เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย - ตอนที่ 77 หาเงินได้ต่างหากสำคัญกว่า
- Home
- เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย
- ตอนที่ 77 หาเงินได้ต่างหากสำคัญกว่า
ตอนที่ 77 หาเงินได้ต่างหากสำคัญกว่า
เผยจี้ฉือได้ยินดังนั้น ก็เดินเข้าไปหาอีกสองก้าว จากนั้นก็จับมือของนางแล้วกอดเอาไว้แน่น น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาแต่กลับชัดเจน แฝงไว้ด้วยเสียงสะอื้นเล็กน้อย “ท่านแม่”
ความจริงแล้วในบรรดาเด็กทั้งสามคน คนแรกที่เรียกนางว่าแม่ก็คืออาชิง เผยจี้ฉือเองก็เผลอเรียกต่อหน้านางอยู่สองสามครั้ง แต่ครั้งนี้กลับเรียกนางว่าแม่ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ ถ้าจี้จือฮวนบอกว่าไม่รู้สึกอะไรนั่นก็คงเป็นเรื่องโกหกแล้ว
ก่อนทะลุมิติมา นางอยู่ตัวคนเดียว เพื่อทำภารกิจให้สำเร็จจึงปลอมตัวมาแล้วมากมายหลายบทบาท ตอนแรกนางก็เคยคิดว่าตัวละครจี้จือฮวนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งภารกิจ ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่และสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้ตัวเองก็พอแล้ว
แต่เมื่อเวลาผ่านไป นางเริ่มรู้สึกว่าเด็กทั้งสามคนนี้เป็นเหมือนคนในครอบครัวของตัวเอง พวกเขายังเด็กนัก คนที่สามารถพึ่งพาได้ก็มีแค่นาง
เดิมจี้จือฮวนคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะไม่ยอมรับนาง แต่เมื่อได้ยินเขาเรียกนางว่าท่านแม่ นางกลับมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
“อย่าร้องไห้ขี้มูกโป่ง ระวังอาชิงจะหัวเราะเยาะเอา”
เผยจี้ฉือเอ่ยเสียงงึมงำออกมา “ข้าเป็นผู้ชาย ไม่มีทางร้องไห้ขี้มูกโป่งหรอก”
แล้วก็จริงดังนั้น เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาแม้จะแดงเรื่อแต่กลับไม่มีน้ำตาไหลออกมา
เด็กผู้ชายกับเด็กผู้หญิงมีวิธีการแสดงออกทางอารมณ์ที่แตกต่างกัน มีความแตกต่างตั้งแต่วัยเด็ก ก่อนที่จี้จือฮวนจะทันได้ตอบกลับ เผยจี้ฉือก็สงบสติอารมณ์ได้เรียบร้อยแล้ว และเป็นฝ่ายพาพวกเด็ก ๆ ในหมู่บ้านไปเล่นของเล่น
อาชิงยังรู้สึกหวงของอยู่เล็กน้อย เพราะนั่นต่างก็เป็นของเล่นใหม่ของเขานะ แต่เผยจี้ฉือกลับดึงน้องชายมาที่มุมห้องและอธิบายให้เขาฟัง
“พวกเราเป็นคนต่างแซ่ ตอนนี้อาการของท่านพ่อก็กำลังดีขึ้น ท่านแม่เองก็เพิ่งจะทำให้คนในหมู่บ้านเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อพวกเรา เสียสละของเล่นเล็กน้อย เพื่อสร้างความประทับใจและสร้างชื่อเสียงไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร อาชิง เจ้าต้องเข้าใจนะ”
อาชิงดึงนิ้วมือตัวเอง “เหตุใดต้องสร้างชื่อเสียงด้วยขอรับ?”
เผยจี้ฉืออธิบายให้น้องชายฟังอย่างใจเย็น “เมื่อวานตอนที่ท่านแม่ช่วยอาฝู เจ้าได้ยินหรือไม่ว่าตอนแรกคนในหมู่บ้านพูดว่าอย่างไร?”
ดวงตากลมโตของอาชิงเผยความน้อยใจออกมา “พวกเขาต่างบอกว่าท่านแม่ทำไม่ได้ และจะทำให้อาฝูตาย”
“ใช่ เพราะว่าชื่อเสียงของท่านแม่ก่อนหน้านี้ไม่ดี พวกเขาจึงไม่เชื่อในตัวท่านแม่ ดังนั้นพวกเราควรทำเช่นไร?”
อาชิงเป็นเด็กที่ฉลาด เขาเข้าใจความหมายที่พี่ใหญ่ต้องการสื่อได้ทันที “พวกเราต้องเป็นเด็กดี ให้คนในหมู่บ้านยอมรับพวกเรา เช่นนี้ต่อไปพวกเขาก็จะดีกับท่านแม่ด้วย”
“เด็กดี เรื่องของเล่นวันหน้าพี่ใหญ่จะหามาให้อีก แต่พวกเราก็อย่ายอมให้ใครมารังแกได้ง่าย ๆ ให้พวกเขายืมเล่นได้ แต่ห้ามทำพัง เข้าใจหรือไม่?” เผยจี้ฉือรู้ว่าอาชิงรักของเล่นพวกนั้นมาก ดังนั้นการเรียนรู้ที่จะแบ่งปัน เดิมสำหรับเด็กคนนี้ก็ถือว่ายากมากแล้ว
ส่วนเขานับตั้งแต่มาอยู่ข้างกายเผยยวน เขาก็ลืมไปนานแล้วว่าตนเองก็ยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง
อาชิงพยักหน้ารับคำอย่างหนักแน่น “ข้าจะไปสอนพวกเขาเล่น!”
“ไปเถอะ” เผยจี้ฉือลุกขึ้นยืน เมื่อหันกลับไปก็ได้พบกับอาอิน ไม่รู้ว่านางยืนฟังมานานเพียงใดแล้ว เทียบกับอาชิงที่ค่อนข้างใสซื่อ อาอินเป็นเด็กที่ฉลาดกว่ามาก
นางไม่ได้พูดถึงเรื่องเมื่อครู่ หลังจากยิ้มให้กับเผยจี้ฉือแล้ว ก็เข้าไปช่วยงานจี้จือฮวนในครัวต่อ “ท่านแม่ ข้าผ่าฟืนเสร็จแล้ว ข้าจะไปตักน้ำบนเขามาต้มเกลือนะเจ้าคะ”
ทุกคนไม่ชอบเข้ามาในห้องครัว ดังนั้นอาอินจึงไม่กลัวว่าจะถูกคนอื่นจับได้
จี้จือฮวนชะงักไปเล็กน้อย มองสาวน้อยที่โตขึ้นมากอยู่ครู่หนึ่ง “อืม อีกสองวันก็ไม่ต้องขึ้นเขาไปตักน้ำเองแล้วนะ”
ท่อน้ำที่นางให้เจิ้งต้าเฉียงทำเกือบจะเสร็จแล้ว ถึงเวลาค่อยจ้างคนงานของเหล่าเติ้งสักสามสี่คนไปช่วยต่อน้ำจากบนภูเขาลงมา ก็สามารถใช้น้ำจากที่บ้านได้แล้ว
ถึงเวลาก็ต่อจากทะเลสาบน้ำเค็มมาท่อหนึ่ง และต่อน้ำสะอาดบนภูเขามาอีกท่อหนึ่ง เพียงเท่านี้ก็จะสะดวกขึ้นมาก
อาอินพยักหน้ายิ้ม ๆ แต่เพิ่งออกจากประตูก็เจอกับครอบครัวของท่านป้าหยางเข้าพอดี วันนี้ลานบ้านของครอบครัวเผยคึกคักเป็นอย่างมาก
ฟางจวิ่นเหมยมาถึง ก็ไม่สนใจว่าจะมีคนอยู่เท่าไร นางอุ้มอาฝูเอาไว้และเข้าไปคุกเข่าคำนับให้จี้จือฮวนทันที
“ขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยลูกของข้า” ฟางจวิ่นเหมยไม่ได้มีคำพูดที่สวยหรูอะไร นางสำนึกผิดแล้วจริง ๆ เมื่อวานนางตกลงไปในอ่างเก็บน้ำ ทันทีที่เห็นอาฝูตกลงมาด้วย นางก็รู้สึกใจเสียจนท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด
ครอบครัวของท่านป้าหยางเองก็จะคุกเข่าด้วย จี้จือฮวนตกใจขึ้นมาทันที นางรับการเคารพเช่นนี้ไม่ไหวหรอก “รีบลุกขึ้นเถอะเจ้าค่ะ พวกท่านจะทำอะไรกันเจ้าคะ”
ท่านป้าหยางเงยหน้าขึ้นมาและจับมือของจี้จือฮวนเอาไว้ “ฮวนฮวน เจ้าช่วยครอบครัวของเราเอาไว้จริง ๆ เมื่อวานนี้ตอนที่ไปโรงยา ท่านหมอของที่นั่นบอกว่า หากไม่ใช่เพราะเจ้าช่วยเอาไว้ได้ทันเวลา อาฝูก็คงจะไม่รอดแล้ว”
ฟางจวิ่นเหมยพยักหน้าหงึก ๆ พลางร้องไห้ออกมา “น้องสาว ข้าขอบคุณเจ้าจริง ๆ วันหน้าเจ้าก็คือน้องสาวของข้า หากใครรังแกเจ้าก็ถือว่ามีเรื่องกับข้าด้วย”
ส่วนเรื่องที่นางอาละวาดในบ้านนั้น ไม่น่าฟังเลยจริง ๆ ดังนั้นฟางจวิ่นเหมยจึงไม่พูดถึงมันอีก นางยังคงอยากจะโขกหัวเพื่อขอโทษจี้จือฮวนอีกสักครั้ง
“รีบลุกขึ้นเถอะเจ้าค่ะ พวกท่านทำเช่นนี้ข้ารับไม่ไหวหรอกเจ้าค่ะ”
เด็ก ๆ ทั้งสามคนเองก็เข้ามาช่วยด้วย เกลี้ยกล่อมให้ครอบครัวท่านป้าหยางลุกขึ้น และพูดจาหว่านล้อมให้พวกเขายอมเข้าไปนั่งในบ้าน อาฝูดีขึ้นมากแล้ว เห็นเพื่อน ๆ ในหมู่บ้านต่างก็เล่นของเล่นกันอยู่ เมื่อได้รับอนุญาตจากฟางจวิ่นเหมยก็จูงมืออาชิงไปเล่นด้วยทันที
เหล่าเติ้งรู้สึกว่าคนครอบครัวนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ อาศัยแค่ความสามารถที่จี้จือฮวนมี ภายภาคหน้าครอบครัวนี้เกรงว่าคงจะรุ่งเรืองมากเป็นแน่
เจิ้งต้าเฉียงรอจนกระทั่งจี้จือฮวนมีเวลาว่างแล้ว จึงถามออกมาอย่างเกรงใจ “เอ่อ ของที่เจ้าให้ข้าทำตามแบบร่างล้วนเป็นของดี คือ…”
“ไม่เป็นไร เจ้าอยากทำขายก็ทำเถอะ” จี้จือฮวนเห็นว่าครอบครัวของเขาก็ไม่ได้ร่ำรวย แต่เขาเป็นคนซื่อสัตย์และมีฝีมือดี หากได้แบบร่างที่แปลกใหม่เหล่านี้ไป ก็จะสามารถเป็นหนึ่งเดียวในตำบลได้แล้ว
“เช่นนั้น…เช่นนั้นถ้าคนอื่นถาม ข้าจะบอกว่าเจ้าเป็นคนให้แบบร่างข้ามาได้หรือไม่?”
จี้จือฮวนครุ่นคิดสักพัก “ของเหล่านั้นจะว่าไปแล้วข้าเองก็ไม่ได้เป็นคนคิด เอาเช่นนี้ก็แล้วกัน หากมีคนถาม เจ้าก็บอกไปว่ามีคนให้แบบมา ส่วนเป็นใครนั้นเจ้าก็บอกไปแค่ว่าเป็น บุรุษไร้นาม”
“บุรุษไร้นาม ตกลง ข้าจะบอกตามที่เจ้าว่ามา” เจิ้งต้าเฉียงได้รับอนุญาตจากจี้จือฮวนให้เขาทำของเหล่านี้ไปขายต่อได้ก็ดีใจเป็นอย่างมาก
พวกชาวบ้านต่างก็พากันเดินดูห้องใหม่ที่ครอบครัวจี้จือฮวนเพิ่งสร้างเสร็จ ในใจก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมา พวกเขาคิดว่าฝีมือของเหล่าเติ้งช่างดีจริง ๆและจี้จือฮวนเองก็มีเงินด้วย
แต่พวกเขายังมีงานทำไร่ไถนารออยู่ ดังนั้นจึงต้องลากลูก ๆ ที่ไม่อยากกลับของตัวเองกลับเข้าหมู่บ้านไป
ตอนที่จางต้าเปียวเอาวัวและแกะมาส่ง จี้จือฮวนกำลังยืนส่งชาวบ้านอยู่
ชาวบ้านเห็นครอบครัวพวกเขาซื้อวัวและแกะมาเพิ่มอีก ก็อิจฉาและมองจนไม่อาจละสายตาได้ นางขายอะไรกันแน่ เหตุใดจึงมีเงินมากมายเพียงนี้กัน หากผู้หญิงในบ้านพวกเขามีความสามารถเช่นนี้บ้างก็คงจะดี
ทันใดนั้นทุกคนต่างก็รู้สึกว่าสามีตระกูลเผยที่นอนอยู่ตรงนั้นช่างมีบุญมากจริง ๆ สตรีที่ดีเช่นนี้แต่งเข้ามาก็ยังไม่ทอดทิ้ง และเมื่อลองมองดูภรรยาของตัวเองที่หน้าตาดีกว่าจี้จือฮวนแต่จะมีประโยชน์อันใด หาเงินได้ต่างหากจึงเป็นเรื่องสำคัญที่แท้จริง
วัวและแกะที่จางต้าเปียวเอามาส่งในครั้งนี้ยังมีลูก ๆ ติดมาด้วย เขาจึงนำพวกมันไปผูกไว้ตรงที่ว่างที่แบ่งออกมาจากสวนด้านหลัง เพราะอย่างไรเสียจ้านอิ่งก็เป็นสหายของเผยยวน นางย่อมไม่มีทางให้ม้าแสนรู้เช่นนี้ต้องอยู่อย่างลำบากแน่นอนอยู่แล้ว โชคดีที่วัวและแกะที่จางต้าเปียวเอามาส่ง ต่างเลือกมาแต่ตัวที่ดีที่สุดและมีน้ำนมมาก ทำให้จี้จือฮวนได้กำไรไม่น้อย
.
.
.