เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 172 พบเจอแม่ทัพเฉา
บทที่ 172 พบเจอแม่ทัพเฉา
วันถัดมา
เมื่อถังหลี่ออกจากห้อง นางเห็นเถ้าแก่เนี้ยฮวานั่งซึมอยู่ที่โต๊ะด้านล่าง ฮวาเหนียงจื่อเสียใจนานกว่าที่นางคิด
“พี่ฮวาไม่เป็นไรนะ อีกไม่นานพี่จะเจอชายคนใหม่ที่ดีกว่าเขา” ถังหลี่พูดเกลี้ยกล่อม
“เงินสิบตำลึงเลยนะถังถังที่ข้าเสียไปให้เขา! เขาจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเสียเงินให้กับบุรุษ ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีชายใดได้เงินจากข้าเลย” เถ้าแก่เนี้ยฮวาเอามือทาบอกพูดออกมาอย่างขมขื่น
ถังหลี่ “…”
นี่คือความทุกข์ของนางสินะ
ถังหลี่สลัดความคิดที่จะปลอบโยนนางออกไป แต่เมื่อพวกเขากำลังจะออกจากโรงเตี๊ยม ทันใดนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ทางการพร้อมกับทหารกลุ่มหนึ่งเดินผ่านหน้าประตูร้านเข้ามา
“พี่เจ้าหน้าที่ พี่ทหารเกิดอะไรขึ้นหรือ?” เถ้าแก่เนี้ยฮวาทำใจแข็งถาม
พวกทหารไม่สนคำพูดนาง ก่อนจะมีคำสั่งอย่างเย็นชาว่า “ค้นให้ทั่ว!”
เมื่อหัวหน้าออกคำสั่ง เหล่าเจ้าหน้าที่และทหารหลายสิบคนรีบรุดเข้าไปค้นหาทั่วโรงเตี๊ยม ก่อนจะออกไปเมื่อไม่ได้พบอะไร ถังหลี่ที่อยู่ในอ้อมแขนของเว่ยฉิงก็เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถังหลี่เคยพบเห็นเจ้าหน้าที่กับทหารที่มาตรวจค้นหาอะไรบางอย่าง แต่ว่าในคราวก่อนที่เจอพวกเขาไม่ได้ดูเก่งกาจเท่านี้ เห็นได้ชัดว่าเหล่าเจ้าหน้าที่ชุดนี้ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี
เถ้าแก่เนี้ยฮวาชะโงกออกไปดูเหล่าเจ้าหน้าที่ด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน
“เกิดอะไรขึ้นหรือ? เขากำลังค้นหาอะไร?”
ถังหลี่อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเด็กหนุ่มผู้นั้น
มันไม่น่าจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญใช่หรือไม่?
ที่นี่คือชายแดนย่อมมีเรื่องวุ่นวายเป็นธรรมดา
พวกเขาอาจจะค้นหาคนหรืออย่างอื่นอยู่ก็ได้ เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย การเข้าพบแม่ทัพเฉานับเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า
ถังหลี่และเว่ยฉิงจึงได้ขึ้นรถม้าเดินทางไปยังค่ายทหาร
หญิงสาวมองค่ายทหารตรงหน้า นี่คือการมาครั้งที่สองของนาง ทำให้หญิงสาวไม่ใช่คนแปลกหน้าของที่นี่
เว่ยฉิงเองก็มองค่ายทหารที่มีป้อมปราการด้วยสีหน้าไร้ความหวาดกลัว มีแต่ความอยากรู้อยากเห็นเท่านั้น ถังหลี่ยื่นป้ายของแม่ทัพเฉาให้กับทหารยามที่เฝ้าประตู ทำให้ไม่มีใครกล้าเพิกเฉยกับนาง ทหารวิ่งเข้าไปในค่ายอย่างรวดเร็ว
ทั้งสองรออยู่หน้าค่ายครู่หนึ่ง มีทหารเดินออกมายศดูจะสูงกว่าทหารที่เฝ้ายามอยู่ข้างหน้า
“พวกท่านโปรดมากับข้า”
ถังหลี่กับเว่ยฉิงจึงได้เดินตามเข้าเข้าไปในค่ายทหาร
“โปรดนั่งรอสักครู่ แม่ทัพเฉาไม่ได้อยู่ที่ค่ายในตอนนี้ขอรับ แม่ทัพน้อยเฉากำลังจะมาในไม่ช้า” ทหารกล่าว
แม่ทัพน้อยเฉา?
แม่ทัพน้อยเฉาคือใคร?
ถังหลี่และเว่ยฉิงรออยู่ไม่นาน ชายหนุ่มคนหนึ่งก็เดินเข้ามา เขาเป็นบุรุษร่างสูงดูธรรมดา ทว่ายิ้มแย้มและดูเป็นมิตร ไม่เหมือนแม่ทัพที่อำมหิตในสนามรบเลย
“สวัสดีท่านทั้งสอง ข้าชื่อเฉาฮัว หรือ รองแม่ทัพเฉา ท่านแม่ทัพไม่ได้อยู่ที่ค่าย หากพวกท่านมีเรื่องด่วน ข้าจะช่วยอย่างเต็มที่” เฉาฮัวกล่าว
“ไม่มีอะไรเร่งด่วนหรอก ข้าแค่มาเยี่ยมเยียนแม่ทัพเฉาเท่านั้น เขาจะกลับมาเมื่อใดหรือ?” ถังหลี่กล่าว
“ในช่วงบ่าย” เฉาฮัวตอบ
ตอนนี้ถังหลี่อยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ในความฝันมากกว่านี้ หากชัดเจนขึ้นอีกสักหน่อย นางคงจะไม่เหมือนคนตาบอดแบบนี้ ถังหลี่รู้ว่าตัวเองคือผีเสื้อที่รอกระพือปีกพวกนั้น โดยที่ยังไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรต่อไป
สามีและภรรยาจึงตัดสินใจที่จะรอท่านแม่ทัพเฉาต่อ
ในตอนบ่าย เฉาเช่ากลับมาที่ค่าย รีบมาหาคนทั้งคู่ทันที ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยฝุ่นทั้งตัว
“แม่นางน้อยมีอะไรให้ข้าช่วยหรือ?” เฉาเช่าถาม
“พวกข้าแค่มาเยี่ยมท่านไม่ได้หรือ?” ถังหลี่พูดเสียงดัง
แม่ทัพหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น
“ข้าสำคัญมากสำหรับเจ้าสินะ จึงได้เดินทางมาหาข้าถที่นี่”
“อย่าพูดแบบนั้นสิ สามีข้าก็อยู่ที่นี่นะลุงเฉา”
เฉาเช่าหัวเราะเสียงดังเมื่อได้ยินถังหลี่เรียกสรรพนามของตนเอง แม่นางคนนี้ฝีปากร้ายกาจเสียจริง
ส่วนเฉาฮัวนั้น กำลังมองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง
เฉาฮัวเป็นบุตรบุญธรรมของแม่ทัพเฉา อยู่กับเขามาเกือบสิบปีแล้ว แม่ทัพเฉาเป็นคนเข้มงวด ทั้งคาดหวังในตัวเขาไว้สูง ชายหนุ่มไม่เคยเห็นบิดาบุญธรรมของตนเป็นเช่นนี้มาก่อน เขาสนุกสนานที่จะได้เย้าแหย่เด็กสาวผู้นี้
เฉาฮัวอดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง
“ลุงเฉา ข้ามีบางอย่างอยากให้ท่าน” ถังหลี่พูด
เฉาเช่ายื่นมือที่หยาบกร้านของเขามาตรงหน้าถังหลี่ นางชำเลืองมองไปทางสามี ก่อนที่เว่ยฉิงจะหยิบไข่สองฟองออกมาจากในสาบเสื้อ และวางพวกมันลงบนมือของแม่ทัพเฉา เขามองไปที่ไข่ทั้งสองฟองราวกับว่ากำลังจ้องมองดอกไม้ที่ในฝ่ามือ
มาถึงนี่เพื่อให้ไข่เขาสองฟองหรือ?
“ลุงเฉาอย่ารังเกียจเลย การขนส่งไข่ห่านมาพื้นที่ห่างไกลเช่นนี้ถือว่าเป็นมารยาทและความห่วงใยนะ” ถังหลี่กล่าว
จริงสิ!… ต่อให้นางมีข้อผิดพลาดมากมาย แต่สิ่งที่พูดกลับเชื่อถือได้
“ลุงเฉา ข้าได้ยินมาว่าทหารซยงหนูนั้นอำมหิตมาก ท่านต้องระวังตัวให้ดีนะ”
“ไม่ต้องห่วงหากทหารของข้าได้รับการฝึกหน้าไม้พวกนั้นแล้ว ถึงตอนนั้นก็เอาชนะไอ้พวกสารเลวพวกนั้นได้” เฉาเช่าพูดด้วยท่าทีที่มั่นใจ
ตอนนี้เขายุ่งวุ่นวายอยู่กับการฝึกฝนใช้หน้าไม้ให้กับบรรดาทหารเหล่านั้น
“ถ้าพวกเขาเลือกโจมตีในช่วงนี้เล่า?”
“ข้าไม่กลัวหรอก! ไอ้พวกสารเลวพวกนั้นมันปอดแหก” เฉาเช่าเสียงกล่าวว่าเย้ยหยัน
ถังหลี่และเว่ยฉิงอยู่ในค่ายทหารพักหนึ่งก่อนจะกลับออกไป ในสายตาคนนอกพวกเขาเป็นเพียงหนุ่มสาวชาวบ้านธรรมดาเท่านั้น ทั้งสองจึงไม่สามารถถามถึงสถานการณ์ของกองทัพโดยตรงได้ทันทีที่มาถึง ไม่ถึงพูดถึงความสามารถในการสื่อสารของแม่ทัพเฉา หากทำเป็นไม่รู้เรื่องและค่อย ๆ ถามไถ่ไปจะเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า
“เว่ยฉิง เจ้าคิดว่าอย่างไร?” ถังหลี่ถาม
“แม่ทัพเฉามั่นใจในกลยุทธ์ของตนเองมาก” เว่ยฉิงกล่าว
ถังหลี่ก็รู้สึกแบบเดียวกับชายหนุ่ม
ในเมื่อแม่ทัพเฉามีความมั่นใจขนาดนี้ เหตุใดถึงพลาดท่าในภายหลัง?
ถึงหลี่รู้สึกมีบางอย่างผิดปกติ
ทั้งสองเดินทางกลับไปถึงโรงเตี๊ยม ท่าที่ของเถ้าแก่เนี้ยฮวาเปลี่ยนไปจากตอนเช้ามาก ตอนแรกนางเศร้าหมอง แต่ตอนนี้หญิงสาวมีรอยยิ้มประดับบนไปหน้า นางเดินอย่างกระฉับกระเฉง หลังจากที่นางทักทายถังหลี่เสร็จก็เดินเข้าไปในห้องทันที
“ปรับอารมณ์ได้เร็วจริงนะ” ถังหลี่พูดขึ้นมาหลังจากฮวาเหนียงจื่อปิดประตูห้องลง
“หน้าแดงเช่นนั้นคงมีเรื่องน่ายินดี” เว่ยฉิงครุ่นคิด
มีความสุขหรือ?
แล้วเหตุใดต้องปิดบัง?
ถังหลี่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่นางไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้หญิงสาวมีความจดจ่ออยู่กับความปลอดภัยของเมืองฉินโจว ยิ่งเวลาผ่านไปถังหลี่ก็รู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเรื่อย ๆ อาจจะมีบางอย่างเกิดขึ้นถ้าหากได้ฝันอีกครั้ง…
“ฮูหยิน อย่ากดดันตัวเองเลย ทุกคนล้วนมีชะตากรรมของตนเองทั้งนั้น เราทำได้แค่เดินตามมันให้ดีที่สุด” เว่ยฉิงมองหญิงสาวที่หน้าบึ้ง เขาใช้ปลายนิ้วลูบคิ้วที่เป็นปมของนางให้ค่อย ๆ คลายออก
ชายหนุ่มไม่อยากให้ภรรยาต้องรู้สึกทุกข์แบบนี้เลย
ถ้าเพียงเขามีกองทัพนับแสนอยู่ในกำมือ ออกคำสั่งเพียงคำเดียวทำให้กองทัพกลายเป็นกำแพงเหล็กคุ้มครองเมืองฉินโจวได้คงจะดีไม่น้อยทีเดียว
หากเว่ยฉิงมีตำแหน่งมีอำนาจ เขาคงจะชี้เป็นชี้ตายใครต่อใคร ให้ทำตามความปรารถนาของภรรยาได้อย่างเต็มที่
ถังหลี่ไม่รู้ว่าสามีของนางกำลังคิดอะไรอยู่ หญิงสาวเอนศีรษะเพื่ออิงแอบแผ่นอกของเขาพยักหน้ารับเบา ๆ
ความจริงถังหลี่ไม่ใช่เทพเซียนที่จะสามารถช่วยเหลือทุกคนได้
อย่างไรก็ตาม นางรู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย
เฉาเช่า เถ้าแก่เนี้ยฮวา เสี่ยวเอ้อร์โรงเตี๊ยม คนเหล่านี้คือบุคคลที่นางคุ้นเคยดี ดังนั้นถังหลี่จึงไม่ต้องการให้เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นกับพวกเขา
“ถ้าความฝันของข้ามันชัดเจนมากกว่านี้ได้คงดีไม่น้อย” ถังหลี่กล่าว
ตอนนี้แม่ทัพเฉามีความมั่นใจมาก ซึ่งหมายความว่าพวกซยงหนูจะต้องมีเล่ห์เหลี่ยมบางอย่างแน่นอน เท่าที่ถังหลี่ทราบมาสาเหตุที่กองทัพของต้าโจวที่ทรงพลังต้องพ่ายแพ้คือ กำลังคนของศัตรูที่เพิ่มขึ้นอย่างกระทันหัน หรือเป็นเพราะเสบียงถูกทำลาย แต่ถ้าถังหลี่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นล่ะก็ นางก็สามารถปกป้องไว้ได้อย่างถูกจุด
หญิงสาวต้องการความฝันที่ชัดเจนกว่านี้
และในคืนนั้นถังหลี่ก็ฝันถึงเรื่องนี้โดยไม่รู้ตัว