เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 150 ตกตะลึงทั้งหมู่บ้าน
- Home
- เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ
- บทที่ 150 ตกตะลึงทั้งหมู่บ้าน
บทที่ 150 ตกตะลึงทั้งหมู่บ้าน
“เว่ยฉิง นี่คือท่านแม่ทัพเฉา” ถังหลี่แนะนำในขณะที่จับมือเว่ยฉิงไว้
“ท่านแม่ทัพเฉา” เว่ยฉิงทักทาย
เฉาเช่าพยักหน้าเล็กน้อย กล่าวทักทายตอบ ด้วยความที่ดึกมากแล้ว ถังหลี่จึงจัดห้องนอนให้ ทุกคนล้วนเข้านอนโดยที่ยังไม่อาบน้ำหรือเปลี่ยนเสื้อผ้า
เว่ยฉิงอุ้มถังหลี่กลับไปที่ห้องนอนใหญ่
เว่ยฉิงมีวันหยุดในวันพรุ่งนี้ ในตอนที่เขากลับมาวันนี้ก็พบว่าภรรยาของเขาไปเมืองฉินโจวหลายวันแล้ว ชายหนุ่มไม่สบายใจมากเขานอนไม่หลับจึงได้ขึ้นนั่งอยู่บนหลังคาบ้าน
เว่ยฉิงครุ่นคิดถึงเรื่องในภายหน้า การทำงานให้กับจวนสกุลเซี่ยเป็นเรื่องที่ดี แต่เว่ยฉิงเหมือนถูกผูกมัด เขาไม่มีอิสระพาภรรยาไปธุระหรือเดินทางได้ ชายหนุ่มไม่ต้องการให้ภรรยาออกไปเสี่ยงนอกบ้านตามลำพังเพียงคนเดียว
และในตอนนี้เมื่อมีภรรยาอยู่ในอ้อมแขนเขารู้สึกว่าตนเองมีความสุขมาก
ถังหลี่คิดถึงสามีเช่นกัน
ทั้งสองคนผลัดกันจูบในความมืด กลิ่นอายของความเป็นชายพวยพุ่งราวกับจะมอมเมาถังหลี่ จนนางรู้สึกเวียนหัว หลังจากจุมพิตแห่งความโหยหานั้นหยุดลง เว่ยฉิงพบว่าภรรยาของตนเองผล็อยหลับไปด้วยใบหน้าที่เหนื่อยล้า เขาจึงหยุดก่อกวนนาง เว่ยฉิงเลือกที่จะกอดนางไว้อย่างทนุถนอมพร้อมกับหลับตาฟังเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของถังหลี่แทน
เมื่อยามเช้ามาถึง ถังหลี่ตื่นขึ้นพบใบหน้าหล่อเหลาของสามีอยู่ใกล้นางมาก ทันทีที่เว่ยฉิงเห็นนางตื่น เขาลูบไล้ไปตามใบหน้าของหญิงสาว ราวกับสุนัขที่มาปลุกเจ้าของ หญิงสาวนั่งพิงกับแผ่นอกแข็งแกร่งก่อนจะบอกเล่าเรื่องราวที่นางพบในเมืองฉินโจว รวมถึงเรื่องแม่ทัพเฉา คันธนูและหน้าไม้
เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนทำให้ถังหลี่ไม่ได้ถามความคิดเห็นของเว่ยฉิง หากว่ากันตามตรงแล้วหน้าไม้อันนี้เป็นของผู้เฒ่าหยินมอบให้แก่เว่ยฉิง และสิทธิ์ทุกอย่างก็อยู่ในมือของเขา ถังหลี่มองดูสามีอย่างกระดากอายเล็กน้อย
เว่ยฉิงจูบนางแรง ๆ
“มันไม่มีประโยชน์ที่เราจะเก็บแบบร่างของอาวุธไว้ แต่สิ่งนี้มันมีประโยชน์มากสำหรับแม่ทัพเฉา ฮูหยินเจ้าตัดสินใจถูกแล้ว”
“อื้อ” ใบหน้าของถังหลี่ถูไถไปกับแผ่นอกของเขา
เว่ยฉิงมองไปที่ภรรยาตัวน้อยที่ออดอ้อนราวกับกำลังกลั่นแกล้งเขา หลังจากแลกจูบหวานให้แก่กัน ทั้งคู่ก็ออกจากห้องไป
ทันทีที่เอ้อร์เป่าและซานเป่าลืมตาขึ้น พวกเขาเห็นบิดาและมารดาของตน ทำให้เด็กน้อยประหลาดใจมาก พวกเขาตามทั้งสองคนไม่ห่าง
ป้าจ้าวได้เตรียมอาหารเช้าไว้ เป็นโจ๊ก และซาลาเปานึ่งมากมาย
ทุกคนลงมือทานอาหารพร้อมกัน
เมื่อไป๋มู่หยางเห็นว่าไม่มีเรื่องราวอะไรแล้ว เขาจึงขอตัวกลับจวนสกุลไป๋ ส่วนถังหลี่คิดว่ามีเรื่องอีกมากที่ต้องทำ นางจึงให้ลูกทั้งสองคนอยู่บ้านกับป้าจ้าว คณะที่เดินทางไปหมู่บ้านลี่เจียจึงมีแค่ นาง เว่ยฉิง แม่ทัพเฉาและทหารรับใช้ของแม่ทัพเท่านั้น
หมู่บ้านลี่เจีย
ที่บ้านของหลันฮวา
ในช่วงเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมานั้นหลันฮวามักจะเหม่อลอย นางมักจะได้ยินเสียงแว่วของจูเฉิงเรียกขานนาง เมื่อนางวิ่งออกไปอย่างดีใจก็พบแต่ความว่างเปล่า บางครั้งนางก็เห็นสามีแต่เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่ามันเป็นเพียงความฝันเท่านั้น
ภายในเวลาไม่กี่วันหลันฮวาน้ำหนักลดลงมาก ใบหน้าเล็ก ๆ ของนางซูบเซียวตอนนี้เด็กสาวได้แต่เพียงสวดภาวนาขอให้จูเฉิงกลับมาอย่างปลอดภัย ตราบใดที่สามารถทำให้ชายหนุ่มกลับมาได้นางยอมทำทุกอย่าง
ป้าเกาไม่สบายใจมากนางทั้งกังวลเรื่องจูเฉิงและหลันฮวา หลังจากเกิดเรื่องขึ้นแค่เพียงสองสามวันผมของนางค่อย ๆเปลี่ยนเป็นสีดอกเลามากยิ่งขึ้น ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เรื่องโจรภูเขา ชาวบ้านหมู่บ้านลี่เจี่ยก็มีความสามัคคีกัน ทุกคนล้วนเป็นห่วงจูเฉิง ชาวบ้านต่างผลัดกันมาปลอบโยนสองย่าหลาน
“ป้าเกา หลันฮวาเอ๋อร์! ออกมาเร็ว ๆ จูเฉิงกลับมาแล้ว!”
ป้าเกาที่กำลังกินอาหารเช้าอยู่กับหลานสาว ทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกด้านนอก หลันฮวาที่มีปฏิกิริยาตอบสนองเร็วกว่าป้าเการีบวิ่งออกไปทันที
“หลันฮวา วิ่งช้าลงหน่อย!” ป้าเกาวิ่งตามหลัง
เมื่อทั้งคู่วิ่งออกมาจากบ้านหลันฮวาเห็นจูเฉิงในฝูงคนอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเด็กสาวเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เมื่อชายหนุ่มเห็นภรรยาเขารีบวิ่งเข้ามากอดนางทันที
หลันฮวารู้สึกมีความสุขมากในตอนแรก ก่อนรอยยิ้มจะค่อย ๆ เลือนหายไปจากใบหน้าของนาง เด็กสาวหยิกที่พวงแก้มของตัวเองทันที
นางไม่ได้ฝันไปหรือ?
“หลันฮวา ไม่ใช่ความฝัน ข้าเองจูเฉิน เจ้าจับหน้าข้าสิ มันอุ่นเห็นไหม” จูเฉิงคว้ามือของเด็กสาวมาสัมผัสที่ใบหน้าของตัวเอง
หลันฮวาสัมผัสใบหน้าที่อบอุ่นของสามี
ร้อน…
นี่คือจูเฉิงจริงๆ!
หลันฮวากอดเขาไว้ร้องไห้เสียงดัง
ถังหลี่มองดูคู่รักหนุ่มสาวที่กอดกันร้องไห้ด้วยความยินดี หญิงสาวรู้สึกว่าหัวใจของนางมีความสุขมาก การที่ถังหลี่วิ่งเต้นไปรอบ ๆ นั้นมันไม่ไร้ประโยชน์ หญิงสาวยืนพิงหน้าอกของเว่ยฉิง และกดยิ้มที่มุมปาก
ชาวบ้านทุกคนต่างประหลาดใจ
“จูเฉิงถูกเกณฑ์เข้ากองทัพไม่ใช่หรือ? รู้ว่าฮูหยินเว่ยไปตามเขากลับมา แต่ไม่คิดเลยว่านางจะพาจูเฉิงกลับมาได้จริง ๆ”
“ดีแล้วที่กลับมาได้ บ้านนี้มีแรงงานเพียงหนึ่งคนเท่านั้นคือหลันฮวา ตอนนี้นางตั้งครรภ์อยู่ หากขาดจูเฉิงไปเดือดร้อนแน่”
“ทางการทำเช่นนี้ได้อย่างไร มันคือการตัดสินชีวิตคน ๆ หนึ่งเลยไม่ใช่หรือ?”
“ชายผู้นี้เป็นใครกัน?”
เมื่อได้ฟังบทสนทนาที่ชาวบ้านกระซิบกระซาบกัน ลุงหลี่เกรงว่าแม่ทัพเฉาจะรู้สึกขุ่นเคืองใจ เขาจึงรีบเข้าไปหาอีกฝ่าย
“ท่านแม่ทัพ เข้ามานั่งในบ้านข้าก่อนสิ”
แม่ทัพเฉาพยักหน้ารับก่อนจะเดินตามลุงหลี่เข้าไปในบ้าน
เฉาเช่ามองไปยังบ้านที่สร้างขึ้นมาจากดินเหนียวและไม้ นี่คือบ้านพี่ฟานหรือ?
เดิมทีมันคือคำสัญญาระหว่างคนทั้งสองว่าจะมาที่บ้านหลังนี้ด้วยกัน แต่ตอนนี้เหลือเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้น ชายหนุ่มยืนอยู่ที่ประตูบ้าน เขากวาดสายตามองไปรอบบริเวณ จินตนาการถึงร่องรอยการมีชีวิตอยู่ของหลี่ฟาน พี่ฟานที่กำลังผ่าฟืน ตรงกองฟืนตรงนั้น และไปตักน้ำมาเพื่อเก็บในถังตรงนั้น…
แววตาของเฉาเช่าแฝงไปด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่สายตาของเขาจะกวาดไปหยุดที่หลันฮวาเอ๋อร์ที่ถูกสามีประคองกอดอยู่ เด็กสาวเป็นคนขี้อาย เมื่อนางรับรู้ถึงสายตาที่มองมาทำให้หลันฮวาค่อย ๆ ผละออกจากอ้อมกอดจูเฉิง
สตรีผู้นี้คือบุตรสาวของพี่ฟาง..
เป็นดั่งที่เขาบอก นางงดงามจริงๆ
“หลันฮวา” เขาพยายามปรับน้ำเสียงให้ดูอ่อนลงกว่าปกติ
หลันฮวาเงยหน้าขึ้นมามองชายหนุ่มด้วยความหวาดกลัว
“หลันฮวา ข้าเป็นสหายของบิดาเจ้า” เฉาเช่าพูดขึ้น
“เอ่อ..” หลันฮวาไม่หลบตาเขา นางสบตากับแม่ทัพเฉา ภายในหัวใจของนาง ยังคงโหยหาความรักจากบิดา
“ข้าเป็นสหายร่วมรบกับบิดาเจ้า ข้าได้ยินเรื่องของเจ้าจากเขาบ่อยครั้งเลย” เฉาเช่ากล่าว
“อ๊ะ!” หลันฮวาดูแปลกใจเล็กน้อย
“เอ๋?” นางส่งเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย
เฉาเช่าไม่เข้าใจนางแต่จูเฉิงนั้นรู้ดีกว่าภรรยาหมายความว่าอะไร เขาตอบนางไป
“ท่านพ่อจากไปแล้ว..”
หลันฮวาเอ๋อร์ก้มศีรษะลง ซ่อนใบหน้าไว้ นางรู้สึกเศร้าใจ
“แม่ทัพเฉาเข้ามานั่งก่อนเถอะ” ลุงหลี่พูด
“แม่เฒ่าเจ้าไปจัดที่นั่งหน่อยเถอะ”
ป้าเการีบไปจัดเก้าอี้ทันที
แม่ทัพเฉานำสิ่งของมากมายออกมา อนุญาตให้ทหารรับใช้ของตนแยกย้ายออกไป ก่อนที่เขาจะนั่งลงกับพื้นห้องนั่งเล่น
ถังหลี่และเว่ยฉิงก็นั่งลงเช่นกัน เฉาเช่าเริ่มเปิดปากเล่าเรื่องราวมากมายที่เกี่ยวกับหลี่ฟาน ตอนนี้ดวงตาของนางก็แดงก่ำ
“เขาพูดถึงคนที่บ้านด้วยหรือ? แต่ถ้าเขาคิดถึงคนข้างหลังจริง คงไม่ตัดสินใจเข้ากองทัพ”
“ท่านย่า ท่านพ่อคงอยากให้ท่าน ท่านปู่และหลันฮวาเอ๋อร์มีชีวิตที่ดีขึ้น” จูเฉิงกล่าว
“ตอนที่เขาอยู่บ้านก็มีชีวิตดีอยู่แล้ว พออาฟานจากไปเจ้าดูสิ่งที่เกิดขึ้นสิ!” ป้าเกาสะอื้นเบาๆ
“ลุงหลี่ ป้าเกา..พี่ฟานกับข้าเป็นเหมือนพี่น้องกัน ครอบครัวของเขาก็คือครอบครัวของข้า พ่อแม่เขาก็คือพ่อแม่ข้า ข้าจะดูแลและให้เกียรติพวกท่าน พวกท่านสามารถเห็นข้าเป็นบุตรชายคนหนึ่งได้เลย” เฉาเช่าพูดอย่างจริงจัง
“แม่ทัพเฉา จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ข้าไม่กล้าขอรับ!” ลุงหลี่รีบปฏิเสธ
ตัวเขาเองเป็นเพียงชาวนาที่ซื่อสัตย์มาทั้งชีวิต แต่ตอนนี้กลับมีแม่ทัพใหญ่เข้ามาให้เกียรติเขาถึงเช่นนี้ เขาจะปรับตัวให้คุ้นชินได้อย่างไร?
“แม่ทัพเฉา พวกข้าไม่มีเกียรติอะไรให้ท่านเคารพหรอก พวกเราเป็นเพียงชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้เท่านั้น ทั้งหมดต้องขอบคุณเสี่ยวถัง หากไม่ใช่เพราะนาง ครอบครัวเราคงไม่สามารถอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ เสี่ยวถังเปิดโรงงานถุงหอม ข้ากับหลันฮวาทำงานอยู่ในนั้น ได้มีงานและมีเงินได้ ถังหลี่ใช้ชีวิตโลดโผนในโลกกว้างใบนี้ พวกเราเป็นเพียงคนธรรมดา ไม่สามารถช่วยเหลือนางได้ …เช่นนั้น ได้โปรด.. ท่านสามารถช่วยดูแลนางได้ไหม หากนางมีปัญหาท่านขอให้ท่านช่วยยื่นมือช่วยเหลือนางทีเถอะ!”