เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย - บทที่ 332 ของต่างหน้าของแม่เขา
- Home
- เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย
- บทที่ 332 ของต่างหน้าของแม่เขา
บทที่ 332 ของต่างหน้าของแม่เขา
จี้จือฮวนยืนขึ้นทันที พลางชักมีดทหารในมือออกมาเพื่อป้องกันตัว
เจียงจือหวยมองนางอย่างไม่เข้าใจ “อาศัยแค่เศษเหล็กในมือเจ้า ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก”
“เจ้าไม่อยู่ที่สำนักหลัวซาแต่กลับมาหาข้าที่นี่ ต้องการจะทำร้ายเผยยวน หรือมาจับเผยยวนกันแน่?” จี้จือฮวนเอ่ยเสริมอีกว่า “ไม่ว่าเจ้าจะมีจุดประสงค์อะไร ข้าจะขัดขวางไม่ให้เจ้าทำสำเร็จแน่นอน”
ในที่สุดนางก็พูดถึงหัวข้อที่เขาเริ่มสนใจ เจียงจือหวยจึงมองนาง “หากข้าบอกว่าใช่เล่า เจ้าจะทำเช่นไร?”
“ข้าจะฆ่าเจ้าซะ”
เจียงจือหวยจึงถามต่ออีกว่า “นี่เป็นวิธีที่ดี แต่อาศัยแค่วรยุทธ์ของเจ้าอย่างนั้นหรือ?”
“วิธีการฆ่าคนในใต้หล้า ไม่ได้มีแค่การปะทะกันเท่านั้น” จี้จือฮวนลุกขึ้นยืน “เจ้าบอกจุดประสงค์ของเจ้ามาเลยดีกว่า ยืดเยื้อต่อไปก็เปล่าประโยชน์ ข้าไม่อยากคุยกับเจ้าแล้ว”
“เจ้ากับเผยยวนต่างคนต่างมีคู่หมั้นอยู่ก่อนแล้ว ก่อนแต่งงานหาได้มีความรู้สึกใด ๆ ต่อกันไม่ ทว่าหลังแต่งงานกลับวิ่งวุ่นและยอมลำบากเพื่อเขา หลังจากเขาฟื้นทั้ง ๆ ที่เจ้าสามารถจากไปได้ทุกเมื่อ แต่เหตุใดถึงเลือกที่จะอยู่ข้างกายเขาเล่า?”
จี้จือฮวนไม่ได้ตอบอะไร
เจียงจือหวยพ่นเสียงหัวเราะออกมา “เพื่อความรักของชายหญิงที่น่าขันอย่างนั้นหรือ?”
“ความรักของชายหญิงน่าขันอย่างนั้นหรือ? ความรักเดิมก็มาจากหัวใจ มาจากสัญชาตญาณของมนุษย์จะน่าขันได้อย่างไร? แต่ที่น่าขันก็คือ ทั้ง ๆ ที่เป็นคนที่ตัวเองห่วงใย แต่กลับเสแสร้งทำเป็นไม่สนใจ
ใช่ ข้ากำลังด่าเจ้านั่นแหละ ไม่ต้องมามองหน้า” จี้จือฮวนเอ่ยจบ ใบหน้าของเจียงจือหวยก็เคร่งขรึมลงทันที
“เจ้าไม่กลัวตายจริงหรือ?”
“ทุกคนย่อมต้องตาย ข้ากลัวหรือไม่กลัวแล้วจะไม่ตายได้อย่างนั้นหรือ?” จี้จือฮวนเอามือเท้าต้นไม้ “ในเมื่อเจ้าไม่ลงมือ เอาแต่ซักไซ้ไล่เรียงข้าเช่นนี้ แสดงว่าคงเป็นห่วงเผยยวนกระมัง?”
เจียงจือหวยเบือนหน้าหนี
ชิ ช่างหยิ่งยโสจริง ๆ
“เช่นนั้นข้าก็จะให้สัญญากับเจ้า ข้าอยู่ที่นี่เพื่อเขาและเพื่อเด็ก ๆ ทั้งสามคน แต่หากวันนี้เจ้าทำอะไรข้า ข้าเชื่อว่าเผยยวนก็คงไม่ปล่อยเจ้าไปเช่นกัน”
เจียงจือหวยหัวเราะออกมา “คิดว่าข้ากลัวอย่างนั้นหรือ?”
เขาพลิกฝ่ามือขึ้น ทันใดนั้นก็พุ่งเข้าหาจี้จือฮวน การเคลื่อนไหวร่างกายเช่นนี้เหมือนกับเผยยวนไม่มีผิด แต่เผยยวนดุดันกว่า ในขณะที่เจียงจือหวยใช้พื้นฐานนี้ผสานกับการเคลื่อนไหวที่ทำให้คนยากที่จะคาดเดาได้
ขณะที่จี้จือฮวนไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะตอบโต้ มีดทหารในมือก็ถูกเขาชิงไป จากนั้นเจียงจือหวยก็ลอยอยู่ในอากาศ ปลายนิ้วเรียวยาวกำลังเล่นมีดทหารอยู่
เมื่อเห็นเครื่องมือเล็ก ๆ ชิ้นหนึ่งยื่นออกมา ในที่สุดเขาก็ขมวดคิ้วอย่างสนใจ
จี้จือฮวนเองก็ไม่รีบร้อน นางนั่งขัดสมาธิลงบนก้อนหิน รอเขาเอ่ยเมื่อใดค่อยขยับ
ผ่านไปพักใหญ่ก็มีของหลายอย่างปรากฏขึ้นตรงหน้าจี้จือฮวน
นางมองไปที่เจียงจือหวยด้วยความประหลาดใจ
“ของขวัญพบหน้า”
“???”
ท่านนี่ช่างไม่เหมือนใครจริง ๆ
“ของสิ่งนี้แม้เจ้าจะใช้สะดวก แต่หากเจอคนที่มีวรยุทธ์สูงส่งกว่าก็คงไม่สามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้ ไม่มีกำลังภายในถือเป็นจุดอ่อนของเจ้า”
จี้จือฮวนรับสิ่งของเหล่านั้นมา มันเป็นถุงมือคู่หนึ่งที่ทำขึ้นมาอย่างดี เชื่อมต่อกับแขน และมีกลไกขนาดเล็กติดตั้งอยู่
จี้จือฮวนนำมาสวมมือ จากนั้นก็หมุนพิจารณามันหนึ่งรอบ ก่อนจะเล็งไปที่ใบไม้ที่ร่วงหล่นในระยะไกล เข็มเล่มหนึ่งพุ่งออกมาจากตรงข้อมือ ปักใบไม้ที่ร่วงหล่นนั้นเข้ากับต้นไม้ทันที ถ้าพูดถึงระยะการยิงของปืน ถุงมือนี้ถือเป็นอาวุธขั้นสูงสุดในยุคนี้แล้วกระมัง
“ให้ข้าจริงหรือ?”
เจียงจือหวยเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ข้าไม่เคยให้ของใครง่าย ๆ นี่เป็นของของแม่เผยยวนในตอนนั้น มอบให้เจ้าก็ถือว่าสมควรแล้ว”
จี้จือฮวนเงยหน้าขึ้นมาทันที “แม่ของเผยยวน เจ้ารู้ว่าแม่เขาเป็นใครอย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นเหตุใดเจ้าถึงไม่บอกเขา”
“ในเมื่อเขารับเซี่ยฉงฟางเป็นแม่ เหตุใดข้าต้องพูดให้มากความด้วย”
ช่างประหลาดคนจริง ๆ
หากเจ้าบอกเขาตั้งแต่แรก เขาก็ไม่ต้องถูกหลอกแล้วไม่ใช่หรือ!?
“เขาเป็นคนเลือกเองก็ต้องรับผลที่ตามมาเอง ข้าไม่เคยเข้าไปก้าวก่าย เหมือนอย่างเจ้า ในเมื่อเขาเลือกเจ้า ภายหน้าเจ้าจะกลายเป็นคนที่ถ่วงแข้งถ่วงขาเขา หรือว่าจะยืนเคียงข้างเขาล้วนเป็นโชคชะตา” เจียงจือหวยเอ่ยถึงตรงนี้ จี้จือฮวนก็โยนถุงมือกลับไป
เจียงจือหวยพลิกตัวหลบ ใช้กำลังภายในหยุดถุงมือนั่นเอาไว้
“เจ้าทำอะไรของเจ้า?”
จี้จือฮวนหันหน้าหนีเตรียมจะจากไป “เจ้าประสาทหรืออย่างไร?”
พริบตาต่อมาเจียงจือหวยก็พุ่งเข้ามาตรงหน้าของนาง “ช่างเถอะ ข้าไม่เคยเข้าใจการกระทำของสตรีอย่างพวกเจ้าอยู่แล้ว แต่นี่เป็นของต่างหน้าแม่เผยยวน ข้าไม่ได้หลอกเจ้า”
“ได้ เช่นนั้นเจ้าบอกมาว่าแม่ของเผยยวนเป็นใคร และพ่อของเขาเป็นใคร?”
เจียงจือหวยหลุบตาลง “บอกให้เขามาถามข้าเอง ตอนนี้เจ้ายังไม่คู่ควรที่จะรู้”
จี้จือฮวนรู้สึกว่าการพูดคุยกับคนผู้นี้ทำให้คนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟได้จริง ๆ!
“นี่เป็นวิธีการฝึกกำลังภายใน ตอนเผยยวนแปดขวบก็เริ่มฝึกแล้ว ตอนนี้เจ้าอายุปูนนี้แล้ว ไม่รู้ว่าจะสามารถฝึกได้ถึงระดับใด แต่หากเจ้ายอมเรียกข้าว่าอาจารย์ล่ะก็…”
“ไม่มีทาง”
“…”
นางเด็กบ้านี่
เจียงจือหวยกัดฟันเอ่ยออกมา “เจ้ารู้หรือไม่ว่าคนในยุทธภพที่อยากกราบข้าเป็นอาจารย์มีมากมายเพียงใด?”
“สาวชาวบ้านอย่างข้าไม่รู้หรอก”
“เพราะเจ้าทำไม่ได้ใช่หรือไม่?”
“วิธีโบราณอย่างการพูดจายั่วยุเจ้าเก็บเอาไว้เถอะ” จี้จือฮวนสะบัดหน้าหนี ผมหางม้าแทบจะตวัดโดนหน้าของเจียงจือหวยอยู่แล้ว
“หากเจ้าฝึกกำลังภายในสำเร็จ ข้าจะบอกเจ้าว่าแม่ของเขาชื่ออะไร”
จี้จือฮวนชะงักฝีเท้า “เจ้าพูดจริงหรือ? เจ้าทำเช่นนี้เจ้าได้ประโยชน์อะไรกัน?”
ดาบโค้งที่ด้านหลังของเจียงจือหวยยังคงหมุนวน เมื่อได้ยินคำถามนั้นเขาก็เอ่ยออกมาเรียบ ๆ “ข้าว่าง”
“…”
“ข้าต้องยกสำนักหลัวซาให้เขา ข้าไม่มีครอบครัว เขาเป็นศิษย์โดยตรงของข้า หากเขาทำนาเลี้ยงลูกตามที่เจ้าบอกจริง ๆ เช่นนั้นข้าจะทำอย่างไร? ดังนั้นเจ้าก็ต้องเรียนรู้ด้วย เรียนให้ดี เรียนให้เก่ง ให้กลายเป็นคนไร้พ่ายบนโลกนี้ให้จงได้!”
แม้จี้จือฮวนจะรู้สึกว่าไป๋จิ่นเป็นพวกหลงตัวเอง แต่นางกล้ารับประกันเลยว่าเจียงจือหวยผู้นี้เป็นคนที่หลงตัวเองอย่างที่สุด
“เคล็ดวิชากำลังภายในอยู่นี่ ขอเพียงเจ้าเรียนสำเร็จ เจ้าจะได้รู้สิ่งที่อยากรู้ เป็นอย่างไร การค้านี้เจ้าคงไม่ขาดทุนกระมัง”
จี้จือฮวนใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้ม ก่อนจะรับเคล็ดวิชานั้นมาพลางกวาดตามองเล็กน้อย
“สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ หาได้ยากยิ่งใช่หรือไม่?”
“มีบางตัวข้าไม่รู้จัก”
เดิมตัวอักษรบนโลกนี้กับที่นางเรียนรู้มาก็ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นตัวอักษรโบราณอีกด้วย
เจียงจือหวยถึงกับสะอึก “เจ้า…เจ้าไม่รู้หนังสือหรือ?”
“อืม” จี้จือฮวนพลิกเคล็ดวิชานั่นจนเกิดเสียงดัง ก่อนจะยัดเข้าไปในห่อผ้าด้านหลัง “เผยจื่ออ่านออกก็พอแล้ว เจ้ายังมีอะไรจะฝากอีกหรือไม่? และจะมาอีกเมื่อใด?”
“เผย…เผยจื่อ?” เจียงจือหวยไม่อยากจะเชื่อ ปกตินางเรียกเผยยวนเช่นนี้อย่างนั้นหรือ
เจ้าเด็กนั่นก็ยอมอย่างนั้นหรือ?!
“ดูท่าเจ้าคงไม่มีเรื่องอะไรแล้ว เอามีดทหารของข้าคืนมา”
เจียงจือหวยจะเอาสิ่งนั้นไปทำอะไรได้ จึงคืนให้จี้จือฮวนไปแต่โดยดี
“เจ้าเป็นคนพูดเองนะ ขอเพียงข้าฝึกสำเร็จ เจ้าจะบอกเรื่องชาติตระกูลของเขากับข้า หากทำไม่ได้จะทำอย่างใด?”
เจียงจือหวยขมวดคิ้ว “หนึ่งคำหลุดออกจากปาก สี่ม้ายากตามกลับคืน*”
* หนึ่งคำหลุดออกจากปาก สี่ม้ายากตามกลับคืน (一言既出驷马难追) หมายความว่า เมื่อพูดออกไปแล้วก็ยากจะแก้ไข
“สี่ม้ายากตามกลับคืน? จ้านอิ่งของเราไม่มีม้าตัวไหนที่มันตามไม่ทัน ลูกไม้นี้ไม่ได้ผลหรอก เอาเช่นนี้ หากว่าเจ้าพูดคำไหนไม่เป็นคำนั้น ครั้งหน้าที่พบกันต้องเรียกข้าว่าท่านพ่อ”
.