เจ้าของร้านพิศวง - บทที่ 16 นิทานก่อนนอนของเด็ก
บทที่ 16 : นิทานก่อนนอนของเด็ก
“พักผ่อน? นี่ฉันดูแก่จนไร้ประโยชน์ขนาดนั้นเลยเหรอ?” โจเซฟเย้ยหยัน
อย่างไรก็ตาม… ตราอัศวินแห่งความ ‘ยุติธรรม’ กลับสัมผัสถึงเจตนาร้ายใด ๆ จากหลินเจี๋ยไม่ได้เลย ทำให้อัศวินเฒ่ารู้สึกประทับใจในตัวเจ้าของร้านหนุ่มมากกว่าเดิม
ความเฉยเมยของโจเซฟละลายลงโดยไม่รู้ตัว ทำให้เขาเริ่มรู้สึกอยากคุยกับเจ้าของร้านหนังสือที่พูดกับตนอย่างสบาย ๆ และเท่าเทียม
ตั้งแต่ที่โจเซฟกลายเป็นหนึ่งในอัศวินแห่งแสง ก็ไม่มีใครกล้าพูดอย่างเป็นกันเองแบบนี้กับเขามานานแล้ว
เนื่องจากเจ้าของร้านหนังสือเป็นเพียงคนธรรมดาที่ไม่รู้เรื่องอะไร โจเซฟจึงไม่จำเป็นจะต้องรักษาภาพพจน์ในฐานะหัวหน้าแผนกของภาคีอัศวินหรือผู้อาวุโส
“ไม่ใช่แบบนั้นครับ! แค่… สภาพอากาศมืดครึ้มในช่วงนี้อาจจะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับข้อต่อได้ นอกจากนี้ คุณเองก็มีปัญหาเรื่องการนอนใช่ไหมล่ะครับ? ใบหน้าของคุณดูซีดมาก ผมเลยคิดว่าคุณน่าจะกำลังมีอาการเหนื่อยสะสม”
หลินเจี๋ยส่ายหัวและตอบอย่างจริงใจ
โรคไขข้อและโรคนอนไม่หลับ เป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุวัยนี้ ที่สำคัญหลินเจี๋ยสังเกตเห็นว่ามือขวาของโจเซฟนั้นมีอาการสั่นเล็กน้อย
ในสายตาคนทั่ว ๆ ไป อาการเหนื่อยล้าทางจิตวิญญาณเป็นอะไรที่สังเกตได้ยาก และแสดงอาการออกมาไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ แต่สำหรับหลินเจี๋ยที่เชี่ยวชาญด้านการสังเกตผู้คน เขาสามารถเห็นมันได้อย่างง่ายดาย
“ขอสรุปได้ไหมว่ามันเป็นเพราะคุณพยายามอย่างหนักในการตามหาคุณไวลด์” หลินเจี๋ยถอนหายใจ “ผมดีใจจริง ๆ ที่พวกคุณสนิทกันมาก”
แขนกลของโจเซฟที่ปกคลุมด้วยชั้นหนังสังเคราะห์กระตุก ขณะที่ความสงสัยแสดงออกมาผ่านแววตาของเขา
เจ้าของร้านคนนี้รู้เรื่องนั้นได้ยังไง…ไม่สิ มันก็แค่เรื่องบังเอิญน่า
แต่ทำไมพอคำว่า ‘ข้อต่อ’ ‘ปัญหาเรื่องการนอน’ และ ‘ไวลด์’ มารวมกันแล้ว มันกลับดูมีความสำคัญราวกับว่าเขากำลังชี้แนะให้เราเห็นอะไรบางอย่าง? นอกจากนี้คำว่า ‘พวกคุณสนิทกันมาก’ ก็ดูจะค่อนข้างแปลกเหมือนกัน?
ยังไงซะ คนที่บอกหลินเจี๋ยว่าเป็นเพื่อนสนิทกับไวลด์ ก็คือตัวโจเซฟเอง
ชายชราพูดด้วยสีหน้าซับซ้อนเล็กน้อย “ฉันไม่ใช่คนแก่ที่จะมาปวดข้อกระดูกตอนฝนตกหรอกนะ อีกอย่างคนอย่างฉันไม่มาเหนื่อยด้วยเรื่องอะไรแค่นี้หรอก… ไม่ต้องเอาหนังสือออกมาด้วย วันนี้ฉันไม่ได้พกเงินมา”
หลินเจี๋ยดึงเก้าอี้มานั่งพลางมองดูโจเซฟที่กำลังบ่น
ลึก ๆ ในใจเจ้าของร้านหนุ่มกำลังส่ายหัวต่อคำพูดของชายชราคนนี้ เขารู้ดีว่าถึงแม้ภายนอกโจเซฟอาจจะดูเป็นคนหยาบคาย แต่ในใจนั้นเขาเป็นคนที่อบอุ่นและอ่อนโยน
หลินเจี๋ยผลักถ้วยชาร้อนไปทางโจเซฟ “การอ่านหนังสือในร้านไม่มีค่าใช้จ่าย จำกัดเฉพาะหนังสือที่อยู่ข้างหลังผมเท่านั้น ตอนนี้คุณจิบชาอุ่น ๆ ก่อนดีกว่า”
“ผมจะช่วยส่งต่อข้อความถึงคุณไวลด์ให้เองว่าคุณกำลังตามหาเขาอยู่”
โจเซฟไม่ชินกับรสชาติของใบชาเหล่านี้ ทำให้เขาขมวดคิ้วส่ายหัวในทันทีที่จิบมัน “ไม่จำเป็น ฉันพักที่นี่ไม่นานหรอก อีกเดี๋ยวก็ไปแล้ว”
ทันใดนั้นอาการปวดหัวของชายชราก็กลับมาอีกครั้ง
ให้ตายสิ มันชักจะถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ซะแล้วสิ
โจเซฟอดกลั้นอาการปวดเอาไว้ ชายชราเผลอขยับเก้าอี้ข้างใต้เปลี่ยนมุมนั่งเล็กน้อย จังหวะนั้นเองความสนใจของเขาก็เปลี่ยนไปยังหนังสือที่หลินเจี๋ยวางไว้ด้านข้างของเคาน์เตอร์
ดวงตาของโจเซฟหรี่ลงทันใด
เมล็ดพันธุ์แห่งขุมนรก?
“อ๋อ ก่อนหน้านี้ผมกำลังอ่านนิทานเด็กเรื่องนี้ มันช่วยให้ผ่อนคลายได้ บางทีคุณเองก็ควรจะลองอ่านมันดูเหมือนกันนะ? ผมคิดว่าการอ่านหนังสือก่อนนอนช่วยคลายเครียดได้จริง ๆ” หลินเจี๋ยสนทนาต่อโดยไม่ตั้งใจ
ตามคำบอกเล่าของอาจารย์สอนภาษาและวรรณกรรมในสมัยมัธยมปลาย ผู้ชายที่ดูดุร้ายมักจะมีแนวโน้มว่าในใจจะเป็นคนอ่อนโยน
ซึ่งหลินเจี๋ยก็เชื่อมั่นในสิ่งนี้
ชายชราตรงหน้าเขาเป็นคนอ่อนไหว อ่อนโยน และยึดมั่นในมิตรภาพมาโดยตลอดเวลา ดังนั้นชายหนุ่มจึงมั่นใจเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่าชายชราคนนี้จะต้องอยู่ในประเภทดังกล่าวแน่ ๆ
“นิทานเด็กงั้นเหรอ?” โจเซฟทำเชิงเย้ยหยันคล้ายกำลังจะหัวเราะ “เรื่องตลก ไร้เดียงสาแบบนั้นเนี่ยนะ เจ้าหนุ่มน้อย นายไม่ใช่เด็กแล้วนี่นา ทำไมถึงชอบอ่านอะไรแบบนั้น?”
“มันเป็นนิทานเด็กที่ดีที่สุดที่ผมเคยอ่านมา และเป็นนิทานเด็กเล่มเดียวในเมืองหลวงนอร์ซินด้วย” หลินเจี๋ยถอนมือจากเจ้าชายน้อยอย่างเศร้าใจ “น่าเสียดาย…”
โจเซฟเม้มปากแล้วชี้ไปที่หนังสือในมือของหลินเจี๋ย “นายหมายถึงหนังสือเล่มนั้นเหรอ? นิทานเด็ก? นายแน่ใจไหม?”
หนังสือนิทานเด็กแบบไหนกันถึงตั้งชื่อว่าเมล็ดพันธุ์แห่งขุมนรก? นี่เป็นนิทานสำหรับพวกสัตว์มายาหรือไง?
หลินเจี๋ยพยักหน้าด้วยความงุนงงเล็กน้อย “แน่นอน! นี่เป็นหนังสือนิทานสำหรับเด็กที่ดีมาก คลาสสิกอย่างแท้จริง”
โจเซฟอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่เขาก็ยังไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในการไหลเวียนของพลังเวท
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ชายชราอยากรู้จริง ๆ ว่าทำไมนิทานเด็กเล่มนั้นถึงได้ตั้งชื่อนี้
“ส่งมันมา” ในที่สุดโจเซฟยื่นมือออกมาและโน้มตัวเข้าไปทางเคาเตอร์อย่างไม่แสดงอารมณ์ “เห็นแก่นาย ฉันจะอ่านมันผ่าน ๆ ก็แล้วกัน”
หลินเจี๋ยยิ้มอย่างรู้เท่าทันแล้วจึงยื่นหนังสือให้
โจเซฟเปิดปกมองผ่านชื่อเรื่องอย่างสบาย ๆ เมล็ดพันธุ์แห่งขุมนรก
ชื่อแบบนี้มัน… จะเป็นนิทานก่อนนอนสำหรับเด็กได้จริง ๆ งั้นเหรอ?
ขณะที่เขายื่นมือไปรับหนังสือ ทันใดนั้นโจเซฟก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะ
ความเจ็บปวดเฉียบพลันที่ชายชราพยายามอย่างหนักที่จะระงับไว้ จู่ ๆ รุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว เงามืดบดบังทัศนวิสัยของเขา จากนั้นเสียงพึมพำเบา ๆ ก็ดังขึ้น
แต่แล้วความรู้สึกแปลก ๆ เริ่มแผ่ขึ้นมาจากกระดูกสันหลังของโจเซฟ ค่อย ๆ กลืนกินไปทั้งวิญญาณกวาดล้างความเจ็บปวดออกไป
โจเซฟเริ่มเสียการทรงตัว
“!”
ความรู้สึกแปลก ๆ นี่มัน… คุ้นเคยมาก!
ดาบปีศาจแคนเดลา! มันกำลังสั่นพ้องกับบางอย่าง…
ทำไมต้องตอนนี้ด้วย?
เดี๋ยวก่อนนะ ก่อนหน้านี้เจ้าหนุ่มนั่นพูดคำว่า ‘ก่อนนอน’ ใช่ไหม?
นี่เป็นกับดักงั้นเหรอ?
เสียงเจ้าของร้านหนังสือจางหายไปในระยะไกล ขณะที่โจเซฟค่อย ๆ หมดสติล้มลงไปกับพื้น
“เฮ้ ๆๆ! คุณลุงครับ!”
“คุณลุงครับ ไม่เป็นใช่ไหม?!”
“เฮ้ ๆๆ! คุณสบายดีไหม?!”
การแสดงออกของหลินเจี๋ยเปลี่ยนไปทันที เขารีบข้ามเคาน์เตอร์อย่างรวดเร็วเข้าไปประคองชายชราเอาไว้
อย่าบอกนะว่า… เขาเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบ?
ลุงคนนี้อายุมากแล้ว แต่ร่างกายยังดูแข็งแรงต่างจากคนทั่ว ๆ ไปในวัยเดียวกันมาก
แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็แก่แล้ว… เราต้องรีบช่วยเขาก่อน!
ทว่าหลังจากใช้แรงทั้งหมดเพื่อประคองโจเซฟลงกับพื้น หลินเจี๋ยก็ตระหนักได้ว่าทั้งการเต้นของหัวใจและลมหายใจของลุงคนนี้ยังคงที่ทั้งคู่
ไม่มีอาการป่วยแปลก ๆ แต่อย่างใด เหมือนว่าชายชรานั้นกำลังนอนหลับอย่างสงบสุขเสียมากกว่า
“เขาสบายดีงั้นเหรอ?”
หลินเจี๋ยเอื้อมมือไปที่ข้อมือของโจเซฟ พลางใช้นิ้วอ่านชีพจรด้วยความสงสัย
ในฐานะนักวิชาการที่ศึกษาวัฒนธรรมต่าง ๆ มันเป็นเรื่องปกติที่หลินเจี๋ยจะรู้ทักษะการอ่านชีพจรขั้นพื้นฐาน
เจ้าของร้านหนุ่มขมวดคิ้วก่อนจะวางข้อมือของโจเซฟลง “คุณลุงแข็งแรงมากเลยนะเนี่ย ชีพจรของคุณเต้นแรงกว่าผมในช่วงที่ดีที่สุดซะอีก” หลินเจี๋ยคร่ำครวญ
แล้วทำไมจู่ ๆ เขาถึงเป็นลมไปได้ล่ะ?
มันไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับหนังสือเล่มนี้ใช่ไหม!
ไม่น่าจะมีใครหมดสติเมื่อเห็นเจ้าชายน้อย ถึงแม้ว่าสิ่งสุดท้ายที่เขาทำก่อนจะหมดสติจะเป็นการหยิบหนังสือขึ้นมาก็ตาม หลินเจี๋ยคิดกับตัวเอง
มันต้องไม่เกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน นี่คือ ‘เจ้าชายน้อย’ หนังสือนิทานก่อนนอนสำหรับเด็กที่ช่วยปลอบประโลมหัวใจหลังจากอ่านจบนะ มันไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้ใครหัวใจวายได้สักหน่อย!
ทว่าเมื่อคุณลุงตรงหน้าเขาหมดสติไปจริง ๆ หลินเจี๋ยก็ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจ ปล่อยให้ชายชราได้พักผ่อนอย่างสบายตัวชั่วคราว รอสอบถามรายละเอียดตอนที่อีกฝ่ายตื่นขึ้นมาทีเดียว…