เจ้าของร้านพิศวง - บทที่ 264 จุดไต้ตำตอ
บทที่ 264 : จุดไต้ตำตอ
ในปัจจุบัน แม้แอนดรูว์จะไม่รู้ก็ตามว่าเกิดอะไรขึ้นกับมนุษย์ประดิษฐ์อีกสองตัว ทว่า S-227 ดูเหมือนจะไม่ต่างอะไรกับมนุษย์ธรรมดา ๆ ทั้งความคิดและอารมณ์ของเธอก็ดูราวกับเป็นตัวของตัวเอง
ในฐานะของมนุษย์ประดิษฐ์ เธอคือผลงานที่เสร็จสมบูรณ์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!
ปัญหาเดียวคือมนุษย์ประดิษฐ์รุ่นที่สองยังคงเป็นรุ่นทดลอง โดยมีการลองผิดลองถูกเป็นจุดประสงค์หลัก และวัสดุที่ใช้ศิลานักปราชญ์คุณภาพกลาง ซึ่งดีกว่ารุ่นคุณภาพต่ำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ร่างกายของมนุษย์ประดิษฐ์เหล่านี้รองรับอีเธอร์ได้ไม่เพียงพอ
แน่นอนว่าความสัมพันธ์นี้ยังไม่เพียงพอ ไม่ว่าศิลานักปราชญ์จะมีคุณภาพด้อยกว่าเพียงใด แต่มนุษย์ประดิษฐ์ก็ยังมีความเหมาะสมทางกายภาพที่สูงกว่ามนุษย์ทั่วไป
หากใช้ศิลานักปราชญ์คุณภาพเกือบสมบูรณ์แบบมาแทนที่ศิลานักปราชญ์เดิมอีกครั้งล่ะก็…S-227 จะไม่ใช่ผลงานที่เสร็จสมบูรณ์อีกต่อไป แต่จะเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์แบบที่ถือกำเนิดขึ้นใหม่อย่างแท้จริง!
“เทวรูปดินกำลังจะได้รับการเจียระไน กลายเป็นอัญมณีเม็ดงาม”
แอนดรูว์ทอดถอนใจ ในฐานะนักวิชาการของสมาคมแห่งสัจธรรมผู้เข้าร่วมและเฝ้ามองทั้งโครงการอยู่ แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา แต่ท้ายที่สุดแล้วเรื่องนี้ก็ถูกจัดว่าอยู่ในมือของเขาอยู่ดี ความสำเร็จของมันจึงทำให้เขาอดรู้สึกภาคภูมิใจขึ้นมาไม่ได้
แล้วแอนดรูว์ก็ถอนหายใจอย่างลึกล้ำ มีแค่คุณหลินเท่านั้นจริง ๆ ที่สามารถค้นพบหยกแท้ที่ปะปนอยู่ท่ามกลางดินโคลนได้
หากว่า S-227 หรือมูเอนยังคงอยู่ในห้องแล็ปล่ะก็ ผลสุดท้ายที่เป็นไปได้ที่สุดก็ไม่พ้นถูกทำลาย…
ความชื่นชมในใจแอนดรูว์ต่อหลินเจี๋ยในครั้งนี้มีความรู้สึกขอบคุณในฐานะนักวิชาการเสริมเข้าไป และในขณะเดียวกันเขาก็ยิ่งเกลียดตัวเองในอดีตที่โง่เง่ามากขึ้นด้วย ตัวเขาในอดีตที่สงสัยในความแข็งแกร่งของเจ้าของร้านหนังสือนั้นโง่เง่าจริง ๆ!
เขาหาที่นั่งว่างแล้วนั่งลง และระหว่างรอ ชายรูปงามก็คิดกับตัวเองว่า คุณหลินคงรู้ทุกอย่าง…มาแต่แรกแล้ว
ไม่สิ จู่ ๆ แอนดรูว์ก็รู้สึกว่าเขาบื้อมาก คุณหลินจะไม่รู้ได้ยังไง?
เขารู้ทุกเรื่องเลย!
ไม่ว่าจะเรื่องวิถีแห่งดาบอัคคีหรือเรื่องอื่น ๆ ถึงแม้ว่าทั้งหมดนี้จะดูราวกับเรื่องผีสางที่แพร่กระจายไปทุกที่ในสายตาพวกเขาก็ตาม พวกเขาแข็งแกร่งและลึกลับ ทั้งยังแทรกซึมเข้าไปในแทบทุกองค์กรโดยไม่ถูกจับได้
ครั้งหนึ่งผู้คนเคยคิดว่าเมื่อมาถึงยอดเขาก็จะได้เห็นทุกอย่างบนโลก แต่จู่ ๆ ก็พบว่ายังมีภูเขาสูงกว่าอยู่ข้างหน้าพวกเขา และไม่มีใครรู้เลยว่ามีสัตว์ร้ายชนิดใดที่ซ่อนตัวอยู่ในนั้น
นี่เป็นความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับคนตำแหน่งสูงอย่างแอนดรูว์ที่คิดว่าตัวเองควบคุมทุกอย่างได้
แต่สำหรับคุณหลินแล้ว ไม่ว่าอะไรก็ไม่อาจหลุดลอดจากสายตาของเขาไปได้ ไม่ว่าวิถีแห่งดาบอัคคีจะเหมือนภูตพรายแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากตัวตลกสำหรับเขา
ขนาดระดับเหนือนภาที่ยังไม่ปรากฏตัวและไม่รู้ที่ซ่อน ก็ยังต้องมอบของขวัญให้คุณหลินอยู่เหรอ?
บุคคลระดับเหนือนภาคนนั้นก็น่าจะเชื่อฟังคำสั่งของคุณหลินด้วย ดังนั้นเขาเลยสังหารเจโรมแล้วหลอมเขาจนกลายเป็นศิลานักปราชญ์ แต่แอนดรูว์นั้นรับหน้าที่นำศิลานักปราชญ์กลับมายังร้านหนังสือ
การแบ่งงานและการร่วมมือนี้ชัดเจนมาก
ถ้านี่ไม่ใช่การเรียงร้อยของคุณหลินล่ะก็ เขาก็จะกลับบ้านไปเขมือบศิลานักปราชญ์ระดับต่ำแบบดิบ ๆ เลยเอ้า!
เมื่อแอนดรูว์คิดมาถึงตรงนี้ก็อึ้งไปครู่หนึ่งแล้วอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองมูเอนที่หลังเคาน์เตอร์ซึ่งกำลังใช้เครื่องมือต่าง ๆ ในการทำชานมไข่มุก แล้วระฆังในใจของเขาก็ดังขึ้นทันที ปมต่าง ๆ จู่ ๆ ก็คลี่คลายออก
เขาไม่รู้เหรอว่า…ระดับเหนือนภาคนนั้นซ่อนอยู่ที่ไหน? ไม่เลย! เขาซ่อนอยู่ในที่แห่งหนึ่ง!
เมืองในเมือง…สังสาระจักรกล!
สถานที่ที่ห้องปฏิบัติการและโรงงานทั้งหมดของสมาคมแห่งสัจธรรมตั้งอยู่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่พวกเขาดำเนินการผลิตศิลานักปราชญ์ระดับต่ำจำนวนมาก และยังเป็นสถานที่ทดลองสร้างมนุษย์ประดิษฐ์ สถานที่เกิดของ S-227 ด้วย!
แม้ว่าตอนนี้พวกเขาแทบจะค้นหาไปทุกที่ในสมาคมแห่งสัจธรรมแล้ว แต่ในหมู่ทุกคนที่เป็นไปได้ว่าจะเป็นคนทรยศ ก็ยังไม่พบใครที่อาจจะเป็นไส้ศึกได้เลย
แผนเดิมคือรอต่อไปก่อน หลังจากเจโรมตายไป การจัดการทั้งหมดที่เขาเคยทำไว้ก็เป็นโมฆะไปโดยสมบูรณ์ หากตัวการเบื้องหลังยังคงมีแผนอะไรอยู่ เขาก็จะต้องส่งคนต่อไปมารับหน้าที่แทนแน่นอน
และตอนนั้นก็จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของพวกเขาในการเก็บเกี่ยวเบาะแส
ทว่าความทรงจำย้อนหลังของเขาที่เกี่ยวกับมูเอนก็ปลุกแอนดรูว์ให้ตื่นขึ้นทันที
ที่จริงแล้วพวกเขายังค้นหาในสมาคมแห่งสัจธรรมได้ไม่ครบทุกที่ นอกเหนือจากนี้ที่ใจกลางสังสาระจักรกล ศูนย์ปฏิบัติการ และโรงงานเหล่านี้ยังรวมไปถึงพื้นที่ที่ไม่รู้จักต่าง ๆ ก็ยังไม่ได้รับการตรวจค้น
สังสาระจักรกลนั้นตั้งอยู่ ‘ใต้ดิน’ ของเมืองนอร์ซินเขตกลางซึ่งเชื่อมต่อระหว่างเขตบนและเขตล่าง และที่ส่วนล่างของมันก็คือประตูที่ทำให้พนักงานของบริษัทพัฒนาทรัพยากรโรลล์ขึ้นลงระหว่างเขตบนและเขตล่างได้
ไม่มีใครรู้จักพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดของสังสาระจักรกลนี้เนื่องจากเป็นพื้นที่รกร้างและปิดสนิทจำนวนมาก ว่ากันว่าในช่วงแรกที่แห่งนี้มีการทดลองที่เป็นอันตราย ทำให้สถานที่เหล่านี้ต้องกลายเป็นสถานที่ปิดตายและห้ามมิให้ใครเหยียบเข้ามาโดยเด็ดขาด
ยิ่งไปกว่านั้น สังสาระจักรกลยังถูกสร้างขึ้นมาพร้อม ๆ กับเมืองนอร์ซินด้วย ว่ากันว่าพิมพ์เขียวของมันถูกฝังไว้ที่ไหนสักที่ในอาซีร์พร้อม ๆ กับนักวิชาการผู้ยิ่งใหญ่เรซิเอลผู้ได้รับสมญานาม ‘ปัญญาแห่งสวรรค์’
นอกจากเรซิเอลแล้ว ก็คาดไว้ว่าคนในโลกนี้คงไม่มีใครรู้ถึงแผนที่ที่สมบูรณ์ของสังสาระจักรกลอีกแล้ว
แต่ทว่าที่แห่งนี้คือที่ซ่อนที่ดีที่สุดของผู้ซ่อนตัวด้วย!
“พื้นที่ที่ถูกปิดมาเป็นเวลานาน ตอนนี้สถานการณ์ของมันเป็นอย่างไรก็ไม่มีใครรู้ จะยังมีอันตรายอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้เลย แต่ที่นี่มีพื้นที่กว้างใหญ่กว่าที่ใช้งานจริงอยู่ตอนนี้อย่างแน่นอน”
“ถ้าปรากฏว่ามีใครซ่อนตัวอยู่ในนั้นล่ะ? พวกเขาไม่เพียงแต่จะสามารถใช้ที่นั่นเป็นฐานที่มั่นคงได้ พวกเขายังใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่ถูกผนึกเหล่านั้นได้ตามใจด้วย แล้วในระหว่างนั้นพวกเขาก็ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกเจอตัวเลย”
“ใช่แล้ว…นี่แหละจุดไต้ตำตอ!”
สีหน้าของแอนดรูว์ตกตะลึงพรึงเพริด เขาหน้าซีด และเหงื่อเย็น ๆ ก็ผุดเต็มหน้าผากเขาไปหมด
พวกเขาละเลยพื้นที่มโหฬารแห่งนี้ที่อยู่ใกล้ ๆ ตัวเองมาโดยตลอด หากมีใครเข้าครอบครองรังนกกางเขนนี้และใช้ประโยชน์จากพื้นที่ปิดผนึกเหล่านั้นจริง ๆ ก็ลองคิดดูว่าพวกเขาอาศัยอยู่ในห้องเดียวกันกับศัตรูมากี่ปีแล้ว และระยะทางก็อาจจะห่างแค่กำแพงกั้น แค่คิดหนังหัวก็คันยิบ ๆ แล้ว
“ชานมไข่มุกได้แล้วค่ะ”
เสียงของเด็กสาวดังขึ้น แล้วตามมาด้วยแก้วชานมไข่มุกถูกวางลงด้านหน้า
“หือ?… ขอบคุณครับ” แอนดรูว์ได้สติ สูดหายใจลึก ๆ แล้วรับแก้วชานมมาอย่างระมัดระวัง
“ฮู่…”
เขาถอนหายใจออกมายาวเหยียด เงยหน้าขึ้นแล้วปรับอารมณ์ให้เย็นลงพลางมองแผ่นหลังที่คล้อยไปของมูเอนอย่างครุ่นคิด
ถ้าไม่ใช่ว่าเขาได้มาเห็น S-227 อีกครั้งหลังจากผ่านไปหลายปีล่ะก็ เขาคงคิดถึงสังสาระจักรกลไม่ได้เร็วขนาดนี้ เพราะที่นั่นคือจุดบอด
อันที่จริงแล้ว การที่คุณหลินให้เขามาที่คาเฟ่หนังสือก็คือการบอกใบ้ถึงที่ซ่อนของศัตรูของเขา ทำให้เขาประหยัดเวลาไปได้มากเลย
สมแล้วที่เป็นคุณหลินจริง ๆ!
ความคลั่งไคล้ในแววตาของแอนดรูว์ยิ่งรุนแรงมากขึ้น แล้วเขาก็จิบชานมไข่มุกในมือ
“หือ?”
เขาตกตะลึง ไข่มุกในปากของเขาจู่ ๆ ก็ดูเหมือนจะดิ้นได้
แอนดรูว์ก้มลงไปมอง แล้วเขาก็พบว่า ‘ไข่มุก’ ในแก้วกำลังลืมตาขึ้นมามองเขา แล้วยืดเส้นหนวดจิ๋วนับไม่ถ้วนออกมาแหวกว่ายไปมาในแก้วชานมอย่างสบายอารมณ์…