เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 581 โรงพยาบาลส่วนตัวของตระกูลพัค!
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 581 โรงพยาบาลส่วนตัวของตระกูลพัค!
ตอนที่ 581 โรงพยาบาลส่วนตัวของตระกูลพัค!
“ขอดูรูปตอนสาวๆ หน่อย”
คุณหมออันกล่าว
คิมจองรีบส่งรูปภาพของซูหลานที่เตรียมเอาไว้ให้กับคุณหมออัน
คุณหมออันรับรูปถ่ายมา เมื่อเห็นหน้าตาตอนสาวๆ ของซูหลานก็กล่าวชมไม่ขาดปาก
“ว้าว สวรรค์โปรด สวยมากเจริงๆ! คุณคิม คนที่คุณหามาคราวนี้ถือเป็นของชั้นเลิศเลยนะ คุณชายจะต้องตบรางวัลให้อย่างงามแน่นอน”
คิมจองกล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “แต่นี่ก็ยังต้องขอพึ่งพาความสามารถของคุณหมอให้ย้อนวัย ถึงจะช่วยให้คุณผู้หญิงท่านนี้กลับมาสะสวยเหมือนตอนสาวๆ แบบในรูปถ่าย จนตอนนั้นขอแค่คุณชายพอใจ รางวัลของเราสองคนจะต้องเยอะแน่”
คุณหมออันพยักหน้ารับ “อื้ม ถูกต้อง สบายใจเถอะ คราวนี้ผมจะดูตลอดขั้นตอนทั้งหมดแน่นอน ไม่มีทางให้เกิดข้อผิดพลาดกับคุณผู้หญิงท่านนี้แน่นอน”
และในเวลานี้เอง คุณหมออันก็ไปเห็นเย่เฉิน
คุณหมออันหันไปถามคิมจอง “ผู้ชายคนนี้เป็นใคร?”
คิมจองกล่าว “เขาเป็นลูกเขยของสุภาพสตรีท่านนี้”
คุณหมออันระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “แล้วนายเอาลูกเขยหล่อนมาทำไม? นี่ไม่เท่ากับว่าส่งแม่ยายตัวเองเข้าปากเสือชัดๆ ไม่ใช่หรือไง? ฮ่าๆ แล้วอีกอย่างนะ ที่นี่คือโรงพยาบาลส่วนตัวของตระกูลพัค คนนอกจะรู้ไม่ได้ นายพาเขาเข้ามาไม่กลัวว่าเขาจะโดนคนตระกูลพัคปิดปากเหรอ?”
พูดจบคุณหมออันก็ใช้ภาษาจีนที่มีอยู่อย่างน้อยนิดกล่าวกับเย่เฉิน “คุณ ไม่อยากตาย ไสหัวไป!”
เย่เฉินไม่ค่อยพอใจเขาตอบกลับอีกฝ่ายเป็นภาษาเกาหลี “ผมจะเข้าไปข้างในกับแม่ยาย”
คิมจองที่อยู่ข้างๆ ก็กล่าว “นั่นสิ คุณหมออัน เขาสามารถเป็นล่ามให้คุณผู้หญิงด้วย”
คุณหมออันไม่ชอบท่าทีของเย่เฉินอย่างมาก เขาตอบ “ไม่จำเป็น! ที่นี่เรามีล่ามโดยเฉพาะ บอกให้เขาออกไปจากที่นี่เลย!”
ยาของตระกูลพัค จะต้องถูกปกปิดอย่างมิดชิด ถ้าไม่เข้าไปแล้วจะขโมยยามาได้อย่างไร?
เย่เฉินคิดวิธีออกจึงกล่าว “แม่ยายผมพูดภาษาจีนกลางไม่ได้ พูดได้แต่ภาษาถิ่น เกรงว่าล่ามของพวกคุณก็คงจะฟังภาษาอวิ๋นโจวไม่รู้เรื่องหรอกล่ะมั้ง?”
หลังจากที่คุณหมออันได้ยินแล้วก็หงุดหงิด เขารู้ว่าประเทศจีนมี 56 ชนเผ่า มี 30 กว่ามณฑล แต่ละสถานที่ก็มีภาษาถิ่น คนนอกฟังไม่ออกเลย
นับประสาอะไรกับล่ามที่เป็นชาวเกาหลี
“ก็ได้ ในเมื่อมีแค่นายเป็นล่ามได้ งั้นนายก็ตามเข้ามาเถอะ แต่ว่าฉันต้องขอเตือนคุณสักประโยค ไม่ใช่ว่าใครจะอยากเข้ามาก็ได้ แล้วคิดจะกลับออกไปก็ทำตามใจ”
พูดจบแล้ว คุณหมออันก็ยิ้มเยาะเย่เฉิน แล้วเดินหนีกลับออกไป
เย่เฉินเข้าใจความหมายของเขา จากคำพูดของคุณหมออันแล้วนั่นแปลว่า เย่เฉินเดินเข้าไปแบบเป็นๆ แต่อาจจะไม่ได้กลับออกมาแบบมีชีวิตก็ได้!
ที่นี่มีความลับมากมาย เป็นไปได้อย่างมากว่าเมื่อคนของตระกูลพัคใช้ประโยชน์เย่เฉินเสร็จแล้วอาจจะฆ่าปิดปากเขา!
เย่เฉินเตรียมพร้อมเอาไว้ก่อนนานแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่กลัวเรื่องพวกนี้
“เสี่ยวเฉิน ฉันชักจะกลัวแล้วแฮะ…”
จู่ๆ ซูหลานก็เกิดขี้ขลาดขึ้นมา หญิงสูงวัยกว่าเอื้อมมือมาจับมือของเย่เฉิน เนื้อตัวสั่นเทิ้ม
ก่อนหน้านี้ซูหลานเป็นคุณนายในตระกูลที่ร่ำรวย หล่อนไม่เคยเจอคนมีอิทธิพลมาก่อน
“ไม่เป็นไร ผมอยู่นี่ครับ” เย่เฉินปลอบใจซูหลาน
จากนั้นเย่เฉินก็จับมือซูหลานเดินเข้าไปภายในช้าๆ
ทว่าคิมจองกลับไม่ได้เดินตามไป เขากล่าว “คุณชายเย่ ด้านหน้าเป็นหน่วยศัลยกรรมความสวยงามของโรงพยาบาลตระกูลพัค ผมเข้าไปที่นั่นไม่ได้ ผมรอพวกคุณอยู่ที่นี่แล้วกัน”
เย่เฉินพยักหน้ารับ ไม่พูดอะไรต่อ
ซูหลานเกาะมือเย่เฉินสาวเท้าเดินตามคุณหมออันคนนั้น แล้วกระซิบกับเย่เฉิน “เสี่ยวเฉิน ถ้าฉันตายที่นี่ เธอจะต้องช่วยฉันทำตามคำสั่งเสียของฉันด้วยนะ!”
เย่เฉินถาม “คุณมีคำสั่งเสียอะไร?”
ที่นี่คือพื้นที่ของตระกูลพัค ถึงแม้ว่าซูหลานจะไม่ตาย แต่ถ้าเย่เฉินพาหล่อนไปด้วยไม่ได้ หล่อนจะต้องอยู่ที่นี่ แล้วกลายเป็นเพียงเครื่องมือระบายอารณ์ของพัคซุงวู
ถ้าหากว่าซูหลานมีคำสั่งเสียอะไร เย่เฉินยินดีที่จะช่วยหล่อน ถือเป็นการชดเชย
ซูหลานกล่าว “ฉันอยากให้เธอแต่งงานกับเจียเหยา”
เย่เฉินพูดไม่ออก “คุณสบายใจเถอะ ผมรับรองเลยนะว่าจะช่วยให้คุณออกไปอย่างปลอดภัยเพื่อที่จะช่วยทำให้ความหวังสุดท้ายของคุณสำเร็จ”
แม่ของตระกูลชั้นล่างที่ไม่รู้อะไร นี่มันยุคไหนแล้ว ยังจะเชื่อเรื่องที่ได้เสียกันแล้วจะรักกันตลอดไปอะไรทำนองนั้นอยู่ได้
เย่เฉินและซูหลานก็ถูกพามาที่ลิฟต์ที่ดูไฮเทคอย่างมาก
แค่การตกแต่งจากกระจกสีภายในลิฟต์ก็ทำให้ซูหลานตื่นตะลึงอย่างมาก
หลังจากเข้าไปในลิฟต์แล้วซูหลานก็ไม่เห็นคุณหมออันกดลิฟต์แต่อย่างใด แต่ตัวลิฟต์ก็ขึ้นไปเองโดยอัตโนมัติ
ลิฟตืไม่เพียงแต่สามารถเคลื่อนที่ขึ้นหรือลงได้เท่านั้น แต่ยังเคลื่อนที่ไปทางซ้ายและขวาได้!
ซูหลานตกใจ หล่อนจับมือเย่เฉินแน่น “เสี่ยวเฉิน เสี่ยวเฉินลิฟต์ตัวนี้มันเกิดอะไรขึ้น? มันเคลื่อนที่ไปทางซ้ายขวาไปด้วยเหรอ? ลิฟต์มันต้องขึ้นลงเท่านั้นไม่ใช่เหรอ? ทำไมไปทางซ้ายและขวาได้ด้วยล่ะ?”
เมื่อเห็นท่าทีหมดหวังของซูหลาน คุณหมออันแค่นเสียงแล้วสบถออกมา “บ้าชิบ”
ทว่าเขาสังเกตเห็นเย่เฉินที่มาขึ้นลิฟต์ที่เคลื่อนไปทางซ้ายและขวา แต่กลับไม่มีท่าทีไหวติง สีหน้ายังคงเดิม ไม่ได้มีท่าทางลนลานตกใจแต่อย่างใด
“ไอ้เด็กคนนี้… หึ จะต้องจงใจทำเฉยแน่นอน!”
คุณหมออันลอบกล่าวในใจ
ในความเป็นจริงเย่เฉินเองก็รู้เรื่องของแบบนี้ตั้งนานแล้ว!
ในโรงพยาบาลส่วนของตระกูลเย่เอง ก็มีลิฟต์ที่สามารถขึ้นลง และไปทางซ้ายและขวาได้
เทคโนโลยีแบบนี้ สำหรับทั้งแปดตระกูลแล้วก็ไม่ใช่เทคโนโลยีแปลกใหม่อะไร พวกเขาใช้มันมาตั้งแต่เมื่อสิบปีก่อนแล้ว
เย่เฉินหันไปอธิบายกับซูหลาน “นี่คือลิฟต์ MULTI โดยตัดตัวรอกลิฟต์ทิ้ง ทำให้ไม่มีเชือกรั้ง ลิฟต์ตัวนี้ตั้งอยู่บนนราง เคลื่อนที่ได้โดยไฟฟ้า แล้วใช้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าเพิ่มความเร็วเพื่อให้เราไปชั้นที่ต่างๆ กัน ส่วนบริเวณข้อต่อของราง Multi นี้สามารถหมุนได้ เมื่อครู่ข้อต่อเปลี่ยนทิศ ทำให้เราสามารถไปทางซ้ายและขวาได้ คุณน้าไม่ต้องตกใจนะครับ นี่ไม่ได้มีอะไรนักหนาหรอกครับ อย่าให้คนเกาหลีเยาะเย้ยพวกเราเลย!”
หลังจากที่เย่เฉินอธิบายแล้ว ซูหลานก็เชิดคอขึ้นแล้วกลับมาทีท่าทีสง่างามเหมือนเดิม
คุณหมออันหันกลับมามอง เพราะเขาฟังไม่เข้าใจ ก็เกิดความสงสัยขึ้น
ประตูลิฟต์เปิดออกอย่างรวดเร็ว แล้วภาพที่ลอกเข้ามาในครรลองสายตานั้นก็คือพื้นที่ทำงานของโรงพยาบาล
คนในชุดโรงพยาบาลหลายสิบคนกำลังสาละวนทำงาน
“นี่ก็คือโซนศัลยกรรมความสวยความงามของโรงพยาบาลตระกูลพัค!”
เย่เฉินเห็นคนพวกนี้ก็รู้ทันทีว่าพวกเขาเป็นอัจฉริยะระดับหัวกะทิๆ ของโลกในวงการการแพทย์แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความสวยงาม!
“ถ้าสามารถเอาคนพวกนี้ไปทำงานให้ตระกูลเย่ก็คงดี!”
ตอนนี้เย่เฉินเป็นคนตระกูลเย่ ก็จำเป็นต้องทำอะไรให้ตระกูลบ้าง
“ตามมา”
คุณหมออันกล่าวกับเย่เฉินเสียงเย็น แล้วพาพวกเขาเข้าไปในห้องที่มิดชิด
“คุณหมอเชิง”
คุณหมออันเรียกหมออีกคนในห้อง
“คุณหมออัน” คุณหมอเชิงพยักหน้ารับกับคุณหมออันแล้วปรายตามองเย่เฉินและซูหลาน แล้วถาม “มีคนมาอีกแล้วเหรอ?”
คุณหมออันพยักหน้ารับ “เป็นคนที่ถูกใจคุณชายมากเลย เราต้องระวัง อย่าให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้น คุณชายจะได้ไม่โทษพวกเรา”
คุณหมอเชิงหันมองเย่เฉิน “ทำไมถึงได้มีคนนอกเข้ามา?”