เจ้าของร้านพิศวง - บทที่ 383 สถานที่ปลอดภัย
บทที่ 383 : สถานที่ปลอดภัย
บทที่ 383 : สถานที่ปลอดภัย
“ผู้บัญชาการอัศวินวินสตันคะ มีผู้พบ…”
ก่อนพรีม่าจะทันพูดจบ เสียงสั่น ๆ ของอีกฝ่ายก็ดังขัดขึ้นจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์แล้ว “จริงเหรอครับ? เจอ…เจอแล้วเหรอครับ? มีคนเจอ… สถานการณ์ สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้างครับ? โจเซฟเขา…”
พูดถึงตรงนี้ เขาก็หยุดลงอีกครั้ง ลังเลว่าจะพูดต่อดีไหม
การต่อสู้ของโจเซฟส่งผลกระทบถึงหัวใจของคนมากเกินไป ทั้งความสิ้นหวังและความหวังมากมาย การขยับขึ้น ๆ ลง ๆ ของสภาพจิตใจรุนแรงจนแม้แต่วินสตันผู้ภาคภูมิในความเยือกเย็นคงเส้นคงวาที่สุดยังควบคุมตัวเองไม่ได้ เขายังกลัวหน่อย ๆ ด้วยที่จะต้องฟังข่าวการตายของโจเซฟ
เสียงของพรีม่าเสถียร เธอตัดสินใจไม่บอกสภาพอนาถาก่อนหน้านี้ให้ ‘ญาติผู้ป่วย’ ฟัง และพูดรวบรัดว่า “เขายังมีชีวิตอยู่ค่ะ”
เหมือนก้อนหินอันหนักอึ้งหล่นลงสู่พื้น วินสตันผู้หัวใจจุกที่คอทิ้งตัวลงผ่อนคลายในที่สุด
เขาถอนหายใจโล่งอก ตามติดมาด้วยความยินดีปรีดา ถามอย่างรวดเร็วว่า “ขอผมคุยกับเขา…อ่า ไม่สิ นี่ผมพูดอะไรอยู่ โจเซฟต้องบาดเจ็บสาหัสอยู่แน่ ๆ ใช่ไหมครับ?”
ใช่เลย เขาเหลือแค่ร่างกายที่แห้งกรอบ จะบอกว่าสาหัสได้ไหมนะ?
พรีม่าคิดในใจ หันไปมองอัศวินวัยชราสภาพสมบูรณ์ที่เธอแบกไว้บนบ่า ชุดป้องกันนี้เป็นชุดเกราะกระดองรูปแบบหนึ่ง มันง่ายที่จะแบกคนด้วยตัวคนเดียว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าพรีม่าก็ใช้โอสถเข้าช่วย ก่อนจะกล่าว
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แต่ถึงคนจะรอดตาย เขายังต้องการเวลาพักฟื้นและปรับตัว ในระหว่างนี้ เขาจะไม่สามารถใช้อีเธอร์หรือเคลื่อนไหวหักโหมได้ ทางที่ดีที่สุดคือหาสถานที่ปลอดภัยให้เขาพักผ่อนก่อนนะคะ”
“หอพิธีกรรมต้องห้ามของคุณน่าจะได้ พอคุณพาเขากลับไปแล้ว ให้พักสักสามถึงห้าเดือนก็ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ”
“ขอบคุณมาก ๆ ครับสำหรับความช่วยเหลือ…”
วินสตันแสดงความขอบคุณออกมาอย่างจริงใจ แม้ว่าพรีม่าจะไม่ได้พูด แต่เขาก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องทุ่มเทความพยายามมากแค่ไหนในการช่วยโจเซฟออกมาจากขุมนรก เขาจึงชิงกล่าวขอบคุณยกย่องเธอ
สาวน้อยเภสัชกรคนนี้…จริงเหรอที่เธอได้รับความชื่นชอบจากร้านหนังสือ? ความเคลือบแคลงก่อนหน้านี้ของเขาเกินจำเป็นเสียแล้ว
ในกรณีนี้ ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล
วินสตันสูดหายใจลึก ๆ ก่อนจะพูดต่อ “รบกวนคุณช่วยส่งเขาไปที่ปลอดภัยเลยได้หรือเปล่าครับ? ไม่ต้องกลับหอพิธีกรรมต้องห้ามหรอก”
พรีม่าอึ้งไปครู่หนึ่ง ถามด้วยใบหน้ามึนงง “ที่ปลอดภัย? คุณแน่ใจเหรอคะว่าจะไม่ส่งเขากลับหอพิธีกรรมต้องห้าม? เขาไม่…”
วินสตันพูดอย่างหนักแน่น “แน่ใจครับ นอกจากนั้น ผมยังอยากให้คุณ…ช่วยแจ้งว่าเขาตายแล้วด้วย”
พรีม่าจ้องอุปกรณ์สื่อสารของเธออย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก
“ผมรู้ว่าคุณต้องสับสนอยู่แน่ ๆ แต่ว่า…ชีวิตของโจเซฟกำลังย่ำแย่ครับ”
ชีวิตของโจเซฟ เท่ากับ ภารกิจจากเจ้าของร้านหลิน!
หลอดไฟดวงหนึ่งสว่างขึ้นในใจพรีม่า
“ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา”
เด็กสาวพยักหน้าหงึกหงัก “ฉันจะเก็บมันเป็นความลับแน่นอน สาบานด้วยห้องแล็บของฉันเลยค่ะ”
วินสตันว่า “ขอบคุณครับ และรบกวนอย่าบอกสถานที่กับผมด้วยนะครับ คุณรู้คนเดียวก็พอแล้ว”
“อื้ม”
แต่ว่า…
ที่ปลอดภัยที่ว่ามันที่ไหนล่ะ?
พรีม่ากัดริมฝีปากล่างครุ่นคิดเร็วจี๋
ส่งไปที่ห้องแล็บของสมาคมแห่งสัจธรรม? เครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ ที่นี่มีครบครัน แถมเรายังคุ้นชินกับสถานที่นี้ด้วย
แต่ทันทีที่เขาถูกส่งไปยังสมาคมแห่งสัจธรรม แอนดรูว์จะรู้แน่นอน
พื้นที่ปลอดภัย…
พรีม่าพึมพำสองรอบ แล้วนึกไปถึงเด็กสาวผิวขาวท่าทางเย็นชาที่นั่งหลังบาร์คาเฟ่หนังสือพร้อมหนังสือเล่มหนึ่งในมือขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
มูเอน…
มูเอนคือรัตติกาล และเจ้าของร้านหนังสือก็เป็นเจตจำนงของท่านหญิงวัลเพอร์กิสมาตลอด
สถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในโลกก็ไม่แคล้วเขตแดนที่ท่านหญิงวัลเพอร์กิสคุ้มครอง
ดังนั้นไม่มีปัญหาแน่ ๆ ถ้าจะส่งคุณโจเซฟไปที่ร้านหนังสือ!
อีกอย่าง ท่านมูเอนกับเจ้าของร้านหลินก็ไม่ใช่มนุษย์ ดังนั้นเราก็เป็นคน ๆ เดียวที่รู้ไหมนะ?
คิดเช่นนั้น พรีม่าก็พาโจเซฟไปในทิศทางของร้านหนังสือ
—
วินสตันปิดอุปกรณ์สื่อสาร ถอนหายใจยาวเหยียด
พรีม่ามีสถานที่ปลอดภัยซึ่งไม่เป็นที่รู้จักอยู่เพียงหนึ่ง ซึ่งเป็นผลจากการบอกใบ้อย่างจงใจของเขา
เหตุผลของเรื่องนี้…มันง่ายนิดเดียว
วินสตันมีการคาดเดาในใจ เป็นการคาดเดาที่ร้ายแรง และเขาก็อยากทดสอบมัน
ว่าหอพิธีกรรมต้องห้ามก็แค่อยากจะใช้โจเซฟ
ครั้งนี้ วินสตันสัมผัสถึงมุมมองที่ต่างออกไปได้
ทำไมหอพิธีกรรมต้องห้ามถึงไม่สนใจความเป็นความตายของโจเซฟเลยล่ะ?
เพราะในสายตาพวกเขา…โจเซฟไม่ใช่วีรบุรุษ
เขาเป็นแค่เครื่องมือเพื่อทดสอบหลินเจี๋ย พวกเขาไม่เคยคิดว่าโจเซฟเคยเป็นอัศวินแห่งแสงผู้ปกป้องหอพิธีกรรมต้องห้ามและนอร์ซินมาหลายต่อหลายปีเลย…
วินสตันรู้สึกหนาวสะท้านไปทั้งกายเมื่อคิดถึงหอพิธีกรรมในแง่นี้
เขาเกือบลืมไปแล้วว่าโจเซฟถูกทิ้งมาแล้วครั้งหนึ่ง
และตอนนี้ หากโจเซฟล้มเหลวในการเลื่อนขั้นสู่เหนือนภา กระทั่งอาจบาดเจ็บสาหัสจากมัน หอพิธีกรรมจะทำอย่างไร?
วินสตันไม่กล้าคิดเลย แต่เขาก็รู้ว่าตนไม่สามารถเชื่อในหอพิธีกรรมได้อีกต่อไป
ต่อให้โจเซฟจะถูกช่วยไว้ แต่เมื่อเขาตกสู่เงื้อมมือหอพิธีกรรม เขาก็อาจถูกใช้อีกครั้ง
คุณค่าหยดสุดท้ายจะถูกรีดเค้นจนเกลี้ยง
คุณค่าสุดท้ายของโจเซฟคืออะไร?
เขาคิดได้เพียงเด็กสาวที่ถูกเคลื่อนย้ายสู่จุดปลอดภัยและยังไม่ได้สติ… เมลิสซ่า
จากนี้ไป วินสตันก็พบว่าการตัดสินเจ้าของร้านหนังสือว่าดีหรือร้าย จุดยืนและความเข้าใจ กระทั่งจุดประสงค์ของเขาล้วนเป็นเรื่องฟุ่มเฟือยไร้สาระ
ที่จริงแล้ว เขาคิดผิดมาตลอดว่าความวุ่นวายในนอร์ซินเกิดขึ้นจากเจ้าของร้านหลิน แต่ไม่เลย มันมาจากความโลภของมนุษย์ต่างหาก
วินสตันหันไปมองแคโรไลน์ที่ยังไม่ได้สติ ใบหน้าของเธอโชกเลือด
เขาจะบอกใครไม่ได้ว่าโจเซฟยังมีชีวิตอยู่ อย่างน้อยก็จนกว่าโจเซฟจะฟื้นตัวได้
วินสตันตัดสินใจอย่างเงียบ ๆ
—
โลกภายนอกสนามรบซอยหกสิบเจ็ด ยังคงเต็มไปด้วยพายุหิมะกับเสียงเตือนภัย
ผู้คนพูดคุยที่บ้านของตนว่าเกิดอะไรขึ้นกับโครงสร้างภายในของนอร์ซินซึ่งทำให้มันผุพัง ก่อให้เกิดผลกระทบใหญ่ขนาดนี้
ละแวกรอบข้างร้านหนังสือที่ไม่ได้ถูกจับตามองโดยหอพิธีกรรมต้องห้ามอีกต่อไปก็ถูกความเวิ้งว้างเงียบสงัดปกคลุมเช่นกัน
ก๊อก ๆ…
ในขณะที่มูเอนกำลังเตรียมชานม เธอก็ได้ยินเสียงเคาะจากประตูไม้ของร้านหนังสือ
ใครจะมาเคาะประตูอย่างกระตือรือร้นก่อนถึงเวลาเปิดร้านแบบนี้นะ? ไม่ใช่เจ้าของร้านหลินแน่ ๆ เขามีกุญแจร้านอยู่
ทว่าดูเหมือนเจ้าของร้านหลินจะออกจากร้านไปสองวันแล้ว นี่ก็เกือบได้เวลาที่เขาจะกลับมา…
“เหวอ…”
มูเอนเปิดประตู ก้อนหิมะตกลงจากชายคา แล้วเธอก็เห็นใบหน้าของคนคุ้นเคย…
“พรีม่า?”
เด็กสาวตรงหน้าที่กำลังง่วนกับการปัดหิมะบนหัวของเธอก็คือสาวกตัวเอ้ที่สุดของมูเอนในทุกวันนี้นั่นเอง
“ค่ะ!”
พรีม่าตอบกลับเสียงดังอย่างลืมตัว
“นี่คือ?” มูเอนถามขณะมองชายร่างใหญ่ในชุดป้องกันที่นอนแอ้งแม้งอยู่ข้างพรีม่าอย่างงุนงง
“นี่คุณโจเซฟค่ะ” พรีม่ารีบพูด “เขาต้องการที่ปลอดภัยเพื่อรักษาบาดแผล ฉัน…ก็เลยคิดถึงที่นี่ค่ะ”
มูเอนพูดเบา ๆ “ฉันยินดีที่คุณถือว่าที่นี่เป็นสถานที่ปลอดภัยนะคะ แต่สิ่งที่ฉันอยากถามไม่ใช่ตัวตนของเขา เข้ามาก่อนสิ”
เธอเปิดประตูกว้างขึ้น ขอให้พรีม่าพาโจเซฟเข้ามาในร้านหนังสือ แมวขาวที่นั่งอยู่บนเคาเตอร์กลิ้งไปมา ร้องเหมียวพลางสะบัดขน
มันหรี่ตาลงทำจมูกฟุดฟิด กระโดดไปที่ข้างตัวโจเซฟ มองเขาด้วยแววตาละโมภเหมือนเห็นของอร่อย
มูเอนรวบมันขึ้นมา ตีเข้าที่หัว “นี่ไม่ใช่ของที่แกจะกินได้นะ…”
“แง้ว…”
เจ้าขาวกุมหัวโอดครวญ
พรีม่าเปิดชุดป้องกัน ร่างด้านในของโจเซฟยังคงมีสสารจากเขตแดนแห่งจุดจบกัดกร่อนเขาอยู่จนผิดรูป
“ขอโทษอย่างสูงค่ะ! ฉันไม่คิดว่าวิญญาณของเขาจะได้รับผลกระทบจากเขตแดนแห่งจุดจบ ฉันทำได้แค่ฟื้นสภาพร่างกายของเขา แต่ไม่สันทัดด้านวิญญาณเลย…”
พรีม่าพูดจบ เธอก็รีบร้อนเตรียมโอสถอีกครั้ง
มูเอนมองพรีม่าผู้ง่วนกับงานของเธออย่างเงียบ ๆ
จากนั้นสักพัก พรีม่าก็ดูจนปัญญา เธอเอียงคอ ยกมือขึ้น อีเธอร์ที่ดูเหมือนแสงจันทร์รวมตัวกันบนฝ่ามือ
[พรศักดิ์สิทธิ์]
เมื่อพรีม่าก้มลงมอง เธอก็เห็นแสงจันทร์อันอบอุ่นสาดลงบนหนังสือของเธอ เมื่อเงยหน้าก็พบมูเอนแสดงพลังแห่งรัตติกาลบนมือของเธออย่างเฉยเมย
ผิวของโจเซฟค่อย ๆ สร้างตัวใหม่
พรีม่าอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วเรียกสติกลับมาทันที เธอมองความมืดถักทอตัวเองเป็นเปลห่อหุ้มโจเซฟ เต็มไปด้วยแสงจันทร์
มูเอนละมือกลับ มองโจเซฟอีกครั้ง แล้วรวบรวมพลังอีกหน
[ลานแสงจันทร์]
พื้นที่ใด ๆ ที่แสงจันทร์ปกคลุมคือเขตแดนแห่งรัตติกาล ในทันใดนั้น ออร่าระดับเหนือนภาที่โจเซฟปล่อยออกมาถูกซ่อนโดยสมบูรณ์