เจ้าของร้านพิศวง - บทที่ 268 แสดงอำนาจ
บทที่ 268 : แสดงอำนาจ
จี้จือซู่ลงจากรถลีมูซีนคันหรูแล้วเดินไปที่ร้านหนังสือ
คนขับรถของเธอที่ยังถือกระเป๋าใบใหญ่เดินมาหาจี้จือซู่พลางประคองเธอด้วยมือที่สวมถุงมือสีขาวเยี่ยงคนรับใช้ผู้ตรงต่อหน้าที่
ความตะลึงในทีแรกของหม่าหนานที่มองอยู่จากไกล ๆ เริ่มทุเลาลงช้า ๆ เขาเกาคางของเขาแล้วอดสงสัยไม่ได้ เราไม่เห็นจำได้เลยว่าเคยเห็นคนขับรถหรือคนใช้หน้าตาแบบคนที่ติดตามคุณหนูจี้อยู่?
หรือเขาจะถูกจ้างมาใหม่กันนะ?
ข้าง ๆ เขา ธีโอดอร์ก็ดูเหมือนจะตกอยู่ในภวังค์เช่นกัน
คุณหนูตระกูลจี้มาร้านหนังสือนี้จริง ๆ ด้วย…
และจากที่เห็น นี่ก็ไม่ใช่แค่การแวะมาธรรมดา ๆ เธอถึงขนาดนำของขวัญมาด้วย และน้ำหนักของกระเป๋าใบนั้นแสดงให้เห็นแล้วว่าข้างในไม่ได้มีแค่เงินแน่ ๆ
ด้วยระดับของบริษัทพัฒนาทรัพยากรโรลล์แล้ว เงินไม่ได้สำคัญอะไรนัก บ่อยครั้งกว่าที่วัตถุหายากและประเมินค่าไม่ได้จะถูกใช้เป็นของขวัญให้กันแทน
หรือก็คือ คุณหนูจี้ต้องถือว่าการมาเยือนครั้งนี้มีความสำคัญยิ่งยวดอย่างแน่นอน!
ถึงแม้ว่าคุณหนูจี้จะไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องภายในของบริษัทพัฒนาทรัพยากรโรลล์ และไม่ค่อยปรากฏตัวต่อสาธารณะเท่าไหร่ก็ตาม แต่เธอก็เป็นลูกสาวคนเดียวของจี้ป๋อหนงอยู่ดี
ต่อให้ข่าวลือนั่นจะไม่เป็นจริง แต่บางทีร้านหนังสือนี้ก็อาจจะไม่ได้เรียบง่ายอยู่ดี…
ธีโอดอร์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาควรหาเวลาไปเยี่ยมเยือนหลังจากย้ายร้านดีไหม?
ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามก็เป็นเจ้าของร้านหนังสือด้วย การนำหนังสือที่เขายอมรับไปให้ก็อาจจะเป็นทางออกที่ดีกว่า…
ความคิดนี้ปรากฏขึ้นในใจของเขา แล้วเขาก็ส่ายหัวอีกครั้ง
คนพวกนั้นดูไม่ธรรมดาเลย แถมยังมีพลังลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนอยู่อีกต่างหาก ถ้าให้เที่ยวดึงคนอื่นเข้ามาพัวพันตามอำเภอใจ นั่นจะเป็นละเมิดหลักความเป็นมนุษย์ของเขา
ขั้นแรกก็ใช้ชื่อบริษัทพัฒนาทรัพยากรโรลล์ขวางพวกมันไว้ก่อนก็แล้วกัน เขาทุ่มเงินจ่ายไปมากเพื่อให้ได้ร้านนี้มา
แต่ก็อีกนั่นแหละ
ธีโอดอร์มองไปที่คู่นายบ่าวที่อีกฝั่งถนนแล้วอดชื่นชมในใจไม่ได้ สมกับที่เป็นเครือบริษัทพัฒนาทรัพยากรโรลล์ กระทั่งคนขับรถยังวางตัวดี
ที่ทางเข้าร้านหนังสือ
จี้จือซู่หันศีรษะเล็กน้อย เมื่อเห็นคนขับวัยกลางคนที่อยู่หลังพวงมาลัยคนนั้น เธอก็อดยิ้มอย่างซุกซนระคนสุขใจไม่ได้ แถมยังเกือบหลุดหัวเราะ
ดูเหมือนคนขับรถจะมีมาดนิ่งสงบ แต่ที่จริงแล้วแววตาของเขาทอประกายจนใจ หากมองดี ๆ จะพบว่าการเคลื่อนไหวของเขาแข็งทื่อมาก การเคลื่อนไหวของเขาตรงไปตรงมา แม้ว่าจะไม่มีข้อผิดพลาดก็ตาม แต่เขาก็ไม่ชำนาญ และเป็นเพียงการเลียนแบบท่าทางจากการฝึกชั่วคราวเท่านั้น
เฮอะ!
เขาทอดถอนใจอยู่ในใจ
เป็นคนขับรถหรือคนใช้ให้ลูกสาวตัวเอง ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรสักหน่อย
ในสมัยที่จี้จือซู่ยังเด็ก เขายังให้ยัยเด็กโง่นี่ขี่หลังเป็นม้าเลย…!
ใช่แล้ว…คนขับรถวัยกลางคนในชุดสูทสีดำนี้ ที่จริงก็คือจี้ป๋อหนง ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทพัฒนาทรัพยากรโรลล์
เพื่อหลบเลี่ยงหูตาคนมาหาเจ้าของร้านหนังสือของเขาในครั้งนี้ เขาจึงใช้แหวนผู้สันโดดเปลี่ยนการรับรู้ของคนอื่น ๆ ต่อเขาแล้วปลอมตัวเป็นคนขับรถธรรมดา ๆ แล้วติดตามจี้จือซู่ออกมา
แล้วจากนั้นก็ใช้อุปกรณ์เสริมที่เรียกว่า ‘หุ่นกระจก’ เพื่อทำเป็นสแตนด์อินของเขาเอง และนั่งรถต่อไปยังคฤหาสน์ A16
“หุ่นกระจก” นี้เป็นเพียงเปลือกกลวง ๆ ที่มีเลือดเนื้อ หากอยู่ในมือของนักเวทที่เชี่ยวชาญเรื่องคำสาป มันก็อาจจะมีบทบาทสำคัญได้
แต่จีป๋อหนงเป็นแค่คนธรรมดาที่สามารถรับรู้อีเธอร์ได้ ถึงจะแค่เล็กน้อยก็เถอะ เขาเคยพยายามจะเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีพรสวรรค์
ต่อให้เขาทุ่มพลังสุดตัว เขาก็ทำได้แค่ทำให้อีเธอร์ขยับเล็กน้อยได้เพียงสองถึงสามจุดเท่านั้นเอง
ดังนั้นเขาจึงต้องใช้สัญลักษณ์หลายชุดจากนักเวทมนตร์ขาวเพื่อช่วยให้เขาได้แยกสติเพื่อควบคุมหุ่น กระบวนการนี้ซับซ้อนและน่าเบื่อมาก
โชคดีที่ชุดปฏิบัติการนี้ถูกเตรียมไว้นานแล้ว การนำไปใช้จึงไม่ได้ยากเย็นนัก
การเตรียมการมาหลายปีและใช้ความพยายามมากมาย โชคดีที่สุดท้ายเราก็ได้ใช้มัน แบบนี้ทุกอย่างก็คุ้มค่าแล้ว
จี้ป๋อหนงคิดในใจ เขาเงยหน้าขึ้นมองร้านหนังสือที่ลูกสาวของเขาพูดถึงซ้ำ ๆ ที่เขาเคยเห็นในภาพมาก่อน
แม้จะเก่า แต่ไม่รู้ว่าเป็นการคิดไปเองหรือเปล่าทำให้คนรู้สึกว่าหลังหน้าต่างร้านที่คลุมเครือ ความมืดระหว่างแถวของชั้นหนังสือมีบรรยากาศลึกลับที่ทำให้คนอยากไปสำรวจ
ลูกสาวของเขาจับลูกบิดประตูรออยู่แล้ว แล้วเธอก็บุ้ยใบ้ให้เขาตามมา
จี้ป๋อหนงรู้สึกประหม่าอย่างคาดไม่ถึง แล้วเขาก็พยักหน้า
แอ๊ด…!!
กริ๊ง!
จี้จือซู่เปิดประตูช้า ๆ แล้วเสียงกระดิ่งที่ประตูก็ดังขึ้น
“ยินดีต้อนรับ อ้าว คุณหนูจี้ ไม่ได้เจอกันนานเลย ลมอะไรหอบมาครับเนี่ย? อย่าบอกนะครับว่าวันนี้คุณก็นึกอยากให้ของขวัญผมด้วย? ผมอาจต้องออกตัวไว้ก่อนนะครับ ถ้ามันแพงไปผมก็รับไว้ไม่ได้นะครับ…”
เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังตามมา ฟังดูอ่อนโยนอารมณ์ดี โดยรวมแล้วก็เหมือนกับการพูดเล่นหัวระหว่างคนรู้จักอย่างอัธยาศัยดี
จี้ป๋อหนงเปลือกตากระตุก และหัวใจของเขาก็พลันเต้นผิดจังหวะ
ถึงเขาจะรู้อยู่นานแล้วก็ตามว่าเจ้าของร้านหนังสือที่ชื่อหลินเจี๋ยคนนี้มีความสามารถที่ ‘รอบรู้และเชี่ยวชาญทุกด้าน’ แต่เมื่อมาเผชิญหน้ากัน เขาก็รู้สึกกดดันอยู่ดี
ทว่าแม้จะเตรียมตัวมาแล้ว แต่ฝ่ายตรงข้ามก็รู้แล้วว่าการให้ของขวัญของพวกเขาต้องมีเหตุผลแฝง แล้วเขาก็มองว่ามันไม่คุ้มค่า จึงแสดงอารมณ์รุนแรงออกมาแบบนี้
สิ่งที่ทำให้หัวใจของจี้ป๋อหนงหล่นวูบได้จริง ๆ คือความหมายที่อยู่เบื้องหลังคำว่า ‘แพงเกินไปผมรับไว้ไม่ได้’ นั่น
ความหมายของคำพูดเหล่านี้แทบจะเทียบเท่ากับการตอบปฏิเสธแล้ว!
ฝีเท้าของจี้จือซู่เองก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่เธอก็รีบคลี่ยิ้มสงบนิ่งแล้วพูดขึ้นว่า “เจ้าของร้านหลิน ไม่ได้เจอกันนานเลยจริง ๆ ค่ะ ฉันมาเพื่อจะให้ของขวัญจริง ๆ แต่ฉันมีเรื่องจะขอร้อง…”
จี้ป๋อหนงบริหารบริษัทพัฒนาทรัพยากรโรลล์มาหลายต่อหลายปี แต่เขาไม่เคยรู้สึกมืดมนเท่านี้มาก่อนเลย
ฝีเท้าของเขานั้นเยือกเย็นและหนักหนามาก แต่เขาก็ยังฝืนมองขึ้นไปที่ต้นเสียง
แล้วเขาก็เห็นว่ามีชายหนุ่มผมดำนั่งยิ้มอยู่ที่หลังเคาน์เตอร์ ในมือกำลังพลิกทับทิมเม็ดใหญ่อย่างถนอม ดวงตาสีดำขลับพราวระยับของเขามองมาที่พวกเขาอย่างสุภาพอ่อนโยนและให้บรรยากาศของปัญญาชน
ชายผู้น่าสะพรึงกลัวผู้ทำให้องค์กรนักล่าต้องเปลี่ยนขั้วอำนาจใหม่หมดจากการหักหลัง ผู้ที่ทั้งสมาคมแห่งสัจธรรมและหอพิธีกรรมต้องห้ามต่างหวาดกลัว ผู้ซึ่งกำกับการล่มสลายของโบสถ์แห่งจุดสูงสุดและการผงาดขึ้นของศาสนาแห่งตะวันด้วยตัวคนเดียว และผู้ที่ก่อให้เกิดพายุนองเลือดขึ้นทั่วโลกของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ…
ด้วยรูปลักษณ์อันอ่อนโยนที่ไม่เข้ากับการกระทำโชกเลือดเปี่ยมเพลิงสงครามของเขา เขาดูราวกับคนธรรมดาที่ยิ้มแย้มและยินดีที่ได้เจอเพื่อนเก่าเท่านั้น…
แต่ทันทีที่เขาอ้าปาก เขาก็แสดงอำนาจออกมาอย่างตรงไปตรงมา “เหมือนผมจะเห็นรถอยู่ข้างนอกนะครับ”
หลินเจี๋ยยืดตัวขึ้นแล้วหันไปมองจี้ป๋อหนง เลิกคิ้วขึ้นแล้วเปิดอกทอดถอนใจ “นั่นคนขับรถส่วนตัวของคุณหรือเปล่าครับ? ชีวิตคนรวยนี่ดีจริง ๆ เลยนะครับ น่าอิจฉาจริง ๆ…”
“……”
จี้ป๋อหนงไม่เชื่อหรอกว่าอีกฝ่ายจะมองทะลุการปลอมแปลงของแหวนแห่งผู้สันโดดไม่ได้
ดังนั้นจึงมีเพียงความเป็นไปได้เดียว นั่นคืออีกฝ่ายกำลังเตือนเขาอยู่!
ลำดับชั้นภายในบริษัทพัฒนาทรัพยากรโรลล์ดูจะไร้ผลที่นี่ เจ้าของร้านหนังสือกำลังบอกเขาอยู่ว่าหากเขายืนอยู่ที่นี่ ไม่ว่าเขาจะเป็นผู้บริหารบริษัทพัฒนาทรัพยากรโรลล์หรือคนขับรถ ก็ไม่มีอะไรต่างกันเลย!