เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 597 แม่ยายโดนจับ!
ตอนที่ 597 แม่ยายโดนจับ!
ซูเจิ้นหางเองก็เปิดปากบ้าง “พวกคนที่จับเชี่ยนจือไปไม่ใช่แก๊งค์ลักพาตัวธรรมดาๆ เขาสามารถหลบหลีกกล้อวงจรปิดของพวกเราได้ แถมยังหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่น่าจะใช้พวกคนมีอิทธิพลทั่วๆ ไป ถ้าหากสามารถยืนยันได้ว่าพวกเขายังอยู่ในเมืองหลวง เราก็น่าจะสามารถจับตัวพวกเขาได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าพวกเขาพาจางเชี่ยนจือออกจากเมืองหลวง หรือพาตัวไปเมืองนอก ตระกูลซูเราเองก็จนปัญญา เย่เฉินเรื่องนี้เธอพอจะช่วยอะไรได้ไหม?”
เย่เฉินยังไม่ทันพูดอะไร ซูมู่เสวี่ยก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เรื่องที่กระทั่งตระกูลซูของเรายังทำไม่ได้ แล้วเขาที่เป็นคนจากต่างถิ่นจะมาช่วยเหลืออะไรได้? ตอนนี้ขนาดบัญชีของเขาที่นี่ยังโดนอายัดอยู่ด้วยซ้ำไป”
เย่เฉินเหลือบตามองซูมู่เสวี่ยเล็กน้อย ตอนนี้ตระกูลซูกำลังเกิดเรื่อง เย่เฉินไม่มีแก่ใจจะมาลับฝีปากกับซูมู่เสวี่ย
เย่เฉินกล่าว “งั้นผมดูกล้องวงจรปิดก่อน”
เย่เฉินดูกล้องวงจรปิดภาพวีดีโอที่ถ่ายจางเชี่ยนจือเอาไว้
แล้วก็พบว่าหล่อนหายตัวไปในพื้นที่ที่ว่างเปล่า
“เครื่องบินที่พรางตัวได้เหรอ?”
ถ้าหากว่าจางเชี่ยนจือเข้าไปในเครื่องบินที่พรางตัวได้ก็จะเท่ากับว่ากล้องวงจรปิดจะไม่เห็นหล่อน
คนที่จะมีเครื่องบินแบบนี้ได้ในโลกใบนี้เห็นจะมีแต่แปดตระกูลเท่านั้น
และเย่เฉินก็นึกถึงตระกูลพัคจากเกาหลีที่เพิ่งจะมีเรื่องกับพวกเขาในทันที!
“หรือว่าจะเป็นพัคซุงวูเหรอ?”
เย่เฉินเพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาลของตระกูลพัค แถมยังระเบิดโรงพยาบาลของเขาไปเยอะ หนำซ้ำยังยิงพัคซุงวูด้วย
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีทางการแพทย์ของตระกูลพัคจะสามารถช่วยให้เขาไม่ถึงกับต้องเป็นพิการแบบซูมู่หลิน แต่เขาเองก็เจ็บมากเอาการอยู่
บวกกับที่เย่เฉินขโมยยาที่มีราคาแพงจากตระกูลพัคมา พัคซุงวูเองก็คิดอะไรเกินเลยกับจางเชี่ยนจือมาโดยตลอด เป็นไปได้ว่าเขาจะอาศัยโอกาสนี้ล้างแค้นเย่เฉิน
ซูมู่ชิงเองก็มีท่าทีกังวลใจอย่างมาก “แม่ไม่ค่อยเจอคนแปลกหน้า ไม่เคยล่วงเกินใครมาก่อน ใครกันที่ใจร้ายขนาดนี้จู่ๆ ก็จับแม่ไป แม่อย่าเป็นอะไรเลยนะคะ…”
ถึงแม้ว่าซูมู่ชิงจะมีความเห็นที่ไม่ค่อยลงรอยกับมารดา แต่อย่างไรเสียก็มีสายใยแม่ลูก เมื่อเห็นว่าแม่โดนจับตัวไป หล่อนเองย่อมต้องเสียใจอย่างมาก
เย่เฉินตบบ่าซูมู่ชิงแล้วปลอบใจ “มู่ชิง คุณวางใจเถอะนะครับ ผมรู้ว่าใครจับแม่คุณไป เรื่องนี้ยกให้ผมจัดการเถอะ”
ซูเจิ้นหางรีบร้อนกล่าว “เย่เฉินเธอรู้เหรอคือใคร?”
ซูมู่หลินที่นั่งบนรถเข็นตะโกนเสียงดัง “รีบบอกฉันมาว่าไอ้สารเลวที่ไหนจับแม่ฉันไป ฉันจะไปฆ่ามัน!”
ซูมู่เสวี่ยเองก็กล่าวขึ้นมาเช่นกัน “แม่ใหญ่เป็นคนตระกูลซูของเรา กล้าจับคนตระกูลซูแบบนี้เท่ากับว่าต้องการจะตั้งตัวเป็นศัตรูกับเรา ไม่จัดการคนแบบนี้ล่ะก็แค่คิดก็ใจสั่นแล้วต่อไปฉันคงไม่กล้าออกไปไหน!”
เย่เฉินกล่าวว่า “ถ้าหากว่าเดาไม่ผิดล่ะก็ น่าจะเป็นตระกูลพัคจากเกาหลี”
“ตระกูลพัคจากเกาหลีเหรอเนี่ย? พวกเขามีธุรกิจอะไร? ทำไมไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย?”
คนตระกูลซูไม่เคยได้ยินชื่อของตระกูลพัคมาก่อน
เพราะตระกูลพัคเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับ พวกเขาย่อมต้องไม่รู้แน่
เย่เฉินไม่อยากจะอธิบายกับพวกเขามากมาย เย่เฉินหันไปมองซูเจิ้นหางแล้วกล่าว “คุณปู่ซู เรื่องนี้อาจเกิดเพราะผม ให้ผมเป็นคนรับผิดชอบพาแม่กลับมาแล้วกันครับ”
ซูเจิ้นหางพยักหน้ารับ “อืม เย่เฉินถ้ามีอะไรต้องการให้ช่วยล่ะก็บอกฉันได้ตลอดเวลาเลยนะ”
“ครับ”
เย่เฉินไม่พูดพร่ำทำเพลง แต่บินตรงไปเกาหลีทันที
เขาบินตรงไปที่โรงพยาบาลส่วนตัวแห่งนั้นของตระกูลพัคทันที
ชิงหลงในตอนนี้ได้พาตัวซูหลานและยาของตระกูลพัคไปยังทีมวิจัยของตระกูลเย่เรียบร้อย และรีบเดินทางกลับมา
“ชิงหลง ตอนนี้เรามีคนเท่าไร?” เย่เฉินถาม
ชิงหลงตอบ “200 คน”
เย่เฉินหันไปสั่ง “ทุกคนบุกโรงพยาบาลไปเลยไป!”
เย่เฉินต้องการจะทำลายโรงพยาบาลตระกูลพัคให้ได้ให้เร็วที่สุดแล้วพาตัวจางเชี่ยนจือออกไป
แต่ว่าในตอนที่พวกเขาเดินเข้าไปในตึกด้านในที่เละเทะยับเยิน แล้วพบว่าในนั้นว่างเปล่าไม่มีใคร
“คุณชาย เราตรวจทั้งชั้นบนและล่างแล้ว ไม่เจอใครสักคน เลยครับ อีกอย่างพวกเขาเองก็ขนของไปหมดแล้ว” ชิงหลงรายงาน
เย่เฉินกำหมัดแน่น “บ้าชิบ คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะย้ายฐานที่มั่นแล้ว”
สำหรับตระกูลลึกลับแล้ว เรื่องความเป็นส่วนตัวสำคัญอย่างยิ่ง
ในเมื่อเป็นโรงพยาบาลส่วนตัวของตระกูลพัค เมื่อเย่เฉินรู้แล้ว นี่จะไม่ใช่ที่ลึกลับของตระกูลพัคอีกต่อไป
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ตระกูลพัคจึงเลือกที่จะย้ายสถานที่ทันที แล้วปล่อยที่นี่ให้ร้างแทน
“บ้าจริง ฉันก็รู้ที่มั่นของตระกูลพัคแค่ที่นี่ที่เดียว ถ้าจะไปตามหาจางเชี่ยนจือกับพัคซุงวูก็คงยากแล้ว”
ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าไม่ง่าย แต่เย่เฉินเองก็สั่งให้ลูกน้องไปตามหาสถานที่ที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นพื้นที่ของตระกูลพัค รวมไปถึงส่งคนไปสะกดรอยตามพัคอินอาด้วย
……
ในเวลาเดียวกัน ณ เกาะเชจู ในคฤหาสน์หรูหราที่ค่อนข้างลับตาคน
จางเชี่ยนจือโดนมัดมือมัดเท้า จนเรือนร่างเย้ายวนโดดเด่นออกมา
ส่วนพัคซุงวูย่างสามขุมมาช้าๆ เขาที่เพิ่งโดนยิงเมื่อตอนเช้า แต่ตอนนี้กลับไม่ต้องใช้ไม้ค้ำในการช่วยเดินอีกต่อไป
นี่คือจุดเด่นของเทคโนโลยีทางการแพทย์ในอนาคต
อาการป่วยจำนวนมากในตอนนี้ ไม่ต่างอะไรกับการเป็นไข้ในสายตาของตระกูลลึกลับทั้งแปดที่มีเทคโนโลยีทางการแพทย์ในอนาคต
พัคซุงวูมองจางเชี่ยนจือที่เรือนร่างโดดเด่นสะดุดตา แล้วน้ำลายหก “เป็นคุณป้าที่สมบูรณ์แบบอะไรขนาดนี้! คุณนายซู คุณเป็นผู้หญิงอายุ 40 ปีที่สวยที่สุดในโลกใบนี้เลย มาเดี๋ยวให้ผมช่วยแกะเชือกให้คุณนะครับ”
พัคซุงวูลงมือแกะเชือกที่รัดจางเชี่ยนจือออก แน่นอนว่าเขาสามารถฉวยโอกาสจากหล่อนได้ แต่ว่าเขาเป็นทายาทเศรษฐีระดับนี้ ไม่ถึงขนาดต้องมาทำเรื่องต่ำช้าแบบนี้
พัคซุงวูเชื่อมั่นในตัวเองว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนในโลกใบนี้ที่เขาจะต้องใช้กำลังเพื่อครอบครองเจ้าหล่อน
พัคซุงวูกล่าวเสียงนุ่ม “คุณนายซูครับ ผมเรียกคุณว่าคุณน้าได้ไหมครับ?”
พัคซุงวูบ้าคนแก่ ทุกครั้งที่ได้เรียกผู้หญิงสูงวัยกว่าที่หน้าตาสะสวยว่าคุณน้า เขาดีใจจนเนื้อเต้น
แต่ว่าจางเชี่ยนจือเข้าใจภาษาเกาหลีที่ไหน ไม่ได้เข้าใจด้วยซ้ำว่าเขากำลังพูดอะไรอยู่
“อ้อ จริงสิ ผมลืมไปว่าคุณฟังภาษาเกาหลีไม่ออก Can you speak english? (พูดภาษาอังกฤษได้ไหมครับ?)”
พัคซุงวูกล่าวถาม
ถึงแม้ว่าจางเชี่ยนจือจะฟังออกแต่ก็ตอบเขาไม่ได้
พัคซุงวูยังคงวางท่าเป็นสุภาพบุรุษ “พูดอังกฤษไม่ได้เหรอครับ? ไม่เป็นไร เรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการคุยกันของเราหรอกครับ”
เพี้ยะ!
พัคซุงวูดีดนิ้ว เพื่อสั่งให้ลูกน้องสวมหูฟังบลูทูธ
“มา คุณน้าครับ เดี๋ยวผมใส่ให้คุณน้าด้วยตนเอง สวมหูฟังบลูทูธ เราก็จะสื่อสารกันได้อย่างราบรื่นแล้วครับ”
หูฟังอันนี้เป็นเครื่องแปลอัตโนมัติแบบทันที สามารถฟังคำพูดแล้วแปลได้ในทันทีที่สนทนา
หลังจากที่ให้จางเชี่ยนจือสวมหูฟังบลูทูธแล้ว พัคซุงวูเองก็สวมหูฟังให้ตนเองเช่นกัน จากนั้นทั้งสองคนก็เชื่อมต่อกันเรียบร้อยและตั้งค่าแปลภาษษเป็นเกาหลีและจีน
หลังจากที่ตั้งค่าทั้งหมดเรียบร้อยแล้วนั้น พัคซุงวูก็แนะนำตัวเองอย่างมีมารยาท “คุณน้าจางครับ ผมชื่อพัคซุงวู เป็นคนที่หลงรักคุณน้า ยินดีต้อนรับคุณน้าส่ประเทศของผมนะครับ ผมจะรับรองคนสวยๆ อย่างคุณน้าให้ดีที่สุด!”