เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล - ตอนที่ 326.1
Sign in Buddha’s palm 326 (1) กายเนื้อโยกคลอนสมบัติ
สมบัติล้ําค่า!
ในส่วนที่ลึกที่สุดของนิกายเทพเจ้าสายฟ้า ระฆังขนาดใหญ่ที่มีกลิ่นอายเก่าแก่โบราณกำลังสั่นไหว ปล่อยไอพลังเขย่าฟ้าดิน จอมยุทธต่างดินแดนทั้งหลายที่ได้เห็นระฆังใบใหญ่ใบนี้ต่างตกตะลึง
“ระฆังเทพสายฟ้า!”
“นี่คือสมบัติล้ําค่าระฆังเทพสายฟ้า!”
“คําว่าเทพสายฟ้าสองค่านี้สื่อถึงสมบัติล้ําค่าของนิกายเทพเจ้าสายฟ้า!”
บรรพชนสํานักผู้วิเศษเงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยคําออกมา ภายใตไอพลังของสมบัติล้ําค่า แม้แต่ซูฉินที่เปรียบได้กับผืนฟ้าก็ยังต้องถูกบดบังไปชั่วคราว ราวกับว่าใต้ผืนฟ้าเหนือผืนดินนี้ไม่มีผู้ใดจะมาเทียบเทียมความเจิดจรัสของสมบัติล้ําค่าได้
“ว่ากันว่าผู้ทรงพลังถึงขีดสุดได้ใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดในการปรับแต่งสมบัติล้ําค่านี้ขึ้นมา หากมันฟื้นพลังกลับมาได้เต็มที่ จะสามารถใช้พลังฉีกกระชากความว่างเปล่าได้เลย แม้ว่าระฆังเทพสายฟ้าจะไม่ใช่สมบัติล้ําค่าที่แข็งแกร่งที่สุดของผู้ทรงพลังถึงขีดสุด แต่สุดท้ายแล้ว มันก็มาจากผู้ทรงพลังถึงขีดสุดอยู่ดี แม้จะผ่านเวลามานับหมื่นปี แต่ก็ยังมีกลิ่นอายของผู้ทรงพลังถึงขีดสุดแฝงอยู่”
“เพียงแค่อาศัยกลิ่นอายนี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะบดขยทุกสิ่ง…….” บรรพชนสํานักเอกะวิถีจ้องไปที่ระฆังขนาดใหญ่ในส่วนลึกของนิกายเทพเจ้าสายฟ้าอย่างจดจ่อ
แม้ว่าสํานักเอกะวิถีจะมีสมบัติล้ําค่าที่ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าระฆังเทพสายฟ้า แต่ส่วนใหญ่แล้ว สมบัติล้ําค่านั้นอยู่ในสภาวะนิ่งเงียบจะฟื้นพลังขึ้นมาเหมือนอย่างระฆังเทพสายฟ้าในตอนนี้ที่ไหนกันเล่า?
และในเวลานี้
เมื่อเทียบกับบรรพชนนิกายใหญ่คนอื่นๆ ที่แทบจะไม่สามารถรักษาอาการสงบของตนได้ คอยเฝ้าสังเกตระฆังเทพสายฟ้าอยู่ตลอดเวลา เหล่าจอมยุทธต่างดินแดนที่เฝ้าดูการต่อสู้มาเนิ่นนานบางส่วนถึงกับหันหลังกลับและวิ่งหนีไปเพราะกลัวว่าตนจะได้รับผลกระทบ
“สมบัติล้ําค่าของนิกายเทพเจ้าสายฟ้าโผล่ออกมาแล้ว คงถึงเวลาที่มนุษย์สวรรค์แห่งอาณาจักรถังจะต้องล่าถอยไปชั่วคราว” บรรพชนสํานักผู้วิเศษคิดออกมาอย่างรวดเร็ว
สมบัติล้ําค่านั้นน่ากลัวจนเกินไป แม้ว่าระฆังเทพสายฟ้าจะถูกสร้างขึ้นโดยผู้ทรงพลังถึงขีดสุด แต่มันก็ไม่ได้ครอบครองพลังของขอบเขตทลายนภากาศได้สมบูรณ์เหมือนอย่างสมบัติล้ําค่าที่มีชีวิต ทว่า ก็คงไม่มีเซียนเทพปฐพี่คนใดเลือกเผชิญหน้ากับระฆังเทพสายฟ้าตัวต่อตัวเป็นแน่
เพียงแต่ว่า
ในเวลาต่อมา
ต่อหน้าสายตาตื่นตะลึงของบรรพชนสํานักผู้วิเศษ
เห็นว่าดวงตาของซูฉินนั้นมีดวงตะวันสองดวงปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แพร่กระจายออกไปในความว่างเปล่า ในที่สุดก็กลายเป็นเสาเพลิงสองต้นพุ่งลงมาจากฟากฟ้า ชนเข้ากับสมบัติล้ําค่าระฆังเทพสายฟ้าอย่างรุนแรง
ดวงตาตะวันสีทอง!
ครั้น……
ฟ้าดินพังทลาย ตะวันจันทรากลับตาลปัตร
ไม่ว่าจะเป็นบรรพชนสํานักเอกะวิถีหรือจอมยุทธต่างดินแดนอีกมากมาย ทุกคนต่างรู้สึกว่าสายตาพร่ามัวลงในทันที ไม่นานนักก็ค่อยๆฟื้นตัวกลับมา
“เกิดอะไรขึ้น?”
จิตใจของจอมยุทธดินแดนโพ้นทะเลทั้งหลายล้วนว่างเปล่า และมีจอมยุทธเพียงไม่กี่คนที่หน้าเปลี่ยนสีไป จู่ๆพวกเขาก็นึกอะไรบางอย่างได้ รีบมองขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
สังเกตเห็นว่าซูฉันยืนอยู่บนอากาศ แต่ดวงตาที่แต่เดิมร้อนแรงดั่งดวงอาทิตย์ก็หรี่ลงอย่างเห็นได้ชัด สําหรับในส่วนลึกของนิกายเทพเจ้าสายฟ้า ระฆังลวงตาขนาดใหญ่ก็เริ่มแตกสลายไป
“สิ่งนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?”
“สมบัติล้ําค่าของนิกายเทพเจ้าสายฟ้าถูกมนุษย์สวรรค์แห่งอาณาจักรถังทําลายได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวงั้นหรือ?”
“ว่ากันว่าสมบัติล้ําค่าเป็นสิ่งไร้เทียมทานไม่ใช่หรือ จะพังทลายได้ง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร?”
จอมยุทธดินแดนโพ้นทะเลจํานวนมากรู้สึกไม่อยากเชื่อ ทว่าในไม่ช้า ก็มีคนสังเกตเห็นว่า เบื้องหลังเงาระฆังลวงตานั้น ในส่วนลึกของนิกายเทพเจ้าสายฟ้า ระฆังโบราณที่มีความสูงเท่าครึ่งหนึ่งของมนุษย์กําลังลอยขึ้นมาช้าๆ
และครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีของนิกายเทพเจ้าสายฟ้าอย่างเหลยตู้ฝ่าที่นั่งขัดสมาธิอยู่ใต้ระฆังโบราณก็มองไปที่ซูฉินซึ่งยืนอยู่บนอากาศด้วยความตกใจ
“สมบัติล้ําค่าไม่ได้ถูกทําลาย เงาลวงตาระฆังโบราณเมื่อครู่เป็นเพียงไอพลังของระฆังเทพสายฟ้าที่ควบแน่นออกมาจนมีรูปลักษณ์”
“ร่างที่แท้จริงของระฆังเทพสายฟ้า เป็นระฆังโบราณที่มีความสูงเท่ากับครึ่งหนึ่งของมนุษย์
มีตํานานยุทธตระหนักได้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วกล่าวออกมาอย่างฉับไว
“แต่ถึงแม้จะไม่ใช่สมบัติล้ําค่าที่ถูกทําลาย มนุษย์สวรรค์อาณาจักรถังก็ยังบังคับระฆังเทพสายฟ้าให้แสดงร่างแท้จริงออกมาได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะกล่าวว่าความแข็งแกร่งเช่นนี้ท้าทายสวรรค์ยิ่งนัก…….” ตํานานยุทธอีกคนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
คําที่กล่าวออกมา
จอมยุทธจากต่างดินแดนอีกหลายคนที่ได้ยินค่ากล่าวนี้ ท่าทีของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นตกตะลึงเช่นกัน
แม้ว่าระฆังใบใหญ่เมื่อครู่จะไม่ใช่ร่างที่แท้จริงของสมบัติล้ําค่า แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของพลังจากสมบัติล้ําค่า เป็นเรื่องเหลือเชื่อมากแล้วที่ซูฉันสามารถบดขยี้ภาพลวงตาระฆังใบใหญ่ได้
“สามารถปิดกั้นดวงตาตะวันสีทองได้อย่างนั้นหรือ?”
ซูฉันไม่ได้สนใจกับอาการตกอกตกใจของจอมยุทธจํานวนมาก ในตอนนี้เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย และมองดระฆังโบราณที่สูงเท่าครึ่งหนึ่งของมนุษย์ภายในส่วนลึกของนิกายเทพเจ้าสายฟ้าอีกครั้ง
ในตอนที่ระฆังเทพสายฟ้าระเบิดพลังออกมา ซูฉินได้เบิกเนตรดวงตาตะวันสีทอง ใช้ทิพยอํานาจธาตุไฟนี้ในการระงับพลังจากสมบัติล้ําค่าในส่วนลึกของนิกายเทพเจ้าสายฟ้าโดยตรง
แต่น่าเสียดาย
พลังของดวงตาตะวันสีทองนั้นน่ากลัวก็จริง แต่หลังจากปะทะเข้ากับพลังของระฆังเทพสายฟ้า มันก็สลายหายไปอย่างรวดเร็ว
“หรือความแข็งแกร่งของข้ายังอ่อนแอเกินไป”
“ถึงแม้ดวงตาตะวันสีทองจะไม่ใช่ทิพยอํานาจระดับสูงสุดของอีกาทองคําสามขา แต่ก็พอจะติดอันดับทิพยอานาจธาตุไฟที่ดีที่สุดได้”
“หากพลังของข้ามได้สักหนึ่งในหมื่น หนึ่งในแสนของอีกาทองคําสามขา อย่าว่าแต่สมบัติล้ําค่าเลย แม้พื้นพิภพก็ต้องมอดไหม้กลายเป็นความว่างเปล่า”
ซูฉินส่ายศีรษะเล็กน้อย
ที่สมบัติล้ําค่าระฆังเทพสายฟ้าสกัดกั้นการโจมตีของเขาได้ ไม่ใช่เพราะทิพยอานาจของเขานั้นอ่อนแอ แต่ความแข็งแกร่งของซูฉินไม่เพียงพอที่จะใช้ทิพยอําานาจดวงตาตะวันสีทอง
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้”
“ข้าก็ขอดูหน่อยเถอะ ว่าขีดจํากัดความแข็งแกร่งของข้าในตอนนี้มันอยู่ตรงจุดไหน”
ปราณเลือดของซูฉินเดือดพล่าน จิตวิญญาณการต่อสู้ยิ่งใหญ่เทียมฟ้า
ดวงตาตะวันสีทองเป็นเพียงหนึ่งในไฟลับมากมายใต้แขนเสื้อของเขา แม้ว่าจะไม่ใช่ไพ่ที่อ่อนแอที่สุด แต่ก็ยังห่างไกลจากไฟลับที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งหลาย
ขณะที่ซูฉินจะก้าวเท้าออกไป
เหลยตู้ฝ่าที่นั่งขัดสมาธิอยู่ใต้ระฆังเทพสายฟ้าก็ตะโกนขึ้นอีกครั้ง
“มนุษย์สวรรค์อาณาจักรถัง การระเบิดพลังเมื่อครู่คงจะกินพลังของเจ้าไปมาก ถ้าเจ้าเต็มใจจะล่าถอยไปในยามนี้ คําสัญญาจากนิกายเทพเจ้าสายฟ้าก็ยังคงมีผลอยู่เหมือนเดิม”
เหลยตู้ฝ่าจ้องมองซูฉินขณะที่กล่าวคํา
ซูฉันทําลายพลังของระฆังเทพสายฟ้าด้วยดวงตาตะวันสีทอง พลังนั้นยิ่งใหญ่ราวกับท้องฟ้าแทบสะเทือนสมบัติล่าค่า ทําให้เหลยตู้ฝ่าผู้ปลุกระฆังเทพสายฟ้าด้วยจิตวิญญาณแรกกําเนิดยังต้องรู้สึกหวาดกลัว
อย่างไรก็ตาม จากมุมมองของเหลยตู้ฝ่า ซูฉินที่โจมตีได้แบบเมื่อครู่จะต้องทุ่มสุดตัวทั้งยังใช้ทักษะลับเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเอง คงจะโจมตีอีกเป็นครั้งที่สองไม่ได้ในระยะเวลาอัน สั้น
“ไม่จําเป็น
น้ําเสียงของซูฉันสงบนิ่ง ก้าวเท้าขวาออกไป หายวับไปกับอากาศ
ในทันทีหลังจากนั้น
ร่างของซูฉินก็ไปปรากฏอยู่บนเกาะเทพเจ้าสายฟ้า
บูม!!!
ราวกับก้อนหินลงกระทบผิวน้ํา แม้ซุฉินจะโจมตีภาพลวงตาของสมบัติล้ําค่าด้วยดวงตาตะวันสีทอง แต่ทั้งเกาะเทพเจ้าสายฟ้าก็ยังคงอยู่ในขอบเขตอํานาจของสมบัติล้ําค่าระฆังเทพสายฟ้า เมื่อซุฉินปรากฏตัวขึ้นก็เท่ากับเป็นการต่อสู้แย่งชิงการควบคุมเกาะเทพเจ้าสายฟ้าจากสมบัติค่า