เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 608 เรื่องประหลาดของที่บ้านเกอร์ธา!
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 608 เรื่องประหลาดของที่บ้านเกอร์ธา!
บทที่ 608 เรื่องประหลาดของที่บ้านเกอร์ธา!
พัคซุงวูกล่าวพลางระบายยิ้ม “ฮ่าๆ ไม่มีปัญหา ผมวางแผนเอาไว้แล้วล่ะ คืนนี้จะพาคุณออกจากสวิตเซอร์แลนด์ แล้วเราจะบินตรงไปเอเชีย ผมจะพาคุณไปเกาหลี กินปิ้งย่าง ไปร้านเหล้า ไปเกาะเชจู ไปดำน้ำ จะพาคุณไปเที่ยวจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ ฮ่าๆ… แค่ก ความหมายของผมคือก่อนที่คุณจะอายุครบ 18 ปีผมจะพาคุณไปเที่ยว…”
ที่จริงแล้วเกอร์ธาที่ใสซื่อไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นเลย “งั้นคุณกับพี่เย่เฉินต้องระวังนะคะ ที่บ้านฉันมันเข้ายาก..อาจจะต้อง…”
พัคซุงวูหัวเราะร่วนอย่างเชื่อมั่นในตัวเอง “คุณสบายใจเถอะ ไม่มีอะไรทำอะไรเราได้หรอก เปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ เตรียมกระเป๋าเดินทางให้เรียบบร้อย คืนนี้หลังจากสามทุ่มผมจะไปรับคุณเอง!”
หลังจากวางสายแล้ว พัคซุงวูและเย่เฉินก็ได้รับตำแหน่งบ้านของเกอร์ธา
เมื่อดู GPS แล้วที่แท้บ้านของเกอร์ธาเป็นปราสาทอยู่ริมแม่น้ำไรน์ ตำแหน่งที่ตั้งไม่ได้ต่างอะไรจากปราสาทตระกูลเย่ที่อังกฤษเท่าไรนัก
ล้วนแต่เป็นสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างดี คนน้อย วิวสวย อีกทั้งยังมีปราสาทแห่งหนึ่งตั้งอยู่
พัคซุงวูหันมองเย่เฉินด้วยแววตาเหยียดหยามแล้วกล่าว “สามทุ่ม พ่อแม่ของหล่อนจะออกบ้าน หลังจากที่พวกเจาไปแล้ว เราต่างคนก็ส่งคนๆ เดียวไปพาตัวเกอร์ธาออกมา ดูว่าใครจะช่วยหล่อนได้ก่อน!”
เย่เฉินเองก็หันหลังตั้งท่าจะเดินออกไป “งั้นสามทุ่มค่อยติดต่อกันอีกที!”
เย่เฉินทนมองใบหน้าที่น่ารังเกียจของพัคซุงวูอีกต่อไปไม่ไหว
“รอเดี๋ยว!” ทันใดนั้นเองพัคซุงวูเรียกเย่เฉินเอาไว้
“ว่ายังไง? ไม่กล้าสู้กันต่อเหรอ?” เย่เฉินหันมองพัคซุงวู ยังคิดว่าเขาจะยอมแพ้
พัคซุงวูกล่าวด้วยความดูถูก “ตลกจริงๆ ฉันต้องเป็นคนชนะอยู่แล้วแน่ๆ ทำไมฉันจะไม่กล้าแข่งกับนาย? ฉันมีขอเสนอนิดหน่อย ก่อนสามทุ่มเราสองคนอย่าเพิ่งแยกกันจะดีกว่า จอดเครื่องบินของเราสองคนเนี่ยข้างๆ กัน แล้วให้ลูกน้องของเราคอยเฝ้าเอาไว้” เย่เฉินนิ่งไป “นายทำแบบนี้หมายความว่ายังไง?”
พัคซุงวูหัวเราะน้อยๆ “ใครก็รู้ว่าคนแบบพวกนายเนี่ยมันชอบแอบทำเรื่องลับหลังคนอื่น ทุกครั้งที่ชนะก็ไม่ค่อยจะใสสะอาดนักหรอก ไม่รู้ว่าแอบไปทำอะไรลับหลังกันบ้างหรือเปล่า อีกหลายชั่วโมงหลังจากนี้ถ้าฉันเดาไม่ผิดล่ะก็ เดี๋ยวแกจะต้องส่งคนหรือไม่ก็โดรนไปที่บ้านของเกอร์ธาก่อนแล้วเดี๋ยวพอแกเข้าใจเส้นทางในบ้านนั้นเป็นอย่างดีแล้ว ตอนสามทุ่มวันนี้ที่จะพาเกอร์ธา แกก็จะได้เปรียบฉันสิ ฉันต้องการจะจับตาดูพวกแก พวกแกห้ามไปไหนทั้งนั้น ใครก็ห้ามแอบไปสืบเรื่องราวของปราสาทนั้นก่อน สามทุ่มเราค่อยเริ่มแข่งกัน!”
เย่เฉินแค่นเสียงเหยียดหยาม นี่มันน่าขำจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะหมอนี่จะยังกล้าต่อสู้กับเขา
ถูกต้องถ้าหากด้วยนิสัยของเย่เฉินมีความเป็นไปได้อย่างมากที่เขาอาจจะใช้ UFO ของตัวเองไปลองสืบสถานการณ์ก่อน
แต่ว่าต่อให้ไม่เตรียมตัวก่อ เย่เฉินก็สามารถเอาชนะพัคซุงวูได้อยู่ดี!
เย่เฉินกล่าว “ได้สิ ฉันจะจอดเครื่องบินเอาไว้ที่นี่อยู่เป็นเพื่อนนายที่นี่สักสองสามชั่วโมงแล้วกัน!”
……
แล้วเวลาสองสามชั่วโมงก็ดำเนินไปแบบนี้จนถึงสามทุ่ม
และในตอนนี้เองเพื่อความยุติธรรม เย่เฉินและพัคซุงวูก็ส่งโครนไปยังด้านบนปราสาทเพื่อดูว่าบิดารามารดาของหญิงสาวออกจากบ้านไปแล้วหรือไม่
เย่เฉินและพัคซุงวูต่างก็มองดูภาพที่ได้มาจากโดรนพร้อมกัน
และแล้วรถเก๋งสีดำเปิดไฟรถสว่างเอาไว้ก็ปรากฏขึ้นที่หน้าประตูปราสาท
เย่เฉินดูป้ายรถเก๋งสีดำคันนั้นอย่างละเอียด แล้วก็พบว่าไม่ใช่รถมายบัคหรือว่าเบนท์ลี่ย์ ไม่ใช่ BBA แต่เป็นหงฉี!
“รถเก๋งหงฉี!” เย่เฉินแปลกใจทันทีที่เห็น “รถเห๋งหงฉีมันเป็นแบรนด์รถของประเทศเราไม่ใช่เหรอ?”
ซีกวาเห็นเข้าก็หัวเราะออกมา “ฮ่าๆ ดูแล้วตระกูลสมิตซ์ชอบแบรนด์รถของประเทศเรามากเลยนะครับเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกเขาจะขับรถหงฉี ตลกจริงๆ”
หวังเอ้อร์เชอเป็นคนช่างสังเกต เลยเห็นสามีภรรยาในวัยกลางคนคู่หนึ่งที่อยู่ในรถไม่ใช่ชาวยุโรป แต่เป็นชาวเอเชีย
“คุณชายเย่ ดูสิครับ มีคนเอเชียสองคนขึ้นไปด้านหลังรถ” หวังเอ้อร์เชอเตือน
เย่เฉินยิ่งสงสัยกว่าเดิม หรือว่าจะเป็นชาวจีนของตระกูลสมิตซ์?
เกอร์ธาพูดว่าพ่อแม่ของหล่อนจะออกจากบ้านตอนสามทุ่ม แปลว่าคนเอเชียสองคนนี่ไม่มีทางเป็นพ่อแม่ของหญิงสาวแน่ๆ!
และในตอนนี้เองพัคซุงวูก็ลงมาจากเครื่องบินของเขาแล้วตะโกนเรียกเย่เฉินให้ลงมาหาเขา
“เย่เฉิน แกเห็นไหม? มีคนเอเชียสองคนขึ้นรถคันนั้นไป เหมือนจะเป็นแบรนด์รอของประเทศนาย” พัคซุงวูเองก็สับสนเช่นเดียวกับเขา
เย่เฉินพยักหน้ารับ “ฉันเห็นแล้ว ฉันไม่รู้จักสองคนนั้น แต่อาจจะเป็นแขกของพวกเขาล่ะมั้ง”
ติ๊ง
และในเวลานี้เองเย่เฉินและพัคซุงวูก็ได้รับข้อความจากเกอร์ธา
“พวกเขาไปแล้ว พวกคุณมาพาฉันออกไปได้เลย!”
เย่เฉินและพัคซุงวูสับสนไปหมด แล้วพัคซุงวูก็ชิงพูดขึ้นมาว่า “พวกเรายังไม่เห็นพ่อแม่ชาวยุโรปของเกอร์ธาออกจากบ้านเลยแกคิดว่ายังไง?”
ถึงในใจของเย่เฉินยังสงสัยอยู่ไม่น้อย แต่พัคซุงวูเป็นศัตรูคู่แค้นของเขา เขาไม่มีทางแบ่งปันความคิดเขากับอีกฝ่ายแน่ๆ
เย่เฉินกล่าว “คิดยังไงอะไร เกอร์ธาบอกว่าพาตัวหล่อนไปได้ ยังไม่ส่งคนไปอีก ไม่กล้าแข่งกับฉันหรือไง?”
จากรถยี่ห้อหงฉี มาจนถึงเกอร์ธาพูดภาษาจีนได้ แถมวิธีการพูดการจาของหล่อนนั้น ทั้งคำสรรพนามที่เรียกคนอื่น ก็ค่อนข้างเหมือนเจ้าของภาษาด้วยซ้ำ
เย่เฉินคาดเดาว่าตระกูลสมิตซ์อาจจะมีความสัมพันธ์กับประเทศของเขาอย่างลึกซึ้ง!
นี่แปลว่ามีความเป็นไปได้อย่างมากที่ตระกูลสมิตซ์อาจจะเคยร่วมมือกับตระกูลเย่ อาจจะกลายมาเป็นพันธมิตรของตระกูลเย่จากในบรรดาแปดตระกูลลึกลับก็ได้!
ดังนั้นเย่เฉินย่อมไม่อยากจะวิเคราะห์ความลับของพวกเขาต่อหน้าคนตระกูลพัค
พัคซุงวูแค่นเสียง “ได้ จะแข่งก็เอา ส่งคนไปเลย!”
เย่เฉินและพัคซุงวูส่งไม่ได้ลูกน้องที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาไปตั้งแต่แรก นั่นก็คือชิงหลงและฮยุน
แต่ส่งผู้ชายชาวยุโรปไป
ที่นี่คือสวิตเซอร์แลนด์ ประชากรส่วนมากเป็นคนยุโรป คนเอเชียจะสะดุดตามากไป คนยุโรปลอบเข้าบ้านของเกอร์ธา สามารถแสร้งเป็นคนใช้ หรือบอดี้การ์ด ได้เปรียบกว่าคนเอเชียเป็นไหนๆ
พัคซุงวูกล่าวอย่างเชื่อมั่นในตัวเองว่า “คนของฉันเนี่ยจะต้องพาตัวเกอร์ธาออกมาได้ก่อนแน่!”
เย่เฉินกล่าว “เราก็รออยู่ทที่ด้านนอกปราสาทก็พอ ดูว่าคนของใครจะออกมาก่อน!”
เย่เฉินและพัคซุงวู เองก็รอผลลัพธ์ที่ด้านนอกปราสาทเงียบๆ
แต่ว่าสิบนาทีผ่านไป คนที่พวกเขาสองคนส่งไปก็ยังไม่มีวี่แวว
พัคซุงวูกล่าวกับฮยุน “ถามหน่อยว่าไอ้พวกนั้นไปไหน? เห็นเกอร์ธาแล้วหรือยัง”
ฮยุนใช้วิทยุสื่อสาร แต่กลับไม่มีสัญญาณการตอบรับ “คุณชาย ขาดการติดต่อไปแล้วครับ”
ชิงหลงเองก็กล่าวกับเย่เฉินเช่นกันว่า “คุณชาย ติดต่อเลบรอนที่ส่งไปเมื่อครู่ไม่ได้แล้ว เกรงว่าคงจะจบแล้ว!”
“อะไรนะ?”
พัคซุงวูและเย่เฉินตกใจ
หรือว่าคนที่พวกเขาสองคนส่งไปตายในปราสาทกันหมดแล้วงั้นเหรอ?
พัคซุงวูกัดฟัน “ฉันไม่เชื่อว่าจะทำอะไรไม่ได้ ส่งคนที่เก่งกว่าพวกเขาเข้าไป!”
พัคซุงวูและเย่เฉินต่างก็ส่งคนเข้าไปอีกคนหนึ่ง แต่ไม่นานก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวน
มีคนตายอีกแล้ว!