เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย - บทที่ 446 กำจัดศัตรูทีละส่วน
บทที่ 446 กำจัดศัตรูทีละส่วน
คาโอริโดนยิงไปสามนัดแต่ยังไม่ตาย เพราะจี้จือฮวนไม่ยอมให้นางตายง่าย ๆ เช่นนี้ ระดับหัวหน้าที่ชั่วช้าสามานย์อย่างพวกเขา จะตายก็ควรตายต่อหน้าราษฎรทั้งหมดในเจียงหนาน และถูกตัดสินประหารชีวิต!
ตายในสนามรบ พวกเขาคู่ควรอย่างนั้นหรือ!?
นางกระโดดลงจากดาดฟ้าเรือและปีนบันไดเชือกลงมา เฉินไห่คั่วสั่งให้เรือรบทั้งหมดแล่นไปข้างหน้าด้วยความเร็วเต็มกำลัง ไม่ต้องกังวลเรือลำเล็กที่อยู่ข้าง ๆ ขณะที่จี้จือฮวนที่นั่งอยู่บนเรือลำเล็กก็ได้นำทหารเรือกลุ่มหนึ่งเดินหน้าไปด้วยความเร็วเต็มกำลังเช่นกัน
หากมีโจรสลัดกล้าลอบโจมตีนาง ก็จะตกเป็นเป้าของเหล่าทหารปืนไฟแห่งกองปืนไฟในทันที
จะยิงให้ไส้แตกเลย!
กล้าลอบโจมตีครูฝึกของพวกเขา!
เอี๋ยนเฟินฟางรู้สึกตื่นเต้นที่ยิงโดนไปสองนัด จึงให้กำลังใจตัวเองอย่างน่ารักด้วยเสียงเล็กเสียงน้อย “เฟินฟาง เฟินฟาง เจ้าเก่งที่สุด!”
ทหารเรือที่อยู่ข้าง ๆ กำลังจะทอดถอนใจออกมา พลางเอ่ยชมว่า พี่ชาย ท่านนี่ยอดเยี่ยมจริง ๆ เจ้าสิ่งนี้ข้าขอเรียนด้วยได้หรือไม่? กองทัพเรือจะมีสิ่งนี้บ้างได้หรือไม่? แต่ทันใดนั้นเมื่อได้ยินเสียงกะหนุงกะหนิงของเอี๋ยนเฟินฟางเข้าก็พลันตื่นตระหนกจนแข็งค้างอยู่ที่เดิม
เอี๋ยนเฟินฟางปรายตามองเขาทีหนึ่ง “ทำไม จะบอกว่าข้าตุ้งติ้งอีกแล้วอย่างนั้นหรือ?”
ทหารเรือมีสีหน้าจริงจังขึ้นมา “พี่ชาย ท่านเป็นลูกผู้ชายตัวจริง ใครกล้าบอกว่าท่านตุ้งติ้งข้าจะจัดการมันเอง!”
เคยเห็นผู้ชายตุ้งติ้งที่ดุดันเพียงนี้หรือไม่!
อยู่ข้างกายเขาแล้วช่างรู้สึกปลอดภัยยิ่งนัก
เอี๋ยนเฟินฟางหันหน้าไปพลางทำสีหน้าเย่อหยิ่งออกมา ก่อนจะส่งเสียง หึ สองครั้ง
ข้าไม่ได้ตุ้งติ้งเสียหน่อย~
ข้าแค่มีน้ำเสียงน่ารักเป็นธรรมชาติก็เท่านั้น!
…
มุมปากของคาโอริเริ่มมีเลือดสีดำไหลออกมา ลูกน้องโจรสลัดจึงวางนางลงแล้ววิ่งหนีไปทันที สายตาของนางเริ่มเลือนราง มองดูเรือรบที่พวกเขาส่งไปถูกคนทำให้พลิกคว่ำลำแล้วลำเล่า มีศพลอยเกลื่อนอยู่ในทะเล นางรู้สึกเจ็บแค้น แค้นที่ตัวเองถูกคนทำร้ายเอาได้
ไป๋จิ่นเดินสวนกับฝูงชนตรงไปยังชายหาด ในมือยังอุ้มกล่องที่งดงามใบหนึ่งเอาไว้ด้วย ราวกับว่าไม่ได้ต้องการจะหลบหนี แต่ออกมาเพื่อชื่นชมทิวทัศน์อย่างไรอย่างนั้น
โจรสลัดที่กำลังหนีเอาชีวิตรอดกลุ่มหนึ่งเห็นไป๋จิ่นยิ้มให้พวกเขา ก็แอบด่าเขาในใจว่าช่างเป็นคนโง่จริง ๆ
แต่เมื่อพวกเขาหนีเข้าไปในป่าลึก จึงได้เห็นว่าพี่น้องของพวกเขานั้นได้ล้มตายกันไปหมดแล้ว!
แต่ละคนมีใบหน้าอัปลักษณ์และสภาพที่น่าสังเวช ไม่รู้ว่าถูกอะไรกัดตายกันแน่ ที่ลำคอแต่ละคนต่างก็มีรูเลือดสีเขียว และยังคงมีเลือดไหลออกมาอยู่
“นี่…นี่มันเกิดอะไรขึ้น!”
แต่พวกเขาก็ไม่มีทางให้ถอยอีกแล้ว! พวกเขาก็เหมือนกับราษฎรต้าจิ้นที่เคยถูกฆ่า ไร้หนทางสู้! หากไม่หนีไป ก็ต้องไปสู้ตายเอาดาบหน้า!
ทว่าก็ยังคงมีคนพุ่งไปข้างหน้าเพื่อหวังเอาชีวิตรอด จากนั้น…พวกเขาก็ได้มองดูร่างกายของคนผู้นั้นอ่อนยวบลง ทวารทั้งเจ็ดมีเลือดไหลออกมา!
ปรมาจารย์พิษเพียงสะบัดแขนเสื้อ ก็เอาชีวิตของคนกลุ่มใหญ่ไปได้แล้ว~
เฮ้อ จริง ๆ เลย พิษชั้นดีเช่นนี้ เป็นบุญของเจ้าสุนัขเหล่านี้แล้ว
การต่อสู้บนชายฝั่งยังคงดำเนินต่อไป ไป๋จิ่นมาเพื่อเอาของมอบให้กับจี้จือฮวน จากนั้นก็จะไปช่วยเยว่พั่วหลัวต่อ
คนของสำนักกู่จะตายก็ควรตายด้วยน้ำมือของพวกเขา เจ้าหมูอ้วนยามากุจินั่นนับเป็นตัวอะไรกัน!?
ตอนที่จี้จือฮวนขึ้นฝั่งมาพร้อมกับเรือลำเล็ก ไป๋จิ่นก็กำลังกอดคาโอริไว้ในอ้อมแขน คาโอริคิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อถึงช่วงเวลาคับขัน กลับเป็นผู้ชายคนนี้ที่อยู่เคียงข้างนาง
นางยกมือขึ้นหวังจะลูบใบหน้าของเขา
ทว่าไป๋จิ่นกลับหลีกเลี่ยงด้วยความรังเกียจ จากนั้นก็ป้อนยาพิษเม็ดหนึ่งให้นาง น้ำเสียงนั้นอ่อนโยนจนแทบจะสามารถกลั่นเป็นน้ำหวานออกมาได้ “เจ้าต้องทนเอาไว้ มาตายในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ น่าเบื่อจะตายไป”
คาโอริเบิกตาโพลง อยากจะอาเจียนออกมาก็อาเจียนไม่ได้แล้ว เพราะยาเม็ดนั้นเมื่อเข้าปากก็ละลายทันที
จากนั้นไป๋จิ่นก็ผลักสตรีผู้นี้ออกไปให้ไกลอีกหน่อย ชิ ชิ ชิ
ตอนที่จี้จือฮวนขึ้นมาบนฝั่ง ก็เห็นสีหน้ารังเกียจของเขาเข้าพอดี
คาโอรินอนฟุบอยู่บนชายหาด อ้าปากหายใจราวกับปลาใกล้ตายตัวหนึ่ง เหล่าทหารเรือจึงรีบรุดเข้ามาล้อมพวกเขาเอาไว้
ไป๋จิ่นรีบเอ่ยขึ้นมา “ลูกพี่ฮวนฮวน แบ่งคนให้ข้ากลุ่มหนึ่ง ข้าจะไปช่วยเจ้าคนชอบหาเรื่อง”
จี้จือฮวนเลิกคิ้ว “เจ้าอยากเห็นนางเป็นอะไรไปอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันไม่ใช่หรือ?”
ไป๋จิ่นตอบกลับอย่างกระบิดกระบวน “โอ๊ย ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้นจริง ๆ เสียหน่อย อย่างไรเสียนางก็เป็นสตรี ท่านรีบเอาคนมาให้ข้ายืมหน่อยเถอะ อ้อ ยังมีนี่ด้วย จดหมายที่ค้นเจอในห้องของคาโอริ มัตสึโมโตะผู้นี้และของฟุมิโอะ มัตสึโมโตะผู้นั้น ข้าก็ใส่เอาไว้ในนี้ให้แล้ว ด้านบนเขียนอะไรไว้ข้าอ่านไม่ออก ข้าขอตัวไปช่วยคนก่อนนะขอรับ”
จี้จือฮวนดึงเขาเอาไว้ “เจ้ารู้หรือว่าจะไปช่วยเช่นไร?”
“…” ไป๋จิ่นมีสีหน้าเคร่งขรึม เพราะเขาต้องสัมผัสลมหายใจของเยว่พั่วหลัวให้ได้ก่อน คาดว่าคงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง
จี้จือฮวนผิวปาก หมูเหยี่ยวล่าเหยื่อก็มาบินวนอยู่บนท้องฟ้า จี้จือฮวนจึงสั่งเหล่าทหารเรือ “ช่วยชาวบ้านที่บริสุทธิ์ขึ้นเรืออย่างปลอดภัย ข้าจะไปช่วยคนก่อน”
ก่อนที่จี้จือฮวนจะจากไปได้มองไปทางคาโอริ จากนั้นก็เบนสายตาหนีพร้อมใบหน้าเรียบนิ่ง พร้อมทั้งไปขอคนช่วยจากเฉินไห่คั่ว
“เจ้าเป็นใคร!” คาโอริเอ่ยถามด้วยเสียงแหบแห้ง
จี้จือฮวนหัวเราะเสียงเย็น “คนที่จะเอาชีวิตเจ้า”
คาโอริกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง “พวกเราไม่มีทางแพ้”
“หากความสามารถของเจ้าเก่งเท่ากับปากของเจ้าก็คงจะดี เอาตัวไป”
สุดท้ายคาโอริ มัตสึโมโตะก็ถูกคุมตัวขึ้นไปบนเรือแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการยึดหมู่เกาะคืน พวกโจรสลัดเหล่านั้นเหลือแค่แรงเฮือกสุดท้ายแล้ว เรือรบเคลื่อนตัวพร้อมกัน มีกองปืนไฟอยู่ด้วย จึงทำให้จัดการได้อย่างง่ายดาย
…
เดิมจี้จือฮวนคิดว่าเมื่อมาถึงเกาะงู คนเหล่านั้นคงจะหนีไปหมดแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าจะเห็นเยว่พั่วหลัวนั่งเหม่ออยู่บนชายหาด เมื่อพวกเขามาถึงนางก็รีบกระโดดขึ้นและโบกมือให้ทันที
“พวกเจ้ามาได้สักที!!!”
ไป๋จิ่นรอไม่ไหวอีกแล้ว จึงกระโดดลงจากเรือแล้วเหาะเข้าไปหานางทันที เมื่อไปถึงตรงหน้านางก็พบว่าบนเสื้อผ้าของนางมีคราบเลือดติดอยู่ จึงเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก “เจ้าบาดเจ็บหรือ?”
เยว่พั่วหลัวได้ยินสิ่งที่เขาถาม ก็คิดว่าเขาจะอวดว่านางสู้เขาไม่ได้ จึงเอ่ยเสียงแข็งขึ้นมาทันที “จะบาดเจ็บได้อย่างไรกัน พวกเจ้าไปดูด้านหลังเถอะ!”
ทันทีที่จี้จือฮวนเห็นว่านางยังกระโดดโลดเต้นได้ ก็รู้ว่าไป๋จิ่นกังวลเกินไปแล้ว หากว่าแม้แต่คนเหล่านี้สำนักกู่ยังไม่สามารถจัดการได้ แล้วจะเป็นสำนักที่ยุทธภพต่างหวาดกลัวได้อย่างไรกัน
แต่ท่าทางเมื่อครู่ของไป๋จิ่นกลับทำนางขบคิดอะไรขึ้นได้บางอย่าง
เหล่าทหารเรือรีบวิ่งไปทางด้านหลัง จากนั้นก็ต้องปิดปากแล้วพุ่งตัวออกมา แต่ละคนต่างก็คลานไปที่ริมทะเลก่อนจะอาเจียนออกมา
บางคนที่วิ่งช้ายังไม่ทันถึงชายหาดก็อาเจียนออกมาแล้ว
“เจ้าทำอะไรไป?” ไป๋จิ่นถามด้วยความสงสัย
เยว่พั่วหลัวแบมือออก “ก็แค่จัดการกับลูกจระเข้กลุ่มหนึ่งเองไม่ใช่หรือ ข้าเอาพวกโจรสลัดให้พวกมันกินหมดแล้ว”
คิดไม่ถึงว่าเจ้ายามากุจิผู้นั้นจะไม่ได้เรื่องเพียงนี้ ทั้ง ๆ ที่นางเตรียมจะแสดงความสามารถให้เต็มที่เสียหน่อย
เหล่าทหารเรือได้ยินคำพูดของนาง ก็ยิ่งอาเจียนหนักกว่าเดิม
สวรรค์ พวกเขายอมสู้กับโจรสลัดด้วยดาบจริง ๆ ดีกว่าเห็นจระเข้ฉีกทึ้งศพเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเช่นนี้ ครึ่งเดือนต่อจากนี้เกรงว่าพวกเขาคงจะกินเนื้อไม่ลงเป็นแน่
จี้จือฮวนก็ยังคงส่งสัญญาณออกไป ในใจก็คิดว่ามีเกาะเล็กใหญ่มากมายเพียงนั้น หากคิดจะยึดคืนกลับมาทุกเกาะคงใช้เวลาไม่น้อย อีกทั้งยังมีคนที่ยามากุจิทิ้งเอาไว้อีก เมื่อพวกเขาทหารเรืออาเจียนเสร็จแล้ว จากนั้นก็รีบพาตัวคนขึ้นไปพักผ่อนบนเรือใหญ่ อีกเดี๋ยวจะได้กลับเมืองจินหลิงพร้อมกัน
เมื่อจี้จือฮวนหาที่นั่งได้แล้วก็เปิดกล่องใบนั้นและเริ่มอ่านจดหมายทันที ด้านหลังมีเสียงทะเลาะกันของไป๋จิ่นกับเยว่พั่วหลัวดังขึ้นมา
นางส่ายหน้าอย่างระอา
ไม่นานก็พบว่าพวกเขาสองคนกำลังมุงดูนางอยู่ “ลูกพี่ฮวนฮวน ท่านอ่านออกหรือ?”
จี้จือฮวนพยักหน้ารับ “เคยเรียนมา”
เมื่อนางเห็นชื่อที่ลงท้ายจดหมายคือคำว่า ‘พี่สาว’ สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปทันที