เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 287 เถ้าแก่เนี้ยฮวาตั้งท้อง
- Home
- เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ
- บทที่ 287 เถ้าแก่เนี้ยฮวาตั้งท้อง
บทที่ 287 เถ้าแก่เนี้ยฮวาตั้งท้อง
ทั้งเว่ยจืออั๋ง สวี่เจวี๋ยและเว่ยจื่ออี้ไปเรียนหนังสือกันหมด ที่บ้านจึงเหลือเด็กแค่เพียงสองคนคือซานเป่าและตู้เสี่ยวไป๋ ถังหลี่รีบทำงานของตนให้เสร็จ จากนั้นจึงพาเด็กไปหาเถ้าแก่เนี้ยฮวาที่บ้าน
หลังจากจั๋วชู่สอบเข้าสำนักศึกษาของมณฑลได้ เถ้าแก่เนี้ยฮวาจึงย้ายครอบครัวของนางมาที่มณฑลชิงเหอ บ้านของนางอยู่ไม่ห่างไกลจากบ้านของถังหลี่มากนัก
ถังหลี่เคาะประตู ประตูถูกเปิดออก เถ้าแก่เนี้ยฮวาซื้อบ้านใหญ่โตที่มีทางเข้าออกสองทาง นางซื้อคนรับใช้สองคนอีกด้วย ถังหลี่เดินเข้าไปในตัวบ้าน เห็นผู้เฒ่าสองคนนอนอาบแดดอยู่ในลานบ้าน เป็นบิดาและมารดาของจั๋วชูนั่นเอง
เมื่อสองปีที่แล้วเถ้าแก่เนี้ยฮวาพาบิดาและมารดาของจั๋วชูมาที่เมืองนี้ด้วย เดิมทีบิดาของจั๋วชูไม่เห็นด้วย เขาไม่อยากเป็นภาระให้ผู้อื่น แต่เมื่อโดนจั๋วชูเกลี้ยกล่อมอ้อนวอน เขาจึงได้ยอมย้ายมาอยู่ที่นี่กับลูกชาย หลังจากผ่านไปสองปี บิดาของจั๋วชูและเถ้าแก่เนี้ยฮวาจึงค่อย ๆ ปรับตัวเข้าหากันได้ กลายเป็นครอบครัวเดียวกันราวกับบิดาและลูกสาวแท้ ๆ
บิดาของจั๋วชูอดที่จะถอนหายใจยามคิดถึงเรื่องนี้ไม่ได้ว่า เขาคิดถูกแล้วที่ได้รับอุปการะจั๋วชู ตอนนี้เขามีพร้อมทั้งลูกชายและลูกสาว ลูกชายดูมีอนาคตที่ดี นาน ๆ ครั้ง ยามที่เขากลับไปที่หมู่บ้าน เพื่อนบ้านที่เคยพูดจาไม่ดีก็เอาแต่หดหัวอยู่ในบ้านไม่กล้าออกมาพูดจาเหน็บแนมอีก
บิดาจั๋วชูสำราญใจจริง ๆ ทุกคนในหมู่บ้านเอาแต่ดูถูกเขาว่าเป็นคนพิการและมีภรรยาเป็นคนวิกลจริต ไม่มีใครไปมาหาสู่กับเขานอกจากญาติ ๆ เพียงแค่สองสามคนเท่านั้น
ตอนนี้ชีวิตเขาดีขึ้นมากแล้ว เขาเข้ามาอยู่ในเมือง ลูกชายมีความกตัญญู เขามีชีวิตดีกว่าใคร น่าภูมิใจเหลือเกิน
สองปีที่ผ่านมา เถ้าแก่เนี้ยฮวาได้หาหมอหลายคนมาช่วยดูอาการของมารดาจั๋วชู อาการของนางจึงค่อย ๆ ดีขึ้น บิดาของจั๋วชูไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเขาจะมีวันที่ได้นั่ง ๆ นอน ๆ อาบแดดอย่างวันนี้ เมื่อพวกเขาได้กินดีอยู่สบาย สามีภรรยาทั้งคู่จึงได้ดูอ่อนเยาว์ลงเป็นสิบปี
เมื่อบิดาจั๋วชูเห็นถังหลี่ เขาจึงร้องทักทายนางอย่างสนิทสนม
“เสี่ยวถังมาแล้วหรือ?”
“ท่านลุงจั๋ว ท่านป้าจั๋ว” นางกล่าวทักทาย ป้าจั๋วยิ้มให้ถังหลี่
“เจ้ามาหาเซี่ยเอ๋อหรือ? นางอยู่ในเรือนแน่ะ” ถังหลี่พยักหน้ารับก่อนจะพาเด็กทั้งสองเข้าไปข้างใน
ที่ลานด้านใน หญิงสาวที่มีเสน่ห์ผู้หนึ่งกำลังนั่งแทะแตงโมอยู่อย่างเกียจคร้าน นั่นคือเถ้าแก่เนี้ยฮวานั่นเอง
เถ้าแก่เนี้ยฮวาดูเปลี่ยนไป ใบหน้าของนางมีเลือดฝาดสุขภาพดูสมบูรณ์ ที่เปลี่ยนไปมากที่สุดเป็นหน้าท้องของนางที่นูนออกมา
เถ้าแก่เนี้ยฮวากำลังตั้งครรภ์อยู่นั่นเอง นางตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้ว ถังหลี่รู้สึกว่านางอ่อนโยนมากกว่าปกติ มีอารมณ์ของมารดาเพิ่มมากขึ้น
เถ้าแก่เนี้ยฮวามีความสุขยามที่ได้เจอถังหลี่
“ถังถังมาเร็ว”
ถังหลี่พาเด็กสองคนไปนั่งตรงข้าม
“ข้ากำลังเบื่อ เจ้ามาก็ดีแล้ว”
นางเอ่ยขึ้นมา เถ้าแก่เนี้ยฮวาแพ้ท้องจนทำให้นางออกไปดูแลโรงเตี๊ยมไม่ได้ นางจึงได้แต่นั่งเบื่ออยู่กับบ้าน นางมองซานเป่าแล้วกวักมือเรียก ซานเป่าเดินไปหานางอย่างว่าง่าย เถ้าแก่เนี้ยฮวาหยอกล้อซานเป่าอย่างเอ็นดู
“ถ้าเป็นไปได้ ข้าอยากให้เจ้าตัวเล็กในท้องน่ารักและช่างเอาใจเหมือนกับซานเป่าแบบนี้”
เถ้าแก่เนี้ยชอบซานเป่า นางอยากมีลูกสาวน่ารักที่คอยออดอ้อนนางแบบนี้บ้าง
“ช่วงนี้เฉาจียุ่งมาก เขาแทบจะไม่มีเวลาให้ข้าเลย คืนนี้ไม่รู้ว่าจะกลับมาได้เร็วไหม?” เถ้าแก่เนี้ยฮวาพึมพำ
“พี่สาว หากคิดถึงเขามากเหตุใดไม่ให้เฉาจีอยู่บ้านทุกวันเล่า?”
ตอนนี้เฉาจีทำงานเป็นผู้บัญชาการทหารรักษาการณ์มีหน้าที่รับผิดชอบทหารรักษาการณ์ทั้งหมดของมณฑลเหอตงนี้ เฉาจีเป็นทาสภรรยา หากเถ้าเนี้ยฮวาเอ่ยแค่คำเดียว เขาพร้อมจะวางมือกลับมาอยู่บ้านเป็นเพื่อนนาง
“ช่างเถอะ ๆ มีเจ้าหมาตัวใหญ่มาคอยดักหน้าดักหลังทุกวัน น่ารำคาญจะตาย”
เถ้าแก่เนี้ยฮวาพูดอย่างเหนื่อยหน่าย แม้ปากนางจะพูดไปเช่นนั้น แต่หญิงสาวรู้ดีว่านางอยากให้เฉาจีมีอาชีพการงานเป็นของตนเองเช่นกัน
เฉาจีรักนางเห็นคุณค่าในตัวนางย่อมเป็นเรื่องดี แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่อยากมีความก้าวหน้าในอาชีพของเขา ผู้ชายย่อมต้องการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเช่นกัน เป็นการดีที่จะสร้างสมดุลระหว่างครอบครัวและหน้าที่การงานให้สอดคล้องกัน
“ฮูหยิน ท่านหมอซูมาเจ้าค่ะ”
สาวใช้เดินเข้ามารายงาน หลังจากได้ยิน ถังหลี่และเถ้าแก่เนี้ยฮวาลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอกพร้อมกัน
ที่ลานด้านนอก หมอซูและภรรยารออยู่แล้ว หมอซูกำลังรักษาป้าจั๋วอยู่ พวกเขาเดินทางมาถึงที่นี่เมื่อเดือนที่แล้ว
หมอซูได้ใช้วิชาแพทย์เพื่อช่วยเหลือผู้คนอยู่ที่เมืองฉินโจวเป็นเวลาสามปี เมื่อได้ยินว่าถังหลี่ย้ายมาที่เมืองเมืองชิงเหอ พวกเขาจึงเปลี่ยนใจ
สามีภรรยาย้ายไปเมืองฉินโจวเพื่อหลบเลี่ยงกู้อิ๋นแต่เพราะระยะทางระหว่างเมืองชิงเหอและเหยาสุ่ยอยู่ใกล้กัน จึงไม่ปลอดภัยสำหรับหมอซูและภรรยา พวกเขาจึงได้พากันไปอยู่ที่เมืองฉินโจว แต่พอได้ยินว่าถังหลี่ย้ายมาอยู่ที่ชิงเหอ ฮูหยินซูคิดถึงถังหลี่หลังจากปรึกษากันเรียบร้อยดีแล้วจึงพากันอพยพมาอยู่ที่เมืองชิงเหอด้วยกัน
ทักษะทางการแพทย์ของหมอซูย่อมดีกว่าหมอทุกคนในเมืองชิงเหออยู่แล้ว เถ้าแก่เนี้ยฮวาจึงได้เชิญหมอซูมารักษาป้าจั๋ว ผ่านไปครึ่งเดือนอาการของนางดีขึ้นมาก นางกินยาตรงเวลาทุกวัน ตอนนี้นางไม่มีอาการป่วยมาสิบกว่าวันแล้ว เมื่อเห็นหมอซูกำลังตรวจรักษา ตู้เสี่ยวไป๋จึงได้มองล่วมยาของหมอซูอย่างสนใจ
“ถ้าเจ้าสนใจก็น่าจะเรียนรู้กับหมอซูนะ” ตู้เสี่ยวไป๋เบิกตากว้าง เขาครุ่นคิดอย่างจริงจัง น้องสาวมักบาดเจ็บบ่อย ๆ จากการฝึกซ้อม ถ้าหากเขาได้เรียนรู้ทักษะทางการแพทย์น่าจะช่วยน้องสาวของเขาได้
ฮูหยินซูเดินไปหาถังหลี่และเถ้าแก่เนี้ยฮวา นางลูบหัวซานเป่า จากนั้นก็ลูบหัวถังหลี่ ไต่ถามอาการตั้งครรภ์ของเถ้าแก่เนี้ยฮวาทั้งสามคุยกันได้สักพัก เถ้าแก่เนี้ยฮวาก็อาเจียนออกมา ถังหลี่เทน้ำให้นางหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดปากให้
เมื่อเห็นนางมีอาการดีขึ้นจึงได้พยุงนางเข้าไปในห้องนอน
ฮูหยินซูรออยู่ข้างนอก ราวกับมีเรื่องจะพูดกับนาง ฮูหยินซูเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจนานแล้ว นางลังเลที่จะถามเพราะคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของถังหลี่ แต่เมื่อไม่ถามนางจะกังวลใจ อยู่เสมอ
“ฮูหยินซู ท่านมีเรื่องอยากจะถามข้าหรือ?” ถังหลี่ยิ้ม