เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย - บทที่ 171 ศัตรูพบหน้า จัดการจวนจี้กั๋วกง
- Home
- เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย
- บทที่ 171 ศัตรูพบหน้า จัดการจวนจี้กั๋วกง
บทที่ 171 ศัตรูพบหน้า จัดการจวนจี้กั๋วกง
คนของจวนจี้กั๋วกงได้ยินดังนั้น จึงได้ชะโงกหน้าออกไปมองอย่างชัด ๆ
สุดท้ายไม่เพียงเห็นขุนนางขั้นสองกำลังนั่งรอพวกเขาอยู่แล้วเท่านั้น ยังมีชายชราผมขาวที่มีแววตาเย็นชาอย่างมากนั่งรออยู่ที่มุมห้องมุมหนึ่งอีกด้วย
ทุกคนร่างกายสั่นเทาขึ้นมาทันที นี่มัน…นี่มันเรื่องอะไรกัน?
จี้เม่าซวินไปเชิญจี้คังซื่อ ดังนั้นจึงมาช้ากว่าคนอื่น ๆ ทว่าเขาเพิ่งมาถึงหน้าประตูก็เห็นทุกคนยืนทำตัวเซ่อซ่าอยู่ จึงเอ่ยขึ้นมาด้วยความโมโห “มัวอึ้งอยู่ทำไม ยังไม่รีบคารวะไท่ซ่างหวงอีก!”
นับตั้งแต่ไท่ซ่างหวงสละราชสมบัติ ก็แทบไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนเลย หากไม่ใช่เพราะรู้จักจางตงไหล ต่อให้เดินผ่านหน้าพวกเขาไปก็ไม่แน่ว่าจะจำพระองค์ได้
“กระหม่อมจี้เม่าซวินคารวะ…”
ไท่ซ่างหวงปัดมือไปมา พลางเอ่ยอย่างรำคาญ “ให้ทุกคนคุกเข่าลงไปก็พอแล้ว ข้าขี้เกียจฟังพวกเจ้าพูด มันระคายหู”
คนของจวนจี้กั๋วกงต่างก็ตกตะลึง คุกเข่าหรือ?
คนที่อยู่บนพื้นกระเบื้องเรียบที่หน้าประตูยังดีหน่อย แต่คนที่ไม่สามารถคุกเข่าตรงนั้นได้ ก็ทำได้เพียงคุกเข่าบนทางเดินหินกรวดตรงทางเข้าประตู คุกเข่านาน ๆ เข่าจะไม่พังหรือนี่?
ใครบอกพวกเขาได้บ้างว่าเหตุใดไท่ซ่างหวงถึงได้มาที่นี่กัน!?
อีกอย่างคนที่มาเป็นใครกัน? ผู้หญิงพวกนั้นส่งเสียงจ้อกแจ้กจอแจเสียเหลือเกิน ดูท่าทางน่าจะเป็นแค่หญิงชาวบ้าน เหตุใดไท่ซ่างหวงถึงอยู่กับหญิงชาวบ้านได้!?
ยังมีครอบครัวพ่อแม่ลูกห้าคนที่เพิ่งลงมาจากรถม้า นายหญิงคนนั้นเหตุใด…เหตุใดถึงได้…
“เซี่ยชิงหรู?” ในที่สุดก็มีคนเอ่ยชื่อที่ทุกคนลืมไปนานแล้วออกมา
ทุกคนในจวนต่างก็มองไปที่นางจนเป็นตาเดียวกัน
สตรีที่เดินเข้ามามีใบหน้าที่เย็นชา เครื่องหน้างดงาม ภายใต้แสงแดด แม้ว่านางจะสวมเพียงชุดเรียบ ๆ ก็ยากที่จะปิดบังท่าทางที่สง่างามเอาไว้ได้
ใบหน้านั้น เหมือนกับเซี่ยชิงหรูตอนสาว ๆ ไม่มีผิด
คนของจวนจี้กั๋วกงต่างก็ตกตะลึง ผู้หญิง…ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน!
อาชิงวิ่งนำไปที่ข้างกายของไท่ซ่างหวงแล้ว พลางกางแขนทั้งสองข้างออกเพื่อต้องการให้เขาอุ้ม
ก่อนจะเห็นไท่ซ่างหวงที่เมื่อครู่ยังทำหน้าบึ้งตึง ทว่าตอนนี้กลับยิ้มจนตาหยี แล้วก้มตัวลงอุ้มอาชิงน้อยมานั่งบนตัก จากนั้นก็ปรายตามองไปทางคนของจวนจี้กั๋วกง แล้วเอ่ยกับอาชิง “เห็นหรือยัง คนพวกนี้แหละที่รังแกท่านแม่ของเจ้า ต่อไปเจ้าต้องกตัญญูกับท่านแม่ให้มาก ๆ อย่าเอาอย่างพวกจิตใจเหี้ยมโหดเสมือนหมาป่าพวกนี้เด็ดขาด”
อาชิงน้อยพยักหน้ารับ “เช่นนั้นก็ให้พวกเขาไปเก็บปุ๋ยมูลสัตว์ที่หมู่บ้านเถอะขอรับ! ไม่ต้องให้พวกเขากินข้าวด้วย!”
ไท่ซ่างหวงหัวเราะจนตาหยี “ความคิดนี้ไม่เลว! เจ้าเด็กแสบร้ายไม่เบา”
คนของจวนจี้กั๋วกงได้ยินดังนั้นก็มีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันที อะไรนะ? เก็บปุ๋ยมูลสัตว์? พวกเขาเป็นชนชั้นสูง จะไปทำเรื่องเช่นนนั้นได้อย่างไรกัน
แต่พวกเขาก็ยังอยากรู้ว่าสตรีที่มีใบหน้าคล้ายกับเซี่ยชิงหรูผู้นี้เป็นใคร
“นางคงไม่ใช่จี้จือฮวนหรอกกระมัง”
ประโยคเดียว ทำให้ทุกคนในจวนจี้กั๋วกงตกใจจนตาแทบจะถลนออกมาจากเบ้า
จี้จือฮวน? ผู้หญิงที่งดงามเพียงนี้จะเป็นจี้จือฮวนไปได้อย่างไร? เว้นแต่ว่าพวกเขาจะเห็นผีตอนกลางวันแสก ๆ
“บุรุษที่อยู่ข้างกายนางคือเผยยวนไม่ใช่หรือ?”
ทุกคนมองไปที่เผยยวนโดยพร้อมเพรียงกัน เขากำลังมองไปที่ใบหน้าของจี้จือฮวน ใบหน้าคมประดับด้วยรอยยิ้มที่สดใส เหมือนกับใบหน้าของแม่ทัพหนุ่มที่พวกเขาเคยเห็นที่งานเลี้ยงในวังก่อนหน้านี้
สวรรค์ ดังนั้นผู้หญิงคนนี้ก็คือจี้จือฮวนที่ถูกจับยัดขึ้นเกี้ยวเพื่อแต่งงานกับเผยยวนแทนจี้หมิงซู และเป็นคนที่ถูกพวกเขารังแกตั้งแต่เด็กจนโตจริง ๆ น่ะสิ
จากนั้นจี้จือฮวนและเผยยวนก็จูงมือเด็กน้อยมาคนละคน เดินมาหยุดอยู่ที่ข้างกายของไท่ซ่างหวง จางตงไหลกระแอมเล็กน้อย พลางมองไปที่คนของจวนจี้กั๋วกงที่กำลังตกตะลึงเหล่านั้นแล้วเอ่ยขึ้นมา “ที่พวกเรามาวันนี้ก็เพื่อมาทวงความยุติธรรมให้กับแม่นางจี้”
จี้คังซื่อเมื่อเห็นว่าเป็นจี้จือฮวนจริง ๆ ก็ยืดตัวขึ้นและยิ้มอย่างเสแสร้งส่งให้จี้จือฮวนทันที “ที่แท้จือฮวนก็กลับมาแล้ว ย่าไม่ได้เห็นเจ้ามาพักใหญ่ พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน เจ้าทำให้เป็นเรื่องใหญ่เช่นนี้ ไม่เท่ากับจะทำให้คนนอกหัวเราะเยาะเอาหรอกหรือ?”
เมื่อก่อนนางไม่แม้แต่จะมองจี้จือฮวนด้วยซ้ำ ยิ่งไม่มีทางยอมรับว่าตนเองเป็นย่าของจี้จือฮวนเด็ดขาด
จี้จือฮวนเป็นความอัปยศของจวนจี้กั๋วกง จี้คังซื่อตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าไท่ซ่างหวงหนุนหลังนางจริงหรือไม่ ดังนั้นจึงแสร้งเอ่ยออกมาเช่นนี้
จี้จือฮวนนั่งลงอย่างสบาย ๆ ยังไม่ทันได้รีดรอยยับย่นบนกระโปรงให้เรียบร้อยก็ได้ยินประโยคนี้ดังขึ้นมา นางจึงค่อย ๆ เงยหน้าและพูดขึ้น “ผู้ใดกำลังพูด?”
“…” น้ำเสียงเย็นชานี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง
นางเรียกตัวเองว่าย่าแล้ว ยังจะถามอีกว่าเป็นใคร นี่กำลังแกล้งโง่ใช่หรือไม่?
จี้เม่าซวินทนมองจี้จือฮวนวางท่าเช่นนี้ไม่ไหว “จี้จือฮวน เจ้าออกไปไม่นานก็ลืมว่าตัวเองเป็นคนที่ใดแล้วอย่างนั้นหรือ? คนเนรคุณ”
จี้เม่าซวินยังคิดว่าเป็นเมื่อก่อน อยากด่าอย่างไรก็ด่า อยากตีอย่างไรก็ตี
น่าเสียดายที่จี้จือฮวนตอนนี้ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว เกือบจะทันทีที่เสียงแข็งกร้าวของจี้เม่าซวินดังขึ้น ไม่ต้องรอให้ไท่ซ่างหวงเอ่ยปาก พวกฟางจวิ่นเหมยก็กระทืบเท้าขึ้นมา ก่อนจะกระแอมเล็กน้อยแล้วเริ่มด่าทันที
“เจ้าเป็นตัวอะไรกัน ฮวนฮวนของเราเป็นคนที่เจ้าสามารถเรียกได้อย่างนั้นหรือ?
ยังไม่คุกเข่าให้ดี ๆ อีก สายตาเจ้ามองไปที่ใดกันแน่?
หน้าตาชั่วร้าย แค่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีอะไร”
จี้เม่าซวินโมโหอย่างมาก ส่วนจี้คังซื่อก็จ้องจี้จือฮวนเขม็ง
ทว่าทันใดนั้นจี้จือฮวนก็ยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ฮูหยินผู้เฒ่าจี้เรียกผิดแล้วกระมัง ท่านเป็นคนพูดเองไม่ใช่หรือ ว่าท่านไม่มีหลานสาวที่ชื่อว่าจี้จือฮวน ข้ากับจวนจี้กั๋วกงของพวกท่านเป็นเพียงศัตรู ไม่ใช่ญาติ”
เมื่อเอ่ยเช่นนี้ ทุกคนก็นึกขึ้นมาได้ทันที
จี้จือฮวนในตอนนั้นยังสู้สาวใช้ที่ทำงานชั้นต่ำไม่ได้ด้วยซ้ำ หากบังเอิญพบจี้จือฮวนที่ทำงานอยู่ที่เรือนด้านหลังก็จะไม่มีใครสนใจนาง ส่วนฮูหยินผู้เฒ่าจี้ก็ด่าว่าจี้จือฮวนว่าเป็นตัวซวยต่อหน้าคนรับใช้อยู่หลายครั้ง
แต่…แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น นั่นก็เป็นเพราะนางดวงไม่ดีเอง แล้วกล้าพาคนมาหาเรื่องจวนจี้กั๋วกงได้อย่างไรกัน?
จี้เม่าซวินโกรธจนใบหน้าแดงก่ำ “นางลูกทรพี ตอนนี้เจ้าก็อยู่ดีไม่ใช่หรือ แผลบนหน้าก็รักษาหายแล้ว เจ้ายังมีอะไรไม่พอใจอีก?”
เผยยวนเลิกคิ้วขึ้นและมองไปที่จี้เม่าซวิน ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา “จี้กั๋วกงช่างใหญ่โตจริง ๆ เผยยวนไม่เคยรู้เลยว่า เมื่อก่อนภรรยาของข้าตอนอยู่ที่จวนของพวกท่านถูกพวกท่านเหยียบย่ำถึงเพียงนี้?”
พวกเขาอาจไม่สนใจจี้จือฮวนได้ แต่ไม่สามารถทำเป็นไม่สนใจเผยยวนได้
และตอนนั้นใครก็คิดไม่ถึงว่าเผยยวนจะมีชีวิตรอดกลับมา เหตุใดเขาถึงยังไม่ตายอีก! คนใกล้ตายอะไรกัน ถึงขยับแขนขาได้คล่องแคล่วเพียงนี้
จี้จือฮวนรู้สึกว่าเสียเวลากับที่นี่มามากเกินพอแล้ว จึงเอ่ยขึ้นมา “ซาน ซื่อ อู่ ลิ่ว”
คนสี่คนที่ตามลงมารีบมาอยู่ข้างกายของจี้จือฮวนทันที แล้วเอ่ยประจบขึ้นมา “ลูกพี่ฮวนฮวน พวกเราอยู่นี่ขอรับ”
“พวกเจ้าคุ้นเคยกับจวนจี้กั๋วกงดีไม่ใช่หรือ ไปที่ห้องบัญชีแล้วพาคนพร้อมสมุดบัญชีเก่า ๆ ออกมาให้หมด อย่าให้ขาดแม้แต่เล่มเดียว”
“ขอรับ ลูกพี่ฮวนฮวน!”
ซาน ซื่อ อู่ ลิ่ว รีบเข้าไปจัดการทันที ขณะเดินผ่านพวกจี้กั๋วกง พวกเขาก็ไม่แม้แต่จะปรายตามองด้วยซ้ำ
พวกเขามองออกว่าการติดตามลูกพี่ฮวนฮวนต่างหากถึงจะมีอนาคต ไม่เห็นหรือว่าแม้แต่ไท่ซ่างหวงยังถูกนางพากลับมาบ้านได้เลย? พวกจวนจี้กั๋วกงไหนเลยจะสู้ลูกพี่ฮวนฮวนได้
ยังดีที่พวกเขาถูกลูกพี่ฮวนฮวนจับตัวไปเป็นกลุ่มแรก ๆ รอต่อไปหากมีลูกน้อง พวกเขาก็จะได้เป็นลูกพี่แล้ว
จะไม่ตั้งใจทำงานได้อย่างไรกัน