เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 71 คุณเย่ได้โปรดไว้ชีวิตด้วย
ไม่นานนักก็มีคนเดินเข้ามาในงานหลายสิบคน 90% เป็นผู้ชายมีผู้หญิงเพียงสามคนเท่านั้น อายุอยู่ในช่วงยี่สิบถึงสี่สิบปี
พวกเขาถูกชายคนเดิมนำทางเข้ามา
ชายผู้นั้นแนะนำ “คนผู้นี้คือคุณฟางของพวกเรา ส่วนสองคนนั้นคือคุณฟางเชาลูกชายคุณฟางและเจ้าสาวหวังเจียเหยา”
คนนับสิบรีบร้อนทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีคุณฟาง! สวัสดีคุณฟางเชา!”
กลุ่มคนเยอะขนาดนี้ทำให้ฟางเสียนจู่กับฟางเชารู้สึกได้หน้าไม่น้อย
ฟางเชามองอยู่ไกลๆ แต่จู่ๆ ก็พบว่าในกลุ่มคนนั้นมีคนที่คุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ไม่น้อย เขาเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วถามอย่างวางก้าม
“ได้ยินว่าคนขับรถของคุณพ่อบอกว่าพวกนายเปิดบริษัทกันหมดเลยหรอ? เปิดบริษัทอะไรกันบ้าง? ไหนลองเล่าหน่อยสิ!”
“บริษัทฉันชื่อฉีเฉิง!”
“บริษัทของผมชื่อ MOBAเทียนยวี่!”
“ของผมชื่อบริษัทวิทยาศาสตร์เพื่อสุขภาพซานเชิง”
“……”
ทุกคนต่างแย่งกันบอกชื่อบริษัทตนเองจนเกิดเป็นเสียงจอแจ
ทว่าพอได้ยินชื่อของบริษัทพวกนั้น สีหน้าฟางเชาก็ซีดเผือดอย่างรวดเร็ว!
เพราะเขารู้จักบริษัทเหล่านี้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเคยลงทุนเสียด้วย!
ฟางเชาตื่นตระหนกทันที “พวกนายเจ๊งกันไปหมดแล้วนี่ พวกบริษัทขยะที่ทำให้ฉันเสียเงินไปฟรีๆ เอ้ย!”
ช่วงนี้ฟางเชาลงทุนไปหลายร้อยบริษัท ตอนที่ลงทุนเขาจะไม่ไปเจอหน้าคนพวกนี้ แต่จะส่งลูกน้องไปแทน
ดังนั้นคนหลายสิบคนที่เข้ามาในงานจึงไม่รู้จักเขา
ฟางเสียนจู่เห็นเข้าจึงรีบร้อนกล่าว “ลูกเชา ลูกลงทุนให้พวกเขาเหรอ? แล้วบริษัทพวกเขาก็เจ๊งไปหมดแล้วเหรอ? ลูกรีบบอกพ่อมาเงินห้าร้อยล้านที่ให้ไป ตอนนี้เหลือเท่าไหร่?”
ฟางเสียนจู่ตึงเครียดขึ้นมาทันที
ฟางเชาไม่กล้าโกหกพึมพำเสียงต่ำ “ใช้ไปหมดแล้วครับ”
เพี๊ยะ!
ฟางเสียนจู่ตบหน้าบุตรชายพลางตะคอก “แกนี่มันตัวล้างผลาญ! ห้าร้อยล้านเลยนะ แกใช้เงินห้าร้อยล้านหมดเร็วขนาดนี้ได้ยังไง!”
กระทั่งหวังเจียเหยายังไม่อยากจะเชื่อ ก่อนนี้ที่ฟางเชาบอกว่าพ่อเขาให้เงินมาห้าร้อยล้านเหมือนว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน อีกทั้งเขายังรับปากเสียเป็นมั่นเหมาะว่าจะหาเงินมาให้หล่อนห้าพันล้าน
แต่ตอนนี้กลับไม่เหลือสักแดงเดียว!
ฟางเชากุมหน้าแล้วชี้มาทางเย่เฉิน ขณะกล่าวด้วยเสียงที่ขาดห้วง “พ่อครับ เป็นเพราะคนสารเลวเย่เฉินนั่นมันจงใจจะเล่นงานผม!”
ฟางเชาชี้ไปทางเย่เฉินแล้วถึงได้เห็นคนกลุ่มเดิมกำลังวิ่งไปหาเย่เฉิน
เพราะคนจำนวนมากแถมยังอยากจะไปถึงตัวเย่เฉินก่อน หนำซ้ำฟางเสียนจู่ ฟางเชาและหวังเจียเหยากำลังขวางทางพวกเขา
พอคนจำนวนมากกรูกันเข้าไปก็ชนทั้งสามคนไปมา
“เฮ้ยวิ่งพล่านอะไรกัน!”
ฟางเสียนจู่ถูกชนซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาโวยวายอย่างไม่พอใจ
หวังเจียเหยาเองก็กรีดร้องไม่หยุด
คนหลายสิบคนไม่ได้สนใจใยดีเลยว่าพวกเขาจะชนเจ้าภาพจนมีสภาพแบบไหน เพราะพวกเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อพบคนตระกูลฟางด้วยซ้ำ
ทันทีที่พบหน้าเย่เฉินพวกเขาก็เป็นระเบียบเรียบร้อย และหยุดอยู่ห่างจากเย่เฉินไปสองเมตรแล้วพวกเขาก็คุกเข่าลงบนพื้น!
“คุณเย่! ได้โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วย!”
“คุณเย่! ได้โปรดไว้ชัวิตพวกเราด้วย!”
เจ้าของบริษัทนับสิบคนต่างคุกเข่าลงต่อหน้าเย่เฉินแล้วอ้อนวอนอย่างพร้อมเพรียงกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้พ่อค้าทั้งหลายที่อยู่ในงานแต่งงานตกใจกันหมด
“คนพวกนี้เดิมไม่ได้มาเพื่อชื่นชมคุณฟางแต่มาเพราะคุณเย่ต่างหาก!”
“คุณเย่นี่สุดยอดจริงๆ เขาสามารถทำให้บริษัทจำนวนมากมายขนาดนี้ล่มจมได้ด้วยกำลังตัวเองคนเดียว น่ากลัวเหลือเกิน!”
“เย่เฉินจะต้องเป็นบุคคลลำดับหนึ่งในโลกธุรกิจของอวิ๋นโจว!”
เย่เฉินดื่มชาแล้วเปิดปากเอ่ยช้าๆ “ขอแค่ฟางเชาไม่ลงทุนในบริษัทของพวกคุณ ผมย่อมไม่รังแกพวกคุณอีก”
หลังจากได้ยินคำประกาศของเย่เฉินแล้ว คนทั้งหมดก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปหาฟางเชา
“ฟางเชาคุณเลิกลงทุนกับพวกเราเถอะนะ!”
“แม่ง ที่แท้ที่ผมโดนเล่นงานเป็นเพราะคุณเหรอเนี่ย! ช่วยเลิกสนใจบริษัทเราที!”
“ฟางเชาคุณต้องชดใช้ในความเสียหายที่เกิดขึ้นนะ!”
หลายสิบคนทั้งหมดต่างก็พุ่งมาหาฟางเชา
ฟางเสียนจู่หัวเสีย ตะโกนด่า “รีบไล่คนพวกนี้ออกไปเดี๋ยวนี้!”
ฟางเสียนจู่รู้อยู่นานแล้วว่าอดีตสามีของหวังเจียเหยาเป็นนักเลงหัวไม้ ดังนั้นเขาจึงจัดเตรียมยอดฝีมือที่ร่างกายสูงใหญ่มาเป็นจำนวนมาก คนเหล่านี้ต่างก็เดินเข้ามา แล้วไล่เจ้าของบริษัทพวกนี้ออกไป
แต่คนพวกนี้ยังไม่ยอมลดละ
“พวกเราจ่ายเงินเข้างานหมื่นหยวน มีสิทธิ์อะไรมาไล่พวกเราออกจากงาน!”
“ฟางเสียนจู่คนหน้าไม่อาย ปล่อยพวกเราเพิ่งเข้ามาก็ไล่พวกเราออกไป คิดจะมุบมิบเงินแสนของพวกเราใช่ไหมล่ะ?”
ฟางเสียนจู่ได้ยินพลันรู้สึกขายหน้าอย่างยิ่ง ตระกูลฟางของเขาจะสนใจเงินแค่ไม่กี่แสนนี้ได้อย่างไร!
ฟางเสียนจู่กล่าว “คืนเงินพวกเขาไป! คืนไปสองเท่าเลย!”
ฟางเสียนจู่ยอมเสียเงินหลายแสนด้วยอารมณ์ แต่ก็ต้องการจะรักษาหน้าของตระกูลฟาง
หลังจากคนพวกนั้นไปแล้ว ฟางเสียนจู่ก็เดินไปหาเย่เฉินด้วยโทสะ “คุณเย่ ไม่รู้ว่าฟางเชาไปล่วงเกินคุณยังไง ทำไมคุณถึงต้องเล่นงานลูกผมด้วย! ถึงต้องกลั่นแกล้งให้ลูกชายผมเสียหายถึงห้าร้อยล้าน! เกรงว่าคุณคงใช้เงินมากกว่าห้าร้อยล้านเสียอีก!”
ฟางเสียนจู่รู้ดีแก่ใจว่าการจะทำให้บริษัทหนึ่งๆ ล่มจมในระยะเวลาอันสั้นแบบนี้ นอกจากจะใช้วิธีสกปรก ไม่อย่างนั้นก็จะต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อแข่งขันถึงจะทำให้บริษัทล่มจมได้แบบนี้
เผาเงินแบบนี้น่ากลัวเหลือเกิน
ก่อนเย่เฉินจะมาเขาไม่ได้ตั้งใจจะเป็นมิตรกับตระกูลฟางอยู่แล้ว
ในเมื่อฟางเสียนจู่หัวเสีย เย่เฉินเองก็ไม่สนใจแต่อย่างใด!
เย่เฉินกล่าว “ลูกชายคุณทำอะไรไว้ ไปถามเขาเอง ส่วนผมจะเผาเงินไปเท่าไหร่คงไม่รบกวนคุณ เงินพันล้านในสายตาผมก็ไม่เท่าไหร่หรอก”
พอได้ยินประโยคสุดท้ายแล้ว หวังเจียเหยาก็เหมือนตกในอยู่ในความฝัน
เงินหลายพันล้านไม่อยู่ในสายตา?
หวังเจียเหยาทรยศเย่เฉินด้วยเงินเพียงแค่นี้!
ฟางเสียนจู่พอจะได้เดาได้ลางๆ ว่าเรื่องนี้จะต้องเกี่ยวกับหวังเจียเหยาแน่นอน
ทว่าในเมื่อฟางเชาแต่งงานกับหวังเจียเหยาแล้ว เขาก็จำเป็นต้องปกป้องพวกเขาทั้งสองคน
ฟางเสียนจู่กล่าว “คุณเย่ร่ำรวยอู้ฟู่จริงๆ ตระกูลฟางของเราเทียบเคียงไม่ได้เลย! แต่มีคำกล่าวเอาไว้ว่ามังกรก็มิอาจเอาชนะงูเจ้าถิ่นได้ ได้ยินมาว่าคุณเย่เพิ่งมาที่อวิ๋นโจว ส่วนคนแซ่ฟางอย่างผมมีเพื่อนสนิทมิตรสหายในอวิ๋นโจวมาก็มาก ในกลุ่มเพื่อนผมก็มีคนที่มีอิทธิพล หากว่าพี่น้องเหล่านั้นของผมได้ล่วงรู้ว่ามีคนกล้าเล่นงานลูกชายผมล่ะก็ เกรงว่าพวกเขาคงจะไม่ยอมจบแน่! บางทีอาจทำเรื่องที่ผิดกฎหมายขึ้นมาก็ได้!”
นี่ฟางเสียนจู่กำลังข่มขู่เย่เฉิน!
“ฟางเสียนจู่คุณกล้าข่มขู่คุณเย่เชียว!” ฉินหงเหยียนโมโหฉุนเฉียว
เย่เฉินยื่นมือออกมา เพื่อปลอบฉินหงเหยียนว่าไม่จำเป็นต้องโกรธเกรี้ยวและยังคงกล่าวด้วยท่าทีนิ่งเฉย “คุณฟางจะสั่งสอนผมสักเล็กน้อยผมก็ยอมรับได้ ไม่รู้ว่าพี่น้องนักเลงของคุณคือใครครับ? ผมอยากจะพบเขาหน่อย”
“อีกเดี๋ยวคุณก็ได้พบเขาแล้วล่ะ”
ฟางเสียนจู่หยิบมือถือออกมาแล้วกดโทรออก “คุณหลิว คุณมาถึงหรือยัง?”
ในปลายสายตอบกลับมา “มาถึงนานแล้วครับ อยู่ที่ประตู!”
ฟางเสียนจู่ละล่ำละลัก “อ้าวคุณมาถึงแล้วทำไมไม่เข้ามาล่ะ งั้นเดี๋ยวผมออกไปรับคุณเดี๋ยวนี้เลย”