เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล - ตอนที่ 280.2
Sign in Buddha’s palm 280 (II) พินาศย่อยยับ “สหายเต๋ ข้ารู้ว่าข้านั้นผิด…” เสียงของบรรพชนดาบอ่อนลงเรื่อยๆ เขายังคงอ้อนวอนขอความ เมตตา อย่างไรก็ตาม ซูฉินไม่ตั้งใจจะหยุดแม้แต่น้อย เนื่องจากเขาได้บุกรุ กพรรคหมื่นดาบเสียขนาดนี้แล้ว ได้สร้างความบาดหมางครั้งใหญ่ จําเป็นจะต้องถอนรากถอนโคนเป็นธรรมดา ซูฉินจะปล่อยบรรพชนดาบไปได้อย่างไร? เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ หลายชั่วโมงผ่านไปภายในพริบตา ในที่สุดเศษเสี้ยวสุดท้ายของจิตวิญญาณแรกกําเนิดของบรรพชน ดาบก็หายไปพร้อมกับเสียงสาปแช่ง มันค่อยๆ สลายไป ถูกพลัง งานอันได้ที่สิ้นสุดของปราณชีวิตและเลือดเนื้อแผดเผาจนสะอาด เอี่ยม
ณ อาคารดาบเก้ายอดสูงพันจ้าง ประมุขพรรคหมื่นดาบและบรรพชนหลายคน เฝ้ามองการสลา ยตัวของบรรพชนดาบด้วยตาของพวกเขาเองใบหน้าพลันเศร้า โศก บรรพชนดาบได้ปกป้องพรรคหมื่นดาบมาเป็นเวลากว่าพันปี แต่ ตอนนี้พวกเขาทําได้เพียงมองดูเท่านั้น ความโศกเศร้าในใจมาก เสียจนไม่อาจจินตนาการได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเศร้าแค่ไหน ก็ไม่มีใครกล้าออกจากยอดเขา ดาบ หลังจากที่ซูฉินกลั่นเกลาบรรพชนดาบจนละเอียดยิบแล้ว เขา ก็ก้าวเท้าเดินต่อไปข้างหน้า ไปปรากฏอยู่หน้าอาคารดาบเก้ายอด สูงพันจ้าง ในขณะที่เขากําลังกัดเซาะร่างของบรรพชนดาบด้วยปราณชีวิต และเลือดเนื้อ พลังงานส่วนใหญ่เขาใช้ไปกับบรรพชนดาบ แต่ก็ ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกภายนอก การกระทําของประ มุขพรรคหมื่นดาบและคนอื่นๆ ชัดเจนอยู่ในสายตาของซูฉินทั้งห
มด
“เร็วเข้า เคลื่อนค่ายกลขนาดใหญ่บนยอดเขาดาบ!” ประมุขพรรคหมื่นดาบกลัวมากจนหนังศีรษะแทบระเบิด ร่วมมือ กับบรรพชนทั้งหลายเติมแก่นแท้แห่งพลังเข้าไปในยอดเขาดาบ ครืน เห็นว่าอาคารดาบเก้ายอดพันจ้างถูกกระตุ้นได้ในที่สุด พลังงาน ดาบอันแหลมคมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ตัวอาคารดาบเก้า ยอดเองก็สั่นสะเทือน หากมองจากระยะไกล อาคารดาบทั้งเก้ายอดนี้ดูราวกับเป็นดาบ ศักดิ์สิทธิ์ที่พร้อมจะตัดผ่าทุกสิ่ง ดาบเก้าเล่มหมุนเวียนสับเปลี่ยนไปมา นี่คือไพลับที่ทิ้งเอาไว้โดยนักพรตหมื่นดาบ เมื่อค่ายกลเปิดใช้งาน อาคารเก้ายอดพันจ้างจะได้รับการฟื้นพลังอย่างเต็มที่ อาคา รดาบทั้งเก้ายอดนี้ แต่ละยอดจะมีเจตจํานงดาบของนักพรตหมื่น ดาบอยู่ มันได้รับการหล่อเลี้ยงมานับพันปีจนมีจิตวิญญาณ ใน ช่วงที่มันฟื้นตัวนี้ ไม่ใช่เรื่องกล่าวเกินจริงๆ เลยที่จะบอกว่ามันมี พลังทําลายสะเทือนฟ้ายิ่งนัก “ไร้สาระ “แม้แต่ค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่ที่เซียนเทพปฐพีขั้นสูงสุดอย่าง จ้าวทะเลบูรพาสร้างขึ้น ยังถูกข้าฟันทําลายได้ แค่ค่ายกลสังหารที่ ไม่มีใครควบคุมได้อย่างเหมาะสม คิดว่าจะหยุดข้าได้หรือ?” ดวงตาของซูฉินดูลึกล้ํา ค่ายกลเก้าดาบหมุนวนนี้แข็งแกร่งมากจริงๆ ประกอบกับเจตจํา นงดาบของนักพรตหมื่นดาบที่ฟื้นคืนกลับมา มันสามารถต่อกร กับเซียนเทพปฐพีได้ในเวลาสั้นๆ ด้วยซ้ํา เมื่อสามพันปีก่อน พ่อ มดราชันแห่งสํานักผู้วิเศษไม่ได้เข้าโจมตีก็เพราะเหตุนี้ ไม่ใช่ว่าพ่อมดราชันไม่สามารถทําลายค่ายกลได้ แต่มันไม่จําเป็น จะเกิดอะไรขึ้นถ้าทําลายค่ายกลเก้าดาบหมุนวนนี้? พ่อมดราชันไม่ได้เดินทางในวิถีแห่งดาบ เคล็ดวิชาจํานวนมาก ของพรรคหมื่นดาบไม่มีประโยชน์สําหรับเขา ส่วนทรัพยากรบ่ม
เพาะ…
สํานักผู้วิเศษสืบทอดมรดกมาตั้งแต่ยุคเฟื่องฟูกระแสปราณฉีครั้ง ล่าสุด ภูมิหลังยิ่งใหญ่กว่าพรรคหมื่นดาบมาก เป็นไปได้อย่างไรที่ ทรัพยากรบ่มเพาะของพรรคหมื่นดาบจะอยู่ในสายตา? นอกจากนี้ในขอบเขตเซียนเทพปฐพี สมบัติส่วนใหญ่ บนโลกก็แทบไม่มีประโยชน์อีกต่อไป น่าเสียดาย หากเป็นเมื่อสามพันปีก่อน ตอนที่ค่ายกลเก้าดาบหมุนวนยังคงรัก ษาสภาพจุดสูงสุดเอาไว้ได้ พ่อมดราชันก็ยังไม่อาจผ่านไปได้โดย ง่าย แต่ตอนนี้ผ่านไปสามพันปี ค่ายกลเก้าดาบหมุนวนได้สูญเสียพลัง ของมันไปนานแล้ว ยุครุ่งเรืองของค่ายกลเก้าดาบหมุนวนได้เสื่อม ถอยไปตามกาลเวลา พรรคหมื่นดาบไม่เหมือนจ้าวทะเลบูรพาที่มีน้ําพุจิตวิญญาณคอย หล่อเลี้ยงค่ายกลเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะอ่อนแอเพียงไร ค่ายกลเก้าดาบหมุนวนใน ตอนนี้ก็ไม่มีปัญหาในการปิดกันตํานานยุทธขั้นสูงสุด และแม้แต่ ตํานานยุทธขั้นสูงสุดที่แปลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดก็ไม่สามา รถทําอะไรได้ แต่ต่อหน้าซูฉินที่มีดวงตาแห่งสัจจะ เขาสามารถเข้าใจจุดบก พร่องของค่ายกลขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย ดวงตาแห่งสัจจะสามารถเห็นพลังทุกอย่างบนโลก และค่ายกลฟ้า ดินก็มีพลังฟ้าดินอยู่เต็มไปหมด มันอยู่ในขอบเขตการสังเกตของ ซูฉิน หากค่ายกลเก้าดาบหมุนวนอยู่ในจุดสูงสุด แม้ว่าซูฉินจะพบข้อบก พร่อง แต่ก็ไร้ประโยชน์ เพราะเขาไม่มีพลังแม้แต่จะเจาะทําลายข้ อบกพร่อง แต่ตอนนี้ หลังจากผ่านไปสามพันปี ค่ายกลเก้าดาบหมุนวนอ่อน แอลงไปหนึ่งช่วงใหญ่ ซูฉินจึงมีความมั่นใจเป็นธรรมดา “แตกไปซะ!” ซูฉินก้าวเท้าเข้าไปอีก กําหมัดแน่นราวกับเป็นก้อนยักษ์ เข้าโจมตี ค่ายกลเก้าดาบหมุนวนอย่างรุนแรง ตูม! เสียงทุ่มแน่นดังขึ้น และค่ายกลเก้าดาบหมุนวนที่เพิ่งฟื้นตัวก็สั่น ไหวอย่างกะทันหัน พลังอันน่าสะพรึงกลัวส่งผ่านทะลวงค่ายกล เก้าดาบหมุนวน พุ่งตรงเข้าสู่คนของพรรคหมื่นดาบที่พยายามจะ ป้องกัน บรรพชนพรรคหมื่นดาบหลายคนพ่นเลือดออกมาเป็นฟูมฝอย ใบ หน้าของพวกเขาซีดขาวราวกับกระดาษ พวกเขาตะโกนด้วยเสียง อันรุนแรงร้อนรนอย่างถึงที่สุด “ปิดกั้นมัน ปิดกั้นมันเอาไว้”
และในครั้งนี้
ซูฉินก็เหวี่ยงหมัด คอยมองอย่างระมัดระวัง แล้วกระแทกหมัดเข้า ใส่อีกครั้ง
ตูม!
ตูม!
ตูม!!! ซฉินปล่อยหมัดหลายครั้งติดต่อกัน และทุกหมัดก็ตรงเข้าทําลาย จุดบกพร่องของค่ายกลเก้าดาบหมุนวนทั้งสิ้น พลังอันน่าสะพรึง กลัวเกือบจะทะลวงอาคารดาบเก้ายอดพันจ้าง หากไม่ใช่ เพราะซู ฉันต้องการยั้งมือเพราะเกรงว่าจะกระทบกับหลีหว่าน ในตอนนี้ พวกพรรคหมื่นดาบทุกคนที่อยู่ในยอดเขาดาบคงถูกกระแทกจ นตายด้วย พลังอันน่าสะพรึงกลัวนี้แล้ว แต่กระนั้น ค่ายกลเก้าดาบหมุนวนก็พังทลายลงเกือบครึ่ง ทําให้ซู ฉันมองผ่านค่ายกลขนาดใหญ่เข้าไปได้ ผู้คนพรรคหมื่นดาบที่อยู่ ภายในยอดเขาดาบต่างเต็มไปด้วยความรู้สึกสยดสยอง “อดทนไว้ ยอดเขาดาบถูกสร้างโดยนักพรตหมื่นดาบ มันปกป้อง พรรคหมื่นดาบของพวกเรามาหลายต่อหลายรุ่นแล้วมันจะต้อง ปกป้องเราได้อย่างแน่นอน……” ประมุขพรรคหมื่นดาบที่เลือด ไหลออกทวารทั้งเจ็ด ยังคงให้กําลังใจ เหล่าศิษย์ สาวกพรรคหมื่นดาบที่สิ้นหวัง และในวินาทีต่อมา ซูฉินก็ต่อยอีกครั้ง พลังของหมัดไม่สามารถอธิบายเป็นคําพูดได้ ปราณเลือดของซูฉินสันสะเทือน มองดูคล้ายอีกาทองคําสามขา ยิ่งใหญ่คับฟ้า ควบแน่นขึ้นมาเป็นรูปร่างอยู่ด้านหลังของซูฉิน นอ กจากพลังอันยิ่งใหญ่ของปราณชีวิตและเลือดเนื้อแล้ว ยังมีเปลว ไฟลุกโชนเต็มไปหมด ฉับพลัน ค่ายกลเก้าดาบหมุนวนก็ถูกทําลายลงอย่างสมบูรณ์ ประกายแส งดาบจํานวนมากพังทลายลงอย่างรวดเร็ว บรรพชนพรรคหมื่น ดาบที่กระตุ้นพลังของค่ายกลขนาดใหญ่ ทั้งร่างกายและจิต สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาพลันแตกสลายไปหมดพร้อมกับควา มทุกข์ทรมาน “ข้าพรรคหมื่นดาบของข้าถูกทําลายลงแล้ว…” ประมุขพรรคหมื่นดาบไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ก้าวถอยหลัง ล้มร่างลงนั่งบนพื้น ใบหน้าซีดเซียวเหมือนคนตาย สมองเหมือน จะไม่ประมวลผลอีกต่อไป ในตอนนี้ ค่ายกลเก้าดาบหมุนวนได้พังทลายลง และประมุขพรรค หมื่นดาบก็ไม่สามารถคิดหาหนทางใดมาต่อต้านซูฉินได้อีกแล้ว เว้นแต่นักพรตหมื่นดาบเมื่อสี่พันปีก่อนจะฟื้นคืนชีพขึ้นมา ก็ไม่มี ทางรอดอื่นอีก หลังจากทะลวงผ่านค่ายกลเก้าดาบหมุนวน ซูฉินก็มุ่งตรง บุกไป ยังคุกใต้ดินที่เรียกขานกันว่า ลุมทมิฬ ซึ่งอยู่กึ่งกลางอาคารดาบสูง พันจ้างทั้งเก้านี้ แกร็ก แกร็ก คุกใต้ดินสีดําสนิทที่สร้างขึ้นจากเหล็กดําทมิฬทะเลเหนือ เมื่ออยู่ ต่อหน้าพลังดัชนีของซูฉิน มันก็ไม่อาจต่อต้านได้แม้แต่น้อย พลัน แตกเป็นเสี่ยงๆ เผยให้เห็นหลี่หว่านที่อยู่ด้านล่าง “ลุงสาม” หลีหว่านที่อยู่ด้านล่างโบกมือให้ซูฉินทันที พร้อมทั้งตะโกนออก มาด้วยความตื่นเต้น ชายชราที่มีผมและเคราสีขาวซึ่งถูกขังอยู่บนชั้นที่สิบเอ็ดของคุก ใต้ดินสีดําเหลือบมองซูฉินอย่างลึกซึ้ง “โลกนี้มีเทพเซียนอยู่จริงๆงั้นรึ?” ชายชราก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็ว คิดในใจว่าหากมีเทพเซียนอยู่ บนโลกนี้จริงๆ ก็คงต้องเป็นซูฉินผู้นี้เท่านั้น