เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล - ตอนที่ 289.2
Sign in Buddha’s palm 289 (II)
ในเวลาเดียวกัน
ที่ด้านหน้าเทือกเขาไฟ
ด้วยพลังปราณฉีฟ้าดินอันเข้มข้น กลุ่มคนที่แข็งแกร่งเร่งรุดมาจนถึงที่แห่งนี้แล้ว
ส่วนใหญ่ขุมกําลังเหล่านี้ล้วนมาจากนิกายใหญ่ พวกเขาบังเอิญพบพลังฟ้าดินที่พวยพุ่งอยู่ใกล้ๆ จึงเดินทางมาที่นี่ได้ไวที่สุด
“นี่คือแหล่งกําเนิดธาตุไฟตามตํานานงั้นหรือ?” ชายร่างสูงที่มีสายฟ้าจางๆ แล่นอยู่ภายในดวงตากะพริบตาปริบๆ มองไปยังเทือกเขาเปลวไฟที่อยู่เบื้องหน้า
เขาเป็นผู้อาวุโสของนิกายเทพเจ้าสายฟ้า ซึ่งเป็นตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่ห้า เขารู้ดีว่าแหล่งกําเนิดธาตุทั้งห้าหมายถึงสิ่งใด
“มิผิด”
“เหมือนกับที่บันทึกไว้ในนิกาย”
“ตามตํานานเล่าว่า เมื่อกระแสปราณฉีฟื้นคืน จะมีโอกาสที่ไม่เคยมีมาก่อนเกิดขึ้นในแผ่นดินแห่งพลังยุทธฯ ตอนนี้ดูเหมือนว่าตํานานเล่าขานจะเป็นจริง…”
ชายอีกคนที่มีใบหน้าเย็นชากล่าวออกด้วยอารมณ์ความรู้สึก
ในฐานะตํานานยุทธ พวกเขาควรจะเป็นผู้ควบคุมพลังฟ้าดิน แต่เวลานี้ ที่หน้าเทือกเขาเปลวไฟ มีความรู้สึกลวงเกิดขึ้นเล็กๆในใจ ทําให้รู้สึกว่าพวกตนไม่ต่างไปจากฝุ่นผง
ชายหน้าตาเย็นชารู้อยู่ภายในใจว่าทั้งหมดนี้ เป็นเพราะแหล่งกําเนิดธาตุไฟ มันเป็นการรวมตัวกันของพลังงานธาตุไฟทั้งหมดใต้ผืนฟ้าเหนือผืนดินนี้ นี่คือการเผชิญหน้าอยู่กับพลังฟ้าดินธาตุไฟอันไร้ที่สิ้นสุด
ต่อหน้ากลุ่มก้อนพลังงานปราณฉีมหาศาลขนาดนี้ แม้แต่เซียนเทพปฐพี่ก็ต้องรู้สึกว่าตนเองเป็นเพียงฝุ่นธุลี นับประสาอะไรกับพวกเขา?
“หึ มันเป็นแหล่งกําเนิดธาตุไฟก็จริง แต่อย่าลืมว่าที่นี่เป็นพื้นที่ในเขตแดนของอาณาจักรถัง เจ้าคิดหรือว่าจะแย่งชิงแหล่งกําเนิดธาตุไฟไปจากมือเขาได้?”
ในเวลานั้นหญิงคนหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากแหล่งกำเนิดธาตุไฟมากที่สุดก็พูดเยาะเย้ยขึ้นมา
ทันทีที่คํากล่าวนี้ถูกปล่อยออกมา ทุกคนก็หน้าเปลี่ยนสีกันไปหมด
ครึ่งปีที่ผ่านมานี้ พวกเขาล้วนได้ยินเรื่องการทําลายล้างพรรคหมื่นดาบของซูฉินมาตั้งนานแล้ว ทุกคนในที่แห่งนี้ล้วนรู้กันว่าตัวตนของซูฉินนั้นสูงเทียมฟ้าเพียงใด
“มิผิด”
“การลงมือของตํานานยุทธแห่งอาณาจักรถัง เป็นเรื่องยากที่ข้าจะต้านทานได้”
เมื่อชายหน้าตาเย็นชากล่าวเช่นนี้ คําพูดของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที “แต่ถึงตํานานยุทธแห่งอาณาจักรถังจะทรงพลัง แต่นิกายใหญ่ของข้าไม่เคยหวาดกลัว
“ก่อนหน้านี้ไม่นาน ข้าได้ส่งข้อความถึงนิกายแล้ว และบรรพชนคงจะรีบมุ่งตรงมาที่นี่โดยพลัน”
ขณะที่พูด ชายหน้าตาเย็นชาก็มองไปยังภูเขา เปลวไฟด้วยอาการตะกละตะกลาม
แม้ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้สําหรับเขาที่จะเพลิดเพลินไปกับผลประโยชน์จากแหล่งกําเนิดธาตุไฟ แต่ผลงานสําหรับการค้นพบแหล่งกําเนิดธาตุไฟก็เพียงพอแล้วที่จะได้เลื่อนตําแหน่งในนิกาย อาจจะถึงขั้นกลายเป็นหนึ่งในผู้เข้าชิงตําแหน่งผู้นํานิกายได้เลย
แม้ว่าผู้นํานิกายจะต้องคอยจัดการเรื่องเล็กๆน้อยๆมากมาย แต่ทรัพยากรก็จะได้รับการจัดสรรมากขึ้นไปด้วย
“ข้าก็คิดเช่นเดียวกัน”
“ตํานานยุทธแห่งอาณาจักรถัง แม้จะแปลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้หรือทําลายพรรคหมื่นดาบได้แล้ว มันจะเป็นอย่างไร? นิกายใหญ่ของข้าสั่งสมรากฐานมานับหมื่นปี จอมยุทธเพียงคนเดียวไม่มีทางล้มล้างได้”
ผู้อาวุโสนิกายเทพเจ้าสายฟ้าที่พูดในตอนต้นก็กล่าวคําออกมาอย่างช้าๆ
คําพูดของเขาดังก้องกังวานสะท้อนไปถึงคนอื่นๆ ความรุ่งโรจน์ของนิกายใหญ่ระดับสูงที่อยู่บนจุดสูงสุดของดินแดนโพ้นทะเลมานับหมื่นปี คือสิ่งใด? แม้แต่ในยุคที่มีเซียนเทพปฐพี่กําเนิดขึ้นมา นิกายใหญ่เหล่านี้ก็ยังยืนหยัดอยู่ได้
ไม่ว่าซูฉินจะแข็งแกร่งเพียงใด เขาก็คงไม่แข็งแกร่งไปกว่าเซียนเทพปฐพีกระมัง?
ซูฉินจะสามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับนิกายใหญ่ที่แม้แต่เซียนเทพปฐพียังทําไม่ได้ ได้อย่างไร?
เหตุผลที่นิกายใหญ่ต่างแดนไม่เคยลงมือมาก่อน ทั้งหมดเป็นเพราะไม่มีผลประโยชน์มากเพียงพอ ควบคู่กับความระแวงซึ่งกันและกัน คอยสอดส่องและถ่วงดุลอํานาจกันตลอด เพื่อรักษาสถานการณ์ปัจจุบันเอาไว้
นั่งมองอาณาจักรถังครอบครองเขตแดนที่สําคัญที่สุดในแผ่นดินแห่งพลังยุทธฯ เอาไว้
แต่ตอนนี้ การมีอยู่ของแหล่งกําเนิดธาตุไฟ ทําให้นิกายใหญ่ระดับสูงทั้งหลายมีเหตุผลเพียงพอที่จะออกมา
นอกจากนี้ เมื่ออยู่ต่อหน้าแหล่งกําเนิดธาตุไฟ นิกายใหญ่ย่อมลืมเลือนเรื่องเก่าก่อนอย่างสมบูรณ์ รวมพลังกันจัดการกับซูฉิน
อย่างไรเสีย ในสายตาของนิกายใหญ่ ไม่ว่าสุดท้ายแหล่งกําเนิดธาตุไฟนี้จะตกเป็นของผู้ใด ก็จะได้ไปแค่เฉพาะในหมู่พวกเขาเท่านั้น สําหรับซูฉินที่เป็นคนนอก จะให้มีส่วนข้องเกี่ยวกับสมบัตินี้ได้อย่างไร?
“หากตํานานยุทธแห่งอาณาจักรถังกล้าปรากฏตัว บรรพชนของข้าจะไม่ปล่อยให้มันกลับไป แน่!”
ผู้อาวุโสของนิกายเทพเจ้าสายฟ้าดูภาคภูมิใจ เขารู้ว่าเมื่อครึ่งปีก่อน บรรพบุรุษเหลยสิ่งได้มาถึงแผ่นดินแห่งพลังยุทธฯแล้ว
บรรพบุรุษเหลยสิ่งแปลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้เมื่อหนึ่งพันปีก่อน เมื่อเทียบกับบรรพชนดาบที่สูญเสียร่างกายไปแล้ว การที่บรรพบุรุษเหลยสิ่งยังคงมีร่างกายอยู่เท่ากับสามารถสู้จนสุด แรงได้
การอยู่ในความดูแลของตํานานยุทธขั้นสูงสุดที่ แปลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้อย่างบรรพบุรุษเหลยสิ่ง นิกายเทพเจ้าสายฟ้าจําเป็นต้องกลัวซูฉินหรือ?
อย่างไรก็ตาม
เมื่อทุกคนในที่แห่งนี้กําลังพูดคุยกันถึงแหล่งกําเนิดธาตุไฟ
หวิ่ง!!!
กลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัว ราวกับภูเขาศักดิ์สิทธิ์โบราณก็เข้ากดทับครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดเอาไว้
ใต้แรงกดดันนี้ ทุกคนในที่แห่งนี้ต่างคุกเข่าลง ราวกับถูกสายฟ้าฟาดใส่ คุกเข่าลงไปราวกับเตรียมต้อนรับเทพเซียนผู้หนึ่ง
“ผู้ใดกัน?”
ผู้อาวุโสนิกายเทพเจ้าสายฟ้าเงยหน้าขึ้นอย่างยากลําบาก มองไปยังที่ไกลๆ
ปลายสายตาของเขา มองเห็นร่างเพรียวเดินตรงมาอย่างไม่เร่งรีบ ทุกสิ่งบนโลกเหมือนถูกเขา เหยียบย่าอยู่ใต้ฝ่าเท้า ประหนึ่งเป็นเซียนราชันที่ท่องเที่ยวไปตามแผ่นฟ้าทอดสายตามองไปทั่วทั้งสามโลก