เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 598 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน!
ตอนที่ 598 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน!
จางเชี่ยนจือฟังเสียงแปลจากล่ามผ่านทางหูฟังบลูทูธทำให้เข้าใจในสิ่งที่พัคซุงวูพูด
ใบหน้าของหล่อนฉายแววไม่พอใจ จ้องพัคซุงวูอย่างเคียดแค้นแล้วกล่าว “ฉันขอเตือนไว้เลยนะ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาๆ นะ ฉันเป็นสะใภ้ของตระกูลซูในเมืองหลวงเลยนะ! ตระกูลซูเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลที่สุดในประเทศ! วันนี้แกจับฉันมาก็เท่ากับล่วงเกินตระกูลซู แกจบไม่สวยแน่!”
พัคซุงวูระบายยิ้มแล้วตอบ “ก่อนที่จะจับคุณมา ผมได้สืบเรื่องของตระกูลซูแล้ว พวกเขามีอิทธิพลมากก็จริง แต่ก็เป็นแค่ครอบครัวคนรวยธรรมดาๆ แต่น่าเสียดาย ผมไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาด้วยซ้ำไป!”
จางเชี่ยนจือตะลึง ในเมื่อเคยลองสืบเรื่องตระกูลซูแล้ว แถมยังพอรู้อิทธิพลของพวกเขา แต่คนต่างชาติคนนี้ยงกล้าจะจับหล่อนมาอีกงั้นเหรอ?
หรือว่าเขาไม่ได้เกรงกลัวในอิทธิพลของตระกูลซูเลยอย่างนั้นเหรอ?
จางเชี่ยนจือคิดเล็กน้อยแล้วคิดว่าตระกูลเย่น่าจะมีอิทธิพลที่มากกว่าเลยอ้างถึงเย่เฉินบ้าง
“แล้วก็นะ เย่เฉินลูกเขยฉันเนี่ย เป็นคนของตระกูลเย่ที่ยิ่งใหญ่! อิทธิพลของพวกเขาต่อให้เป็นที่นี่…”
จางเชี่ยนจือยังพูดไม่ทันจบ พัคซุงวูก็ยื่นมือออกมาเป็นสัญญาณบอกให้เจ้าหล่อนเงียบปากแล้วกล่าว
“คุณน้าไม่ต้องพูดแล้วครับ ผมรู้จักตระกูลเย่ดีกว่าคุณน้า พวกเขามีอิทธิพลมากกว่าตระกูลซูก็จริง แล้วผมเองก็รู้ว่าเย่เฉินเขาเก่งมาก”
พัคซุงวูพูดพลางเลิกขากางเกงขึ้นมาให้เห็นแผลที่โดนยิงแล้วชี้ “ดูสิครับ แผลบนขาของผมเนี่ย ก็เป็นฝีมือของลูกเขยคุณน้าทำนะครับ”
จางเชี่ยนจือตกใจไปเล็กน้อยทันใดนั้นเองก็คิดว่าที่ตัวเองโดนจับมาเป็นเพราะเย่เฉินไปทำร้ายคนตรงหน้า!
จางเชี่ยนจือรีบร้อนกล่าว “คุณผู้ชาย ที่จริงแล้วฉันกับเย่เฉินไม่ได้ลงรอยกันมากมาย ฉันไม่เคยเห็นเขาเป็นเขยมาก่อนด้วยซ้ำ ฉันอยากจะให้ลูกสาวฉันหย่ากับเขาอีกต่างหาก! เขาทำร้ายคุณเป็นเรื่องของเขา คุณอย่าบวกฉันไปด้วยสิ!”
จางเชี่ยนจือคาดโทษเย่เฉินในใจ ไพล่คิดไปว่าตัวเองลำบากเพราะเย่เฉิน
พัคซุงวูหัวเราะร่วน “คุณน้า ถึงแม้ว่าผมจะเกลียดเย่เฉินไอ้คนโกหก แต่ต้องพูดตรงๆ นะครับว่าที่ผมจับคุณน้ามาเนี่ยไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาเลย อีกทั้งถ้าหากว่าไม่มีเขาแล้วล่ะก็ ผมอาจจะจับคุณน้ามาโดยไม่คิดหน้าคิดหลังตั้งนานแล้ว”
พัคซุงวูเฟ้นหาคนสวยๆ ที่นั่น การจะเจอตัวจางเชี่ยนจือเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว
เย่เฉินเป็นลูกเขยของจางเชี่ยนจือ ทำให้พัคซุงวูมีเรื่องต้องกังวลอยู่ไม่น้อย ถ้าหากว่าลูกเขยของหล่อนเป็นคนอื่นล่ะก็ พัคซุงวูคงจะไม่ลังเลหรือกังวลใจใดๆ แต่คงจะจับจางเชี่ยนจือมาในทันที
พัคซุงวูกล่าว “คุณน้าครับ ไม่ต้องเครียดหรอกครับ ที่ผมเชิญคุณน้ามาเกาหลีเนี่ย เพราะจะช่วยให้คุณน้าย้อนวัยไปเป็นสาวๆ ช่วยคุณน้านะครับ”
ป๊อก!
พัคซุงวูดีดนิ้วแล้วสั่งลูกน้อง “พาเข้ามา!”
ลูกน้องของเขาก็พาตัวสาวสวยคนหนึ่งข้ามาอย่างรวดเร็ว หญิงสาวคนนี้สวมกี่เพ้า ท่าทางสง่างาม มองปราดเดียวก็รู้เลยว่าหล่อนเป็นคนจีน
นั่นเพราะหญิงสาวชาติอื่นไม่มีบุคลิกแบบนี้!
พัคซุงวูระบายยิ้มแล้วถามจางเชี่ยนจือ “คุณน้าจางครับ คุณน้าจำผู้หญิงคนนี้ได้ไหมครับ?”
จางเชี่ยนจือมองหญิงสาวที่อ่อนวัยกว่าตนมากคนนี้ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังคิดไม่ออก แต่ยิ่งมองก็ยิ่งคุ้นตา
“แปลกจังทำไมฉันรู้สึกเหมือนเคยเจอหล่อนมาก่อนนะ…”
จางเชี่ยนจือแปลกใจ
“พี่เชี่ยนจือ”
หญิงสาวในชุดกี่เพ้าเปิดปากเอ่ยช้าๆ
ความคิดบางอย่างแว่บเข้าหัวจางเชี่ยนจือทันที เจ้าหล่อนตื่นเต้นนั่นเพราะหล่อนจำเสียงนี้ได้!
“เธอ…เธอคืออวี้จือนี่!” จางเชี่ยนจือตะกุกตะกัก
อวี้จือคนนี้เป็นเพื่อนร่วมวงไพ่ของหล่อน เป็นเศรษฐีนีในเมืองหลวง
จางเชี่ยนจืออุทานอย่างแปลกใจ “ช่วงก่อนได้ยินว่าจู่ๆ เธอก็หายตัวไปอย่างกระทันหัน ที่แท้ก็โดนจับมาที่นี่นี่เอง! แล้วทำไม…หน้าเธอถึงได้เด็กขนาดนี้ล่ะ?!”
สิ่งที่ทำให้จางเชี่ยนจือประหลาดใจที่สุดก็คือใบหน้าของอวี้จือที่อ่อนวัยลงสิบปีเต็มๆ!
อวี้จือหันมองพัคซุงวูแล้วอธิบาย “ก็คุณพัคช่วยฉันเอาไว้”
พัคซุงวูเดินมาอย่างได้ใจแล้วกล่าวต่อ “คุณน้าจาง คุณน้าดูหน้าของคุณน้าอวี้จื่อเด็กลงตั้งสิบปีใช่ไหมครับ? คุณน้าอยากจะหน้าเด็กลงสิบปีเหมือนหล่อนไหมครับ?”
จางเชี่ยนจือตกใจจนตัวแข็งค้างไปแล้วพยักหน้ารับโดยไม่รู้ตัว
“ฮ่าๆ” พัคซุงวูหัสเราะเจ้าเล่ห์ แล้วยื่นมือไปหาอีกฝ่ายหายจะแตะต้องเนื้อตัวคนตรงหน้า
จางเชี่ยนจือรีบหลบเขาพัลวันแล้วกล่าว “อย่าแตะต้องฉัน! ฉันเป็นผู้หญิงตระกูลซู ถ้านายต้องการให้ฉันแลกอะไรเพื่อให้ตัวเองต้องสาวขึ้นล่ะก็ ฉันไม่มีทางทำแน่!”
จางเชี่ยนจือเคยทรยศซูหมิงเจ๋อก็จริงแต่เพราะหล่อนเห็นสามีไปสนิทสนมกับผู้หญิงคนอื่น ที่ทำแบบนั้นเพราะหล่อนโกรธเขา
หล่อนไม่สามารถไปบริการคนอื่นทั้งที่ตัวเองเป็นผู้หญิงของคนตระกูลซู
พัคซุงวูกล่าว “คุณน้าสบายใจเถอะครับ คนที่คุณน้าต้องดูแลไม่ใช่ผมแต่เป็นพ่อปม พ่อผมน่ะเป็นผู้ครองโลกใบนี้เลยนะ วันใดวันหนึ่งไม่ช้าก็เร็วพ่อผมจะได้ปกครองโลกใบนี้ เขาเป็นผู้ชายที่เก่งกว่าสามีคุณน้าไม่รู้กี่เท่า คุณน้าจะต้องยินยอมพร้อมใจแน่นอน!”
“แหวะ!” จางเชี่ยนจือตอบกลับอย่างไม่แยแสทันที “ไม่ว่าพ่อเธอจะเป็นใคร ฉันก็ไม่เหลือบแลเขาหรอก! ฉันขอเตือนเธอเอาไว้ก่อนเลยนะ เย่เฉินลูกเขยฉันน่ะเป็นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้น ลูกชายฉันเองก็คงจะไม่อยู่เฉยแน่ ทางที่ดีทเธอรีบปล่อยฉันไปเร็วๆ ไม่อย่างนั้นถ้าพวกเขาแห่มาตามหาฉันล่ะก็เธอจะเสียใจ!”
พัคซุงวูแค่นเสียงเย็น “คุณน้าครับ คุณน้าเชื่อมั่นในตัวเย่เฉินมากเกินไปแล้ว เรามาพนันกันเถอะ ผมขอพนันว่าเย่เฉินเขาจะหาตัวคุณน้าไม่เจอก่อนที่ผมจะพาตัวคุณน้าไปส่งพ่อผมหรอก! ใครก็ได้พาคุณน้าจางไปที่ห้องรักษาที!”
……
ในเวลาเดียวกันนั้นเองเย่เฉินเองก็อยู่บนเครื่องบินเหอเฟิงหมายเลข 5 กำลังตามหาเบาะแสของตระกูลพัคและแม่ยายตัวเอง
พอเริ่มตามหาก็กินเวลาไปสิบกว่าชั่วโมง เย่เฉินก็ยังคงไม่ได้อะไร
ชิงหลงรายงาน “คุณชาย ถ้าให้ตามหาเบาะแสแค่นี้ ต่อให้หาไปครึ่งปีก็อาจจะไม่รู้ที่อยู่ของตระกูลพัคก็ได้ เหอเฟิงลำนี้ของเรามีเทคโนโลยีการค้นที่ถึงแม้ว่าจะล้ำหน้ากว่าโลก แต่ความสามารถในการพรางตัวของตระกูลพัคเองก็อยู่เหนือไปกว่านั้นเหมือนกัน นอกเสียจากว่าเราใช้กำลัง บีบคนตระกูลพัค ไม่อย่างนั้นเกรงว่าจะหาคนตระกูลพัคหรือว่าแม่ยายคุณชายได้ยากเย็นแน่ๆ ”
เสี่ยวหวังเองก็เปิดปากบอก “นั่นสิครับ คุณชาย อีกอย่างต่อให้เจอตัวพวกเขา พวกเขาก็มีเครื่องบินที่พรางตัวเอาไว้ได้ พวกเขาก็หนีเราพ้นอยู่ดี”
เย่เฉินเองก็ปวดหัวอยู่เหมือนกัน มีเรื่องกับตระกูลลึกลับด้วยกันวุ่นวายจริงๆ
เย่เฉินดูเวลาเล็กน้อย จางเชี่ยนจือถูกพาตัวไป 20 ชั่วโมงแล้ว ถ้าหากว่าตระกูลพัคทำร้ายหล่อนล่ะก็ ตอนนี้หล่อนคงจะตายไปร้อยรอบแล้ว
ทว่าถ้าหากว่าตระกูลพัครักษาหล่อน ทำให้หล่อนสาวขึ้น 10 ปีแล้วล่ะก็ ก็คงไม่ต้องรีบร้อน นั่นเพราะกว่าจะสาวขึ้นต้องใช้เวลาครึ่งเดือนเป็นอย่างน้อย
“พัคซุงวูที่น่ารังเกียจ ทั้งๆ ที่รู้ว่าจางเชี่ยนจือเป็นแม่ยายของเรา คิดไม่ถึงว่าจะกล้าส่งคนมาจับหล่อน ไม่เห็นหัวกันเลย ไม่เห็นหัวตระกูลเย่เลย! ได้ ในเมื่อกล้าจับคนในครอบครัวเราไป งั้นเราก็จะจับคนในครอบครัวเขามาบ้าง!”
ทันใดนั้นเองเย่เฉินก็ไปถามหวังเอ้อร์เชอ “ที่สั่งให้คอยตามดูพัคอินอา ทำไปถึงไหนแล้ว?”