เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย - บทที่ 224 เพราะเป็นคนหนุ่มสาว
บทที่ 224 เพราะเป็นคนหนุ่มสาว
นี่เป็นครั้งแรกที่ไท่ซ่างหวงได้รู้ว่าที่นางความจำเสื่อมเป็นเพราะถูกคนลอบทำร้าย อีกทั้งยังเป็นผู้ช่วยมือหนึ่งที่อยู่ข้างกายของเซี่ยเจินอย่างหานเหล่ยอีกด้วย
การที่ได้รับรู้เรื่องนี้ทำให้ความเกลียดชังที่ไท่ซ่างหวงมีต่อเซี่ยเจินเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า
ยิ่งไปกว่านั้นเซี่ยเจินเป็นเพียงหนึ่งในบรรดาลูกชายมากมายของเขา ทว่าเป็นคนก็มักจะมีความลำเอียง ดังนั้นคนที่เขารักที่สุดย่อมเป็นลูกชายและลูกสาวที่เกิดจากภรรยาคนแรกของเขา แต่น่าเสียดายที่ลูกชายคนโตเสียไปตั้งแต่อายุยังไม่มากเท่าไร ดังนั้นเขาจึงมอบความรักทั้งหมดให้กับเซี่ยวั่งซู
หากมิใช่เพราะเซี่ยเจินหน้าตาเหมือนกับลูกชายคนโตของเขาถึงแปดส่วน ก็ไม่แน่ว่าเขาจะโปรดปรานเซี่ยเจินหรือไม่
เซี่ยวั่งซูต้องแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ เป็นเรื่องที่ไท่ซ่างหวงเสียใจมาตลอดหลายปี บัดนี้นางกลับแสดงออกอย่างจริงใจว่ากลับมาที่นี่เพราะเขา ไท่ซ่างหวงขอบตาแดงเรื่อและเกือบจะร้องไห้ออกมา
เซี่ยวั่งซูรู้สึกเอือมระอา จึงสะบัดผ้าเช็ดหน้าส่งไปให้ “ตอนนี้ลูกสบายดี ท่านเองก็ร่างกายแข็งแรง เด็ก ๆ ในครอบครัวของเราถูกคนมาหาเรื่องถึงที่ ท่านจะมาเอะอะก็ตาแดงก่ำเช่นนี้ไม่ได้นะ พูดออกไปไม่กลัวคนหัวเราะเยาะท่านหรืออย่างไร?”
ไท่ซ่างหวงคิดว่าลูกสาวของเขากลับมาแล้ว เขามีอะไรต้องกลัวกัน จึงพึมพำออกมาประโยคหนึ่ง “พวกเขามีลูกสาวดี ๆ เช่นข้าที่ไหนกัน ข้ามีอะไรต้องอายด้วย”
เซี่ยวั่งซูจ้องเขาครู่หนึ่งมุมปากก็โค้งขึ้นเล็กน้อย และคิดด้วยความภูมิใจว่า นั่นก็จริง
“ดีจังเลย ๆ ท่านป้าหายป่วยแล้ว ต่อไปก็จะไม่ป่วยอีกใช่หรือไม่ขอรับ?” อาชิงน้อยปรบมือด้วยความดีใจ พลางเอียงคอมองไปทางจี้จือฮวน
แต่อาการบาดเจ็บทางสมองไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ จี้จือฮวนจึงหยิบกล่องยาน้อยขึ้นมา และพาท่านป้าไปตรวจดูอย่างละเอียดอีกรอบ
“ตอนนี้ไม่น่าจะมีอะไรร้ายแรงแล้ว แต่ช่วงนี้ท่านป้าไม่ควรทำอะไรหนักมากเกินไป อย่าให้อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ พยายามอารมณ์ดีเข้าไว้” ผ่านไปสักพักจี้จือฮวนจึงเอ่ยออกมา
ทั้งครอบครัวต่างก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ขณะเดียวกันเซียวเย่เจ๋อก็ได้มาเคาะประตูด้านนอก “แม่ทัพเผย!”
เผยยวนได้ยินเสียงของเขาก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที เพิ่งจะเปิดประตูออก เซียวเย่เจ๋อก็มุดเข้ามาแล้ว เมื่อเห็นทุกคนในบ้านอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาก็เอ่ยด้วยความประหลาดใจขึ้นมา “ฮ่องเต้ใกล้ถึงแล้วใช่หรือไม่ขอรับ เช่นนั้นพวกเราควรทำเช่นไรดี?”
ก็คิดว่าเขาจะมีเรื่องอะไรสำคัญเสียอีก มาเพราะเรื่องแค่นี้เนี่ยนะ?
อยากมาก็มา กลัวเขาทำไมกัน
ไท่ซ่างหวงแค่นเสียงเย็นออกมาและพูดขึ้นเป็นคนแรก ประกายวาวโรจน์พาดผ่านดวงตาของเซี่ยวั่งซู นางยังกลัวว่าน้องสิบแปดผู้นี้จะไม่มาเสียอีก
เซียวเย่เจ๋อเห็นปฏิกิริยาของทุกคนแล้ว ก็เอ่ยออกมาอย่างอึดอัด “ได้ยินว่าพาคนมาด้วยไม่น้อย…”
“ฟ้าถล่มลงมายังมีข้าคอยค้ำให้เจ้าอยู่ เจ้าจะกลัวอะไรกัน!” ไท่ซ่างหวงเขวี้ยงลูกสาลี่ใส่เขา “สู้อาหญิงของเจ้าก็ไม่ได้! ยังดีที่จวนโหวของพวกเจ้ามีลูกหลานมากมาย ให้พ่อเจ้ารีบมีลูกอีกหลาย ๆ คนเถอะ!”
มีเซียวเย่เจ๋อเข้ามาเป็นตัวตลก ทำให้บรรยากาศที่ตึงเครียดอยู่นั้นคลายลงไป หลังจากกินข้าวเสร็จทุกคนก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำ เพียงแต่การป้องกันของหมู่บ้านตระกูลเฉินกลับเข้มงวดกว่าเดิม แม้แต่เสียงเห่าของสุนัขในหมู่บ้านก็ฟังดูดุดันขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
ตอนที่จี้จือฮวนเข้าไปอาบน้ำเผยยวนก็เฝ้าอยู่ด้านนอก เขาจึงใช้น้ำจากภูเขาในการอาบน้ำสระผม เมื่อนางออกมาเขาก็ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดตัวอย่างลวก ๆ แม้ผมจะยังเปียกอยู่แต่เขาก็ยังเข้าไปช่วยเทน้ำให้นาง
ภายในห้องอาบน้ำมีแสงเทียนสลัว ๆ จี้จือฮวนจึงมองเห็นหยดน้ำที่เกาะอยู่บนร่างกายของเขาและไหลไปตามมัดกล้ามก่อนจะหายเข้าไปในกางเกงได้อย่างชัดเจน เย้ายวนจนทำให้คนไม่อาจละสายตามองไปทางอื่นได้
ตอนนั้นเองเผยยวนก็หันมาเอ่ยกับนาง “แผลที่หลังไม่ได้เปียกน้ำใช่หรือไม่? ให้ข้าช่วยใส่ยาให้เจ้าดีหรือไม่?”
เขารวบรวมความกล้าถามออกไป ใบหูของเขายังคงแดงเรื่ออยู่
จี้จือฮวนมองไปที่แขนที่แข็งแรงของเขา ก่อนจะเลิกคิ้วแล้วเอ่ยตอบรับ “เช่นนั้นข้าจะกลับไปรอเจ้าที่ห้อง”
เผยยวนยกยิ้มขึ้นมาทันที “ข้าจะรีบตามไป”
นางไม่ได้หันไปมองเขาอีก แต่รูปร่างผู้ชายของนางไม่เลวจริง ๆ…ดีมากจริง ๆ…ไม่เสียแรงที่ยาหลิงเฉวียนช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้เขา บวกกับการฝึกฝนในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เขาดูดีขึ้นในแบบที่ตรงกับใจของนางทุกอย่าง
จี้จือฮวนบิดผมและกลับไปที่ห้อง ส่วนเผยยวนก็เอาน้ำไปเททิ้งข้างนอกและถูห้องน้ำจนสะอาด จึงได้เตรียมจะกลับไปที่ห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า
แต่คิดไม่ถึงว่าพอเข้ามาก็เห็นเซียวเย่เจ๋อนอนอยู่บนเตียงของเขา พร้อมทำท่ายั่วยวนพลางขยิบตาให้เขา ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา “แม่ทัพเผย~~~”
เผยยวนมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันที “เจ้าอยากตายหรือ?”
เซียวเย่เจ๋อจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย “เหตุใดท่านถึงพูดกับข้าเช่นนี้เล่า ข้าเตรียมของดีเอาไว้เพื่อท่านเชียวนะ! ถึงกับให้คนที่เมืองหลวงเอามาส่งให้โดยเฉพาะ!”
เผยยวนเดินผ่านเขาไปด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง จากนั้นก็ดึงเขาลงจากเตียง “อย่ามาแตะเตียงของข้า”
เซียวเย่เจ๋อเองก็ไม่ได้หงุดหงิดแต่อย่างใด มิหนำซ้ำยังเอาตัวมาถูไถกับเขา พลางตบต้นขาของเขาเบา ๆ แล้วผิวปากออกมา “ท่านไม่ดูจริงหรือ? ขอเพียงได้ดูสิ่งนี้ ก็จะไม่มีสตรีคนไหนไม่รักท่านอีก”
เผยยวน “???”
เซียวเย่เจ๋อล้วงเอาสมุดภาพที่มีสีสันเล่มหนึ่งออกมาจากด้านหลังพร้อมรอยยิ้มชั่วร้าย “ภาพสีฉบับสะสม มีอะไรไม่เข้าใจท่านค่อยมาถามข้าก็แล้วกันนะ!”
เอ่ยจบเซียวเย่เจ๋อก็วิ่งไปที่หน้าประตูอย่างมีความสุข จากนั้นก็ยื่นหน้าเข้ามา “คืนนี้ข้าจะไปนอนเบียดกับพวกเซียวผิง ท่านตั้งใจศึกษาไปนะ!”
เผยยวนมองสมุดในมือ ก็รู้สึกว่ามันร้อนลวกมือยิ่งนัก
เขาไม่ใช่เด็กสิบกว่าขวบที่ไม่รู้อะไร เด็กที่เกิดในตระกูลโหวทั้งหลายย่อมมีคนคอยดูแล เมื่อก่อนเพื่อจะควบคุมเขา ตั้งแต่อายุสิบสามสิบสี่เซี่ยฉงฟางก็ส่งสาวใช้หน้าตางดงามเข้ามาในเรือนของเขาแล้ว
บางคนหาญกล้าอาศัยตอนที่เขาหลับปีนขึ้นเตียงก็มี ตอนนั้นแค่เขาเห็นสตรีก็รู้สึกรำคาญแล้ว
หนังสือเหล่านี้บางครั้งเขาก็เห็นในห้องหนังสือ และใต้หมอนของสหายเช่นกัน
หากบอกว่าไม่เข้าใจอะไรเลยนั่นย่อมเป็นไปไม่ได้ บางครั้งแค่เขาเข้าใกล้ฮวนฮวนเพียงเล็กน้อย และได้กลิ่นหอมบนกายของนาง สิ่งนั้นของเขาก็ขยายจนปวดหนึบขึ้นมา
เผยยวนคิดว่าตัวเองต้องเตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อย ค่อยจัดงานแต่งงานอย่างเป็นทางการ เขาจะมาดูของพวกนี้ได้อย่างไรกัน
ขณะที่กำลังเตรียมจะเอาหนังสือภาพไปซ่อน จี้จือฮวนก็ผลักประตูเข้ามาพอดี “ยังไม่เสร็จหรือ?”
เมื่อครู่นางเห็นเซียวเย่เจ๋อเดินลงเนินไปอย่างมีความสุข จึงได้มาหาเผยยวน แต่ใครจะไปคิดว่าเมื่อเข้ามากลับทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก
แปะ
หนังสือภาพที่เดิมยังถืออยู่ในมือร่วงลงบนพื้นทันที
ดวงตาของเผยยวนเบิกโพลง ขณะที่เขากำลังจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อเตะหนังสือภาพออกไป เจ้าลูกเสือเมี้ยวเมี้ยวก็เดินเข้ามา ตอนนี้มันตัวใหญ่กว่าสุนัขทั่วไปเล็กน้อย พลางใช้อุ้งเท้าเหยียบลงไปบนพื้นจนเกิดเสียงดังขึ้น
จากนั้นก็นำหนังสือภาพที่ร่วงอยู่บนพื้นมาเล่น โดยใช้อุ้งเท้าเปิดหน้าแรกออกต่อหน้าต่อตาเผยยวน…
สมกับที่เป็นของดีเมืองหลวง สามารถเปิดได้อย่างง่ายดาย พลิกไปมาได้อย่างลื่นไหล เมื่อเปิดเร็ว ๆ ราวกับหนังสือภาพที่เคลื่อนไหวได้ก็มิปาน…
บรรยากาศนิ่งสงบไปชั่วขณะ
จี้จือฮวนมองไปที่หนังสือภาพบนพื้น และสายตาก็ไล่ขึ้นมาจนหยุดอยู่ที่หน้าท้องของเผยยวนอย่างช้า ๆ
ร่างกายของเผยยวนแข็งทื่อขึ้นมาทันที คำพูดที่ต้องการจะอธิบายติดอยู่ในลำคอ พูดไม่ออกอยู่นาน
และสิ่งแรกที่เขาคิดก็คือ เขาจะฆ่าเซียวเย่เจ๋อ!!!!
จี้จือฮวนคิดไปคิดมา “อืม วัยหนุ่มเปี่ยมไปด้วยกำลังวังชา ข้าเข้าใจได้ เจ้าเสร็จแล้วค่อยมาเรียกข้าก็แล้วกัน”
เผยยวนกะพริบตาปริบ ๆ จี้จือฮวนยังเอ่ยด้วยความเห็นอกเห็นใจขึ้นมาอีก “ข้าจะทำเป็นไม่เห็น ไม่บอกใครแน่นอน”
นางคิดดูแล้วอย่าทำให้คนตกใจจะดีกว่า จึงหันกลับมาแล้วเอ่ยขึ้น “วาดได้…งดงามมากทีเดียว”
เผยยวน “…”
จี้จือฮวนถอยออกไปและกำลังจะออกจากห้อง ก็มีคนคว้าข้อมือแล้วดึงนางกลับเข้าไปเสียก่อน
.
.
.