เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล - ตอนที่ 322.2
Sign in Buddha’s palm 322 (II) แบ่งจิต! กลับคืนต้นกําเนิด! สถิตเทพ!
“เอาล่ะ”
“ข้าคงต้องขอตัวกลับก่อน
ซูฉินอธิบายให้หลีหว่านฟังอีกครั้งหนึ่ง และหลังจากพูดคุยกับจักรพรรดิถังรวมถึงคนอื่นๆ สักพัก เขาก็กลับไปยังโถงพระราชวังสูงตระหง่านใต้ดิน
“ในที่สุด คราวนี้ข้าก็จะได้ตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในขอบเขตเซียนเทพปฐพีได้ละเอียดยิ่งขึ้น” ซูฉินนั่งขัดสมาธิ จิตใจของเขาจมดิ่งสํารวจกายเนื้ออย่างต่อเนื่อง
เหลยเฉียนจือมาเพื่อสังหาร และหลังจากซูฉินก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่เขาก็ออกจากด่านฝึกตนทันทีและทําการสังหารคู่ต่อสู้ เป็นผลให้ซูฉันไม่มีเวลาสัมผัสการเปลี่ยนแปลงของเขาอย่างเต็มที่
“ในขอบเขตเซียนเทพปฐพี จิตวิญญาณแรกกําเนิดได้หลอมรวมกับทะเลปราณในส่วนลึกของความว่างเปล่าและสามารถรวบรวมพลังจากทะเลปราณได้ตลอดเวลาทั้งยังรักษาสมดุลระหว่างความเป็นมนุษย์และธรรมชาติได้อย่างสม่ําเสมอช่างน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก……”
ซูฉันลืมตาขึ้นทันทีเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ
ในที่สุดเขาก็รู้ว่าทําไมเซียนเทพปฐพี่ถึงอยู่ยงคงกระพัน ปรากฏว่าเซียนเทพปฐพี่มีพลังจากทะเลปราณ
ทะเลปราณนั้นกว้างใหญ่เพียงใด? เป็นสถานที่ที่พลังปราณมาบรรจบกัน เป็นสัญลักษณ์ของความมีชีวิตชีวาของโลก และก็เป็นความผันผวนภายในทะเลปราณนี่เองที่ทําให้กระแสปราณฉีมีจุดฟื้นตัวและมีจุดลดลง
แม้เซียนเทพปฐพี่จะยอดเยี่ยม แต่พลังจากทะเลปราณที่นํามาใช้ได้ก็เป็นเพียงส่วนเล็กๆภายในทะเลปราณทั้งหมด แต่นั่นอยู่ไกลเกินจินตนาการของจอมยุทธในขอบเขตตํานานยุทธแล้ว
“ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่แบ่งออกเป็นสามชั้น แบ่งจิต กลับคืนต้นกําเนิด และสถิตเทพ!”
“และตอนนี้ข้าควรจะอยู่ในขั้นแบ่งจิต ทั้งยังเป็นจุดสูงสุดของขั้นแบ่งจิตด้วย!”ซูฉินกําหมัดแน่น รู้สึกได้ถึงพลังงานอันไร้ขอบเขตภายในร่าง และเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณแรกกําเนิดอันมหาศาล ความผันผวนก็เกิดขึ้นในใจ
สิ่งที่เรียกว่าขั้นแบ่งจิตก็คือมีความสามารถในการแบ่งแยกจิตวิญญาณแรกกําเนิดซึ่งเป็นสิ่งที่เซียนเทพปฐพี่ทุกคนมี ตราบใดที่พวกเขาเต็มใจจะทํา พวกเขาสามารถแบ่งจิตวิญญาณแรกกําเนิดออกมาเป็นร่างจําแลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เพิ่งเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ในครั้งแรกปกติแทบจะไม่สามารถแบ่งจิตวิญญาณแรกกําเนิดออกมาเป็นร่างจําแลงได้ เนื่องจากต้องจ่ายราคาที่สูงจนเกินไป เซียนเทพ ปฐพี่ที่เพิ่งสู่ขั้นแบ่งจิต แม้แต่พลังของจิตวิญญาณแรกกําเนิดที่มียังไม่เพียงพอพวกเขาจะเต็มใจ ละทิ้งส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้อย่างไร?
เช่นเดียวกับนักพรตหมั่นดาบ การใช้จิตวิญญาณแรกกําเนิดส่วนหนึ่งในการปรับแต่งดาบนั้นก็ไม่ได้แบ่งจิตออกไปมากมายอะไรนัก
“จุดสูงสุดของขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ขั้นแบ่งจิต…..”
ดวงตาของซูฉินดูลึกซึ้ง และมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
ผู้ฝึกยุทธคนอื่นๆ ที่เพิ่งเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี พวกเขาล้วนเข้าสู่ขั้นแบ่งจิต แต่ซูฉินนั้นต่างออกไป ด้วยความช่วยเหลือจากร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําและทะเลปราณจิตวิญญาณแรกกําเนิดของซูฉินแทรกซึมเข้าไปภายในส่วนลึกของทะเลปราณได้อย่างง่ายดาย
กระทั่งมาหยุดอยู่ที่เส้นแบ่งก่อนจะไปด้านล่าง ด้วยความช่วยเหลือจากทะเลปราณ เมื่อทะลวงขอบเขตเข้าสู่ขั้นแบ่งจิต ก็ปรากฏว่าเขาก็ได้มาถึงจุดสูงสุดของขั้นแล้ว
หากสิ่งนี้ได้ล่วงรู้ถึงหูเซียนเทพปฐพี่คนอื่นๆ ดวงตาของพวกเขาจะต้องกลายเป็นแดงก่ำอย่างไม่อาจเลี่ยงควรรู้ว่าการบ่มเพาะในขอบเขตเซียนเทพปฐพีนั้นยากเย็นยิ่งกว่าขอบเขตตํานานยุทธหลายต่อหลายเท่า ตัวอย่างเช่นเซียนเทพปฐพี่ที่กําเนิดขึ้นมาบนโลกนับพันปีก็ไม่จําเป็นว่า พวกเขาจะสามารถเข้าสู่จุดสูงสุดของชั้นแบ่งจิตได้แม้จะล่วงเลยมาถึงช่วงบั้นปลายชีวิตแล้วก็ตาม
ขณะที่ซูฉันเพิ่งทะลวงขอบเขตเซียนเทพปฐพี กลับอยู่ในจุดสูงสุดของขั้นแบ่งจิตแล้วซึ่งน่าตกใจอย่างยิ่ง
แม้จะเป็นยุคเฟื่องฟูกระแสปราณฉี ที่มีจิตใจฟ้าดินเพียงพออยู่ทั่วทุกที่หากเซียนเทพปฐพี่ต้องการจะบ่มเพาะไปจนถึงจุดสูงสุดของขั้นแบ่งจิตก็ต้องฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลาหนึ่งหรือสองร้อยปี
“ดูเหมือนว่าการเลือกใช้ร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําเป็นสื่อชักนําเข้าสู่ทะเลปราณในส่วนที่ลึกขึ้นจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง”
ซูฉินดูพึงพอใจอย่างมาก
อันที่จริงตั้งแต่ตอนที่ซูฉินเข้าสู่แหล่งกําเนิดธาตุดินที่ยังไม่เติบโตเต็มที่ภายในทะเลทรายตะวันตก เขาก็สามารถเลือกทะลวงขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ได้ตั้งแต่ตอนนั้น
มีเพียงสองสิ่งเท่านั้นที่ต้องเตรียมก่อนทะลวงขอบเขตเซียนเทพปฐพี หนึ่งคือต้องควบแน่นอาณาเขตได้และอีกประการคือต้องแปลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดเรียบร้อยแล้ว
หากซูฉันพึงพอใจจะทะลวงขอบเขตในเวลานั้น เมื่อรวมกับแหล่งกําเนิดธาตุดินแล้วก็ไม่มีปัญหาใดในการทะลวงขอบเขตเซียนเทพปฐพี
แม้ว่าแหล่งกําเนิดธาตุดินนั้นจะยังไม่เป็นรูปเป็นร่างดีนัก แต่ซูฉินก็สะสมทรัพยากรมาเพียงพอ
ด้วยวิธีนี้ซูฉินย่อมเข้าไปภายในทะเลปราณได้ก่อนอย่างแน่นอน ทว่า แม้สุดท้ายจะประสบความสําเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี แต่ก็คงเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของขั้นแบ่งจิตเท่านั้นจะนํามาเทียบกับขั้นสูงสุดเหมือนในปัจจุบันได้อย่างไร?
“ความแข็งแกร่งในจุดสูงสุดของขั้นแบ่งจิต ประกอบกับไพ่ลับในมืออื่นๆแม้ว่าข้าจะพบกับเซียนเทพปฐพี่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิด ข้าก็คงจะสามารถต่อกรได้……”
ซูฉันคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยความสบายใจ
ไม่ว่าจะเป็นเซียนเทพปฐพี่ขั้นแบ่งจิต เซียนเทพปฐพี่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิด หรือเซียนเทพปฐพขั้นสถิตเทพซึ่งเป็นขั้นสูงสุด พวกเขาล้วนมีระดับที่แตกต่างกันแม้จะเป็นเซียนเทพปฐพี่เหมือนกันก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงถึงยิ่งใหญ่อะไรอย่างน้อยช่องว่างระหว่างวันแบ่งจิตกับขั้นกลับคืนต้นกําเนิดก็ไม่ได้ต่างกันเหมือนฟ้ากับเหว
ส่วนขั้นสถิตเทพ…….
ขั้นสถิตเทพนั้นเป็นระดับขั้นที่พิเศษมากในขอบเขตเซียนเทพปฐพี
ขั้นสถิตเทพนั้นได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของขอบเขตเซียนเทพปฐพี่แล้ว และขั้นสถิตเทพนี้ก็เริ่มสัมผัสได้ถึงพลังมิตพื้นที่ แม้จะไม่สามารถทําลายได้อย่างอิสระเหมือนอย่างผู้ทรงพลังถึงขีดสุดแต่ก็เหนือกว่าเซียนเทพปฐพีทั้งหลาย
แน่นอนว่าขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ขั้นสถิตเทพส่วนใหญ่อาจจะไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังมิติแม้จะใช้เวลาทั้งชีวิต แม้ว่าจะได้สัมผัสพลังมิติได้จริงๆ เพราะมีโอกาสครั้งใหญ่แต่ในท้ายที่สุดการสัมผัสพลังได้กับการกลายเป็นผู้ทรงพลังถึงขีดสุดได้นั้นเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกัน
“เมื่อเทียบกับการพัฒนาของขอบเขต การพัฒนาของร่างกายนั้นยิ่งใหญ่กว่า……” ซูฉินนี้บางสิ่งออกมาได้และมองไปที่มือของตนเอง
ตํานานยุทธขั้นสูงสุดที่เข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี ทั้งร่างกายและจิตวิญญาณแรกกําเนิดล้วนพัฒนาสูงขึ้นหมด
จิตวิญญาณแรกกําเนิดผสานเข้ากับทะเลปราณ ถูกหล่อเลี้ยงด้วยทะเลปราณ จากนั้นจึงดึงพลังจากทะเลปราณมาขัดเกลาร่างกาย
“หลังจากประสบความสําเร็จระดับเล็กในภาพดวงตะวันขนาดมหึมา ก็ควบแน่นเป็นร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองค่า”
“เมื่อจิตวิญญาณแรกกําเนิดดึงพลังงานธาตุไฟภายในทะเลปราณเข้ามาเสริมแกร่งร่างกายมันก็เป็นการบ่มเพาะภาพดวงตะวันขนาดมหึมาอย่างต่อเนื่อง……”
ซูฉินหลับตาลงและจิตใจก็จดจ่ออยู่กับแผ่นหินภาพดวงตะวันขนาดมหึมาที่อยู่ลึกลงไปในจิตใจ
“การฝึกฝนภาพดวงตะวันขนาดมหึมา แบ่งออกเป็นขั้นเริ่มต้น ความสําเร็จระดับเล็กและความสําเร็จชั้นยอดความสําเร็จชั้นยอดในภาพดวงตะวันฯ สามารถเปลี่ยนข้าให้กลายเป็นอีกาทองคําสามขาสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในด้านเปลวเพลิง”
ซูฉันมองดูแผ่นหินภาพดวงตะวันขนาดมหึมาที่อยู่ลึกภายในจิตใจ จุดแสงนับหมื่นจุดบนแผ่นหินขณะนี้มันเรืองแสงจางๆ ออกมากว่าห้าร้อยจุดที่บริเวณขอบของแผ่นหิน
“จุดดวงไฟได้ห้าร้อยจุดแล้วงั้นหรือ?”
ดวงตาของซูฉินเป็นประกาย เผยรอยยิ้มที่ยากจะซ่อนออกมา
รู้หรือไม่ก่อนที่ซูฉินจะปิดด่านฝึกตน แผ่นหินภาพดวงตะวันขนาดมหึมายังอยู่ในขั้นความสําเร็จระดับเล็กมีจุดแสงเพียงร้อยจุดบริเวณขอบหิน
นี่เป็นผลจากการลงชื่อเข้าใช้อย่างต่อเนื่องของซูฉินมาหลายสิบปี รวมกับแหล่งกําเนิดธาตุไฟที่สูบกลืนเข้าไป
แต่ตอนนี้ เพียงแค่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี จดแสงก็สว่างขึ้นกว่าสี่ร้อยจุดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทําให้ซูฉินมีความสุขอย่างมาก
แม้ว่าซูฉินจะสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําอยู่เล็กน้อยและคาดว่ามันเป็นการพัฒนาที่ก้าวกระโดดแน่ๆ แต่เมื่อมาดูแผ่นหินภาพดวงตะวันขนาดมหึมาด้วยตาตน เอง เขาก็ยังเปี่ยมไปด้วยความสุขอยู่ดี
“พลังงานธาตุไฟภายในทะเลปราณนั้นมหาศาลยิ่ง”
ซูอินถอนหายใจออกมา
เพียงใช้จิตวิญญาณแรกกําเนิดเพื่อดึงพลังงานธาตุไฟมาขัดเกลาร่างกาย ถึงกับผลักดันภาพดวงตะวันขนาดมหึมาให้ก้าวหน้าตามที่เห็น…
“ถ้าร่างกายของข้าเข้าสู่ทะเลปราณและกลืนพลังงานธาตุไฟที่มหาศาลภายในเกรงว่าข้าจะสามารถบ่มเพาะภาพดวงตะวันขนาดมหึมาจนสําเร็จได้ในเวลาอันสั้น…….”
หัวใจของซูฉันเต้นถี่รัว