถึงได้รู้สึกแปลกๆ เขาคิดว่าการไปเกาหลีครั้งนี้จะได้เจอพัคซุงวู แต่ทุกอย่างจะไม่ราบรื่นนัก
อย่างไรเสียคู่ต่อสู้ของเขาในครั้งนี้ก็เป็นคนในตระกูลลึกลับเหมือนกัน เย่เฉินจำเป็นต้องวางแผนให้รัดกุม
ดังนั้นก่อนที่เย่เฉินจะออกเดินทาง จึงโทรหาคุณปู่หนึ่งครั้ง
เย่เฉินกล่าว “คุณปู่ครับ ตอนแรกหลังจากที่ทั้งแปดตระกูลได้รับความช่วยเหลือจากเทพธิดามาแล้ว พวกเราเติบโตในเขตงานที่ต่างกันใช่ไหมครับ?”
เย่ฉงไห่ตอบหลานชาย “ใช่แล้ว อย่างไรเสียทั้งพื้นเพ ความคุ้นเคย และชาติพันธุ์ก็แตกต่างกัน ทำให้ทั้งแปดตระกูลเติบโตในขอบเขตที่ไม่เหมือนกันด้วย อย่างตระกูลพัคจากเกาหลีเนี่ย เพราะพวกเขาให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตา ดังนั้นพวกเขาจึงพัฒนาเทคโนโลยีด้านความสวยความงามไม่หยุดโดยได้ความช่วยเหลือจากเทพธิดา ส่วนคนญี่ปุ่นกับอเมริกาต่างสนใจแต่เรื่องแสนยานุภาพ อยากเป็นผู้นำโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่ค่อนข้างให้ความสนใจในเรื่องอาวุธและการต่อสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้ ส่วนตระกูลอื่นๆ ปู่ไม่แน่ใจ เพียงแต่จะคาดเดาโดยประมาณเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตระกูลชมิทซ์ของสวิสเซอร์แลนด์ ปู่ไม่รู้เลยว่าสิบปีมานี้พวกเขากำลังวิจัยหรือพัฒนาอะไร พวกเขาเก็บความลับได้ดีมากจริงๆ”
เย่เฉินพยักหน้ารับ แล้วถาม “งั้นตระกูลเย่ของเราล่ะครับ? ตระกูลเย่ของเราเก่งกว่าพวกเขาตรงไหนเหรอครับ?”
เย่เฉินอยากจะรู้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาตระกูลของตนเองทำอะไรอยู่
เย่ฉงไห่กล่าว “แพทย์แผนจีน”
“แพทนย์แผนจีนเหรอ
ครับ?”
เย่ฉงไห่กล่าว “ถูกต้อง แพทย์แผนจีนคือเพชรล้ำค่าของประชาชนในประเทศเรา ทวดของหลานขอให้เทพธอดาช่วยตระกูลพัฒนาสิ่งนี้ ตอนนี้เทคโนโลยีของแพทย์แผนจีนที่เรามีนั้นอยู่เหนือกว่าจินตนาการของคนทั่วไปอย่างมากเลยล่ะ!”
เย่เฉินพึงพอใจอย่างมาก ที่แท้แล้วระดับความสามารถในแขนแพทย์แผนจีนของตระกูลตนเองเจ๋งขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!
งั้นแล้วจะต้องไปกกลัวคนต่างชาตินั่นทำไม!
แพทย์แผนจีนมีประวัติความเป็นมายาวนานหลายพันปี บวกกับที่ได้รับความช่วยเหลือจากเทพธิดา ทำให้ระดับแพทย์แผนจีนของตระกูลเย่อาจจะไม่ถึงกับชุบชีวิตคนตายได้ แต่เกรงว่าก็คงจะเก่งจนคนต้องสรรเสริญเยินยออยู่ดี!
เย่ฉงไห่กล่าว “ตระกูลเย่ของเราได้ส่งแพทย์แผนจีนไปในที่ต่างๆ ทั่วโลก ที่เมืองหลวงก็มีคนหนึ่ง หลานเปิดแหวนแห่งความลับเพื่อหาตำแหน่งที่อยู่ของเขาได้”
เย่เฉิน “อ้อ ได้ครับ!”
หลังจากวางสาย เย่เฉินก็รีบเดแหวนแห่งความลับ และเจอตำแหน่งของคุณหมอที่คุณปู่ว่า แล้วใช้ระบบนำทาง
ก่อนจะไปเกาหลี จะต้องเอายาจีนไปเผื่อไว้ให้เรียบร้อย!
เมื่อเดินทางไปยังตำแหน่งที่ปรากฏขึ้นในระบบแล้ว เย่เฉินก็มาถึงวิลล่าที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวลับตาคนนอกเมืองหลวง
ประตูบานใหญ่ของวิลล่า เป็นประตูสไตล์คลาสสิคแบบจีนดั้งเดิม เย่เฉินมองอยู่ครู่หนึ่งแล้วกดกริ่ง
แล้วมีคุณตาอายุ 60 กว่าปีเดินมาเปิดประตูอย่างรวดเร็ว
“คุณมาหาใครเหรอครับ?”
ตาแก่ถาม ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยรองรอยของความแก่ชรา
ชายชราค้อมตัวลง ละม้าหลังค่อม แถมยังดูท่าทางไม่ค่อยมีสติ ใบหน้าซีดเซียว
เย่เฉินกล่าวอย่างมีมารยาท “ผมเป็นเจ้าของที่นี่”
ตาแก่ไอค่อกแค่ก “นายท่านของเราไม่อยู่ครับ”
เย่เฉินถาม “เขาไปไหนเหรอ?”
ตาแก่ตอบกลับ “นายท่านไปเมืองนอก คุณมาพบท่านมีอะไร?”
เย่เฉินหงุดหงิด ถ้าหากไม่ต้องเตรียมตัวไปเกาหลี เย่เฉินก็คงจะไม่กังวลขนาดนี้
ทันทีที่ไปเจอกับพัคซุงวู แล้วเกิดมีเรื่องมีราวกันแค่นั้น เย่เฉินก็คงไม่ได้กลัวอะไร แต่กลัวว่าพัคซุงวูจะหาเรื่องเขา
คนตระกูลพัคบ้าดีเดือดกันแทบทุกคน พัคอินอาไม่ชอบ้เขา ลูกน้องของพวกตระกูลพัคเองก็มักจะเหยียดหยามคนอื่นอยู่เสมอ
ในโลกเสมือนจริงนั้นพัคซุงวูเองก็ยังกล้าชนเย่เฉินจนกระเด็นลอยลิ่วออกไป ส่วนในโลกความจริงนั้นเขาย่อมต้องไม่เห็นหัวเย่เฉินแน่ๆ
ทันทีที่เขาเห็นพัคซุงวูวางท่าต่อหน้าเย่เฉินแล้วล่ะก็ เขาไม่รู้ว่าตนเองจะตอบโต้อีกฝ่ายอย่างไร!
อย่างไรเสียการวางท่าคุยโวนี้จะต้องมีความสามารถในระดับหนึ่งเป็นพื้นฐานก่อน
เย่เฉินกล่าวด้วยใบหน้าจริงจัง “ผมคือเย่เฉิน เป็นทายาทรุ่นที่สามของตระกูลเย่ เขาไม่อยู่จริงๆ เหรอ?”
แต่ใครจะรู้จู่ๆ ใบหน้าของตาแก่ก็เผยรอยยิ้ม แล้วเขาก็หยิบกระถางดอกไม้ชิ้นหนึ่งเดินออกมาจากตัวบ้าน แล้วถามเย่เฉิน “คุณชายเย่ครับ ผมขอถามหน่อยว่าดอกไม้ในกระถางนี้ชื่ออะไร?”
เย่เฉินปรายตามอง ดอกไม้ที่ภายนอกเป็นเอกลักษณ์ สีสันฉูดฉาด นั่นมันคือดอกลิลลี่ที่ปลูกไว้ที่ด้านนอกของปราสาทอ้ายเย่เหรอ?
ดอกลิลลี่นี้เพาะพันธุ์โดนตระกูลเย่ ส่วนที่อื่นๆ ไม่มี
เย่เฉินกล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ดอกหยิ่งผยอง”
ชายชราก็แปลกใจเล็กน้อย “ดอกหยิ่งผยองเหรอ? คุณชายเย่แน่ใจนะครับว่าจะตอบแบบนี้?”
เย่เฉินกล่าว “คุณปู่ของผมตั้งชื่อมันว่าดอกร้อยกลีบ แต่ผมคิดว่าน่าจะชื่อดอกหยิ่งผยองน่าจะดีกว่า เพราะดอกไม้ประภทนี้ไม่ต้องการการดูแลเอาใจใส่ หน้าร้อนโดนแดดจัดก็ยังไม่ตาย หน้าหนาวก็ไม่ตายด้วย แล้วก็ดอกเย่อหยิ่งนี่ หน้าตาน่าเกลียด ไม่ยอมออกดอกด้วย ต้องออกดอกก่อนนั้นถึงจะสวยน่าชม”
ตาเฒ่าระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “มีเหตุผลๆ คุณชายเย่ครับ เชิญเข้ามาข้างในเถอะครับ!”
ตาแก่พาเย่เฉินเข้ามาในบ้าน เดินตรงไปที่ห้องรับแขก เย่เฉินก็พบว่าหลังของเขาไม่ค้อมลงอีกแล้ว หลังจากที่แผ่นหลังของเขายืดตรงก็พบว่าฝ่ายตรงข้ามก็ดูมีง่าราศีไม่เบา
อีกทั้งร่องรอยแก่ชราบนใบหน้าเขาก็หายไปเหมือนไม่เคยมีมาก่อน!
ใบหน้าห่อเหี่ยว ไม่มีชีวิตชีวา ดูสดใสในทันที!
ทันใดนั้นเองตาแก่ก็ยื่นมือมาจับมือเขาพลางกล่าว “ผมจงโหย่วเหอ เมื่อครู่รังแกคุณชายไป ต้องขออภัยด้วยจงโหย่วเหอ”
เย่เฉินกล่าวพลางระบายยิ้ม “คุณก็คือแพทย์แผนจีนที่ตระกูลผมส่งมาอยู่ที่เมืองหลวงใช่ไหม?”
จงโหย่วเหอลูบหนวดยาวๆ ของเขาแล้วกล่าว “ผมเอง”
เย่เฉินก็ไม่เสียเวลาอีก แต่พูดวัตุประสงค์ที่เขามาทันที “คุณหมอจง ผมจะไปเกาหลี ไปครั้งนี้ผมมีลางสังหรณ์ว่าผมจะต้องเจอคนตระกูลพัค ดังนั้น…”
เย่เฉินยังไม่ทันพูดจบ จู่ๆ จงโหย่วเหอก็ขัดเย่เฉินพลางกล่าว “คุณชายทำไมถึงได้มีลางสังหรณ์ว่าจะไปเจอคนตระกูลพัคเหรอครับ?”
เย่เฉินกล่าว “ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะได้เจอไหม แค่มีลางสังหรณ์เฉยๆ แต่เป็นลางสังหรณ์ที่แม่นยำมากด้วย บางทีก่อนนี้คนตระกูลพัคเคยท้าทายผม ตอนนี้ผมยังโกรธพวกเขาอยู่เลย ดังนั้นผมเลยอยากจะเจอเขาแล้วล้างแค้นพวกเขาล่ะมั้ง?”
เย่เฉินใช้ความรู้ที่เขาได้รเยนรู้จากวิชาจิตวิทยา มาอธิบายเหตุการณ์นี้
เขาไม่รู้ว่าทำไมจงโหย่วเหอถึงได้ถามคำถามนี้
จงโหย่วเหอถามต่อ “ปกติแล้วลางสังหรณ์ของคุณชายแม่นไหมครับ?”
เย่เฉินพยักหน้ารับ “แม่นยำมากเลยล่ะ บางครั้งน่ะผมถึงกับเดาสภาพอากาศของวันต่อมาได้เลย ต่อให้กรมอุตุนิยมวิทยาบอกว่าฝนไม่ตก ผมเองมีลางสังหรณ์ว่าจะฝนตก ไม่ได้มีหลักวิยาศาสตร์อะไรหรอก แต่เป็นแค่ความรู้สึกล้วนๆ เลย”
จงโหย่วเหอหัวเราะ “ดูแล้วครั้งนี้คุณชายกับคนตระกูลพัคน่าจะได้เจอหน้ากันแล้ว!”