เคลียร์อิเซไกกับเทพธิดาผู้ศรัทธาศูนย์ - ตอนที่237ทากัตซูกิมาโกโตะสำรวจลาเบรินทอส
237 ทากัตซูกิ มาโกโตะ สำรวจลาเบรินทอส
โมโมะ ฮีโร่อาเบล และผมเดินหน้าไป {ข้างบน} ทะเลสาบใต้ดิน
โดยการใช้เดินบนผิวน้ำและมังกรน้ำ เราเดินทางบนน้ำเหมือนเราเล่นสกี
“มาสเตอร์~! เราไปเร็วมาก~~!!” (โมโมะ)
โมโมะดูเหมือนจะสนุก
“มาโกโตะ-ซัง! มอนสเตอร์ตามหลังเรามาข้างหลัง!” (อาเบล)
“หืม?” (มาโกโตะ)
เมื่อผมมองกลับไป มีงูทะเล และเคลพีไล่ตามเรามา
ดูเหมือนพวกมันอยากจะโจมตีเรา
นายท้าทายผมในเรื่องความเร็วหรือ? น่าสนใจ
“งั้น ชั้นจะเร่งความเร็วขึ้น จับให้แน่นๆนะ โอเคมั้ย?” (มาโกโตะ)
““เอ๋?””
ผมได้ยินสองคนตอบสนองกับคำพูดผม
“เวทมนตร์น้ำ: [เจ็ทน้ำ]” (มาโกโตะ)
มันเป็นเวทมนตร์ต้นแบบที่ผมทำระหว่างที่ผมเล่นไปทั่ว
ในทันทีต่อมา การเร่งความเร็วเกิดขึ้น ที่ดั่งเราดิ่งลงจากฟ้าด้วยตัวเรา
น้ำกระจายไปเหมือนระเบิด
และจากนั้น มอนสเตอร์ที่ตามเรามาจากข้างหลังถูกทิ้งไกลออกไป
โออ้ ผมเห็นการมองของงูทะเลและเคลพีช็อก
“คย้าาาาาาาา!” (โมโมะ)
“อุว้าาาาาาาาาาา” (อาเบล)
เสียงกรีดร้องของโมโมะและอาเบลก้องในทะเลสาบใต้ดิน
◇◇
“มาสเตอร์~ หนูคิดว่าหนูจะกระเด็นจากนั่นเลย~ นั่นมันโหดร้าย!” (โมโมะ)
“มาโกโตะ-ซัง…ไมีมีความจำเป็นต้องใช้ความเร็วมากเท่านั้น” (อาเบล)
“อ้า ใช่ ขอโทษ” (มาโกโตะ)
โมโมะและฮีโร่อาเบลโมโหผม
ตอนนี้เราอยู่ที่มุมของทะเลสาบใต้ดิน
มีถ้ำใต้น้ำขนาดยักษ์อยู่ที่นี่
มันเป็นทางน้ำไปชั้นล่างของลาเบรินทอส และผมไม่ได้ไปไกลกว่านี้ในการผจญภัยก่อนหน้าที่นี่
หรือเหมือนกับ มังกรต้องห้ามแสดงตัวที่นี่มากกว่า
ช่างรำลึกความหลัง
“พวกนายสองคน จับมือของชั้นไว้” (มาโกโตะ)
“ค่ะ มาสเตอร์” (โมโมะ)
“เข้าใจแล้ว มาโกโตะ-ซัง” (อาเบล)
ผมจับมือของสองคนและใช้เวทมนตร์น้ำ
“[หายใจใต้น้ำ] และ [มันกรน้ำ]” (มาโกโตะ)
พวกเราเดินหน้าไปที่ถ้ำใต้ดิน
ผมใช้ซ่อนเพื่อลบตัวตนของผม
ผมมองดูรอบๆถ้ำที่มืดสนิทด้วยสกิลมองกลางคืน
มีมอนสเตอร์น้ำขนาดยักษ์อยู่มากมาย
เงาขนาดประมาณ 10 เมตร…มันเป็นมอนสเตอร์ฉลาม?
ทำไมมีฉลามน้ำจืด?
มีงูทะเลยักษ์อยู่มากมาย และผมก็เห็นมังกรน้ำได้ด้วย
มาเดินหน้าในแบบที่พวกมันไม่เจอเราเถอะ
“อืม…มาโกโตะ-ซามะ? ทำไม่พี่อยู่ดีๆก็อยากจะไปที่ชั้นที่ลึกที่สุดของลาเบรินทอสล่ะ?” (โมโมะ)
“ส่วนลึกของลาเบรินทอสเห็นว่าก่อตัวจากมังกรโบราณส่วนใหญ่ มันอันตรายนะ รู้มั้ย…?” (อาเบล)
โมโมะและฮีโร่อาเบลถามผมด้วยหัวใจที่อ่อนแอ
ดูเหมือนพวกเขากลัวมอนสเตอร์ยักษ์ในลาเบรินทอส?
“ยังไงซะ เธอจะเข้าใจเมื่อเราถึงที่นั่น” (มาโกโตะ)
“อย่างนั้นเหรอ…” (โมโมะ)
“เข้าใจแล้ว…” (อาเบล)
ผมตอบอย่างคลุมเครือ
แน่นอน ว่าผมจะไม่ออกไปที่ที่อันตรายอย่างชั้นที่ลึกที่สุด โดยไม่มีวัตถุประสงค์
ผมมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน
ผมขุดความทรงจำเก่าขึ้นมา
มันเป็นเวลาที่ไม่นานหลังจากมาที่โลกนี้
ที่ห้องสมุดของวิหารแห่งน้ำ ในเวลาที่ผมอ่านหนังสือหลายอย่างเกี่ยวกับหลายอย่าง
—[การผจญภัยห้าทวีป] -(เขียนโดย: นักผจญภัย อูเธอร์)
บันทึกที่เขียนการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ เมื่อมากกว่าร้อยปีก่อน
ตั้งแต่มาที่โลกนี้ ในเวลาที่ผมแยกจากรอบข้างและเรียนคนเดียว ผมพบหนังสือ
ผมชอบหนังสือเล่มนั้นมาก และผมอ่านมันซ้ำแล้วซ้ำอีก
ที่เขียนที่นั่น มีดันเจี้ยนมากมายในภูกมีภาคที่ไม่ถูกสำรวจ
แน่นอนว่า มีเรื่องเกี่ยวกับดันเจี้ยนที่ใหญ่ที่สุดของทวีปทิศตะวันตก ลาเบรินทอส ด้วย
การผจญภัยห้าทวีป: ตอนตะวันตก
นี่ถูกเขียนลงที่นี่
{—นักผจญภัยอูเธอร์มาถึงลาเบรินทอส}
{นั่นเป็นเพราะเขาอยากจะได้เหลียวมองมังกรศักดิ์สิทธิ์ที่บินกับผู้กอบกู้ของโลก อาเบล รอบโลกนี้}
{1,000 ปีก่อน ผู้กอบกู้อาเบลเจอมังกรศักดิ์สิทธิ์สีขาวในชั้นที่ลึกที่สุดของลาเบรินทอส และสัญญาว่าจะช่วยโลกกับเขา}
{ตามที่เขาสัญญา ฮีโร่อาเบลขี่หลังของมังกรศักดิ์สิทธิ์และออกไปเพื่อกำจัดลอร์ดปีศาจ}
{หัวใจของนักผจญภัยอูเธอร์เต้น ในความคาดหวังที่จะได้เจอกับมังกรศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน}
{เจอกับมังกรในตำนาน!}
{แต่มังกรศักดิ์สิทธิ์ไม่อยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของลาเบรินทอส…}
เหมือนผู้กอบกู้อาเบล มังกรในตำนานก็ไปบางที่แล้วด้วย
นั่นถูกเขียนอยู่
ถ้ามันถูกต้อง แม้ว่าผมจะสำรวจลาเบรินทอสในเวลาของผม ผมจะไม่สามารถเจอกับมังกรศักดิ์สิทธิ์
แต่ตอนนี้ ผมอยู่ในอดีต
ไม่ต้องสงสัยว่ามังกรศักดิ์สิทธ์ในตำนานจะอยู่ที่นี่
และฮีโร่แห่งแสงอาเบลอยู่ข้างผม
ผมมั่นใจว่าเขาจะมอบพลังให้เรายืม!
แล้วก็…วิธีเดินทางเดียวในยุคนี้คือด้วยเท้า
พูดจากใจแล้ว มันจะลำบากที่จะเดินทางด้วยเท้าตลอด
ผมอยากจะได้ ‘ขา’ ของเราเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
นั่นคือวัตถุประสงค์ของผม แต่ผมอธิบายมันกับโมโมะและฮีโร่อาเบลไม่ได้
เพราะทั้งหมด ผมยังไม่ได้เปิดเผยกับพวกเขาว่าผมมาจากอนาคต
พูดถึงแล้ว การผจญภัยของอูเธอร์-ซังได้ท้าทายวิหารทะเลลึกด้วย
หรือเหมือนกับ เขาท้าทาง 3 ดันเจี้ยนสุดท้ายที่มีตัวตนอยู่ในโลกนี้
นี่คือที่เขียนเกี่ยวกับวิหารทะเลลึก
{—นักผจญภัยอูเธอร์ท้าทายวิหารทะเลลึก………มันเป็นไปไม่ได้ มายอมแพ้เถอะ}
ทำไมล่ะ อูเธอร์-ซัง?
อย่างน้อยลองมันมากกว่านี้
หนึ่งในเหตุผลว่าทำไมวิหารทะเลลึกไม่เป็นที่นิยมนั้นไม่ต้องสงสัย ว่าเป็นเพราะบันทึกของนักผจญภัยอูเธอร์
ที่เวลาที่ผมอ่านเรื่องนี้ ผมคิดว่าผมควรจะข้ามวิหารทะเลลึก
ระหว่างที่ผมนึกถึงเรื่องนี้ ผมเข้าลึกเข้าไปในลาเบรินทอสอย่างช้าๆ
ถ้ำใต้น้ำยาวและมืด
ผมคิดว่ามันจะดำเนินต่อไปไม่จบ แต่จุดจบมาถึงกระทันหัน
เรามาถึงทางตันที่ถ้ำใต้ดิน
“…นี่…ทางหมดที่นี่” (มาโกโตะ)
มาโกโตะ ดูเหมือนทางนี่จะไม่ถูก
“ดูไม่เหมือนว่าเราจะเดินหน้าได้ไกลกว่านี้” (อาเบล)
ฮีโร่อาเบลดูเหมือนจะมีความคิดเดียวกับผม
นี่มันน่าเสียดาย แต่มันดูเหมือนการผจญภัยครั้งนี้ของเราจะจบที่นี่
มากลับกันเถอะ…
ในทันทีที่ผมคิดอย่างนี้…
“อืม มาสเตอร์…ไม่ใช่ว่ามีอะไรบางอย่างที่นั่นเหรอ?” (โมโมะ)
“หืม?” (มาโกโตะ)
โมโมะจับมือของผมและชี้ไปที่มุมของถ้ำ
แม้ว่าด้วยมองกลางคืน ผมไม่เห็นที่นั่นได้ดี
ผมใช้เวทมนคร์น้ำเพื่อไปที่ที่โมโมะชี้อย่างช้าๆ
มีวงกลมเวทมนตร์เทเลพอร์ตอยู่ที่นั่น
“ทำได้ดีมากที่เจอนี่ โมโมะ” (มาโกโตะ)
“ชั้นไม่สั่งเกตุมันเลยซักนิดด้วย” (อาเบล)
ฮีโร่อาเบลและผมตกใจ
“เอ่ะเฮะเฮะ ตาของหนูดูเหมือนจะดีขึ้นเมื่อหนูเป็นแวมไพร์” (โมโมะ)
รอยยิ้มที่อายปรากฏขึ้นบนโมโมะ
ผมตรวจสอบวงกลมเวทมนตร์เทเลพอร์ตอย่างระมัดระวัง
“ดูเหมือนมันจะไม่ส่งเราไปที่ไกลมาก ในแง่ของระยะ มันเทเลพอร์ตเราถึงชั้นแกน…?” (มาโกโตะ)
“มาโกโตะ-ซัง…มันจะดีกว่าที่จะไม่เทเลพอร์ตอย่างไม่ระวัง” (อาเบล)
“มันน่าจะเป็นวงกลมเวทมนตร์ธรรมชาติ ที่ถูกสร้างโดยดันเจี้ยน มันควรจะโอเค” (มาโกโตะ)
ดันเจี้ยนสร้างวงกลมเวทมนตร์ที่ทางตันก็เพื่อจะเชิญชวนนักผจญภัยให้เข้าลึกเข้าไป
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเคยเห็นมันนะ
มันรู้สึกเหมือนสำรวจดันเจี้ยนจริงๆ!
ผมตื่นเต้น!
“เราไปได้มั้ย?” (มาโกโตะ)
เมื่อผมถามในความตื่นเต้น ฮีโร่อาเบลและโมโมะมองกัน
“ยังไงซะ ถ้ามาโกโตะ-ซังพูดอย่างนั้น ชั้นจะตามไป…” (อาเบล)
“คำพูดของมาสเตอร์แน่นอนที่สุด!” (โมโมะ)
ทั้งสองคนเชื่อฟัง
แต่ผมไม่ถือถ้าพวกเธอคัดค้านนะ
ยังไงซะ ผมจะดันเจตนาของผมที่นี่ถ้างั้น
ผมยืนบนวงกลมเวทมนตร์ระหว่างที่จับมือทั้งสองคน
ในทันทีต่อมา เทเลพอร์ตทำงาน
◇◇
ที่ที่เทเลพอร์ตวาร์ปเราไม่ใช่ในน้ำ
มีแสงอ่อนๆอยู่ที่นี่ และมีถ้ำยักษ์
เมื่อมองดูว่าแสงอะไร ผมสังเกตุว่านั่นคือคริสตัลเวทมนตร์ที่มีความหนาแน่นสูง
ที่นี่คือ…
แกนของลาเบรินทอส มีเส้นแร่ดาวอยู่ใกล้ๆ
เพราะเรื่องนั้น มีคริสตัลเวทมนตร์รอบๆเพราะมานาของเส้นแร่ดาว
ถ้าเราขายนั่น มันจะเป็นเงินพอที่จะอยู่ไปตลอดชีวิต แต่มันมีค่าพอสำหรับเรื่องนั้นมั้ย?
แกนของลาเบรินทอสเรียกว่ารังของมังกร และมีแม้แต่มังกรโบราณมีชีวิตอยู่ที่นี่
ไม่มีรับประกันว่าคุณจะรอดชีวิตกลับมา (อ้างอิง: การผจญภัยห้าทวีป ตอนตะวันตก)
นี่เป็นชั้นแกนของลาเบรินทอส
โชคดีที่ไม่มีมอนสเตอร์อยู่ให้เห็น
แต่ยังไงซะ ขอบคุณตรวจจับ ผมบอกได้ว่ามีตัวตนของมอนสเตอร์ที่ดุร้ายลึกข้างในถ้ำ
“อาเบล-ซัง โมโมะ มาพักที่นี่ก่อนตอนนี้” (มาโกโตะ)
“อ-โอเค…มาโกโตะ-ซัง ที่นี่คือที่ไหน…?” (อาเบล)
“ชั้นแกนของลาเบรินทอส ควรจะมีมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งลึกเข้าไปข้างใน” (มาโกโตะ)
“มันโอเคสำหรับพี่ที่ไม่พักเหรอ มาโกโตะ-ซามะ…?” (โมโมะ)
“เราจะพักเป็นกะ เธอพักก่อน โมโมะ” (มาโกโตะ)
“รับทราบ” (โมโมะ)
โมโมะพยักหน้าด้วยสีหน้าที่ซีเรียส
ผมทำให้เสื้อผ้าของทั้งสองคนแห้ง
หลังจากนั้น เรากินอาหารเรียบๆอย่างขนมมปังและแฮม
ฮีโร่อาเบลและโมโมะห่อตัวพวกเขาในผ้าห่มที่พวกเขานำมา และนอนลง
มันไม่ใช้เวลานานจนผมได้ยินเสียงหายใจที่มั่นคง
ผมเฝ้าดูระหว่างที่สองคนพัก
ข้างในของดันเจี้ยนนั้นเงียบ
คริสตัลเวทมนตร์ส่องสว่างถ้ำที่มืดมิดอย่างสลัวๆ
“ลูซี่ ชั้นไปถึงชั้นแกนของลาเบรินทอสแล้ว” (มาโกโตะ)
ผมพึมพำในเสียงที่เบา
เรากลับไปหลังจากชั้นกลาง มันรู้สึกเหมือนมันเป็นเวลานานมาแล้ว
สงสัยว่าลูซี่และซา-ซังทำอะไรอยู่ตอนนี้? …เมื่อผมคิดถึงเรื่องนั้น ผมสังเกตุ
พวกเธอทั้งสองอยู่ 1,000 ปีในอนาคต
พวกเธอยังไม่เกิดเลย
…มาฝึกเถอะ
ผมฝึกเวทมนตร์แสงและเวทมนตร์โชคชะตา
ระหว่างที่ผมฝึก ผมคิดว่าจะทำอะไรต่อจากนี้
ชั้นแกนของลาเบรินทอส… เรามาถึงง่ายกว่าที่ผมคิด
ผมคิดเกี่ยวกับการสำรวจมันหลายครั้ง
ผมไม่ได้นำอาหารมามาก
มาเดินหน้าไกลที่สุดเท่าที่เราทำได้พรุ่งนี้แล้วกลับ… นั่นคือที่ผมคิด
ในทันทีนั้น อากาศสั่น
“XXXXXX,XXXXX? (ราชาของเรา นายดูเหมือนจะเบื่อ ชั้นทำเป็นคู่สนทนาได้นะ รู้มั้ย?) (อันไดน์)
“อันไดน์…?” (มาโกโตะ)
สาวสวยที่มีผิวสีน้ำเงินนั่งข้างผม
ผมไม่ได้เรียกเธอ แต่มาด้วยตัวเอง
นั่นยอดเยี่ยม
มันจริงที่ว่าผมเริ่มเบื่อ
แล้วก็ ผมมีบางอย่างที่จะถามเธอ
“เฮ้ อันไดน์ ทำไมชั้นเป็นราชา?” (มาโกโตะ)
เธอยิ้มให้กับคำถามของผม
“นั่นเพราะนาย {วันหนึ่ง} จะเป็นราชาของเรา ชั้นบอกเรื่องนั้นได้…” (อันไดน์)
อันไดน์พูดมันด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้ม
วันหนึ่ง หือ
เธอพูดเกี่ยวกับเวลาที่ผมสู้กับอเล็กซานเดอร์เละเป็นสปิริตด้วยตัวเอง?
เทพธิดาบอกผมว่านั่นเรียกว่าราชาสปิริต
{แล้วก็ เพราะข้อจำกัดของโนอาห์-ซามะ ผมเป็นราชาสปิริตไม่ได้อีกต่อไปแล้ว}
ผมได้ลองมันหลังจากที่มาที่อดีต
ผมเปลี่ยนแขนขวามเป็นสปิริตได้ แต่เมื่อผมพยายามจะเปลี่ยนทั้งตัว ผมหมดสติ
ดูเหมือนแม้ว่าผมจะไม่ใช่ผู้ศรัทธาของโนอาห์-ซามะอีกแล้ว ข้อจำกัดวิญญานยังอยู่ที่นั่น
ผมมองดูอันไดน์ที่ยิ้ม
สาวคนรอคอยให้ผมเปลี่ยนเป็นราชาสปิริต
แต่ผมทำเรื่องนั้นไม่ได้แล้ว
ผมรู้สึกดั่งผมหลอกเธอและมันกวนใจผม
ในทันทีนั้น เมื่อผมได้รู้สึกอะไรที่อธิบายยาก…
“พูดถึงแล้ว…ราชาของเรา ชั้นมีคำขอ…” (อันไดน์)
อันไดน์ห่อแขนของเธอไว้รอบแขนผมอย่างลังเล
ตัวของเธอชัดเจนว่าทำจากน้ำ แต่ตัวที่ก่อโดยมานาจำนวนมหาศาลนั้นอุ่น ดั่งเธอมีอุณหภูมิร่างกาย
“ม-มีอะไร?” (มาโกโตะ)
คำขอของอันไดน์…
อะไรบนโลกที่เธอจะให้ผมทำกัน?
“เรียกชั้นด้วยชื่อของชั้นได้มั้ย…?”
“เรียกเธอโดยชื่อของเธอ?” (มาโกโตะ)
“ใช่ นั่นถูกแล้ว…”
“อืม งั้น…ได้โปรดบอกชื่อของเธอได้มั้ย?” (มาโกโตะ)
ผมโล่งใจ งั้นมันก็แค่นั้น
“ชั้นไม่มีชื่อ”
“……หือห์” (มาโกโตะ)
ผมไม่เข้าใจ
ดั่งจับคำถามของผมได้ อันไดน์พูดต่อ
“ราชาของเรา ได้โปรดมอบชื่อให้ชั้น…”
“ชั้น…?” (มาโกโตะ)
อืม…งั้นเรียกเธอด้วยชื่อ คือเธอบอกผมว่าให้มอบชื่อให้เธอและเรียกเธอด้วยนั่น หือห์
เข้าใจแล้ว
ผมเป็นราชาสปิริตไม่ได้อีกแล้ว แต่อย่างน้อยผมทำอย่างนั้นได้
มันเป็นคำขอของอันไดน์ที่ช่วยผมหลายครั้งมาแล้ว
ไม่มีเหตุผมสำหรับผมที่ต้องปฏิเสธ
แต่แม้ว่าเธอจะบอกทั้งหมดนี่กับผม ผมคิดบางอย่างทันทีไม่ได้
“ชื่อ… ชื่อ หือห์… นั่นยาก” (มาโกโตะ)
“ถ้ามันเป็นชื่อที่ราชาของเรามอบให้ชั้น ชั้นโอเคด้วยชื่อไหนก็ได้”
“แม้ว่าเธอจะบอกชั้นอย่างนั้น…” (มาโกโตะ)
สปิริตน้ำผู้ยิ่งใหญ่มองดูผมด้วยตาเป็นประกาย
ชื่อของอันไดน์… หืมมม…
อความารีน…? ไม่
ผมมอบชื่อที่เป็นประกายแบบนั้นให้เธอไม่ได้…
มาดูกัน…
“งั้น ชั้นจะนำตัว ดี ของอันไดน์ และเพราะเราเชื่อในเทพเจ้าไททันโนอาห์-ซามะ…ชั้นจะยืม เอ จากชื่อโนอาห์-ซามะ…” (มาโกโตะ)
นี่มันเป็นเกียรติมากไปมั้ย? คือที่ผมคิดในทันที แต่มันคือโนอาห์-ซามะที่เราพูดอยู่ที่นี่ เธอจะยิ้มและพูด ‘ชั้นไม่ถือเรื่องเล็กๆ’ และอนุญาติผม
เทพธิดา-ซามะของเราทนทาน
“ชั้นตัดสินใจแล้ว” (มาโกโตะ)
“ค่ะ!”
“ชื่อของเธอจะเป็น…” (มาโกโตะ)
{เดีย}
“เดีย นั่นเป็นยังไง?” (มาโกโตะ)
เมื่อผมพูดอย่างนี้ อันไดน์ทำสีหน้าที่ตกใจ
เอ๋? เธอไม่ชอบมันหรือ?
“…เดีย…เดีย…เดีย… ช่างเป็นชื่อที่งดงาม!” (เดีย)
ผมดีใจที่มันไม่ใช่เธอไม่ชอบมัน
ในทันทีนั้น กายของอันไดน์ส่องแสงกระทันหัน
“เอ๋?” (มาโกโตะ)
มานาจำนวนที่น่ากลัว รวมกันอยู่รอบอันไดน์…ไม่ เดีย
ลาเบรินทอสสั่นอย่างหนักดังจะตอบสนองเรื่องนี้
มานาเอ่อล้นจากเดีย ทำให้พื้น กำแพง และอากาศ {แข็งเป็นน้ำแข็ง}
เดี๋ยว นี่มันแย่แล้ว!
“ห-หยุด! หยุด เดีย!” (มาโกโตะ)
“อ้า ได้ ชั้นขอโทษ ราชาของเรา… ชั้นมีความสุขมากชั้นยั้งมือไม่ได้” (เดีย)
“……”
อันไดน์ลดหัวของเธอซ้ำแล้วซ้ำอีก
ผมมองพื้นที่ถูกแช่แข็ง {ไกลเท่าที่ตาเห็น}
ดูเหมือนมันกลายเป็นแบบนี้แค้เพราะเดียมีความสุข
…ผมอาจจะทำอะไรที่อุกอาจที่นี่
【{—ตอบคมเม้นต์จากผู้เขียน:}】
ผมจะเขียนข้อมูลของอายุขัยที่ผมถูกถามไม่นานมานี้ ผมไม่ได้อธิบายมันอย่างถูกต้อง
มนุษย์ – ประมาณ 100 ปี
เอลฟ์ – ประมาณ 300 ถึง 500 ปี
ดวอร์ฟ – ประมาณ 200 ถึง 300 ปี
ขณะที่มอนสเตอร์และปีศาจ มันขึ้นอยู่กับรายบุคคล
เผ่ามีขีดจำกัดของมันเองสำหรับอายุขัย
ไม่ว่ามาโกโตะจะ ‘มีส่วนช่วย’ มากแค่ไหน เขาจะไม่สามารถไปได้สูงกว่าขีดจำกัดของเผ่าเขา มันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ชีวิตมากกว่า 1,000 ปี! พูดถึงแล้ว อายุขัยของพระเจ้านั้นคือตลอดกาล
TLN: เดือนนี้ผมขอตั้งเป้าหมายเอาเงินที่ได้ไปช่วยค่าห้องโรงพยาบาลของยายนะครับ ขอบคุณทุกแรง donate ครับ
เป้าหมายเดือน 6/66
ค่าเน็ต 0/200
กาแฟ 0/300
ค่าห้องยาย 0/2000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
วายุ แซ่จิว
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ Facebook: “wayuwayu แปล” Line: @326jilhj
โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน แจ้งได้ที่ Facebook และ Line
pdfไว้อ่านตอนกลางคืน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook,Line และ Discord