เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย - บทที่ 293 ชะตาฮองเฮา
บทที่ 293 ชะตาฮองเฮา
กลางดึก
ตอนที่จี้หมิงซูมาถึงบ่อน มีคนกลุ่มหนึ่งเดินออกมาพอดี
ชายที่เป็นผู้นำสวมชุดสีน้ำเงิน หล่อเหลาสง่างาม รองเท้าสีขาวเหยียบลงบนพื้นสกปรก ราวกับหยกงามที่ถูกปกคลุมด้วยฝุ่น คนผู้นี้ก็คือเว่ยเจ๋อเซิง เป็นศิษย์ระดับสูงของเทพพยากรณ์ คุณชายรูปงามที่ร่ำลือกัน ไม่รู้ว่ามีสตรีชื่นชอบเขามากเพียงใด แต่น่าเสียดายที่ชาติก่อนเว่ยเจ๋อเซิงเป็นคนที่ไม่เข้าใกล้สตรี
พวกเขาไม่ได้สังเกตเห็นจี้หมิงซูที่หลีกทางให้พวกเขา เพราะกำลังรู้สึกหงุดหงิดกันอยู่
“ศิษย์พี่ เจ้าเจียงเช่อตั้งใจหลบเราขอรับ!”
“หึ เจ้าคนหลอกลวงหักหลังบรรพจารย์ อย่าให้พวกเราจับได้เชียว”
หลังจากจี้หมิงซูเห็นพวกเขาจากไปแล้ว จึงเดินไปตามทิศทางที่อยู่ในความทรงจำ เข้าไปในตรอกด้านหลังบ่อนก็ได้พบกับเจียงเช่อ
ความรู้สึกที่จี้หมิงซูมีต่อเจียงเช่อนั้นค่อนข้างซับซ้อน ชาติก่อนนางเป็นอนุของเผยยวน แต่มีครั้งหนึ่งนางไปดื่มที่หอสุราจากนั้นก็อยากมาบ่อน องครักษ์ของตระกูลเผยมีหน้าที่แค่รับผิดชอบดูแลความปลอดภัยให้นางเท่านั้น ทุกคนล้วนรู้ดีว่าสักวันนางต้องถูกเผยยวนทิ้ง ดังนั้นนางจะไปที่ใดพวกเขาจึงไม่ก้าวก่าย
ในครั้งนั้นนางได้พบกับเจียงเช่อ
ผู้ชายตาบอดทั้งสองข้าง เนื้อตัวสกปรกราวกับคนเร่ร่อน แต่กลับขอร้องให้นางช่วยเขา
โดยบอกว่าเขาสามารถทำนายดวงชะตาได้ และคำนวณได้อย่างแม่นยำ แลกกับข้าวกินเท่านั้น
แน่นอนว่าจี้หมิงซูไม่สนใจเขา เพราะนางไม่ใช่คนใจดีอะไร แต่เจียงเช่อผู้นั้นกลับดึงชายกระโปรงของนางเอาไว้ พลางลูบลายมือของนางแล้วเอ่ยขึ้นมา “แม่นางจะตาย ทางที่ดีออกจากเมืองหลวงไปเสียตอนนี้ มิเช่นนั้นจะนำความตายมาสู่ตัวเอง”
แน่นอนว่านางไม่เชื่อ ทั้งยังให้องครักษ์ของตระกูลเผยทุบตีเจียงเช่ออีกด้วย
ไม่กี่เดือนต่อมาก็มีเทพนักพยากรณ์ปรากฏตัวขึ้นข้าง ๆ ฮ่องเต้เซี่ยเจิน ผู้ที่ช่วงชิงตำแหน่งราชครูไป ฮ่องเต้เซี่ยเจินไว้วางใจเขาเป็นอย่างมาก และเจียงเช่อผู้นั้นยังเป็นบุคคลที่เข้านอกออกในตระกูลใหญ่ต่าง ๆ ช่วยสตรีในเรือนหลังทำร้ายผู้อื่น ขอเพียงให้เงินไม่มีอะไรที่เจียงเช่อทำไม่ได้
ครั้งนี้นางจะช่วยเจียงเช่อ นางจะให้เจียงเช่อทุ่มเทความสามารถเพื่อนาง การจะมัดบุรุษผู้หนึ่ง สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมัดใจเขาให้ได้ เช่นนี้แผนการของนางจึงจะสามารถสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
จี้หมิงซูเตะตะกร้าผุ ๆ ที่อยู่ในความทรงจำใบนั้นออก ก็พบเจียงเช่อที่หายใจรวยรินอยู่ที่มุมหนึ่งจริง ๆ
เหมือนเมื่อชาติก่อน เจียงเช่อเมื่อเห็นนางก็จับเอาไว้ทันที ครั้งนี้จี้หมิงซูเอ่ยกับเขาด้วยรอยยิ้ม “ข้าจะพาเจ้ากลับบ้าน”
ตอนที่เจียงเช่อตื่นขึ้นมา ก็รู้สึกว่าร่างกายอบอุ่นและหอมกรุ่น แตกต่างจากตรอกที่มืดมิดและเหม็นอับอย่างสิ้นเชิง
“เจ้าตื่นแล้วหรือ?”
เสียงของสตรีที่อ่อนโยนดังขึ้นข้าง ๆ เจียงเช่อเอียงหัวเล็กน้อย เขามองไม่เห็น แต่ด้วยเหตุนี้เขาจึงสามารถได้กลิ่นหอมของยาจาง ๆ จากกายของหญิงสาวได้
“ที่นี่คือที่ใด?” เสียงของเจียงเช่อแหบแห้งเล็กน้อย
จี้หมิงซูเอ่ยอย่างอ่อนโยน “ที่นี่เป็นบ้านข้า ร่างกายของเจ้ารู้สึกดีขึ้นหรือยัง?”
จี้หมิงซูรู้ดีว่าเจียงเช่อเป็นคนประเภทเดียวกันกับนาง แต่เขายังสู้นางไม่ได้
เขาเป็นแค่ลูกของหญิงโสเภณี ตั้งแต่เด็กเขาทำชั่วทุกรูปแบบเพียงเพื่อต้องการปีนขึ้นไป และเหยียบย่ำทุกคนเอาไว้ใต้ฝ่าเท้า เป็นคนวิกลจริตโดยสมบูรณ์แบบ
แต่คนเช่นนี้ยังต้องการความรักและความเอาใจใส่อยู่ ขอเพียงเอาชนะใจเขาได้ เขาก็จะทุ่มสุดตัวและมอบทุกสิ่งให้กับนาง
แต่นางไม่ได้ต้องการเขาเช่นนั้น เขาต่ำต้อยเพียงนั้นนางจะผูกมัดตัวเองกับคนเช่นนี้ได้อย่างไร
เป็นคนตาบอดก็ดี ตาบอดก็จะมองไม่เห็นใบหน้าของนางในตอนนี้ เมื่อเขาลุ่มหลงกับความอ่อนโยนของนาง เขาก็จะช่วยนางอย่างเต็มกำลัง
“ขอบคุณแม่นางที่ช่วยเหลือ ข้าสร้างความลำบากให้กับเจ้าหรือไม่” ดวงตาของเจียงเช่อกลอกไปมาใต้หนังตา จี้หมิงซูเห็นทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในสายตา รู้ว่าเขากำลังหยั่งเชิงฐานะของนางอยู่
จี้หมิงซูจึงเอ่ยด้วยเสียงที่โศกเศร้า “ข้าไม่มีที่พึ่งพิง เห็นเจ้าน่าสงสารจึงพากลับมาด้วย”
แล้วก็จริง คำพูดนี้จี้จุดอ่อนของเจียงเช่อเต็ม ๆ จี้หมิงซูยกโจ๊กขึ้นมาป้อนให้เขา ทั้งยังทำความสะอาดบาดแผลให้เขาด้วย
ความจริงแล้วหน้าตาของเจียงเช่อก็นับว่าหล่อเหลา แต่เมื่อเทียบกับเผยยวนและเซี่ยหยางแล้วยังด้อยกว่าเล็กน้อย จี้หมิงซูเพียงต้องการอาศัยประโยชน์จากโชคของเขา เพื่อกลับไปอยู่ในสายตาของทุกคนในเมืองหลวงและกลับไปหาเซี่ยหยางอีกครั้ง
นางไม่อยากพึ่งเซี่ยหยางฝ่ายเดียว นางต้องกลายเป็นคนที่มีประโยชน์ เซี่ยหยางถึงจะรักและเคารพนางต่อไป
ส่วนเจียงเช่อ เมื่อเวลาผ่านไปนางจะกลายเป็นสตรีที่เขาไม่อาจปล่อยไปได้อย่างแน่นอน
“แม่นางช่างมีจิตใจดีงาม ผู้น้อยไม่มีสิ่งใดตอบแทน ผู้น้อยไม่มีอะไรติดกาย แต่มีความสามารถอย่างหนึ่ง ไม่ทราบว่าแม่นางจะยอมให้ผู้น้อยสัมผัสฝ่ามือได้หรือไม่ขอรับ”
จี้หมิงซูจะไม่ยอมได้อย่างไร “ข้าเป็นคนน่าสงสาร มีอะไรให้ทำนายกัน เจ้าอยากจะดูก็ดูเถอะ”
เจียงเช่อสัมผัสฝ่ามือที่อ่อนนุ่มของนาง และพบว่ามีรอยแผลเป็นจำนวนมาก ที่เกิดจากตอนถูกทรมานที่ศาลต้าหลี่ โชคดีที่คนของหานกุ้ยเฟยนำนางออกมาอย่างปลอดภัยในช่วงที่ถูกทรมาน มิเช่นนั้นนิ้วของนางก็คงจะใช้การไม่ได้อีก
ทันทีที่เจียงเช่อสัมผัสมือนี้ เขาก็แน่ใจว่าจี้หมิงซูไม่ได้โกหก เพียงแต่ลูบไปลูบมาเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ใจของจี้หมิงซูเต้นเร็วขึ้นมาทันที “มีอะไรอย่างนั้นหรือ?”
“น่าเสียดาย ลายมือของแม่นาง ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก”
“น่าเสียดายอันใดหรือ?” จี้หมิงซูแทบหยุดหายใจ
เจียงเช่อขมวดคิ้วแล้วเอ่ยขึ้นมา “ลายมือของแม่นาง เดิมควรเป็นหงส์เหนือใต้หล้า เพียงแต่มีคนขัดขวางจึงพลาดจากโชคชะตาเดิมไป บางทีอาจเป็นเพราะข้าทำนายพลาดก็เป็นได้ ไม่ทราบว่าวันเดือนปีเกิดของแม่นางคืออะไรอย่างนั้นหรือ?”
จี้หมิงซูรีบบอกวันเดือนปีเกิดให้เขารู้ ในใจกลับเต็มไปด้วยความเคียดแค้น จะไม่ให้แค้นได้อย่างไร หากไม่ใช่เพราะจู่ ๆ จี้จือฮวนโผล่มา นางก็คงไม่มีสภาพเช่นนี้!
นางคงจะยังเป็นสตรีอัจฉริยะอันดับหนึ่ง! จี้หมิงซูที่ทุกคนอิจฉา!
เจียงเช่อคำนวณพลางพึมพำในใจไปด้วย สุดท้ายก็ส่ายหน้าไปมา “แม่นาง ช่างน่าเสียดายจริง ๆ ขอรับ ชะตากรรมถูกกำหนดเอาไว้แล้ว กำหนดว่าไม่สามารถได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการได้”
จี้หมิงซูหายใจกระชั้น “ขอเรียนคุณชายตามตรง ข้าถูกคนทำร้ายจริง ๆ และคนที่ทำร้ายข้าก็คือพี่น้องแท้ ๆ ของข้า ไม่ทราบว่ามีวิธีใดสามารถขจัดความวุ่นวายและทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้หรือไม่?”
เจียงเช่อคิดไปคิดมา “หากชะตาของอีกฝ่ายดีกว่า สามารถเปลี่ยนชะตากันได้”
ชะตาของจี้จือฮวน? คนสารเลวเช่นนั้นใครจะอยากเปลี่ยนด้วย
แต่สิ่งนี้ก็ช่วยเตือนสติจี้หมิงซู นางคิดไปคิดมาจึงบอกวันเดือนปีเกิดของจี้จือฮวนกับเจียงเช่อ “นี่เป็นวันเดือนปีเกิดของนาง สามารถทำนายชะตาของนางได้หรือไม่?”
เจียงเช่อได้ยินดังนั้นก็เริ่มทำนายทันที ก่อนจะคำนวณถึงสามครั้งด้วยความเหลือเชื่อ สุดท้ายจึงเอ่ยขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก “ดวงอาทิตย์แผดเผา หงส์มาจุติ นี่เป็นชะตาของฮองเฮาที่แท้จริง แต่ขึ้นอยู่กับว่านางจะต้องการหรือไม่”
จี้หมิงซูลำคอแห้งผากในทันที หรือเป็นเพราะชาตินี้เผยยวนไม่ตาย นางไม่ได้เป็นผู้หญิงของเขา จึงทำให้จี้จือฮวนพลอยได้ดิบได้ดีมีวาสนาตามเผยยวนไปด้วย?
เผยยวนต้องการเป็นฮ่องเต้จริง ๆ ด้วย!
“ประโยคหลังหมายความว่าอย่างไร?”
เจียงเช่อเอ่ยอธิบาย “อาจารย์สำนักพยากรณ์ของข้าเคยทำนายเอาไว้ นอกจากหลี่ฮองเฮาที่อยู่ในวังหลวงตอนนี้ ชะตาฮองเฮาองค์ใหม่จะปรากฏขึ้นในไม่ช้า และจะมีถึงสองคน คนหนึ่งอยู่ด้านหน้า อีกคนอยู่ด้านหลัง คนแรกจะได้ควบคุมอำนาจ หลังจากถอยกลับมา ถึงจะเป็นตาของอีกคน”
จี้หมิงซูยิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจ “เช่นนั้นรู้หรือไม่ว่าพวกนางอยู่ที่ใดบ้าง”
“คนหนึ่งเป็นคนเมืองหลวงโดยกำเนิด อีกคนหากมองในตอนนี้เพิ่งจะถือกำเนิด ตำแหน่งดาวจึงไม่ชัดเจน”
.
.
.