เคลียร์อิเซไกกับเทพธิดาผู้ศรัทธาศูนย์ - ตอนที่193สงครามมนุษย์ปีศาจ6
193 สงครามมนุษย์ ปีศาจ 6
“มานี่ ทากัตซูกิ-คุง!”
“ได้เลย เข้าใจแล้ว” (มาโกโตะ)
ที่ที่โยโกยามะ ซากิ-ซัง (ภรรยาของซากุไร-คุง) ชี้ไปแล้เรามุ่งหน้าไป -โดมสีดำ
ยิ่งเราเข้าใกล้ผมยิ่งรู้สึกท่วมท้นโดยขนาดของมัน
ผมคิดว่ามันใหญ่เท่าโตเกียวโดม แต่มันอาจจะใหญ่กว่านั้นอีก
แล้วก็ ผมเห็นมนุษย์และปีศาจสูกันโดยมีโดมสีดำเป็นแกนกลาง แต่บางอย่างนั้นเปลกไป
ประเทศพันฒมิตรทั้งหก ประกอบไปด้วยอัศวินแห่งแสงสู้เหมือนพวกเขาพยายามจะ {ปกป้องโดมสีดำนั้น}
“โยโกยามะ-ซัง ทำไมทุกคนปกป้องดำๆนั่น?” (มาโกโตะ)
ถ้าซากุไร-คุงติดอยู่ในมัน ไม่ใช่ว่ามันดีกว่าที่จะทำลายมันเหรอ?
เมื่อผมถามสิ่งนี้ โยโกยามะพูดด้วยสีหน้าที่เดือดดาล
“โดมสีดำเป็นบาเรียที่ {ขังแค่ฮีโร่แห่งแสง} มันมันบาเรียทางเดียวที่ไม่อนุญาติให้มนุษย์เข้าไปจากข้างนอก และส่วนที่มีปัญหามากที่สุดคือปีศาจและมอนสเตตอร์ {เข้าไปได้}… นั่นทำไม” (ซากิ)
“เข้าใจแล้ว บาเรียมีเงื่อนไขนั้นเหรอ หือห์ แม้อย่างนั้น… ‘แค่ฮีโร่แห่งแสงคนเดียว’ มันค่อนข้างเป็นเป้าหมายที่ชัดเจน พวกเค้าประดิษฐ์สูตรเวย์เพื่อเหตุผลนั้นอย่างเดียว หือห์” (มาโกโตะ)
ได้ยินสิ่งที่โยโกยามะ-ซังพูด ผมคิดถึงความทรงจำเมื่อนานมาแล้ว
มีบางอย่างที่ผมได้เรียนจากวิหารแห่งน้ำเมื่อนานมาแล้ว
เกี่ยวกับเวทมตร์บาเรีย
เวทมนตร์บาเรียนั้นถูกใช้เพื่อป้องกันการโจมตีจากศัตรู และเพื่อกักขังศัตรู เพราะที่จะกันเวทมนตร์รุกที่ทรงพลัง หรือขังศัตรูที่แข็งแกร่ง ต้องมีมานาจำนวนมหาศาล
แต่มันไม่ได้คุ้มค่า ดังนั้นเพื่อที่จะทำบาเรียที่ทรงพลังที่คุ้มค่า มีวิธีที่เรียกว่า ‘ใส่เงื่อนไข’
พูดมันง่ายๆ คุณทำบาเรียที่แข็งแกร่งกับเวทมนตร์ไฟแต่อ่อนแอกับเวทมนตร์น้ำได้
โดยการทำอย่างนั้น ถ้าการต้องการมานานั้นเหมือนกัน คุณทำบาเรียที่แข็งแกร่งกว่ากับเวทมนตร์ไฟได้
แต่สิ่งที่ศัตรูเตรียมมาคือ:
– ขังแค่ฮีโร่แห่งแสง
– หยุดการเข้าไปของมนุษย์
– ปีศาจและมอนสเตอร์เข้าได้อย่างอิสระ
นั่นคือคร่าวๆของมัน
“แต่บาเรียทำให้พังได้ด้วยการโจมตีที่มากพอ ที่นักเวทย์ที่มีทักษะมากมายในอัศวินแห่งแสง ใช่มั้ย?” (มาโกโตะ)
“เราทำอย่างนั้นไม่ได้ นักเวทย์ของอัศวินแห่งแสงพูดว่ามันจะใช้เวลา 2 วันเพื่อทำลายบาเรีย! บาเรียนี้เห็นว่าเป็นระดับเทพเจ้า คนที่ทำมันพังได้ควรจะเป็นปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่-ซามะ หรือฮีโร่แห่งแสงเมื่อเค้าอยู่ภายใต้แสงแดด…” (ซากิ)
“เป็นอย่างนี้ไปได้ยังไง…” (มาโกโตะ)
ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่-ซามะได้กลับไปที่ซิมโฟเนีย ดังนั้นเธออยู่ระหว่างการเดินทางมา
ฮีโร่แห่งแสงได้ติดกับดัก
มากกว่านั้น เมฆที่ดำสนิดได้ปิดแสงแดด
นี่มันแย่แน่นอน
“มีแค่ซากุไร-คุงคนเดียวข้างในเหรอ?” (มาโกโตะ)
“ไม่ มีทีมประมาณ 100 คนที่ปกป้องเรียวซูเกะตลอด นั้นทำไมเค้าไม่สมควรจะอยู่คนเดียว แต่…มันเป็นทั้งวันแล้วตั้งแต่ที่พวกเค้าติดอยู่ในนั้น ชั้นไม่รู้ว่าทุกคนจะโอเคมั้ย…” (ซากิ)
“เข้าใจแล้ว…” (มาโกโตะ)
มันเป็นสถานการณ์คร่าวๆ
ผมพูดอะไรแง่บวกกับเรื่องนั้นไม่ได้
ระหว่างที่เราคุยกัน เราได้มาใกล้กับโดมสีดำ…พูดให้ถูก บาเรียสีดำสนิท
ผิวของบาเรียดำอย่างสมบูรณ์ และผมไม่เห็นข้างในมัน
มาลองยิงเวทมนตร์ใส่มันเถอะ คือที่ผมคิด แต่โยโกยามะ-ซังเคลื่อนไหวก่อน
“วิชาดาบศักดิ์สิทธิ์: [การฟันแห่งแสง]!” (ซากิ)
โยโกยามะ-ซังยิงแสงที่ใหญ่กว่าครั้งนั้นที่เธอกำจัดมังกรไฟเล็กสองตัว
แสงขนาดยักษ์ได้เข้าหาบาเรีย
ในทันทีที่มันสัมผัสกับบาเรีย… มันหายไป
“มันถูกดูดเหรอ…?” (มาโกโตะ)
“ชั้นไม่รู้…นี่เป็นครั้งแรกที่นักเวทย์เห็นบาเรียแบบนี้ ดังนั้นพวกเค้าต้องเริ่มจากการวิเคราะห์…” (ซากิ)
ไม่ใช่ว่ามันดีที่ผมไม่โจมตีมันอย่างไม่ระวังเหรอ?
แต่หน้าของโยโกยามะ-ซัง ไกลจากอะไรที่คุณจะเรียกว่าสงบ ผู้รู้สึกถึงความสิ้นหวังของเธอจากมัน
แต่มีจุดหนึ่งที่กวนใจผม
“ชั้นตกใจที่บอกลักษณะของบาเรียได้แม้ว่าการวิเคราะห์มันยังไม่เสร็จ เหมือนความจริงที่ว่ามันขังได้แค่ฮีโร่แห่งแสง” (มาโกโตะ)
“เกี่ยวกับเรื่องนั้น…มันเป็นอาร์คบิชอปไอแซคที่ออกมาหัวเราะ และอธิบายกับเราถึงบาเรียที่จับเรียวซูเกะ ‘บาเรียได้ถูกสร้างจากศูนย์เพื่อที่จะผนึกฮีโร่แห่งแสง! พวกนายจะทำลายมันไม่ได้ตลอดไป!’ …เวรเอ้ย!” (ซากิ)
“คนนั้นอีกแล้ว หือห์…” (มาโกโตะ)
ผมรักการอธิบายจริงๆ
แต่ผมยังไม่เห็นหน้าเขาจริงๆนะ
“เฮ้ ทากัตซูกิ-คุง! นายเป็นนักเวทย์ ใช่มั้ย…? นายทำ…อะไรบางอย่างได้มั้ย?” (ซากิ)
ด้วยเสียงที่เหมือนว่าเกือบจะร้องไห้ และด้วยตาที่มีถุงใต้ตาใต้มัน
เธอน่าจะไม่ได้นอนซักพริบตาตั้งแต่ซากุไร-คุงได้ติดอยู่
“ที่ชั้นทำได้คงจะเป็น…” (มาโกโตะ)
ผมนำมีดของโนอาห์ซามามาจากเอวของผม และเข้าหาบาเรีย
ถ้ามันเป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์นี้
ในทันทีนั้น ปีกของฟีนิกซ์น้ำได้แตะบาเรียสีดำ…และในทันทีต่อมา ฟีนิกซ์น้ำได้หายไปกระทันหัน
มันเป็นบาเรียที่ดูดซับมานาจริงๆเหรอ?!
“อะ!” (มาโกโตะ)
“นายโอเคมั้ย?!” (ซากิ)
เมื่อผมกำลังจะล้ม โยโกยามะ-ซังจับผม
เธอจับผมที่คอเสีย ผมเลยลอยอยู่กลางอากาศ
นั่นมันอันตราย
“ขอบคุณ โยโกยามะ-ซัง รอซักแป้ปนึง โอเคมั้ย?” (มาโกโตะ)
พูดสิ่งนั้น ผมดันมีดเข้าไปที่บาเรีย
ผมไม่รู้สึกถึง {แรงต้านจากมัน}
ใบมีดของมีดได้แทงเข้าไปในบาเรียอย่างง่ายๆ เหมือนมันจะถูกดูดเข้าไป
“เอ๋?” (มาโกโตะ)
“ว-ว้าว! ไม่ใช่ว่าอาวุธนั่นทำลายบาเรียได้เหรอ?!” (ซากิ)
“เดี๋ยว การตอบสนองนี้…” (มาโกโตะ)
ผมหยุดโยโกยามะที่ส่งเสียงเชียร์ และพยายามจะจับมาเรียด้วยมือที่ไม่ได้ถือมีด
มือซ้ายของผมผ่านไปได้อย่างง่ายๆ โดยที่ไม่ส่งเสียง
“หือห์?” (มาโกโตะ)
“เออออออ๋?!” (ซากิ)
บาเรียไม่ได้่กันผมถ้าให้เริ่มพูด?
“เฮ้ โยโกยามะ-ซัง” (มาโกโตะ)
“ช-ใช่ มีอะไร?” (ซากิ)
ผมได้กระวนกระวายเล็กน้อยและเสียงของผมแตกนิดหน่อย
“ไม่ใช่ว่าเธอพูดว่ามนุษย์เข้าไปที่บาเรียนี้ไม่ได้เหรอ?” (มาโกโตะ)
“อ-อืม…ถ้าชั้นจำมันไม่ผิด เค้าพูดว่าบาเรียที่มนุษย์และกึ่งมนุษย์ที่เป็น {นักรบและนักเวทย์} เข้าไปไม่ได้…” (ซากิ)
“ชั้นเข้าไปได้เพราะชั้นเป็นนักเวทย์ฝึกหัดเหรอ…?” (มาโกโตะ)
นั่นคือสิ่งที่เขียนอยู่ในโซลบุคของผมในอาชีพของผม
ผมไม่ใช่แม้แต่นักเวทย์
“แต่ไม่ใช่ว่านาย…เป็นฮีโร่นะ?” (ซากิ)
“มันเป็นงานที่ชั้นถูกมอบโดยราชวงศ์ของโรเซส อาชีพของชั้นในโลกนี้คือนักเวทย์ฝึกหัด” (มาโกโตะ)
“ข-เข้าใจแล้ว…น-นั่นลำบากนะ
โยโกยามะ-ซังมองผมด้วยตาที่เต็มไปด้วยความสงสาร
มันลำบากแน่นอน
(นักเวทย์ที่ทำบาเรียนี้ คงจะไม่คาดว่าฮีโร่ที่ถูกแต่งตั้งของประเทศเป็นนักเวทย์ฝึกหัด) (โนอาห์)
เสียงของโนอาห์-ซามะสะท้อนอยู่ในหัวของผม
เออ๋ แต่ผมเป็นฮีโร่ที่ถูกแต่งตั้งของประเทศด้วย…
งานของผมไม่นับเหรอ?
คุณควรจะคาดหวังกับอะไรบางอย่างแบบนั้นด้วย
(ไม่ใช่ว่านั่นโอเคเหรอ? ขอบคุณเรื่องนั้น เธอเข้าไปที่บาเรียได้ ใช่มั้ย?) (โนอาห์)
ยังไงซะ นั่นก็จริง
“งั้น โยโกยามะ-ซัง ชั้นจะไปแล้ว เธอปล่อยได้แล้วตอนนี้” (มาโกโตะ)
ผมยังถูกจับที่คอเสื้อและลอยอยู่กลางอากาศ
“เอ๋ อ-โอเค…ชั้นหวังพึ่งนายกับเรียวซูเกะนะ” (ซากิ)
“ได้ ชั้นจะไปช่วย ซากุไร-คุง” (มาโกโตะ)
“ระวังตัวนะ” (ซากิ)
ผมโบกมือให้โยโกยามะ-ซังที่มองผมอย่างจริงจัง
เธอปล่อยคอเสื้อของผม
ผมได้ถูกโยนไปในอากาศ และถูกกลืนโดยบาเรียที่ดำสนิท
◇◇
(…มืด แทบจะมองไม่เห็นเลยที่นี่…) (มาโกโตะ)
[มองกลางคืน]
ข้างในบาเรียมืดเหมือนฟ้ายามค่ำคืนที่ไม่มีพระจันทร์
แต่มีบางอย่างอยู่
ขยับอยู่
[ตรวจจับ]
มีศัตรูอยู่มากมาย
พวกมันทั้นหมดเป็นปีศาจที่ดุร้ายและมอนสเตอร์ที่กำหนดภัยพิบัติ
มีมากกว่าพันคืบคลานอยู่ข้างในบาเรีย
[ซ่อน]
ผมลบตัวตนของผม
ผมไม่มีเจตนาที่จะสู้ปีศาจที่นี่
ผมต้องหาซากุไร-คุงก่อน
[เงี่ยหู]
ผมได้ยินมันได้
เสียงของการต่อสู้
ผมไม่รู้ว่าใครสู้อยู่ แต่อย่างน้อย มันควรจะเป็นมิตรของซากุไร-คุง
ผมเคลื่อนที่ไปที่ที่เสียงมาอย่างเงียบๆ
[โล่งจิต] 100%
ผมผ่านมอนสเตอร์ที่แออัดที่นี่
ไม่มีความรู้สึกที่จะมารู้สึกกลัว
ผมเลี่ยงศัตรูโดยไม่คิดถึงอะไรและมุ่งหน้าไปที่เสียง
ผมได้ใกล้และใกล้เสียงเข้าไป
ผมเห็นมัน!
{มีนักดาบคนเดียว สู้อยู่ตามลำพัง}
ชุดเกราะสีแอช
ดาบสีดำ
คนนั้นคือใคร…?
มีมอนสเตอร์เป็นตันอยู่รอบๆ
พวกเขาสู้มอนสเตอร์เหล่านั้นตามลำพัง
ต้องเป็นคนที่ค่อนข้างมีทักษะ
ผมเห็นตัวของนักดาบชัดเจนขึ้น…และสังเกต…
{มันเป็นซากุไรคุง ด้วยทั้งตัวที่ปกคลุมไปด้วยเลือด}
“ซากุไร-คุง!” (มาโกโตะ)
ผมตะโกนอย่างดังโดยไม่สนใจมอนสเตอร์รอบๆ
“…”
ไม่มีการตอบสนองจากซากุไร-คุง
ตาของเขาว่างเปล่าเหมือนคนละเมอ
เกราะของเขา ที่ผมคิดว่าสีแอชจริงๆแล้วเป็นเกราะสีขาวที่มีเลือดแห้งอยู่บนมัน
ดาบเวทมนตร์ที่เค้าเคยเอาให้ผมดูมาก่อนเหมือนเดิม
มันได้ถูกปกคลุมไปด้วยเลือด
แม้ว่าด้วยนั่นทั้งหมด เขาเหวี่ยงดาบของเขา
เอาสู้ทั้งหมดตามลำพังกับฝูงปีศาจและมอนสเตอร์ที่พุ่งเข้าไป
“เวทย์น้ำ: [วาฬยักษ์]!” (มาโกโตะ)
ผมใช้แขนสปิริตของผม สร้างวาฬยักษมโหฬาร และเป่ามอนสเตอร์ไป
มันไม่ใช่เวทมนตร์โจมตี
มันเป็นเวทมนตร์เพื่อซื้อเวลาและสร้างระยะ
“ซากุไร-คุง!” (มาโกโตะ)
ผมตะโกนอีกครั้ง
“……ทากัต…ซูกิ-คุง?” (ซากุไร)
มีการตอบสนองครั้งนี้
โอเค!
“ซากุไร-คุง นายบาดเจ็บมั้ย?!” (มาโกโตะ)
ผมวิ่งไปตรวจดูว่าเขาบาดเจ็บมากขนาดไหน
แต่ตัวซากุไร-คุงเองไม่บาดเจ็บ
เลือดที่อยู่บนตัวของซากุไร-คุง ทั้งหมดเป็นเลือดจากคนอื่น
“…นายเข้ามา…ที่นี่ได้ยังไง?” (ซากุไร)
“ใครสนเรื่องนั้นกันล่ะ! พวกของนายที่เหลืออยู่ไหน?!” (มาโกโตะ)
ผมได้ยินจากโยโกยามะ-ซัง ว่าเขาติดอยู่ที่นี่กับคนคุ้มกัน
ไม่มีทางที่ซากุไร-คุงจะอยู่ตามลำพัง
“………..พวกเค้าทั้งหมด…ตายแล้ว” (ซากุไร)
“อะ?” (มาโกโตะ)
ที่กลับมาเป็นการตอบที่แห้งๆ
“กองพลที่ 7 ที่ก่อตั้งทั้งหมดโดยอัศวินหนุ่ม… หน้าที่ของพวกเค้าคือ…ตายแทนชั้น แต่แม้ว่าชั้นบอกพวกเค้าว่าชั้นจะไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น… ว่าพวกเราจะมีชีวิตรอดไปด้วยกัน… พวกเค้าทั้งหมดได้เป็นโล่ของชั้น…” (ซากุไร)
“…”
ผมหมดคำพูด
เขารอดชีวิตมาภายในทั้งหมดนั้น?
ผผมได้ยินเสียงฝีเท้า
มันเป็นมอนสเตอร์ที่ผมเป่ากระเด็นไปก่อนหน้า
มีมากกว่าเดิมอีกตอนนี้
มอนสเตอร์และปีศาจเข้ามาที่บาเรียนี้ได้อย่างอิสระ
พวกมันอาจจะเพิ่มจำนวน แต่ไม่ลดลงไป
“มานาของชั้นกำลังจะหมด โดยที่ไม่ได้รู้สึกแสงแดด นี่เป็นทั้งหมดที่ชั้นเป็น แม้ว่าชั้นถูกชื่นชมว่าเป็นการเกิดใหม่ของผู้กอบกู้ ถ้านายออกไปจากบาเรียนี้ได้ ได้โปรด…หนีไป…ถ้านายอยู่ด้วยกันกับชั้น นายจะไม่สามารถที่จะวิ—หึนกุห์!” (ซากุไร)
“ดื่มนี่ก่อนตอนนี้!” (มาโกโตะ)
เข้าอยู่ระหว่างพูด แต่เมื่อผมได้ยินว่ามานาของเข้ากำลังจะหมด ผมดันอีลิกเซอร์ที่ผมได้จากฟูจิ-ยังเข้าปากเขาทันที
“…กุห์! ทากัตซูกิ-คุง นายทำอะไรกระทันห…เอ๋?” (ซากุไร)
รอบตัวของซากุไรคุ่งส่องแสงสีฟ้ากระทันหัน และมานาได้เริ่มเติมเต็มที่นี่
อย่างที่คาดกับยาที่แข็งแกร่งที่สุดของทั้งหมด อีลิกเซอร์
“แรงกายและมานาได้ฟื้นมาอย่างเต็มที่?!” (ซากุไร)
“นายคิดว่านายอยู่มากกว่านี้ได้อีกวันมั้ย?!” (มาโกโตะ)
“ช-ชั้นไม่รู้ แต่น่าจะ” (ซากุไร)
“ได้เลย!” (มาโกโตะ)
เวทมนตร์น้ำ: [วาฬยักษ์]!
อีกครั้งที่ผมน็อคมอนสเตอร์ที่เข้าหาไปด้วยเวทมนตร์น้ำ
แต่บางที่เพราะมันเป็นครั้งที่สอง และมพวกมันได้เรียนรู้จากมัน บางคนหลบได้ และยังมีพวกนั้นที่ทนเวทมนตร์น้ำโดยไม่ขยับได้ด้วย
“วิชาดาบศักดิ์สิทธิ์: [การฟันแห่งแสง]!” (ซากุไร)
และซากุไร-คุงตัดพวกมันลงด้วยคลื่นแสงของเขา
มันเป็นเทคนิคเดียวกันกับโยโกยามะ-ซัง
มีสไตล์เดียวกันกับภรรยาค่อนข้างมีสไตล์เลย
“ทากัตซูกิ-คุง มานาชั้นได้ฟื้นมาซึ่งมันยอดเยี่ยม แต่มันยังไม่เปลี่ยนความจริงที่ว่าชั้นออกจากบาเรียไม่ได้!” (ซากุไร)
ผมรู้สึกถึงพลังงานเล็กน้อยได้กลับมาที่เสียงของซากุไร-คุง
ใช่
จากโยโกยามะ-ซัง บาเรียนี้เป็นระดับพระเจ้า
มันไม่เปลี่ยนความจริงที่ว่าเราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดี
ผมจำการสนทนาที่ผมมีกับโนอาห์-ซามะ และจำสิ่งที่ผมเรียนมาจากชั้นเรียนเรื่องเวทมนตร์ในวิหารแห่งน้ำในอดีต
มีชั้นเรียนสำหรับสำหรับการทำลายบาเรียอยู่ในนั้น
แต่มันค่อนข้างใช้กำลังนะ
(ยังไงซะ ไม่มีทางเลือกนอกจากลอง…) (มาโกโตะ)
ผม {แก้} โล่งจิต และถอนหายใจ
“XXXXXXXXX (สปิริต-ซัง สปิริต-ซัง…มา)” (มาโกโตะ)
ผมพูดในภาษาสปิริต
สปิริตน้ำได้เชียร์ด้วย ‘ว้ายยย’ ดั่งพวกเขาได้รอตาของพวกเขาอยู่
ผมยกแขนสปิริตที่ส่องแสงสีฟ้าไปข้างห้น และสปิริตมากขึ้น และมากขึ้นรวมตัวกัน
“สำหรับตอนนี้ มาทำบางอย่างเกี่ยวกับบาเรียนี่กันเถอะ” (มาโกโตะ)
ผมหันไปหาซากุไร-คุงและเสนอสิ่งนี้
เป้าหมายเดือน 4/66
ค่าเน็ต 200/200
กาแฟ 180/300
ค่าไฟ 20/1000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”
pdfไว้อ่านตอนกลางคืน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord