เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 81 กลับไปที่บ้านตระกูลหวังอีกครั้ง
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 81 กลับไปที่บ้านตระกูลหวังอีกครั้ง
คนตระกูลหวังเข้าใจทันที
พวกเขาเข้าใจเจตนาที่คุณนายหวังทำเช่นนี้อย่างรวดเร็ว!
สามปีที่ผ่านมานี้เย่เฉินอยู่กับเจ้าพุดเดิ้ลตัวนี้นานที่สุด
อีกอย่างมีคำพูดว่า ‘ตาหมามองคนต่ำ [1]’ แต่สุนัขในบ้านหลังนี้กลับมองเย่เฉินได้ทะลุปรุโปร่ง
ตั้งแต่ที่เย่เฉินมาตั้งแต่ครั้งก่อน ก็พอจะมองออกว่าเย่เฉินผูกพันกับเจ้าฮัวฮัวอย่างมาก
คุณนายหวังรู้ว่าตอนนี้มีเพียงสุนัขตัวเดียวที่ควรค่าให้เย่เฉินมาหาด้วยตนเอง!
ส่วนคนอื่นซึ่งรวมถึงตนเองไม่สำคัญเท่าสุนัขตัวหนึ่งด้วยซ้ำ!
ตีสามแล้วแต่ฝนยังตกอยู่
แต่สำหรับคนตระกูลหวัง คืนนี้เป็นคืนที่ไม่อาจข่มตานอน
คืนนี้ฟางเชาเองก็นอนไม่หลับทว่าไม่ใช่เพราะนอนไม่หลับ แต่ไม่ได้นอนเพราะต้องปั๊มลูกกับหญิงแปลกหน้าตามคำสั่งมารดา
……
เจ็ดโมงครึ่งของเช้าวันต่อมา
เย่เฉินเพิ่งขึ้นจะไปบริษัท หวังซ่าวเจี๋ยก็โทรมา
“มีอะไร?” เย่เฉินถามทันที
หวังซ่าวเจี๋ยกล่าวพลางหัวเราะ “พี่เฉิน ฟังจากเสียงพี่น่าจะตื่นนอนแล้วล่ะสิ ผมยังกังวลว่าผมโทรหาพี่เช้าขนาดนี้จะรบกวการพักผ่อนของพี่!”
“มีอะไร พูดออกมาตรงๆ เถอะ” เย่เฉินกล่าวด้วยความเหนื่อยหน่าย
เขาเองก็รู้ว่าตอนนี้หวังซ่าวเจี๋ยอยู่เป็นอย่างมากไม่โทรหาเขาไปเรื่อยสร้างความรำคาญใจให้เขา
หวังซ่าวเจี๋ยกล่าวว่า “คือแบบนี้นะ พี่เฉิน เจ้าฮัวฮัวพุดเดิ้ลของคุณย่าน่ะ เมื่อวานโดนกระถางตกใส่ขยับเท้าหน้าไม่ได้ น่าสงสารเชียว อีกอย่างไม่ยอมกินอะไรทั้งวันเลยครับ! คุณย่าบอกว่าตอนนี้เห็นจะมีแต่พี่ป้อน มันถึงจะยอมกินข้าว พี่เฉินครับ พี่พอจะมาบ้านคุณย่าสักหน่อยได้ไหมครับ?”
เย่เฉินพอจะฟังออกว่าคนตระกูลหวังอยากให้เขาไปที่บ้าน
ส่วนที่เจ้าฮัวฮัวบาดเจ็บนั้นอาจจะเป็นเรื่องโกหกหรืออาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้
ถ้าบาดเจ็บจริงๆ ก็คงจะไม่บาดเจ็บได้พอดิบพอดีหลังจากที่เย่เฉินประกาศตัวแบบนี้ เป็นไปได้ว่าพวกเขาจงใจทำร้ายมัน!
เย่เฉินโกรธจัดเขาถามทันที “ที่ฮัวฮัวบาดเจ็บเพราะพวกนายจงใจทำร้ายมันเพื่อให้ฉันไปที่ั่นั่นใช่ไหม?”
หวังซ่าวเจี๋ยรีบพูดทันที “จะเป็นไปได้ยังไง พี่เฉินครับ! ฮัวฮัวเป็นสุดที่รักของคุณย่าเลยนะครับพวกเราไม่กล้าทำร้ายมันหรอก”
เย่เฉินพูดเสียงเย็น “ทางที่ดีขอให้เป็นแบบนั้น! วันนี้ตอนบ่ายพอฉันทำงานเสร็จจะไปที่บ้านคุณนายหวัง นายบอกย่านายแล้วกัน ฉันจะเอาฮัวฮัวไปด้วย! ส่วนราคาของฮัวฮัวแล้วแต่จะเรียกเลย”
ตอนนี้ทั้งบ้านตระกูลหวังมีแค่สุนัขตัวนี้ที่เขาอยากได้
สามปีที่ผ่านมาพวกเขาอยู่เป็นเพื่อนกันและกัน เย่เฉินและฮัวฮัวต่างต้องการกันและกัน ใครก็ไม่อยากทอดทิ้งใคร
หวังซ่าวเจี๋ยดีใจอย่างยิ่ง “ได้ครับ งั้นเดี๋ยวพวกเราจะเตรียมอาหารเอาไว้รอพี่มา เจอกันนะครับพี่เฉิน!”
ผ่านไปครู่ใหญ่ เย่เฉินก็มาถึงบริษัทแล้วพบกับคนที่มารอเจอเขา
นั่นคือหลิ่วหรูซือมารดาของฟางเชา
หลิ่วหรูซือสวมชุดทำงานเมื่อเห็นเย่เฉินก็รีบเดินมาหาเขาพร้อมรอยยิ้ม “คุณเย่ ไม่รู้ว่าคุณพอจะมีเวลาไหมคะ ฉันอยากคุยกับคุณ”
เย่เฉินไม่ต้องเดาก็รู้ว่าหล่อนจะคุยอะไรกับตนเอง ซึ่งคงไม่พ้นการอ้อนวอนแทนลูกชายตนเอง ขอร้องให้เย่เฉินปล่อยเขาไป
ไม่ว่าคำพูดของหวังเจียเหยาจะจริงหรือไม่ก็ตาม ฟางเชาก็คิดจะแย่งภรรยาของเขา คนที่คิดจะแย่งผู้หญิงของเขาคนผู้นั้นต้องรับกรรมที่ตนเองก่อขึ้น!
การล้างแค้นของเย่เฉินยังไม่จบ!
ดังนั้นเขาจึงไม่อยากคุยเรื่องนี้กับหลิ่วหรูซือ
“ผมยุ่งมาก”
เย่เฉินตอบกลับเสียงเรียบแล้วไปที่ห้องทำงานทันที
“อย่างนั้นฉันจะรอคุณที่ล็อบบี้ ถ้าคุณเย่ไม่ยุ่งแล้วหวังว่าคุณจะมีเวลาให้ฉันสักเล็กน้อยนะคะ”
หลิ่วหรูซือกล่าวขณะเดินตามเขา
เย่เฉินไม่ตอบแต่ก็ไม่ไล่อีกฝ่ายไป
ความประทับใจแรกที่เย่เฉินมีต่อหลิ่วหรูซือนั้นดีไม่น้อย ทั้งที่เป็นสะใภ้ของตระกูลใหญ่ลำดับแรกในอวิ๋นโจวเหมือนกันแต่มารยาทและมาดของอีกฝ่ายดีกว่าซูหลานมากนัก
นี่อาจเป็นเพราะหลิ่วหรูซือเกิดมาจากตระกูลใหญ่ของเมืองเทียนไห่
เย่เฉินย่อมไม่ยุ่งทั้งวันแต่เขากลับปล่อยให้อีกฝ่ายรอ
ณ บริษัทของเย่เฉิน นอกจากดื่มน้ำแล้ว หลิ่วหรูซือไม่ได้กินข้าวเลยแม้แต่คำเดียวเพื่อรอเย่เฉิน
ทว่าเย่เฉินไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้พบเขา
ตอนห้าโมงเย็นเย่เฉินออกจากบริษัทให้คนขับรถไปส่งเขาที่วิลล่าเขตซีซานอันเป็นที่พักของคุณนายหวัง
วิลล่าเขตซีซานอาจจะเรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่เย่เฉินคุ้นเคยที่สุดในอวิ๋นโจวแล้ว
สามปีที่ผ่านมาเขาไปมาหาสู่ระหว่างวิลล่าเขตซีซานที่คุณนายหวังอยู่กับเขตซินเฉิงที่หวังเจียเหยาอยู่แทบทุกวัน
ด้วยรถออดี้คันนั้นที่หวังเจียเหยาบริจาคให้เขา!
ทุกครั้งที่มาที่นี่เย่เฉินจะเหมือนไม่มีตัวตนขับมาถึงประตูบ้านก็ไม่มีใครออกมารอรับ
ถึงจะบังเอิญมีคนยืนอยู่หน้าบ้าน ทว่าก็ไม่เคยจะชายตาแลเขาแล้วยิ่งไม่มีทางจะทักทายเขาก่อน
ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้เย่เฉินเป็นฝ่ายทักทายก่อนแต่พวกเขาก็จะทำเป็นไม่เห็น
เย่เฉินเคยพยายามเข้าหาคนตระกูลหวัง เขาเคยชวนหวังซ่าวเจี๋ยคุยเรื่องพวกกีฬา NBA ชมเสื้อผ้าหวังหยวนหยวน และลองให้ของขวัญเล็กน้อยกับหวังจื้อหย่วนและซูหลาน
แต่ก็ไร้ประโยชน์!
เขาโดนมองข้ามทุกครั้งไป!
ทว่าวันนี้!
ตอนที่มายบัคของเย่เฉินมาถึงปากทางเข้าวิลล่าแล้ว เขาพบว่าทุกคนในตระกูลหวังต่างมายืนรอต้อนรับเขาที่ประตู!
รวมไปถึงคุณนายหวังที่อายุแปดสิบกว่าปีด้วย!
“พวกคนขี้ประจบสอพลอ!”
เย่เฉินที่นั่งในรถเห็นภาพตรงหน้านี้ก็ไม่ได้ลำพองใจหรือลิงโลดมากมายนัก
เพียงแต่รู้สึกว่าครอบครัวที่เห็นแก่เงินครอบครัวนี้ทำให้เขาขยะแขยง!
หลังจากรถหยุดลงแล้ว คนขับรถก็ลงมาจากที่นั่งคนขับ เตรียมจะเปิดประตูรถให้เย่เฉิน
ทว่าหวังซ่าวเจี๋ยกลับเดินปรี่มา “ฉันเปิดเอง! ฉันเปิดเอง!”
พอเปิดประตูด้านหลังแล้ว หวังซ่าวเจี๋ยกล่าวก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่เฉิน พี่มาแล้วเหรอครับ รีบเข้าบ้านเถอะครับ”
เย่เฉินไม่สนใจหวังซ่าวเจี๋ยเหมือนกับที่อีกฝ่ายไม่เคยสนใจตนเองในตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา! ซูหลานวิ่งมาเป็นคนที่สองแล้วหยิบกระดาษทิชชู่แผ่นหนึ่งตั้งใจจะเช็ดใบหน้าเขา “แย่แล้ว เย่เฉินทำงานมาทั้งวันเหนื่อยแล้วล่ะสิ? ดูสิมีเหงื่อบนหน้าอยู่เลย”
เย่เฉินยื่นมือผลักซูหลานไม่ให้อีกฝ่ายสัมผัสตนเอง
หวังจื้อหย่วนเองยิ้มน้อยๆ แล้วเรียกเขาด้วยเสียงเคารพ “คุณเย่”
หวังจื้อเฉียงอยู่เป็นอย่างมาก ละม้ายว่าลืมเลือนบุญคุณความแค้นที่ผ่านมาของเขาและเย่เฉิน เดินมากล่าวชมเขา “คุณเย่เก่งจริงๆ ดูจากท่าทางการเดินแล้วดูมีโหงวเฮ้งกว่าคุณหม่าเยอะเลย!”
หวังหยวนหยวนเดินมาหาเย่เฉินด้วยใบหน้าที่โง่งม ไม่มีแววตาที่รังเกียจแบบที่ผ่านมา หล่อนใส่ชุดนักเรียนมัธยมปลาย เดินมาหาพวกเขาแล้วส่งจดหมายที่ประณีตฉบับหนึ่งให้เขา
“ฉันเขียนกลอนบทหนึ่งอยากให้นาย”
เย่เฉินไม่ได้รับจดมหายมา เขาเองก็สับสนว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรไป ทำไมถึงได้ชอบเขียนกลอนขึ้นมา
แต่ด้วยความเข้าใจที่เขามีต่อหวังเจียเหยามาหลายปี ด้วยความสามารถด้านภาษาของอีกฝ่ายไม่มีทางเขียนอะไรดีๆ ได้แน่
“เฉินเอ๋อร์มาแล้วเหรอจ้ะ”
คุณนายหวังกล่าวกับเย่เฉินด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
เย่เฉินแค่นเสียงดูถูก ทำให้หญิงชราผู้สูงส่งแห่งตระกูลหวังนอบน้อมขนาดนี้ได้ไม่ง่ายเลยจริงๆ!
[1] 狗眼看人低 (gǒu yǎn kàn rén dī) บรรยายถึงคนที่คิดว่าตัวเองแน่ ดูถูกคนอื่น