เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย - บทที่ 539 สิ่งที่เขารอคอย
บทที่ 539 สิ่งที่เขารอคอย
เหตุใดหัวข้อเรื่องระดูนี่ ยังไม่ลืมไปอีก!
หลายคนกลั้นหัวเราะจนแทบจะกลั้นไม่ไหวอยู่แล้ว
แต่ก็กลัวว่าไป๋จิ่นจะแอบใส่เมล็ดสลอดให้พวกเขากิน ดังนั้นจึงหันหลังกินข้าวเงียบ ๆ
ไป๋จิ่นพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ให้ก้อนขี้ไก่ขี้เป็ดของเจ้าไปสิ เด็กผู้หญิงชอบที่สุดแล้ว”
อาชิงพยักหน้าเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ
หลังจากกินข้าวเสร็จเขาก็เอาไปให้เยว่พั่วหลัวหนึ่งก้อน และพูดอย่างจริงจังว่า “อาจารย์บอกว่าท่านชอบสิ่งนี้ที่สุด”
เยว่พั่วหลัวมองก้อนดินเหนียวสองเม็ดที่มีขนาดต่างกัน
นางหรี่ตาลงแล้วเอ่ยขึ้นมา “ได้ เจ้ากีบหมูใหญ่*ผู้นี้! ข้าคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าเขาไว้ใจไม่ได้! ข้าจะไปวางยาพิษเขาเดี๋ยวนี้แหละ”
* กีบหมูใหญ่ (大猪蹄子) หมายถึง ผู้ชายเจ้าชู้ ผู้ชายที่จีบผู้หญิงไม่เป็น
อาชิงอาศัยความฉลาดของตัวเอง ทำให้คืนนี้ไป๋จิ่นต้องนอนส่งเสียงกรีดร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ตัวเขากลับหลับสบายจนมีเสียงกรนออกมา และในที่สุดเผยยวนก็สามารถอุ้มภรรยาของตัวเอง เข้ามาพะเน้าพะนอในกระโจมได้แล้ว
ที่สำคัญก็คือ ตอนนี้มีคนช่วยดูแลเด็กน้อยทั้งสองให้แล้ว
จี้จือฮวนตรวจสอบเส้นเสียงของซือถูเซิงแล้ว พบว่าที่ได้รับความเสียหายนั้นเป็นเพราะถูกคนทำ แต่ยังสามารถรักษาได้ ทว่าหากอยากจะให้หายดีเหมือนเมื่อก่อน เกรงว่าคงเป็นไปไม่ได้แล้ว
โชคดีที่ซือถูเซิงไม่ใส่ใจเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่นางสนใจมากที่สุดได้กลับมาอยู่ข้างกายนางแล้ว
หลังจากที่จี้จือฮวนกลับมาจากกระโจมที่เตรียมไว้สำหรับให้ผู้หญิงอาบน้ำ ก็พบว่าเผยยวนเอนตัวอยู่บนเตียงและยังตบลงที่ว่างข้าง ๆ เขา เป็นการแสดงออกและการส่งสัญญาณที่ดูเป็นธรรมชาติอย่างมาก
จี้จือฮวนดับเทียนแล้วจึงเข้าไปหา พริบตาต่อมาก็ถูกเผยยวนดึงเข้าไปอยู่ข้างกาย และถูกแขนที่แข็งแรงของเขากอดเกี่ยวเอาไว้แน่น
จี้จือฮวนรับรู้ได้ถึงความปรารถนาของเขา นางเงยหน้าขึ้นรอรับจูบอยู่ในอ้อมแขนของเขา
เผยยวนจึงโน้มตัวลง ประกบริมฝีปากของเขาเข้ากับริมฝีปากของนาง โดยไม่ให้เวลานางได้คัดค้าน จูบนั้นบดลงมาอย่างดูดดื่ม
จี้จือฮวนรู้ว่าคนผู้นี้ปกติมักจะสุภาพอ่อนโยน ไม่มีทางทำอะไรรุนแรงกับนางอย่างแน่นอน แต่ในบางครั้งเขาก็ต้องการเป็นผู้นำในสนามรัก
เวลาเริ่มแล้วก็จะไม่จบง่าย ๆ คล้ายกับเวลาทำเจียนปิ่ง**อย่างไรอย่างนั้น
** ทำเจียนปิ่ง (烙煎饼) หมายถึง พลิกไปพลิกมาบนเตียง นอนไม่หลับ
พลิกไปพลิกมา หากไม่ถึงครึ่งค่อนคืนจะไม่มีทางหยุด
แต่ครั้งนี้จี้จือฮวนก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร จู่ ๆ ก็เอามือขึ้นแตะที่หน้าอกของเผยยวน เหงื่อของเขากำลังหยดลงมา กระดูกไหปลาร้าของเขามองเห็นได้อย่างเด่นชัด กล้ามแขนทั้งสองเป็นมัด ๆ เขาถามด้วยเสียงที่เหนื่อยหอบ “มีอะไรหรือ?”
เสียงของเขายังคงแหบแห้งเล็กน้อย
จี้จือฮวนขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้นมา “รู้สึกเจ็บตรงท้องน้อยนิดหน่อย”
เผยยวนไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ถอนตัวออกทันที “เหตุใดถึงเจ็บได้ ข้าจะไปตามเย่จิ่งฝูมาตรวจเจ้าเดี๋ยวนี้”
จี้จือฮวนรีบดึงเขาเอาไว้ “ข้าก็เป็นหมอ”
นางเริ่มคาดเดาบางอย่างได้ จึงจับชีพจรของตัวเองดู แต่เมื่อครู่พวกเขาเพิ่งจะออกกำลังกายไปคงจับอะไรไม่ได้ในตอนนี้ คิดไปคิดมาจึงเปิดกล่องยาน้อยออก แน่นอนว่าในกล่องยาน้อยย่อมมีที่ทดสอบการตั้งครรภ์อยู่
จากนั้นไม่นานข้อสงสัยในใจของจี้จือฮวนก็ได้รับการยืนยัน ความจริงแล้วหลังจากเห็นผลเช่นนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องไปหาหมออะไรอีกแล้ว
เพราะปกติเวลาเปิดกล่องยาน้อย ในนั้นมักเป็นยาที่นางต้องการอย่างเร่งด่วนเสมอ
เผยยวนเกาใบหูด้วยความร้อนใจ “เช่นนั้นจะทำอย่างไร ตอนเย็นกินอะไรไม่สะอาดเข้าไปหรือไม่ หรือเมื่อครู่ข้าทำแรงเกินไป?”
จี้จือฮวนดึงมือของเขา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า “ข้าคิดว่า…เจ้าคงจะได้เป็นพ่อคนแล้ว”
เผยยวนไม่ได้รู้สึกแปลกใจเมื่อได้ยินคำว่าพ่อ เพราะหลายปีมานี้เด็กทั้งสามคนก็ได้เข้ามาเติมเต็มเขาในทุก ๆ วันอยู่แล้ว
แต่เมื่อผู้หญิงที่เขารักเงยหน้าขึ้นแล้วบอกเขาว่า เขากำลังจะเป็นพ่อคน เขากำลังจะมีลูกกับนาง
เผยยวนจึงตกตะลึงไปทันที จากนั้นตาของเขาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ
และไม่กล้าแตะต้องจี้จือฮวนอีก
จี้จือฮวนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมาและลูบหน้าท้องเบา ๆ “ตอนนี้ข้ายังไม่แน่ใจ แต่น่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด”
เผยยวนจึงเอ่ยด้วยความกลัวขึ้นมา “เช่นนั้นเมื่อครู่ข้าทำรุนแรง จะทำร้ายลูกหรือไม่?”
จี้จือฮวนถอนหายใจออกมา “คงไม่เป็นไรกระมัง”
“ไม่ได้ ข้ายังไม่วางใจ” เผยยวนคิดที่จะไปลากเย่จิ่งฝูขึ้นมาจากที่นอน
จี้จือฮวนจึงดึงเขาเอาไว้ “เจ้าไปเรียกนางตอนนี้ รับรองว่าคนทั้งค่ายต้องรู้แน่”
นางไม่อยากทำอะไรที่เอิกเกริกเช่นนั้น อีกอย่างนางก็รู้สภาพร่างกายของตัวเองดี
เดิมจี้จือฮวนคิดจะปลอบใจเขาว่าไม่เป็นอะไร แต่คิดไม่ถึงว่าแม้แต่มือเขาก็ยังสั่นเทาเพียงนี้ นางจึงดึงมือของเขามาวางลงบนหน้าท้องของตัวเอง
เผยยวนคุกเข่าลงข้างหนึ่ง ไม่กล้าขยับแม้แต่น้อย
“ลูกจะโทษข้าหรือไม่?”
จี้จือฮวนกลัวว่าจะสร้างความรู้สึกผิดในใจให้เขา จึงเอ่ยขึ้น “ลูกไม่ได้อ่อนแอเพียงนั้นหรอก ความจริงแล้วเป็นข้าที่ไม่ดีเอง เป็นหมอแท้ ๆ แต่กลับไม่รู้อะไรเลย
แต่ร่างกายนี้เมื่อก่อนอ่อนแอมาก ข้าพยายามบำรุงอยู่ แต่เด็กคนนี้มากะทันหันยิ่งนัก”
เผยยวนส่ายหน้า “เขาไม่ได้มากะทันหัน เขาเป็นลูกที่ข้ารอคอยมานานแล้ว”
คนที่เขารักไม่ใช่คนที่นี่ เผยยวนจึงเข้าใจเรื่องนี้ดีกว่าใคร
ดังนั้นเขาจึงรีบร้อนอยากจะมีลูกกับนางสักคน
เขาเห็นแก่ตัว เขาคงอยู่ไม่ได้หากว่าวันหนึ่งจู่ ๆ นางต้องจากไป
ดังนั้น…เขาจึงเฝ้ารอเด็กคนนี้มาตลอด
ในที่สุดเขาก็มาแล้ว
“หวังว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงเหมือนกับเจ้า”
เขาจะปกป้องนาง เขาจะมอบความรักทั้งหมดให้กับนาง
จี้จือฮวนมองดูอาการตื่นเต้นของเขา มุมปากก็โค้งขึ้นเล็กน้อย
“ดูท่าทางซื่อบื้อของเจ้าสิ”
เผยยวนเห็นนางยังไม่ได้สวมเสื้อผ้า จึงรีบดันตัวนางกลับเข้าไปในผ้าห่ม
“ข้าไปหาท่านหมอเย่ดีกว่า”
“เจ้าจะไปหานางทำไมกัน” จี้จือฮวนรู้สึกเอือมระอา เพราะตอนนี้นางไม่เป็นอะไรแล้วจริง ๆ
“ข้า…ข้าจะไปขอตำราแพทย์จากนาง ดูว่าตอนท้องมีอะไรที่ต้องระวังบ้าง ข้าจะรีบทำศึกให้เสร็จ พวกเราจะได้รีบกลับเมืองหลวง” เผยยวนรอไม่ไหวแล้วจริง ๆ ไหนจะต้องเจรจากับมู่หรงเจี๋ยนั่นอีก!
เขาบุกเข้าไปตอนนี้ก็จบแล้ว!
จี้จือฮวนกอดแขนของเขาไว้ “แต่ข้ากับลูกต้องการเจ้า”
เผยยวนใจอ่อนลง ความมุ่งมั่นอยากจะต่อสู้ที่พุ่งขึ้นมา พลันกลายเป็นความนุ่มนวลในทันใด
เขาจึงรีบกลับขึ้นไปบนเตียงอย่างเชื่อฟัง หางที่โผล่ออกมาก็เก็บไปเรียบร้อยแล้ว แทบอยากจะขดตัวอยู่ข้างกายนาง เพื่อปกป้องลูกของเขาเอาไว้
หากว่าเขามีหูหมาป่า ตอนนี้มันคงตั้งขึ้นมาพองขนและขอร้องให้นางลูบไปนานแล้ว
“เขาขยับหรือยัง?
เขาบอกเจ้าหรือไม่ว่าอยากกินอะไร?
ตอนที่อาฉือมาอยู่กับข้าก็รู้ความมากแล้ว ส่วนอาชิงกับอาอินก็กินนมเสียงดัง และยังชอบร้องไห้ด้วย
และข้าก็ไม่รู้ว่าตอนที่ข้ายังเด็กเป็นเช่นไร แต่อย่างไรเสียข้าก็จะไม่ปล่อยให้ใครมารังแกเจ้าได้”
เผยยวนในเวลานี้ต่างคิดฟุ้งซ่านไปหมด
“พวกเราพาลูกกลับไปอยู่หมู่บ้านตระกูลเฉินเถอะ ที่นั่นเรียบง่าย อีกอย่างเป็ด ไก่ ห่าน ที่พวกเราเลี้ยงก็โตแล้ว ยังมีอีกนะ ข้าสามารถพาเขาไปออกกำลังกายบนเขา รับรองว่าเขาต้องเป็นเด็กที่แข็งแรงร่าเริงอย่างแน่นอน”
เผยยวนเห็นจี้จือฮวนไม่พูดอะไร ก็หอมแก้มของนางไปหนึ่งที “แต่ข้าก็ยังรักฮวนฮวนมากที่สุดอยู่ดี”
จี้จือฮวนชำเลืองมองเขา “เจ้าพูดเช่นนี้กลัวข้าจะหึงอย่างนั้นหรือ?”
“เปล่า”
จี้จือฮวนหัวเราะออกมา “เจ้าอยากได้ลูกผู้หญิงอย่างนั้นหรือ?”
เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่แต่งงานกัน เขาก็ซื้อผ้าผืนเล็กสีชมพูเนื้อนุ่มไว้เป็นกอง แม้แต่เตียงเด็กอ่อนก็จะให้ตกแต่งด้วยผ้าสีชมพู จี้จือฮวนจึงเดาว่าต้องเป็นเช่นนี้อย่างแน่นอน
เผยยวนพยักหน้ารับ “อืม ข้าอยากได้ลูกสาว ที่น่าเอ็นดูเหมือนอาอิน”
“เหมือนอาฉือไม่ดีหรือ?”
“รู้ความเกินไป ข้าสงสารเขา” เผยยวนคิดว่าเหมือนอาชิงก็ได้ อย่างไรเสียเขาก็รักลูกทั้งสามคนเหมือนกัน แล้วลูกแท้ ๆ ของตัวเองจะคิดมากไปทำไมกัน สุดท้ายแล้วขอแค่ให้ลูกแข็งแรงก็พอ
.