เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย - บทที่ 528 อัปฯ ขั้นแล้วเหตุใดถึงไม่รีบบอก!
- Home
- เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย
- บทที่ 528 อัปฯ ขั้นแล้วเหตุใดถึงไม่รีบบอก!
บทที่ 528 อัปฯ ขั้นแล้วเหตุใดถึงไม่รีบบอก!
คนข้างกายของซือถูรุ่ยไม่ถูกชะตากับเจ้าจีฝูเย่ผู้นี้มาตั้งนานแล้ว จะเสแสร้งไปทำไมกัน ก็แค่พ่อค้าอาวุธคนหนึ่งก็เท่านั้น การที่พวกเขายอมพูดจาดี ๆ กับเขาอยู่ตรงนี้ก็ควรดีใจแล้ว
จะเล่นตัวไปทำไมกัน?
“จีฝูเย่ เจ้าไม่ยอมให้พวกเราค้น เพราะเจ้ามีอะไรปิดบังอยู่ใช่หรือไม่!?”
คนผู้นั้นเพิ่งจะเอ่ยออกมา เผยยวนก็ยกแขนเสื้อขึ้นมาสะบัดเบา ๆ เพียงแค่ใช้กำลังภายในก็ทำให้คนผู้นั้นกระเด็นออกไปไกลถึงหนึ่งจั้งแล้ว “ข้าคุยกับท่านเจ้าเมืองซือถูอยู่ เกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย?”
ทุกคนต่างรู้สึกถึงบรรยากาศที่ตึงเครียด
ซือถูรุ่ยจึงพูดข่มขู่ขึ้นมาว่า “พี่จี เหตุใดต้องโมโหเพียงนี้กันเล่า ลูกน้องของข้าไม่รู้ความ พูดจาไม่เป็น อีกเดี๋ยวข้าค่อยพาเขามาขอโทษท่านด้วยตัวเองก็แล้วกัน แต่ของนั่นสำคัญกับข้ามากจริง ๆ และพี่จีต้องเข้าใจด้วยว่าที่นี่คือเมืองเจว๋เฉิง ไม่มีผู้ใดสามารถเอาของของข้าไปได้”
เผยยวนหัวเราะเสียงเย็น “ประโยคนี้ของท่านเจ้าเมืองข้าไม่เข้าใจ ของของท่านอย่างไรเสียก็ต้องเป็นของของท่านอยู่แล้ว หากเอาไปได้เช่นนั้นจะยังเป็นของของท่านอีกได้อย่างไร?”
คำพูดที่ยั่วยุเช่นนี้ ทำให้สีหน้าของซือถูรุ่ยถมึงทึงขึ้นมาทันที “ดูท่าพี่จีคงมีเรื่องอะไรไม่พอใจข้าอยู่กระมัง ถึงไม่ยอมให้ความร่วมมือกับข้า”
“ท่านเจ้าเมืองคิดมากเกินไปแล้ว”
ทันทีที่สิ้นเสียงของเผยยวน ซือถูรุ่ยก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอีกและลงมือทันที
ก่อนหน้านี้เผยยวนก็พอรู้มาว่าวรยุทธ์ของซือถูรุ่ยนั้นไม่เลว และก็จริงเพราะซือถูรุ่ยผู้นี้ไม่ใช่คนที่มีดีแค่เปลือก!
ขณะที่ซือถูรุ่ยลงมือ คนที่อยู่ด้านหลังของเขาก็พุ่งเข้าไปภายในห้องทันที
เผยยวนคิดในใจว่าแย่แล้ว จึงต้องการเข้าไปขัดขวาง ทว่าซือถูรุ่ยก็ตามไม่เลิก
“หากพี่จีไม่ได้ทำเรื่องน่าละอายแก่ใจจะขวางข้าไว้ทำไมกัน? ยิ่งไปกว่านั้นที่ดินทุกตารางนิ้วของเมืองเจว๋เฉิงล้วนเป็นของข้าซือถูรุ่ย ข้าในฐานะเจ้าของ ข้าจึงต้องการจะตามจับโจร ดังนั้นการที่พี่จีไม่ยอมให้ความร่วมมือเช่นนี้จะไร้เหตุผลเกินไปหรือไม่!” เอ่ยจบ ซือถูรุ่ยก็ยกขาเตะไปอีกครั้ง
“หากท่านเจ้าเมืองคิดเช่นนี้ การค้าของเราก็คงต้องเป็นอันยกเลิกแล้ว!” เผยยวนโต้กลับ คราวนี้เขาไม่ได้ออมมืออีกต่อไป โจมตีซือถูรุ่ยด้วยสองฝ่ามือ กำลังภายในของเขาทำให้อากาศโดยรอบสั่นสะเทือนเกิดเป็นคลื่นขึ้นมาทันที บางคนที่ไม่รู้วรยุทธ์พลันถูกซัดจนกระเด็นออกไป
ส่วนห้องของอาอินนั้น ตอนนี้คนที่ซือถูรุ่ยพามาได้ใช้เท้าถีบประตูเข้าไปแล้ว
“ทุกคนเข้าไปค้นให้ทั่ว จีฝูเย่ผู้นี้ไม่ให้คนเข้า ต้องซ่อนคนเอาไว้ด้านในอย่างแน่นอน!” คนที่เป็นหัวหน้าตะโกนเสียงดังต้องการจะเข้าไปค้นหาคน
แต่เมื่อพวกเขาเข้าไปก็ต้องตกตะลึง
ภายในห้องมีคนสี่คนนั่งอยู่ที่โต๊ะ และพวกเขากำลังเล่นไพ่กันอยู่
มีเด็กสองคนที่ยกจานใส่เมล็ดแตงโมยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วย
ส่วนอีกคนก็ยืนนิ่งราวกับท่อนไม้ ยามที่สายตาของคนผู้นั้นชำเลืองมาดูเย็นเยียบยิ่งนัก
เยว่พั่วหลัวหายใจเข้าลึก ๆ แล้วมองไปทางพวกเขา “ทำอะไร? กลางวันแสก ๆ ร้องจับโจรอะไรกัน? อ้อ เจ้าเมืองซือถูทำเช่นนี้คิดว่าพวกเราเป็นโจรอย่างนั้นหรือ?”
เย่จิ่งฝูหัวเราะเสียงเย็น “ช่างหาได้ยากจริง ๆ นายท่านของเราทำการค้ามาหลายปี แต่นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ถูกคนมองว่าเป็นโจร แปดถง*!”
* ถง (筒) หมายถึง ไพ่ชุดหนึ่งในสำรับไพ่นกกระจอก เป็นชุดที่มีสัญลักษณ์วงกลมมีจำนวน 1-9
เผยเสี่ยวเตาสะบัดไพ่ใส่หน้าคนเหล่านั้น “จะค้นไม่ใช่หรือ? ค้นสิ”
นางเหวี่ยงดาบใหญ่ลงกับพื้น คมดาบฟันไปที่เป้าของชายผู้นั้น
“แต่หากหาไม่เจอ พวกเจ้าก็ต้องทิ้งมือเอาไว้ที่นี่”
ซือถูรุ่ยหยุดมือแล้ว ทำท่าจะเดินเข้าไปในห้อง
เผยยวนยังคิดจะห้ามเอาไว้ แต่จี้จือฮวนกลับเดินออกมาจากภายในห้องเสียก่อน พลางมองหน้าซือถูรุ่ยแล้วเอ่ยขึ้นมา “เจ้าเมืองซือถูควรคิดให้ดีจะดีกว่า หากในเรือนของพวกเราไม่มีคนหรือของที่ท่านตามหา เช่นนั้นการค้าของพวกเราก็คงจะต้องยุติลง เหมือนที่ท่านพูดเอาไว้ว่า เมืองเจว๋เฉิงมีกฎของเมืองเจว๋เฉิง คุณชายฝูเย่เองก็มีกฎของตัวเองเช่นกัน”
ซือถูรุ่ยหัวเราะเสียงเย็น “อย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นพวกเจ้าก็ลองดู ว่าจะออกไปได้หรือไม่”
ซือถูรุ่ยเดินสวนจี้จือฮวนเข้าไป เผยยวนยังรู้สึกเป็นกังวล แต่จี้จือฮวนกลับทำสัญญาณมือปลอบใจเขา
ทันทีที่ซือถูรุ่ยเข้าไป พวกเผยเสี่ยวเตาก็ได้ออกมาหมดแล้ว และปล่อยให้พวกเขาเข้าไป
ซือถูรุ่ยเตะลูกน้องไปคนละที “รีบลุกขึ้นมา ไปค้นซะ”
แม้ต้องรับความเสี่ยงกับการที่ต้องล่วงเกินจีฝูเย่เช่นนี้ ทว่าเขาต้องหาซือถูเซิงให้เจอให้ได้
ไม่นานภายในห้องก็ถูกค้นจนทั่ว ทั้งคาน เตียง ตู้เสื้อผ้า หีบ ขอเพียงเป็นที่ที่สามารถซ่อนคนได้ แม้แต่กระเบื้องทุกแผ่น รวมถึงเครื่องเรือนล้วนถูกคนค้นจนหมดแล้ว
เมื่อในห้องนี้ว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย พวกเขาก็ไปหาอีกห้องทันที
พวกเผยยวนยังคงยืนอยู่ตรงนั้น พวกจีฝูเย่ได้ยินเสียงก็เดินออกมา พลางเอ่ยด้วยความโมโห “ซือถูรุ่ย เจ้าหมายความว่าอย่างไร ถึงกล่าวหาว่าคนที่ตัวเองเชิญมาเป็นโจรเช่นนี้ อย่างคุณชายฝูเย่มีของอะไรที่ซื้อไม่ได้กัน แค่เศษขยะของเจ้ายังกลัวว่าคนจะอยากได้อีกอย่างนั้นหรือ เจ้าช่างยกยอตัวเองเก่งจริง ๆ”
ซือถูรุ่ยหาซือถูเซิงไม่พบก็โมโหจนสีหน้าถมึงทึง จึงไม่ว่างมาต่อปากต่อคำกับจีฝูเย่อยู่ตรงนี้ อย่างไรเสียก็ล่วงเกินไปแล้ว ดังนั้นเมื่อทำก็ต้องทำให้ถึงที่สุด ต้องจับตัวคนทั้งหมดเอาไว้ถึงจะถูก
ถึงเวลานั้นเมืองเจว๋เฉิงก็คงรักษาเอาไว้ไม่ได้อยู่แล้ว เขายังจะต้องกลัวจีฝูเย่ผู้นี้ไปอีกทำไมกัน?
“ค้นให้ทั่ว!”
จีฝูเย่พุ่งออกมาด้วยความโมโห เขาเข้าไปที่ข้างกายเผยยวนแล้วเอ่ยขึ้นมา “ท่านอาจารย์ พวกเรารีบไปกันเถอะขอรับ สถานที่ผีสางเช่นนี้ใครอยากอยู่ก็ปล่อยให้อยู่ไป!”
ซือถูรุ่ยยังยืนอยู่ที่เดิม เมื่อได้ยินดังนั้นก็มองเขาอย่างชั่วร้าย “อยากไปอย่างนั้นหรือ? เจ้าเห็นจวนของข้าเป็นที่ใดกัน รออยู่เฉย ๆ เถอะ ในเมื่อเหล้าคารวะไม่ดื่มจะดื่มเหล้าลงทัณฑ์ เช่นนั้นก็รับผลที่ตามมาด้วยก็แล้วกัน!”
เอ่ยจบ เขาก็เดินไปที่ห้องของเผยยวนเพื่อค้นหาด้วยตัวเอง
อย่างอื่นเผยยวนไม่กลัว ดังนั้นเขาจึงอาศัยช่วงที่ไม่มีคนสนใจกระตุกแขนเสื้อของจี้จือฮวนเบา ๆ “เจ้าเอาคนไปซ่อนไว้ที่ใด?”
จี้จือฮวนถึงกับพูดไม่ออก
เมื่อครู่หน้าสิ่วหน้าขวานเพียงนั้น ทั้งยังได้ยินเผยยวนเริ่มสู้กับซือถูรุ่ยแล้ว
ทุกคนต่างก็คิดว่าครั้งนี้คงต้องพุ่งออกไปสู้ตายแล้ว แม้แต่เส้นทางหลบหนีพวกเขาล้วนคิดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ทว่าสุดท้ายเมื่อจี้จือฮวนกำลังจะแบกคนขึ้นมา ก็ฉุกคิดได้ว่า หากในมิติซ่อนคนได้ก็คงจะดี
ทันใดนั้นก็มีเสียง ‘ฟิ้ว’ ดังขึ้น ซือถูเซิงก็หายไปจากตรงหน้าของนางเสียแล้ว
ภาพในมิติที่พลันปรากฏขึ้นมาในหัวของนาง ซือถูเซิงกำลังนอนอยู่ในห้องที่หมู่บ้านตระกูลเฉินในมิติของจี้จือฮวน ดวงตาของนางปิดสนิทราวกับคนหลับลึกอยู่ก็มิปาน
“ลูกพี่ฮวนฮวน ไม่ทันแล้ว หรือไม่ข้าช่วยท่านแบกเอง” เย่จิ่งฝูคิดว่าจี้จือฮวนคงแบกซือถูเซิงไม่ไหว แต่สุดท้ายเมื่ออ้อมมาดู
“หืม?
คนเล่า?”
จี้จือฮวนยืนนิ่งอยู่ที่เดิม พลางยกยิ้มออกมาอย่างจืดเจื่อน
อ้าว ในเมื่อพื้นที่อัปฯ ขั้นจนสามารถซ่อนคนได้แล้ว
เช่นนั้นเหตุใดถึงไม่รีบบอกเล่า!!
จนนางถึงกับคิดไปไกลว่าควรจะใช้สไนเปอร์หรือระเบิดดี
“ข้าเอาไปซ่อนแล้ว”
“ซ่อนที่ใดกัน?” เย่จิ่งฝูพูดจบก็ทำท่าจะมุดเข้าไปดูที่ใต้เตียง
“เอาเป็นว่าพวกเขาหาไม่เจอแน่” จี้จือฮวนดึงนางออกมา
ดังนั้นนอกจากจี้จือฮวนที่รู้ว่าซือถูเซิงอยู่ที่ใดแล้ว คนอื่นก็ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย พวกเขาจึงรู้สึกตึงเครียดขึ้นมา แต่ละคนล้วนกระชับอาวุธในมือเอาไว้แน่น
เวลานี้เมื่อเผยยวนถามขึ้นมาว่าเอาคนไปซ่อนไว้ที่ใด ทุกคนต่างก็มองมาที่นางจนเป็นตาเดียว เพราะสงสัยอย่างมาก
เมื่อครู่ทุกคนต่างก็ตกใจจนหัวใจแทบจะกระดอนออกมานอกอกอยู่แล้ว!
เพราะคนพวกนั้นแม้แต่พื้นกระเบื้องก็ยังงัดออกมา ไม่มีทางที่จะหาไม่เจอ
ลูกพี่ฮวนฮวนเข้าไปแค่ครู่เดียว แล้วคนเล่า?
จี้จือฮวนกระแอมเล็กน้อย ยังดีที่สวมหน้ากากเอาไว้จึงปกปิดสีหน้าร้อนตัวได้เป็นอย่างดี
นางถอนหายใจออกมา “ชิ เลิกถามได้แล้ว ถามไปข้าก็บอกไม่ได้”
อาชิงเข้าใจได้ทันที “อ้อ ข้ารู้แล้ว!”
ทุกคนต่างมองไปที่เขา เจ้ารู้อะไรมา ถึงบอกว่าตัวเองรู้แล้ว
“เช่นนั้นเจ้าบอกมาสิ” ไป๋จิ่นร้อนใจอย่างมาก
อาชิงโยกศีรษะเล็ก ๆ ไปมา “เรื่องของเทพธิดา ท่านยุ่งให้มันน้อย ๆ หน่อย แม้แต่ไซอิ๋วยังอ่านไม่จบ ข้ากับท่านคงคุยกันไม่รู้เรื่องหรอก”
จริง ๆ เลย แค่ท่านแม่ลงมายังโลกมนุษย์เพื่อแต่งงานกับท่านพ่อก็ลำบากมากแล้ว
.
.
.