เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 586 พิสูจน์เพื่อตระกูลเย่!
ตอนที่ 586 พิสูจน์เพื่อตระกูลเย่!
เย่เฉินยังคงมีท่าทียิ่งเฉย โดนสิบกว่าคนใช้ปืนเล็งมาที่หัวแล้ว แต่ก็ไม่มีท่าทีหวาดกลัว!
เขากลับเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาพัคซุงวู!
เย่เฉินจ้องพัคซุงวูด้วยแววตาเคียดแค้นพลางกล่าว “แกกล้าลั่นไกใส่ฉันเหรอ? แกอยากให้ตระกูลเย่กับตระกูลพัคะเลาะกันใช่ไหม?”
พัคซุงวูตอบกลับ “ตระกูลเย่ของพวกแกไม่มีทางจะทำเพื่อแก…”
พัคซุงวูยังไม่ทันพูดจบ เย่เฉินก็ตะโกนเสียงกร้าวต่อ “แกกล้าทำให้โลกตกอยู่ในความวุ่นวายเชียวเหรอ?!”
ขอแค่เย่เฉินตายอยู่ที่นี่ ตระกูลเย่อาจจะโมโหจนใช้ทั้งเทคโนลีและอาวุธที่ล้ำหน้าหลายสิบปี โลกนี้คงจะตกอยู่ในความวุ่นวายแน่นอน!
พอถึงตอนนั้นต่อให้เป็นตระกูลทั้งแปด ไม่ว่าจะมุมใดในโลกก็คงจะไม่มีสถานที่ที่สงบสุข!
พัคซุงวูหัวฟัดหัวเหวี่ยง “บ้าชิบ! อย่าพูดเหมือนตัวเองสำคัญเสียเต็มประดา! แกจะตายหรือไม่ ไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อโลกใบนี้เลยด้วยซ้ำไป! แกเป็นตัวอะไร! วันนี้ฉันจะฆ่าแกให้ตาย! ฉันเองก็อยากจะเห็นว่าตระกูลเย่จะกล้ามีเรื่องกับตระกูลฉันเพื่อแกไหม!”
ในตอนที่พัคซุงวูกำลังจะส่งสัญญาณเพื่อถ่ายทอดคำสั่งให้ลูกน้องของเขายิงเย่เฉิน
และในเวลานี้เอง จู่ๆ ก็มีเสียงดังโครมคราม!
โครม!
เสียงดังโครมครามดังขึ้นที่นอกตึก ทว่าพวกคนภายในตึกกลับสัมผัสได้ถึงแรงสั่นไหวของตัวตึก
“รนหาที่ตาย!”
พัคซุงวูใช้มือยันกำแพงถึงจะสามารถประคองตัวเอาไว้ได้ เขามีท่าทีหวาดกลัวทันที “รีบไปตรวจดูที เมื่อครู่มันเสียงอะไร!”
เย่เฉินกลับยืนนิ่งไม่ไหวติงเขากล่าวว่า “พัคซุงวู ฉันว่าคนตระกูลพัคแกต่างหากที่เป็นขยะ ถ้าฉันไม่เตรียมตัวอะไรเอาไว้แล้วฉันจะมาที่นี่หรือไง? พูดกันตามความจริงเลยนะลูกน้องฉันเห็นหมดแหละว่าฉันทำอะไรบ้าง!”
และในตอนนี้เองลูกน้องของพัคซุงวูก็รีบถือ IPAD ที่ค่อยข้างไฮเทคมา แล้วใช้โฮโลแกรมฉายภาพเหตุการ์ที่เกิดขึ้นด้านนอกตัวตึกพลางกล่าว
“คุณชาย ด้านนอกมีเครื่องบินรนกำลังถล่มยิงตึกเราอยู่ครับ!”
หลังจากที่พัคซุงวูเห็นแล้วก็ขมวดคิ้วมุ่น “บ้าชิบ นั่นมันเหอเฟิงของตระกูลเย่!”
คนตระกูลพัคก็ค่อนข้างมีความรู้เรื่อเหอเฟิงของตระกูลเย่เป็นอย่างดี
ก่อนหน้านี้ เย่เซวียนพี่รองของเย่เฉินก็เคยใช้เหอเฟิงหมายเลข 2 ไปหาพัคอินอาที่เกาหลีบ่อยๆ ผลคือเขาเคยต่อสู้กับเครื่องบินรบของตระกูลพัคด้วย
เขาจึงพอจะรู้ศักยภาพของเหอเฟิงเป็นอย่างดี
เย่เฉินกล่าว “พัคซุงวูฉันรับรงกับแกได้เลยว่า ขอแค่แกลั่นไกยิงฉัน วินาทีต่อมาเหิเฟิงของฉันก็จะระเบิดตึกนี้จนเป็นผุยผง ถึงเวลาตอนนั้นแกเองก็ต้องตายไปพร้อมๆ กับฉันด้วย! ถ้าวันนี้แกอยากตายเป็นเพื่อนฉันล่ะก็ เข้ามาเลย!”
พัคซุงวูโกรธจนกำหมัดแน่น วินาทีนี้เขาไม่กล้าผลีผลามทำอะไร
“ฉันเป็นถึงผู้สืบทอดตระกูลพัค ส่วนเขาเป็นแค่ขยะของตระกูลเย่ ตายกับเขา ไม่คุ้มเลย!”
พัคซุงวูคิดในใจ
เมื่อทำอะไรไม่ได้ พัคซุงวูจำใจต้องสั่ง “ทุกคนวางปืนลง!”
ปืนหลายสิบกระบอกถูกเก็บทันที แล้วเสียงดังโครมครามทั้งหมดก็เงียบเสียงลงพร้อมๆ กันทันที
พัคซุงวูไม่สามารถสังหารเย่เฉิน จึงพูดจาเหน็บเขาแทน “เย่เฉิน ตระกูลเย่ของพวกแกมันเป็นแค่ขยะ ไร้ประโยชน์ ! แกมาที่ศูนย์ศัลยกรรมของตระกูลเราทำไม? จะต้องมาเพื่อขโมยเทคโนโลยีสำคัญของเราใช่ไหม? เหอะ ตระกูลขยะ ตัวเองไม่มีปัญญา ตามเทคโนโลยีเราก็ไม่ทัน เลยกะจะมาขโมย ต่อให้แกขโมยไปได้ ตระกูลเย่ก็เป็นขยะเหมือนเดิม เป็นตระกูลขยะในบรรดาแปดตระกูล!”
โทสะของเย่เฉินพุ่งพล่าน เขาเดาเอาไว้ก่อนนี้แล้ว พวกตระกูลอื่นๆ ก็คงจะดูถูกตระกูลเย่ด้วย ไม่แค่ตระกูลพัคเพียงตระกูลเดียว!
เขาเกลียดที่ตระกูลทำเหมือนตนเองรู้ดีไปเสียทุกอย่างแบบดีที่สุด!
แต่ว่าเย่เฉินก็ไม่ได้แขวววะกลับตามอารมณ์โกรธที่มี
เย่เฉินในตอนนี้ ผ่านการต่อสู้มากมาย เขาในตอนนี้มีประสบการณ์ในการเจรจามากมาย
ตอนที่เขาแต่งเข้าตระกูลหวัง มักจะโดนคนบ้านนั้นเหยียดหยามดูถูก รู้สึกว่าเขาเป็นแมงดา ตอนที่เป็นคนไม่มีเงิน เย่เฉินก็ไม่ได้เถียงกลับไปแต่อย่างใด
เย่เฉินเพียงแต่ยิ้มบางๆ เพราะเขารู้ว่าตนเองรวยกวาพวกเขามานกนัก ดังนั้นในสายตาของเย่เฉินคำพูดเหล่านั้นเป็นเพียงเรื่องตลกเท่านั้น!
ตอนนี้ก็เหมือนกัน ถ้าเย่เฉินโกรธ หรือถ้าไปทะเลาะกับพัคซุงวู ก็จะทำให้คนพวกนั้นรู้สึกว่าตระกูลเย่ทำอะรไม่ได้จริงๆ เป็นขยะอย่างที่พวกเขาคิดจริงๆ!
“ไม่ ครั้งนี้ ฉันจะต้องทำให้ตระกูลพัดต้องเคารพตระกูลเย่ของเราให้ได้!”
เย่เฉินไม่ต่อปากต่อคำกับอีกฝ่าย และไม่ได้ลงไม้ลงมือ เขากลับหัวเราะร่า
“ฮ่าๆ…”
พัคซุงวูได้ยินเสียงหัวเราะของเย่เฉิน ก็ถามอย่างแปลกใจ “แกหัวเราะอะไร?”
เย่เฉินกล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ฉันหัวเราะเพราะแกมันโง่เง่า หัวเราะที่แกโง่! คิดไม่ถึงว่าจะรู้สึกว่าตระกูลเย่ของพวกเราเป็นตระกูลที่ด้อยที่สุดจากทั้งแปดตระกูล ฮ่าๆ น่าขำจริงๆ! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแกจะยังคิดว่าตระกูลเย่ของเราจะมาขโมยยาของพวกแกงั้นเหรอ? หัวเราะจนฟันจะหัก!”
พัคซุงวูได้ยินก็หัวเสีย “บังอาจ! ตระกูลเย่ของพวกแกเป็นตระกูลที่ห่วยที่สุดจากทั้งแปดตระกูล นี่เป็นสิ่งที่เราทั้งแปดตระกูลเห็นเหมือนกัน! ต่อให้เป็นพี่ชายคนโตของแก ถ้าวันนี้ปู่ของแกอยู่ที่นี่ ก็ต้องยอมรับความจริงข้อนี้เหมือนกัน! แกมีสิทธิ์อะไรมาเยาะเย้ยยาตระกูลพัคของเรางั้นเหรอ? ยาที่ตระกูลพัคของเราคิดค้น ยาของตระกูลเย่แกได้ไม่ถึงเศษเสี้ยว!”
เย่เฉินยังคงไม่มีอารมณ์อะไร เขากล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ทักษะทางการแพทย์ของตระกูลพัคแก ก็พอใช้ได้ ปู่ฉันยังเคยชมว่าที่ทักษะทางการแพทย์ของตระกูลพัคมาถึงขั้นนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องโชคเท่านั้น”
พัคซุงวูได้ใจ “หึ ปู่ของแกนี่ยังยอมรับความจริงกว่า คราวก่อนตอนงานประชุมของทั้งแปดตระกูล ฉันเคยเจอเขาครั้งหนึ่ง เขาชื่นชมเทคโนโลยีทางการแพทย์ของตระกูลเรามากนะ!”
เย่เฉินกล่าว “ฉันยัพูดไม่จบ ปู่ของฉันบอกว่าที่การแพทย์ของตระกูลแกพัฒนาอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นเรื่องเหลือเชื่อต่างหาก!”
พัคซุงวูหน้าถอดสีทันที “แกพูดอะไรนะ? ตระกูลเย่ของแกดูถูกตระกูลพัคของฉันเหรอ?”
เย่เฉินกล่าว “เราดูถูกแกอยู่แล้ว ดังนั้นถึงได้ตกใจไง ว่าพวกแกเป็นเป็นแค่หมอที่ทำศัลยกรรม ทำไมถึงจะมีการแพทย์ที่ล่วงหน้าทันสมัยที่สุดในโลกได้ล่ะ แต่ว่าต่อให้พวกแกจะทันสมัยมากขนาดไหน อาจจะพอสู้พวกตระกูลยุโรปได้บ้าง แต่กับตระกูลเย่ของเรา แกเป็นแค่ฝุ่นธุลีเท่านั้นแหละ!”
พัคซุงวูระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ฮ่าๆ แกนี่มันปากเก่งจริงๆ ขนาดตระกูลจอร์จกับรอธส์ไชลด์ของอเมริกายังไม่กล้าปากเก่งกับตระกูลพัคเราเลย คิดไม่ถึงว่าแกจะยังกล้าพูดว่าตระกูลเย่ของแกเก่งกว่าตระกูลพัคของฉันมากมายนักหนางั้นเหรอ? เย่เฉินดูแล้วคุณปู่ของแกคงจะไม่ได้เล่าเรื่องของตระกูลเย่ของแกสินะ ระดับการแพทย์ตระกูลเย่ของแกยังอยู่ที่เมื่อหลายสิบปีก่อน ตอนที่ยังได้ความช่วยเหลือจากเทพธิดาอยู่เลย แต่ทั้งเจ็ดตระกูลมีพัฒนาการใหม่ๆ จากความพยายามและการค้นคว้าวิจัยกว่า 20 ปี! จะโทษก็โทษพ่อที่ไร้ประโยชน์ของแกเองเถอะนะ ฮ่าๆ!”