เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย - บทที่ 150 ตัดสินใจไปเมืองหลวง
บทที่ 150 ตัดสินใจไปเมืองหลวง
บ้านของเสี่ยวฮุยอยู่ไม่ไกลนัก ทว่าการที่จู่ ๆ เสาหลักของครอบครัวต้องมาล้มป่วย บรรยากาศในบ้านจึงไม่ค่อยสู้ดีนัก
“ท่านแม่” เสี่ยวฮุยร้องเรียกขึ้นมา ในห้องกลับไม่มีคนอยู่
เสี่ยวฮุยจึงเปิดประตูห้องที่ใหญ่ที่สุด “ท่านน้าฮวนฮวน พ่อข้าอยู่ในนี้ขอรับ”
จี้จือฮวนพยักหน้ารับรู้ และเข้าไปพร้อมกับเผยยวน
ก่อนหน้านี้เฉินเหวยทำงานกับครอบครัวที่ร่ำรวยในเมืองหลวง ครอบครัวจึงนับว่ามีฐานะดี ดังนั้นทั้งภายในและภายนอกจึงเรียบร้อยสะอาดสะอ้าน
จี้จือฮวนวางกล่องยาน้อยไว้ข้าง ๆ มองไปที่เฉินเหวยเล็กน้อย พบว่าผิวของเขามีแผลเป็นบริเวณกว้าง จากนั้นเมื่อเปิดกล่องยาน้อยขึ้นมา ก็มียาสำหรับโรคผิวหนังและยาแก้อักเสบอยู่ในนั้น
“ท่านน้าฮวนฮวน รักษาพ่อข้าได้หรือไม่ขอรับ” เสี่ยวฮุยเอ่ยอย่างกระวนกระวายใจ
“แค่โรคเล็กน้อยเท่านั้น” เพียงแต่ปล่อยทิ้งเอาไว้นาน ไม่ได้ไปหาหมอจ่ายยาให้ จึงลามไปที่ใบหน้าและแขนขา ครอบครัวเจ้านายต้องไม่เต็มใจที่จะใช้งานคนงานที่เป็นเช่นนี้อยู่แล้ว เพราะกลัวว่าจะติดโรคไปด้วย
ส่วนหมอของหย่งอันถัง…ดูท่าจี้จือฮวนคงต้องไปเมืองหลวงสักครั้งเสียแล้ว
อย่างไรซะหย่งอันถังนั่นก็เป็นของนางแล้ว ไม่ช้าก็เร็วอย่างไรก็ต้องไปดูแล และช่วงนี้นางก็ว่างอยู่พอดี
“ข้าทายาให้เขาเองเถอะ” เผยยวนเห็นจี้จือฮวนจะทายาให้กับเฉินเหวยจึงรีบเอ่ยขึ้น
“อืม” จี้จือฮวนบีบครีมทั้งหมดลงในขวดกระเบื้องเล็ก ๆ “อันนี้ใช้ทาภายนอก ส่วนนี่เป็นยาแก้อักเสบ”
เผยยวนตั้งใจฟัง พลางจ้องมองยาเม็ดเล็กในมือ ยาแก้อักเสบตามชื่อที่บอกคงจะช่วยลดอาการอักเสบกระมัง หากแพทย์ทหารมีฝีมือการรักษาที่อัศจรรย์เช่นนี้ก็คงจะดี
จี้จือฮวนปิดประตูห้องลง ประจวบกับแม่ของเสี่ยวฮุยกลับมาพอดี จึงเข้ามาทักทายจี้จือฮวน
เมื่อได้ยินว่านางมาดูอาการให้สามี แม่เสี่ยวฮุยจึงเอ่ยขึ้นมาด้วยความตื้นตัน “น้องฮวนฮวน ขอบใจเจ้ามากจริง ๆ เดิมข้าก็อยากจะไปหาเจ้า เพียงแต่กลัวว่าจะไปสร้างปัญหาให้เจ้า เพราะหย่งอันถังที่เมืองหลวงก็บอกว่ารักษาไม่หายแล้ว”
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ไม่ใช่โรคร้ายแรงอันใด”
แม่เสี่ยวฮุยเมื่อได้ยินว่าไม่ใช่โรคร้ายแรง ก็ดีใจจนแทบจะคุกเข่าให้กับจี้จือฮวนทันที ทั้งยังรีบล้วงเอาเงินออกมาจากในกระเป๋า
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าเห็นหน่อไม้ด้านหลังที่ท่านตากไว้แห้งกำลังดี ผู้เฒ่าที่บ้านเรากินได้แต่ผัก ข้าจะขอเอากลับไปให้เขาลองชิมได้หรือไม่เจ้าคะ”
แม่ของเสี่ยวฮุยรีบไปหยิบมาให้นางหนึ่งตะกร้าทันที ตอนที่กลับมาเผยยวนก็ออกมาพอดี หลังจากบอกวิธีใช้ยากับแม่ของเสี่ยวฮุยแล้ว ทั้งสองคนก็เอาหน่อไม้แห้งกลับบ้านไป
“กำลังคิดอะไรอยู่หรือ?” จี้จือฮวนเห็นเผยยวนที่ปกติมักจะยุกยิกไปมาเวลาอยู่ต่อหน้านาง ทว่าวันนี้กลับเงียบมาตลอดทาง นางจึงเป็นฝ่ายเอ่ยถามขึ้นมา
หาได้ยากที่ดวงตาของเผยยวนจะไม่ได้เปล่งประกายอย่างเช่นในยามปกติ แต่กลับเอ่ยอย่างคนที่กำลังครุ่นคิดขึ้นมา “ข้ากำลังคิดว่ายาแก้อักเสบใช้สมุนไพรอะไร ต้องไปหาจากที่ใด ยามพวกเราเดินทัพออกศึกเลี่ยงไม่ได้ที่จะได้รับบาดเจ็บ เวลาห้ามเลือดต้องใช้มีดเผาบนไฟจากนั้นก็นำมากดลงบนแผล คนมากมายล้วนทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก”
จี้จือฮวนกำลังจะบอกเขาว่าในสมัยโบราณไม่มียาแก้อักเสบเฉพาะที่มีประสิทธิภาพ ทว่ากล่องยาน้อยกลับสั่นขึ้นมาอย่างแรง
เผยยวนเองก็ก้มมองกล่องยาเล็กน้อย
จี้จือฮวนจึงเปิดกล่องยาน้อยออก และคิดว่าในนั้นอาจมีสิ่งมีชีวิตแอบมุดเข้าไปเสียอีก แต่สุดท้ายกล่องยาน้อยก็กางกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ออก ‘ให้เผยจื่อ!’
ภายในกลับเต็มไปด้วยยาแก้อักเสบจนแทบจะล้นออกมา…
ถึงขนาดเก็บเอาไว้ไม่หมด และร่วงออกมาไม่หยุด
จี้จือฮวนหนังตากระตุกเล็กน้อย ก่อนจะปิดกล่องยาน้อยเงียบ ๆ พลางมองเผยยวนและเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย “มันค่อนข้าง…เป็นมิตรน่ะ”
โชคดีที่เผยยวนไม่ได้ถามจี้จือฮวนว่าของประหลาดนี่คืออะไร เหตุใดถึงเขียนหนังสือได้
จี้จือฮวนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีกับเผยยวนเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ดูสิ แบบนี้ถึงจะสมกับที่เป็นคนที่เคยเห็นโลกมา ช่างสมกับที่เป็นเทพสงครามจริง ๆ!
ทว่าสิ่งที่นางไม่รู้ก็คือแม้ว่าภายนอกเผยจื่อจะดูสงบนิ่งและเป็นปกติ ทว่าในใจของเขากลับตื่นตระหนกอย่างมาก หากเขารู้จักซับกระสุนในยุคปัจจุบัน เขาคงจะส่งข้อความในใจของเขาป่าวประกาศให้ทุกคนได้รู้ไปนานแล้ว
เขายืนยันได้ว่าภรรยาของเขาไม่ใช่ปีศาจอย่างแน่นอน! เป็นเทพธิดาต่างหาก!
อาฉือเจ้าลูกโง่นั่น หากกลับมาต้องอธิบายให้เขาเข้าใจให้ได้
ยาและกล่องยาน้อยแปลก ๆ นี่ จะต้องมีอิทธิฤทธิ์มากกว่าท้อวิเศษของซีหวางหมู่ในนิทานอย่างแน่นอน
ยาหลิงเฉวียนพึมพำ หากตอนนี้ข้าออกไปได้ ข้าจะพ่นน้ำลายใส่หน้าเจ้าก่อนเลย
“มีเรื่องหนึ่งข้าต้องบอกกับเจ้าก่อน พรุ่งนี้ข้าจะเข้าไปเมืองหลวง เจ้าอยู่บ้านดูแลคนแก่กับพวกเด็ก ๆ ไม่มีปัญหาใช่หรือไม่?”
เผยยวนจึงได้สติขึ้นมา “ไปเมืองหลวง?”
“อืม ก่อนหน้านี้ข้าช่วยถังกั๋วกงเอาไว้ เขาเลยยกหย่งอันถังให้กับข้า แต่ที่ผ่านมาข้ายังไม่ว่างไปดูเลย”
เผยยวนเข้าใจแล้ว “เจ้าไปคนเดียวข้าไม่วางใจ ไท่ซ่างหวงพายอดฝีมือมามากมายเช่นนั้น ให้ข้าไปเมืองหลวงเป็นเพื่อนเจ้าเถอะ”
จี้จือฮวนคิดว่าเรื่องแค่นี้นางคนเดียวก็เอาอยู่
“บังเอิญข้ามีเรื่องที่ต้องกลับไปจัดการที่เมืองหลวงเหมือนกัน” เผยยวนกลัวว่านางจะไม่ยอมตกลง จึงรีบหาข้ออ้างขึ้นมาทันที
“เช่นนั้นก็ได้” จากนั้นจี้จือฮวนก็ไม่พูดอะไรอีก
การที่เผยยวนจะกลับเมืองหลวงไปสร้างความปั่นป่วนให้กับทะเลสาบที่เงียบสงบ หรือจะสร้างความโกลากลเพียงใดนั้น จี้จือฮวนจะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งเด็ดขาด
ตอนกินข้าวเย็น จี้จือฮวนจึงได้เอ่ยสิ่งที่ตัดสินใจออกมา
“หย่งอันถัง นับว่าเป็นร้านยาเก่าแก่ ถังกั๋วกงนับว่าใจกว้างไม่น้อย” ไท่ซ่างหวงแสดงท่าทางนับถือออกมา
อีกอย่างฝีมือการรักษาของแม่หนูฮวนฮวน แค่หย่งอันถังยังน้อยเกินไปด้วยซ้ำ อย่างน้อยก็ควรจะยกสำนักหมอหลวงให้ และเพิ่มห้องเครื่องอีกสักอย่างถึงจะคู่ควร
ความจริงแล้วจี้จือฮวนยังมีอีกจุดประสงค์หนึ่งนั่นก็คือ หากว่าทางด้านเซียวเย่เจ๋อคิดว่าสีชาดทาปากนั้นขายได้ นางวางแผนที่จะใช้หย่งอันถังเพื่อจัดตั้งโรงงานผลิตเวชสำอางด้วย เช่นนี้หมู่บ้านตระกูลเฉินก็จะกลายเป็นฐานการผลิตของนาง
แม้ว่าหมู่บ้านตระกูลเฉินจะดูห่างไกล แต่ก็ไม่ได้ไกลจากเมืองหลวงมากนัก เพียงสองวันก็ไปถึงแล้ว หากพิจารณาดูดี ๆ แล้วก็ถือว่าเป็นชายขอบของเมืองหลวง ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์เช่นนี้นับว่าไม่เลวเลยทีเดียว
“จางตงไหล!”
จางตงไหลที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รีบยกกล่องผ้าแพรขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็เลือกของที่อยู่ในนั้นพร้อมกับเอ่ยออกมา “ฮูหยินเผย ในนี้เป็นโฉนดเรือนใหญ่ในเมืองหลวง ถึงเวลาหากท่านต้องค้างคืน ไม่ต้องไปพักโรงเตี๊ยมที่สกปรกพวกนั้นหรอก คนดีคนเลวปะปนกันไปหมด ถึงเวลาท่านก็ไปพักที่เรือนหลังนี้ และจะมีคนคอยปรนนิบัติอยู่ด้วย”
ว้าว ยังเป็นเจ้าพ่อที่ดินอีกด้วยหรือนี่ ถึงยกโฉนดที่ดินให้กันง่าย ๆ เช่นนี้
ท่านป้าถลึงตาใส่ทันที ก่อนจะเหยียบเท้าของไท่ซ่างหวงที่อยู่ใต้โต๊ะอย่างแรง ทั้งยังบดขยี้ซ้ำอีกด้วย
“เจ้าอยากทะเลาะกับข้าอีกอย่างนั้นหรือ!” ไท่ซ่างหวงหันไปตะคอกใส่ท่านป้า
สองคนนี้ทะเลาะกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ทุกคนต่างก็ชินชาเสียแล้ว
ท่านป้าไม่สามารถพูดสิ่งที่คิดอยู่ในใจออกมาได้ จึงใช้สายตาสื่อสารกับไท่ซ่างหวง เจ้าโง่หรืออย่างไร? เคยฟังนิทาน อ่านหนังสือบ้างหรือไม่ ชายหญิงที่ยังไม่แต่งงานก็จะได้ค้างคืนที่โรงเตี๊ยมด้วยกัน เจ้ารู้บ้างหรือไม่! ( ̄_ ̄)
ไท่ซ่างหวงเลิกคิ้วขึ้นและใช้สายตาตอบกลับไป เมื่อครู่เหตุใดเจ้าถึงไม่พูดเล่า! ข้าให้ไปแล้วด้วย (o`з´o)
ท่านป้าส่งสายตากลับ เจ้าให้โอกาสข้าที่ใดกัน! ( ̄_ ̄)
เผยยวนได้แต่นึกสงสัย เดี๋ยวนะ สองคนนี้รู้ด้วยอย่างนั้นหรือว่าอีกฝ่ายพูดว่าอะไร?
“ท่านแม่ อาชิงอยากไปด้วยขอรับ”
อาอินและอาฉือต่างก็มองมาที่พวกเขา
ท่านป้ากับไท่ซ่างหวงจึงหยุดทะเลาะกันทันที พวกเขาไม่ได้สนใจเมืองหลวงมากนัก แต่หากฮวนฮวนจะไป พวกเขาจะยอมไปด้วยก็ได้
“ข้ามีเรื่องสำคัญต้องไปทำ อีกอย่างอาฉือก็ยังต้องไปเรียน คราวหน้าพวกเราค่อยไปด้วยกันดีหรือไม่”
ในเมื่อพูดเช่นนี้ ท่านพ่อจึงโชคดีไป
อาอินล้วงเงินจากในถุงเงินเอาให้เผยยวนถึงห้าสิบตำลึง “เอาไว้ซื้อของอร่อย ๆ ของดี ๆ ให้ท่านแม่นะเจ้าคะ”
นี่เป็นเงินจากการที่เล่นชนะในบ่อนการพนันครั้งที่แล้ว!
อาอินยอมควักเงินห้าสิบตำลึงออกมาเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่านางใจกว้างมากจริง ๆ
“อืม” เผยยวนรับปากพร้อมรอยยิ้ม