เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย - บทที่ 407 เขาต้องการจะสังหารพ่อตัวเอง
- Home
- เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย
- บทที่ 407 เขาต้องการจะสังหารพ่อตัวเอง
บทที่ 407 เขาต้องการจะสังหารพ่อตัวเอง
แล้วก็จริง หมอหลวงผู้นั้นตรวจสอบถ้วยชาซ้ำไปซ้ำมาแต่ก็ไม่พบปัญหาอะไร เขาจึงหันหน้าไปและพูดขึ้น “ถ้วยชาไม่มีปัญหาอะไรพ่ะย่ะค่ะ”
องค์ชายสิบและเจียงเต๋อดวงตาเบิกโพลงขึ้นมาพร้อม ๆ กัน “เป็นไปได้อย่างไรกัน?”
คนที่อยู่ในนั้นนอกจากเจียงเต๋อแล้ว ทั้งหมดต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
องค์ชายสิบต้องการจะพูด ทว่ากลับถูกเผยจี้ฉือปิดปากเอาไว้ องค์ชายสิบไม่เข้าใจจึงเอ่ยถามขึ้นเบา ๆ “เหตุใดถึงไม่ให้ข้าพูดเล่า?”
เผยจี้ฉือเอ่ยตอบเสียงเบาเช่นกัน “พวกเราไม่มีหลักฐาน เจ้าไม่กลัวเจียงกงกงจะย้อนกลับมาเล่นงาน หาว่าเจ้าวางยาพิษฝ่าบาท จับเจ้าไปขังอย่างนั้นหรือ?”
องค์ชายสิบแม้ไม่มีดีอะไร แต่เรื่องรักตัวกลัวตายเขาเรียนรู้มาเป็นอย่างดี เขาจึงคิดได้ทันทีว่าสิ่งที่หลานชายพูดมามีเหตุผล แต่การที่เขาเห็นแล้วทว่ากลับปิดปากเงียบ หากพูดออกไปตอนนี้นั่นไม่เท่ากับว่าเขาเป็นผู้ต้องสงสัยหรอกหรือ!?
เขาไม่ใช่คนโง่ เพราะฉะนั้นเขาไม่พูดออกไปหรอก
เผยยวนมองไปทางเจียงเต๋อ “เจียงกงกงหมายความว่าอย่างไร ท่านแน่ใจว่าฝ่าบาทถูกวางยา และยืนกรานว่าลูกชายข้าอาชิงต้องเป็นคนทำอย่างแน่นอน อีกทั้งหมอหลวงก็เป็นคนที่เจ้าหามาเอง หรือคิดว่าข้าซื้อตัวเขาเอาไว้ล่วงหน้าด้วยอย่างนั้นหรือ ยิ่งไปกว่านั้น เหตุใดเจ้าถึงมั่นใจว่าพิษอยู่ในถ้วยชากัน?”
อุบายนี้อาอินรู้ดี นางจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรแล้วเอ่ยขึ้นมา “ขโมยร้องจับขโมยน่ะสิเจ้าคะ เพราะมีเพียงคนที่วางยาเท่านั้นจึงจะรู้ว่าพิษอยู่ที่ใด ดังนั้นจึงได้มั่นใจหนักหนา แม้แต่ความเป็นไปได้อื่นก็ไม่ได้คิดถึงอีก”
จางตงไหลก็เอ่ยขึ้นมาอย่างช้า ๆ “ที่คุณหนูอาอินพูดมาก็นับว่ามีเหตุผล พิษนี้สามารถวางไว้ได้ทุกที่ บนเสื้อผ้า ในเครื่องหอม ในยุทธภพมียอดฝีมือเรื่องการใช้พิษ แค่หายใจเข้าเฮือกเดียวก็สามารถถูกพิษได้แล้ว เช่นนั้นเหตุใดเจ้าจึงมั่นใจว่าพิษอยู่ในถ้วยชากันเล่า?”
จางตงไหลเอ่ยถึงตรงนี้ ก็ตะโกนขึ้นมาทันที “ลากตัวทุกคนที่เข้ามาในตำหนักใหญ่วันนี้ไปทรมาน! หากคิดว่าใครมีพฤติกรรมแปลก ๆ สามารถมารายงานได้เลย จะได้รับการยกเว้นโทษประหารเก้าชั่วโคตร”
คนที่เข้ามาทำงานในวังก็แค่ต้องการหาเงิน และหวังว่าภายหน้าจะสามารถออกจากวังไปใช้ชีวิตยามแก่ชราได้
แต่หากทำให้ทั้งครอบครัวเดือดร้อน เช่นนั้นตัวเองก็คงไม่เหลือแม้แต่รากฐานของชีวิตอีกแล้ว
ยังไม่รอให้คนมาลากตัวออกไป ก็มีหลายคนรีบเล่าพฤติกรรมที่ดูแปลก ๆ ของคนที่มาวันนี้ออกมาเรื่อย ๆ
“เสี่ยวคังจื่อ วันนี้เขาชอบหาข้ออ้างวิ่งไปเข้าห้องน้ำหลายครั้งเลยขอรับ!”
“เจ้าพูดจาเหลวไหล สองวันมานี้เจ้าแพ้พนัน ทั้งยังมาถามยืมเงินจากข้า พอข้าไม่ให้เจ้ายืมก็ใส่ร้ายข้าเช่นนี้อย่างนั้นหรือ! จางกงกงขอรับ ปกติเขามักจะร่วมมือกับองครักษ์ที่ประตูหัวมุมพวกนั้น ขโมยของเก่าในห้องเก็บของไปขายขอรับ!”
“วันนี้ชุนฟางเช็ดถ้วยชาโดยไม่มีเหตุอันควรหลายครั้งด้วยเจ้าค่ะ”
นางกำนัลที่ถูกเอ่ยถึงตกใจเป็นอย่างมาก สีหน้าซีดเผือดลงทันที มองดวงตาคมปลาบที่จ้องมองมาของจางกงกงพลางเอ่ยด้วยริมฝีปากที่สั่นเทาขึ้นมา “ข้า…ข้าเปล่านะเจ้าคะ ข้าแค่เห็นว่าถ้วยชาสกปรก ก็เลยเช็ดทำความสะอาดให้มากหน่อยก็เท่านั้นเองเจ้าค่ะ”
องค์ชายสิบดึงแขนเสื้อของเผยจี้ฉือ “เป็นนางกำนัลคนนั้น”
เผยจี้ฉือส่งสัญญาณให้เขาอย่าขยับส่งเดช ขณะเดียวกันนั้นจางตงไหลก็หิ้วตัวนางกำนัลผู้นั้นขึ้นมาทันที เพื่อทำการทรมาน วิธีการทรมานคนในวังนั้นมีอยู่หลายวิธี ไม่นานก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น
เจียงเต๋อสั่นสะท้านไปทั้งตัว จางตงไหลเดินมาตรงหน้าเขา ก่อนจะตบหน้าของเจียงเต๋อไปหนึ่งฉาด “ตอนนั้นที่เจ้าเข้าวัง กฎระเบียบที่ข้าพร่ำสอนเจ้า เจ้าลืมไปหมดแล้วอย่างนั้นหรือ ต่อพระพักตร์กลับส่งเสียงดังครั้งแล้วครั้งเล่า วันนี้ข้าต้องเตือนสติเจ้าจริง ๆ จัง ๆ เสียแล้ว ว่าใครเป็นนาย ใครเป็นบ่าว”
จางตงไหลรู้วรยุทธ์ กำลังภายในของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่ายอดฝีมือที่คอยคุ้มกันเลย
ฝ่ามือที่ตบลงไปถึงกับทำให้เจียงเต๋อมองเห็นดาวเลยทีเดียว ไม้ปัดฝุ่นที่พาดอยู่ตรงข้อพับแขนถึงกับร่วงลงพื้น ก่อนจะคุกเข่าลงไปพร้อมตัวที่สั่นงันงก “ผู้น้อยเพียงแค่เป็นห่วงฝ่าบาท จึงได้ลืมไปว่าอะไรควรมิควรขอรับ”
“อย่างนั้นหรือ? ไท่ซ่างหวงย้ายมาอยู่ตำหนักไท่จี๋ ไม่ได้อยู่ในวังหลวงเพียงไม่นาน คนรับใช้ในตำหนักไท่จี๋ก็มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก ลักเล็กขโมยน้อย! ข้าว่าตำแหน่งหัวหน้าขันทีของเจ้าคงต้องจบลงเพียงเท่านี้แล้ว!” ที่จางตงไหลอดทนมาตลอด ก็เพื่อรอวันนี้ที่จะได้จัดการเจียงเต๋อทีเดียว
อาศัยตอนที่ฮ่องเต้เซี่ยเจินนอนไม่ได้สติและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีที่สุด
อย่างไรเสียจางตงไหลก็รักไท่ซ่างหวง และสงสารเขาที่อายุมากแล้ว จึงไม่อาจทนให้เขาเห็นเลือดเนื้อเชื้อไขเข่นฆ่ากันเองได้ แต่วันนี้ฮ่องเต้เซี่ยเจินก็ดี เจียงเต๋อก็ดี เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้ดีว่ามียาพิษอยู่ในถ้วยชา ดังนั้นจึงได้มีปฏิกิริยาเช่นนี้
ฮ่องเต้เซี่ยเจินถึงกับต้องการจะฆ่าพ่อตัวเอง!
หากไม่ใช่เพราะมีเด็กน้อยที่พิษทำอะไรไม่ได้ของตระกูลเผยอยู่ด้วย เวลานี้คนที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียงคงเป็นไท่ซ่างหวงอย่างแน่นอน!
นี่เขาเห็นว่าไท่ซ่างหวงไม่มีใครให้พึ่งพิง รำคาญที่ไท่ซ่างหวงคอยเกะกะขวางทางอย่างนั้นหรือ?
จางตงไหลอยู่ในวังมานาน หากเลี่ยงที่จะไม่ล่วงเกินได้ เขาก็ไม่อยากล่วงเกินใครง่าย ๆ แต่เขาเป็นคนที่ปกป้องเจ้านาย วันนี้ฮ่องเต้เซี่ยเจินทำร้ายจิตใจของไท่ซ่างหวงเพียงนี้ ต่อให้จะสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้ แต่คิดว่าตำแหน่งฮ่องเต้ยังจะนั่งอย่างมั่นคงต่อไปได้อีกอย่างนั้นหรือ? นั่นคงเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว!
และเจียงเต๋อก็เป็นคนแรกที่จางตงไหลจะกำจัดทิ้ง!
เจียงเต๋อเองก็ไม่ใช่คนโง่ แน่นอนว่าเขาสามารถสัมผัสได้ถึงไอสังหารของจางตงไหล เดิมทีตั้งแต่เขาเข้าวังมาก็ต้องคอยก้มหัวและประจบประแจงจางตงไหลมาตลอด ต้องอดทนกว่าฮ่องเต้เซี่ยเจินจะขึ้นครองบัลลังก์ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นเมื่อจางตงไหลไปแล้ว ในวังจึงเท่ากับเป็นใต้หล้าของเจียงเต๋อ
แต่ไท่ซ่างหวงกลับกลับมาเพื่อบีบฝ่าบาท แม้แต่จางตงไหลก็อาศัยความอาวุโสนำเรื่องในอดีตมารังแกเขา
เขาจะกล้ำกลืนความแค้นนี้ลงได้อย่างไรกัน!?
เจียงเต๋อรู้ว่าจางตงไหลต้องการจะฆ่าเขา แต่ตอนนี้ต่อให้เขาติดปีกก็บินหนีไปไหนไม่รอดแล้ว ทำได้เพียงร้องไห้อ้อนวอนไท่ซ่างหวงเท่านั้น
“ไท่ซ่างหวง กระหม่อมไม่รอบคอบเอง ขอไท่ซ่างหวงเห็นแก่ที่ตอนนี้ข้างกายฝ่าบาทไม่อาจขาดคนได้ ไว้ชีวิตกระหม่อมสักครั้งเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
จางตงไหลกลับหัวเราะเสียงเย็น “เอาตัวไป!”
เจียงเต๋อผู้นี้ต้องใช้ประโยชน์ให้ดี เพราะเรื่องที่ฮ่องเต้เซี่ยเจินทำหลายปีมานี้ เกรงว่าคงไม่มีใครรู้ดีเท่ากับเจียงเต๋ออีกแล้ว
แม้ว่าฮ่องเต้เซี่ยเจินจะยังหลับตาอยู่ แต่ในหัวกลับชัดแจ้งเป็นอย่างมาก สามารถได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เมื่อได้ยินว่าเจียงเต๋อจะถูกพวกเขาพาตัวไป ในใจก็ตื่นตระหนกอย่างมาก แต่เปลือกตาของเขากลับหนักอึ้งยิ่งนัก ยิ่งดิ้นรนในใจก็ยิ่งลนลาน พลางกระอักเลือดเร็วยิ่งขึ้น แต่น่าเสียดายที่นอกจากเจียงเต๋อแล้ว ตอนนี้ใครยังจะสนใจเขากัน
แม้แต่หมอหลวงที่คุกเข่าอยู่ที่พื้นก็กำลังทำตามคำสั่ง ตรวจสอบของทั้งหมดภายในตำหนักอยู่
ไม่นานนางกำนัลผู้นั้นก็ถูกหิ้วตัวกลับมาอีกครั้ง เจียงเต๋อเพิ่งจะถูกคนลากออกไป นางกำนัลผู้นั้นก็ถลาเข้ามา “เจียงกงกง ช่วยด้วยเจ้าค่ะเจียงกงกง ข้าทำตามที่ท่านสั่ง โดยเอายาทาไปบนถ้วยชาแล้ว ท่านจะไม่สนใจข้าไม่ได้นะเจ้าคะ”
เวลาเพิ่งจะผ่านไปได้ไม่นาน ร่างทั้งร่างของนางก็ชุ่มโชกไปด้วยเลือด เจียงเต๋อคิ้วกระตุกทันที ก่อนจะยกเท้าข้างหนึ่งเตะไปด้วยความโมโหที่พลุ่งพล่าน “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไรกัน พูดมา! ใครสั่งให้เจ้ามาใส่ร้ายข้าเช่นนี้!”
“เจียงกงกง ท่านจะมากลับคำไม่ยอมรับผิดเช่นนี้ไม่ได้นะเจ้าคะ พวกเราต่างก็ทำตามคำสั่งของท่านนะเจ้าคะ”
พวกเรา? หมายความว่าในตำหนักไท่จี๋ คนที่รับคำสั่งของเจียงเต๋อให้วางยาไท่ซ่างหวงไม่ได้มีแค่นางเพียงคนเดียว
ส่วนเจียงเต๋อรับคำสั่งมากจากผู้ใดนั้น ไม่บอกก็รู้
หมอหลวงแทบอยากจะอุดหูตัวเองเอาไว้!
“มัวรออะไรกัน ไปตรวจค้น! ทางด้านนี้ก็ทรมานต่อไป!” จางตงไหลตะคอกสั่งเสียงเข้ม
“ให้คนไปเชิญถังกั๋วกงมา” ไท่ซ่างหวงออกคำสั่งด้วยสีหน้าเย็นชา
ในเมื่อกรรมตามสนองฮ่องเต้เซี่ยเจิน ก็ให้เขาถูกพิษไปเช่นนี้ก็แล้วกัน หมอหลวงไม่ได้บอกว่าจะต้องรักษาเช่นไร ไท่ซ่างหวงเองก็ขี้เกียจจะถาม
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยให้โอกาส
แต่สิ่งที่เขาได้รับก็เป็นแค่คนที่น่ารำคาญคอยเกะกะขวางทางเขา จนอยากจะสังหารเสด็จพ่ออย่างเขาด้วยตัวเอง
จางตงไหลเข้าใจได้ทันที ดูท่าไท่ซ่างหวงคงจะแต่งตั้งหวงไท่ซุนแล้ว อาศัยชื่อเสียงเรื่องที่หลูโจวก็สามารถปูนบำเหน็จตามความชอบได้พอดี