เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย - บทที่ 341 องค์หญิงใหญ่ตัวปลอม?
- Home
- เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย
- บทที่ 341 องค์หญิงใหญ่ตัวปลอม?
บทที่ 341 องค์หญิงใหญ่ตัวปลอม?
จากนั้นเสิ่นหงเหวินก็นึกขึ้นได้ว่า ช่วงหนึ่งก่อนที่เขาจะถูกปลดออกจากตำแหน่ง ได้ยินอาลักษณ์สองสามคนแอบคุยกัน บอกว่าองค์หญิงใหญ่จะกลับราชสำนัก
แต่คิดไม่ถึงว่าบัดนี้นางจะมานั่งอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว
หญิงชราที่เมื่อคืนยังพูดคุยกับเขาอยู่นั้น บัดนี้กลายเป็นองค์หญิงใหญ่ผู้สูงส่ง พี่สาวแท้ ๆ ขององค์ฮ่องเต้ เสิ่นหงเหวินจึงรู้สึกราวกับฝันไป
หม่าซานเหนียงได้สติขึ้นมาเป็นคนแรก “มัวอึ้งอยู่ทำไมกัน รีบคารวะองค์หญิงใหญ่เสียสิ!”
ไม่ต้องสนใจว่านางจะเป็นตัวจริงหรือไม่ แต่มาถึงก็วางอำนาจใส่เมิ่งซื่อผู้นั้นได้ ก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนเลว
เมิ่งซื่อถูกลากตัวไป แต่ก็ยังพยายามกระโจนขึ้นมา “นางนักต้มตุ๋น พวกเจ้ากล้าปลอมตัวเป็นองค์หญิงใหญ่อย่างนั้นหรือ! เสิ่นหงเหวิน เจ้าช่างกล้าดียิ่งนัก!”
แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครสนใจเขา ยอดฝีมือกำลังว่างงานเพราะไม่มีอะไรทำ มีกระสอบทรายมาให้ซ้อมถึงที่ ไม่อัดแล้วจะรออะไรอีกเล่า
ชุดขุนนางที่สวมอยู่ถูไถไปกับพื้น ไม่นานก็มีเสียงร้องโหยหวนและสาปแช่งของเมิ่งซื่อดังออกมา น่าเสียดายที่ยังฟังไม่ทันจบเสียงก็ขาดหายไปเสียก่อน
ในวังมีวิธีการมากมายในการจัดการกับคนที่ไม่เชื่อฟังเหล่านี้ เมิ่งซื่อผู้นี้ต่อให้ไม่ตายก็ต้องได้รับบาดเจ็บหนักเป็นแน่
เสิ่นหงเหวินอ้าปากพะงาบ ๆ พลางกะพริบตาปริบ ๆ อย่างไม่อาจรับความจริงตรงหน้าได้
เซี่ยวั่งซูจิบชาเล็กน้อย และไม่มีท่าทางดุดันเช่นเมื่อครู่นี้อีก นางเพียงเอ่ยถามด้วยสีหน้าจริงจัง “ตำแหน่งผู้ว่าการของเมิ่งซื่อสิ้นสุดลงแล้ว เสิ่นหงเหวิน เจ้าจะยอมกลับมารับภาระนี้แทนชาวหลูโจวหรือไม่?”
เสิ่นหงเหวินได้สติขึ้นมาจากการเตือนของหม่าซานเหนียง ก่อนจะก้าวเข้าไปหนึ่งก้าว พร้อมกับโค้งตัวลงแล้วเอ่ยถามอีกครั้ง “ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ได้หลอกข้าจริง ๆ ใช่หรือไม่ขอรับ? ท่านคือองค์หญิงใหญ่จริง ๆ หรือขอรับ?”
เผยจี้ฉือเปิดถุงผ้าที่พกไว้ที่เอว ก่อนจะหยิบป้ายทองของไท่ซ่างหวงออกมา “ผู้ว่าการเสิ่นได้โปรดดูสิ่งนี้”
เสิ่นหงเหวินมองแค่แวบเดียว ดวงตาทั้งสองข้างก็พลันแดงก่ำ ไม่พูดพร่ำทำเพลงสะบัดเสื้อคลุมแล้วรีบคุกเข่าคารวะอย่างเป็นทางการให้เซี่ยวั่งซูสามที พร้อมกับโขกศีรษะแรงขึ้นเรื่อย ๆ
“กระหม่อมเสิ่นหงเหวิน ขอเป็นตัวแทนชาวหลูโจว ขอบพระทัยองค์หญิงใหญ่พ่ะย่ะค่ะ”
เซี่ยวั่งซูประคองเขาขึ้นมา เสิ่นหงเหวินเองก็น้ำตาไหลพราก “แต่ตอนนี้เวลาบีบคั้น เราถูกเมิ่งซื่อถ่วงเวลามานาน กระหม่อมเกรงว่าอาจจะทำไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้าบอกข้ามาก่อนว่าเขื่อนหลูโจวหากได้รับการช่วยเหลือจากคนทั้งเมืองอย่างเต็มกำลัง จะลดความเสียหายได้เท่าใด!?”
“อย่างน้อยที่สุดก็ยังเสียหายถึงหกส่วน หกส่วนนี้เกี่ยวข้องกับคนในหมู่บ้านท้ายน้ำ และมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาดต่าง ๆ ไม่เพียงเท่านั้น เงินและข้าวสารก็เป็นปัญหาเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ
กระหม่อมเองก็ไม่คิดจะปิดบังองค์หญิงใหญ่อีก เพราะวิกฤตของเมืองหลูโจวใกล้จะมาถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เรื่องเหล่านี้เซี่ยวั่งซูล้วนทราบดี เพราะคำพูดตรงไปตรงมานี้ของเสิ่นหงเหวินทำให้นางรู้สึกประทับใจในตัวเขาไม่น้อย ก่อนจะปัดมือไปมา “เสิ่นหงเหวิน เจ้าอยากจะทำอะไรก็ทำเถอะ พวกเรามาพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนเรื่องเงินและข้าวสารรวมทั้งสมุนไพรเจ้าไม่ต้องกังวล มีข้าอยู่ ไม่ปล่อยให้หลูโจวตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน!”
เซี่ยวั่งซูไม่เสียเวลากับเสิ่นหงเหวินอีก หลังจากสั่งการให้เขาเก็บข้าวของก็ตรงเข้าเมืองทันที เพราะการเข้ายึดจวนของเจ้าหน้าที่ที่เป็นคนของเมิ่งซื่อ แล้วเข้าควบคุมอำนาจทหารของกองทหารหลูโจวนับเป็นเรื่องสำคัญ ทว่าหลังจากนั้นถึงจะเป็นปัญหาจริง ๆ
สู้กับคนมีอะไรน่ากลัวกัน สู้กับฟ้าต่างหากที่ยากจะคาดเดา
การต่อสู้ครั้งนี้ก็ถือเป็นเรื่องสุดท้ายที่นางจะทำเพื่อต้าจิ้น นางแก่แล้ว ที่เหลือก็ต้องขึ้นอยู่กับคนหนุ่มสาวแล้วบราวนี่ออนไลน์
ปัญหาของหลูโจวในตอนนี้เรื่องสำคัญก็คือการแข่งกับเวลา ดังนั้นเพื่อให้มีเวลามากพอในการลดความรุนแรงที่จะเกิดหลังจากนี้ เซี่ยวั่งซูพาทหารเกราะเหล็กมาด้วยก็เพื่อจุดประสงค์นี้
เมิ่งซื่อถูกยกขึ้นบนหลังม้าราวสุนัขที่ตายแล้วตัวหนึ่ง เขาต้องการสอบสวนเสิ่นหงเหวิน แต่ไม่มีแรงที่จะอ้าปากพูดอีก
เสิ่นหงเหวินนำแผนที่จัดการน้ำและเอกสารทางการทั้งหมดที่เขานำมาจากที่ว่าการมากางตรงหน้าของเซี่ยวั่งซู “องค์หญิงใหญ่ นี่คือประสบการณ์หลายปีมานี้ของกระหม่อม ยังมีอาลักษณ์จำนวนหนึ่งที่ถูกไล่ออกเพราะถูกใส่ร้ายในที่ว่าการก่อนหน้านี้ พวกเขาก็เข้าใจเรื่องเขื่อนนี้มากเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ”
เซี่ยวั่งซูพยักหน้ารับรู้ “รอข้าจัดการเจ้าหน้าที่ชั่วช้าเสร็จ เจ้าก็ไปเอาตัวคนที่ว่ากลับมาได้เลย เสิ่นหงเหวิน ข้าเชื่อใจเจ้า และหวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง”
หากว่าเสิ่นหงเหวินเป็นคนฉลาด ต้องรู้ว่าโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตวางอยู่ตรงหน้าเขาแล้วในตอนนี้
เขาจะสามารถคว้าเอาไว้ได้หรือไม่ ทำให้ความหวังของตัวเองเป็นจริง สามารถปกป้องเมืองหลูโจวได้หรือไม่ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเขาแล้ว
“กระหม่อมจะทำให้สำเร็จให้ได้พ่ะย่ะค่ะ!”
“ดี เช่นนั้นเจ้าแค่พุ่งไปข้างหน้าก็พอ ส่วนด้านหลังข้าจะคอยคุ้มกันให้เอง”
ประตูเมืองหลูโจวอยู่ตรงหน้าแล้ว เหล่ายอดฝีมือนำหน้าไปเพื่อแสดงป้ายของไท่ซ่างหวงก่อน และสั่งให้เจ้าหน้าที่ทั้งหมดในเมืองมารวมตัวกันที่ที่ว่าการทันที
ข่าวที่องค์หญิงใหญ่ที่แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ไปต่างแดนจู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นที่หลูโจว และลากขุนนางสุนัขอย่างเมิ่งซื่อไปตามถนนแพร่กระจายไปทั่วเมืองในเวลาเพียงไม่นาน เจ้าหน้าที่บางคนที่รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องจึงคิดที่จะหนี ทว่าก็ไม่ทันเสียแล้ว ทหารเกราะเหล็กตอนนี้ไม่ได้ฝึกมาแค่การฆ่าศัตรูในสนามรบ แต่การค้นบ้านย้ายของก็ชำนาญมากเช่นกัน ไม่เพียงเอาตัวคนไป แต่พวกเขายังเอาจดหมายที่อยู่ในห้องหนังสือรวมทั้งสมบัติทั้งหมดในบ้านไปด้วย
ไม่ค้นก็ยังไม่รู้อะไร แต่เมื่อค้นแล้วก็ต้องตกใจ เจ้าหน้าที่ท้องที่ขั้นหกขั้นเจ็ดร่ำรวยยิ่งกว่าจวนจี้กั๋วกงเสียอีก
ยังไม่นับโฉนดของเรือนรับรองที่ค้นได้จากในห้องหนังสือ ทั้งหมดล้วนเป็นพื้นที่ทำเลดีของเขตเจียงหนานอีกด้วย
เมิ่งซื่อไม่มีโอกาสแม้แต่จะคุยกับเซี่ยวั่งซูก็ถูกลากเข้าไปในคุกทันที ทั้งครอบครัวก็ถูกโยนเข้าคุกมาเช่นกัน และทันใดนั้นก็มีเสียงร้องไห้คร่ำครวญดังขึ้น
“นายท่าน นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ท่านไปทำอะไรมากันแน่เจ้าคะ”
เมิ่งซื่อเองก็อยากรู้เช่นกันว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ เหตุใดอยู่ดี ๆ เขาถึงติดคุกได้! สตรีผู้นั้นเป็นองค์หญิงใหญ่จริง ๆ หรือ?!
ต่อให้ตายไปเขาก็ไม่เชื่อ ที่ผ่านมาคนของราชสำนักสนใจหลูโจวที่ใดกัน องค์ชายสามส่งจดหมายมาบอกให้เขาอยู่อย่างสบายใจ และได้จัดการคนที่สามารถส่งข่าวให้ภายนอกทั้งหมดแล้ว
ดังนั้นองค์หญิงใหญ่ผู้นี้ต้องเป็นตัวปลอม และเกี่ยวข้องกับเสิ่นหงเหวินอย่างแน่นอน
เขาไม่เคยเห็นผู้สูงศักดิ์ในเมืองหลวงสวมเสื้อผ้าเหมือนคนธรรมดาเช่นนี้มาก่อน อย่างน้อยก็ต้องสวมเครื่องประดับที่มีค่าอะไรบ้าง
“เลิกโวยวายได้แล้ว” เมิ่งซื่อพยุงตัวเองและยืนขึ้น เมื่อเห็นว่ามีผู้คุมเดินอยู่ไม่ไกลนักจึงรีบเรียกเขาเข้ามา ผู้คุมตอนนี้ยังมีประโยชน์อยู่ และเซี่ยวั่งซูยังไม่มีเวลาจัดการ จึงทำให้เมิ่งซื่อได้โอกาส
“เจ้าไปหาแม่ทัพฉินที่ค่ายลาดตระเวนของกองกำลังนอกเมือง บอกว่าข้าให้มาที่นี่เพราะมีโจรแอบอ้างเป็นองค์หญิงใหญ่ ให้เขาอย่าเพิ่งไปรับท่านข่านของถู่เจีย ที่นี่กำลังจะเกิดเรื่องใหญ่ให้กลับมาช่วยข้าก่อน”
ผู้คุมไม่อยากจะเชื่อ เมิ่งซื่อกลืนเลือดที่อยู่ในปากแล้วเอ่ยขึ้นอีก “ยังไม่รีบไปอีก อยากให้ทั้งครอบครัวของเจ้าตายไปด้วยหรืออย่างไร?”
ผู้คุมนั่นไหนเลยจะเข้าใจว่าเมิ่งซื่อพูดถึงใครอยู่ เขารู้แค่ว่าตอนนี้เมิ่งซื่อติดคุก ดังนั้นเขาจะช่วยเมิ่งซื่อไม่ได้เด็ดขาด เมิ่งซื่อจึงดึงปิ่นปักผมบนหัวของฮูหยินตัวเองออกมาส่งให้เขา “เจ้าแค่ช่วยไปส่งข่าวให้ข้า ไม่มีใครรู้ว่าเป็นเจ้า รอเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว เจ้าก็ถือว่าได้ทำความดีความชอบใหญ่หลวงแล้ว และทำให้เจ้าร่ำรวยได้เลยนะ!”
ผู้คุมรับปิ่นหยกมา “ท่านอย่าหลอกข้านะขอรับ แค่ไปหาแม่ทัพฉินก็พอแล้วใช่หรือไม่ขอรับ?”
“ใช่ เอาคำพูดของข้าไปบอกเขา ให้เขาอย่าเพิ่งไปรับท่านข่านของถู่เจีย องค์หญิงใหญ่ตัวปลอมนี่ต่างหากถึงเป็นเรื่องสำคัญ”
เมิ่งซื่อไตร่ตรองดีแล้ว รอท่านข่านของถู่เจียมาถึง และเห็นว่ามีคนปลอมเป็นองค์หญิงใหญ่ ถึงตอนนั้นยายแก่นั่นย่อมถูกคนจัดการเอง! ส่วนเจ้าเสิ่นหงเหวิน เขาจะฆ่ามันด้วยตัวเอง!
.