เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล - ตอนที่ 297.2
Sign in Buddha’s palm 297 (II) ร่างศักดิ์ สิทธิ์อีกาทองคํา
ทันใดนั้น ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าของซูฉิน โลกทั้งใบก็ต่างออกไป เขาสามารถควบคุมพลังแห่งไฟได้ และสัมผัสได้ถึงสิ่งเล็กๆน้อยๆภายในระยะทางหลายร้อยลี้ ตั้งแต่กลิ่นอายของจอมยุทธขอบเขตตํานานยุทธไปจนถึงเสียงกระซิบของมด แมลงวัน แมลงหวี่ ทั้งหมดนั้นดูเหมือนจะอยู่ใกล้หูของซูฉินอย่างมาก
ยิ่งกว่านั้น ซูฉินยังสัมผัสได้ว่าร่างกายของเขา คล้ายจะหลอมรวมเข้ากับพลังอันไร้ที่สิ้นสุดของธาตุทั้งห้า แม้ในขณะที่เขานอนหลับ พลังงานธาตุไฟจํานวนมากก็ยังหลั่งไหลเข้ามาบํารุงการบ่มเพาะของเขาอย่างช้าๆ
“ในหนังสือโบราณบันทึกไว้ว่า ลูกของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์บางชนิดไม่จําเป็นต้องฝึกฝนเลย ทําเพียงแค่นอนหลับตลอดทั้งวัน เมื่อพวกมันโตเต็มที่ พวกมันก็จะมีพลังที่สามารถทําลายล้างโลกได้…..”
ซูฉินลืมตาขึ้น ดูประหลาดใจ
เดิมที่เขาคิดว่าคํากล่าวเหล่านั้นเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิด การฝึกฝนวิทยายุทธไปทีละก้าวยากเย็นเพียงไร? เป็นไปได้อย่างไรที่จะเพิ่มฐานการบ่มเพาะเพียงแค่นอนหลับ?
แต่ตอนนี้ ด้วยการรับรู้ของตัวซูฉินเอง เขาก็เริ่มเชื่อเรื่องราวทั้งหมดแล้ว
ตอนนี้เขามาถึงเพียงความสําเร็จระดับเล็กในภาพดวงตะวันขนาดมหึมา มีความสามารถและทิพยอํานาจของอีกาทองคําสามขาแค่บางอย่างเท่านั้น ยังมีผลในการ
ปรับปรุงการบ่มเพาะอย่างช้าๆ เช่นนี้ แล้วลูกของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการสืบทอดความสามารถและทิพยอํานาจมาเต็มๆจะน่ากลัวขนาดไหน?
ปรับปรุงการบ่มเพาะอย่างช้าๆ เช่นนี้ แล้วลูกของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการสืบทอดความสามารถและทิพยอํานาจมาเต็มๆจะน่ากลัวขนาดไหน?
“แต่การบ่มเพาะเช่นนี้ไม่เหมาะกับข้า มันช้าเกินไป”
ซูฉินส่ายหัวเล็กน้อย ครุ่นคิดในใจเงียบๆ
ด้วยความเร็วในปัจจุบัน แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทําอะไรเลย เพียงแค่นอนหลับไปวันๆ เขาจะเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีได้ภายในอีกไม่กี่ร้อยปี
แต่เวลาหลายร้อยปี… อาจจะทําให้ซูฉินไปอยู่ในระดับที่สูงกว่านั้นไปแล้ว จะเสียเวลาไปเปล่าๆกับการนอนทําไม?
“ทั้งยังมีดวงอาทิตย์…”
ซูฉันค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองไปบนท้องฟ้า
แม้ว่าจะมีแหล่งกําเนิดธาตุไฟปกคลุมอยู่ แต่ซูฉันก็ยังรู้สึกได้ถึงแสงแดดที่แผดเผาบนท้องฟ้า
ในตอนนี้ ซูฉินมองดูดวงอาทิตย์ ความปรารถนาในใจพลันผุดขึ้นมา เขาต้องการจะเข้าไปใกล้ดวงอาทิตย์ที่ลุกไหม้ร้อนแรงนั่นแน่นอน
ซูฉินหยุดความคิดของตนไว้ได้ทันเวลา
ซูฉินรู้อยู่แก่ใจถึงเหตุผลที่เกิดความรู้สึกนั้นขึ้น ทั้งหมดเป็นเพราะสัญชาตญาณลวงที่เกิดขึ้นหลังจากฝึกฝนภาพดวงตะวันขนาดมหึมา โดยเฉพาะยามที่สําเร็จภาพดวงตะวันฯ ระดับเล็ก ซึ่งเปลี่ยนแปลงร่างของเขาไปเป็นร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคํา
อุณหภูมิของดวงอาทิตย์สูงเพียงใด? แม้ว่าในปัจจุบัน การฝึกภาพดวงตะวันขนาดมหึมาจะถึงความสําเร็จระดับเล็กแล้ว แต่ก็ยังไม่ใช่อีกาทองคําสามขาตัวจริง ยังห่างไกลที่จะทานทนต่อความร้อนแรงของดวงอาทิตย์ได้
“เอาล่ะ”
“หลังจากที่สําเร็จภาพดวงตะวันฯในระดับเล็ก ข้าควรจะมีความสามารถและทิพยอํานาจของอีกาทองคําสามขา”
ซูฉินนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ดวงตาของเขาก็เป็นประกายในทันที
ร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคํา คือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติทันทีที่สําเร็จภาพดวงตะวันฯ ระดับเล็ก และไม่นับเป็นความสามารถหรือทิพยอํานาจ
กล่าวอีกอย่าง นอกจากร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําแล้ว ซูฉินยังมีทิพยอํานาจอีกอย่างน้อยหนึ่งอย่างด้วย
รู้หรือไม่ว่าทิพยอํานาจที่ซูฉินได้รับมามีประโยชน์ทั้งนั้น และซูฉินยังได้รับทิพยอํานาจมาเพียงไม่กี่ประเภทเท่านั้นหลังจากการลงชื่อเข้าใช้มาหลายสิบปี นี่แสดงให้เห็นถึงความล้ําค่าของทิพยอํานาจ
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซูฉินก็หลับตาลงช้าๆ รู้สึกถึงไอพลังภายในกาย
ช่วงกึ่งกลางของร่างกาย มีแก่นแท้แห่งพลังที่คล้ายแม่น้ําใหญ่ โคจรวนเวียนอยู่ แก่นแท้แห่งพลังเหล่านี้เผยกลิ่นอายแผดร้อนจางๆ ราวกับมังกรเพลิงแหวกว่าย ไหลเวียนอยู่ในร่างของซูฉินอย่างต่อเนื่อง
ซูฉันมีความรู้สึกว่าในขณะนี้แก่นแท้แห่งพลังของเขา พลังในการทําลายล้างน่าจะเพิ่มขึ้น อย่างมาก ตํานานยุทธขั้นสูงสุดธรรมดาอาจถูก เผาทั้งเป็นได้ด้วยเศษเสี้ยวแก่นแท้แห่งพลังนี้
“แก่นแท้แห่งพลังใกล้ชิดกับธาตุไฟมากยิ่งขึ้น แต่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะร่างกายปัจจุบันของข้าคือร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคํา ซึ่งส่งผลต่อคุณสมบัติของแก่นแท้แห่งพลัง นี่จึงเป็นเรื่องปกติ”
“แต่ข้าอยากรู้ว่านอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงนี้แล้ว ความสําเร็จระดับเล็กในภาพดวงตะวันขนาดมหึมายังมีพลังพิเศษอะไรอีก”
ซูฉินตั้งหน้าตั้งตารอ
ทิพยอํานาจนั้นยิ่งมีมากยิ่งดี ไม่มีประเภทไหน มีค่าน้อยเกินไป
“ข้าไม่ต้องการทิพยอํานาจอย่างเพลิงตะวัน หรือทิพยอํานาจอย่างร่างกายเทพสุริยัน แค่มอบทิพยอํานาจธาตุไฟที่ใช้ในการโจมตีมาก็พอ”
ซูฉันคิดอยู่เงียบๆ
ในบรรดาทิพยอํานาจทั้งหลายของซูฉิน พวกมันมักจะเอนเอียงไปในด้านการสนับสนุน
มีผลอันน่าอัศจรรย์เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ที่อ่อนแอกว่าซูฉิน แต่ไม่ได้มีผลอะไรมากนักเมื่อเผชิญหน้ากับผู้ที่แข็งแกร่งในระดับเดียวกัน
มีผลอันน่าอัศจรรย์เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ที่อ่อนแอกว่าซูฉิน แต่ไม่ได้มีผลอะไรมากนักเมื่อเผชิญหน้ากับผู้ที่แข็งแกร่งในระดับเดียวกัน
ครืน
เมื่อจิตใจของซูฉินผสานเข้ากับร่างกายอย่าง สมบูรณ์ ทันใดนั้น ลึกเข้าไปในดวงตา ดว งอาทิตย์ก็ค่อยๆ ลุกไหม้อย่างช้าๆ และทวีความ รุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ความร้อนที่น่าสะพรึง กล้วพวยพุ่ง แม้แต่แหล่งกําเนิดธาตุไฟที่อยู่ใกล้ๆ ก็เริ่มหลอมละลาย
“นี่คือ?”
ซูฉินรีบหยุดการกระตุ้นทิพยอํานาจของตน จิตใจจดจ่ออยู่ที่ดวงตาของตนในทันที
“ทิพยอํานาจประเภทดวงตา?”
หัวใจของซูฉินกระตุกเล็กน้อย
พูดตามตรง พลังประเภทดวงตาก็นับเป็นทิพย อํานาจ เพียงแต่ว่าบทบาทของพลังประเภทดวงตาอย่างดวงตาแห่งสัจจะนั้นโน้มเอียงไปทาง ความสามารถในการตรวจจับพลังฉีเท่านั้น แต่ไม่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งในการต่อสู้ให้ซูฉินได้
แต่ทิพยอํานาจที่ซูฉินกระตุ้นใช้งานเมื่อครู่น่ากลัวถึงขีดสุด ก่อนที่มันจะทันได้ใช้พลังเต็มที่ มันก็สามารถหลอมละลายแหล่งกําเนิดธาตุไฟได้แล้ว เป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างยิ่ง
ต้องรู้ก่อนว่าแหล่งกําเนิดธาตุไฟนั้นเป็นการบรรจบกันของพลังงานธาตุไฟในชั้นฟ้าดินนี้ ต้องบอกว่าความทนทานต่อเปลวไฟนั้นสูงมาก แต่ในตอนนี้มันกลับหลอมละลายไปอย่างรวดเร็ว นี่แสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวของทิพยอํานาจนี้
“ไม่เลวไม่เลว”
ซูฉินดูพึงพอใจ หันหน้ามองออกไปด้านนอก
“เมื่อสําเร็จภาพดวงตะวันฯ ระดับเล็ก ก็ไม่จําเป็นต้องอยู่ที่นี่อีก ได้เวลากลับออกไปแล้ว”
ซูฉินก้าวเท้าไปด้านหน้า พร้อมกับหายวับไป