เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 295 เว่ยฉิงผ่านเกณฑ์
บทที่ 295 เว่ยฉิงผ่านเกณฑ์
ไม่นะ เขาไม่ได้ดึงดูดผึ้งและผีเสื้อ หากภรรยาเขาเกิดเข้าใจผิดขึ้นมาละก็ เขา …จบเลยนะ!
ซุนฮ่วยผู้นี้ช่างอันตรายจริง ๆ หากไม่กลัวว่าตัวตนของอู่อวี้จะเปิดเผยออกมาละก็เขาจะซัดคนผู้นี้ให้หมอบเลย
เว่ยฉิงชำเลืองมองเด็กสาวอย่างเย็นชา ก่อนจะพูดกับว่า
“ซุนฮ่วย เจ้าไม่เข้าใจที่ข้าพูดหรือว่าข้าไม่อยากนั่งโต๊ะเดียวร่วมกันกับเจ้า บัญชีทหารรักษาการณ์เจ้าทำเสร็จหรือยัง?
ซุนฮ่วยยืนมองอย่างทึมทื่อ
“ข้าถาม เหตุใดเจ้าไม่ตอบ” น้ำเสียงของเว่ยฉิงวางอำนาจมากขึ้น
“ข้า…ข้า…ยังทำอยู่ขอรับ”
“ผ่านมาสองวันแล้วยังทำไม่เสร็จอีกหรือ? หากพรุ่งนี้ข้าไม่เห็นบัญชีรายชื่อทหารเจ้าไสหัวกลับบ้านไปได้เลย”
“ขอรับ ขอรับ” ซุนฮ่วยลนลานรับคำก่อนจะรีบเดินหนีไปพร้อมลูกสาวคนงามของเขา
หลังจากเว่ยฉิงไล่คนไปแล้ว เขาหันมาทำหน้าตาน่าสงสารใส่ถังหลี่ประหนึ่งว่าตัวเขาไม่ได้หลอกลวงผึ้งและผีเสื้อตัวไหนเลย ดวงตาเขากลมโตเบิกกว้าง ดูแล้วน่าสงสารเหมือนกับสุนัขตัวโต ๆ
ถังหลี่เชื่อเขา แต่แอบพบว่าท่าทางหวาดกลัวของเขาดูน่าสนใจมาก หลังจากทำให้เขาหวาดกลัวจนนางพอใจแล้ว ถังหลี่ก็ยิ้มให้เขา พอเห็นแบบนั้นเว่ยฉิงก็โล่งอก
โชคดีเหลือเกินที่ภรรยาเขาไม่โกรธ
ตู้ชิงหยูกอดอกมองผู้ชายตรงหน้า เจ้าเด็กคนนี้จัดการกับเหตุการณ์เมื่อครู่ได้ดีกว่าที่นางคาดคิด อีกทั้งก็ไม่ได้เหลือบมองสตรีอื่นมากจนเกินไป
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านางจะยอมพ่ายแพ้แก่บุรุษผู้นี้หรอกนะ เสี่ยวถังหลี่ของนางสมควรได้ครองคู่กับผู้ชายที่ดีที่สุดในใต้หล้า หากมีใครมาทำให้นางเสียใจละก็ ตู้ชิงหยูจะเป็นคนแรกที่กำจัดเขาเอง
บุรุษผู้นี้ผ่านการทดสอบทางด้านรูปลักษณ์แล้วเหลือเพียงด้านอื่น ๆ ยังคงต้องทดสอบต่อไป
ตู้ชิงหยูให้ความสนใจกับเว่ยฉิงน้อยนิดจนทำให้ชายหนุ่มอดที่จะขมขื่นใจยามที่เห็นตู้ชิงหยูหอมแก้มภรรยาของเขาไม่ได้ เขาไม่น่ายอมลงให้ผู้หญิงคนนี้เลย
ทั้งสองคนพับแขนเสื้อขึ้นในระหว่างการรับประทานอาหาร ราวกับต้องการจะต่อสู้กันอีก ถังหลี่มองคนทั้งคู่ก่อนก่อนจะยิ้มอย่างจนใจ
“พวกเจ้าตั้งใจกินอาหารให้ดี ๆ”
พอถังหลี่พูดจบคนทั้งคู่ก็พากันนั่งลงอย่างว่าง่าย หลังอาหารเย็นเว่ยฉิงจึงได้อาสาจะไปส่งถังหลี่กลับบ้าน
“ข้าจะพาเสี่ยวถังหลี่กลับบ้านเอง เจ้าไม่ต้องกังวลหรอก” ตู้ชิงหยูเอ่ยปากไล่เขา
“ชิงหยูให้เขาไปส่งข้าเถอะ”
ถังหลี่ตบไหล่ตู้ชิงหยู ที่จริงแล้วนางและสามีสมควรที่จะแสร้งไม่รู้จักกันเพื่อความปลอดภัยของเว่ยฉิง แต่นางรู้ว่าเขาคิดถึงลูกและเด็ก ๆ ก็คิดถึงเขาเช่นกัน นางจึงได้เปิดโอกาสให้ให้เขาได้ทำความรู้จักกับนางได้สถานะใหม่อย่างเปิดเผยเพื่อที่พวกเขาจะได้อยู่ร่วมกันได้ในภายหน้า
หลังจากที่ถังหลี่มาที่มณฑลชิงเหอ นางได้ใช้เครือข่ายข่าวที่มีอยู่ในมือแพร่กระจายตัวตนของตนเองโดยเจตนาว่านางเป็นแม่หม้ายที่มีลูกติดสี่คน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่รองเจ้าคณะมณฑลผู้มาใหม่และแม่ม่ายอายุน้อยจะได้รู้จักกัน
แต่ถ้าหากอดีตของนางกับเว่ยฉิงได้ถูกขุดคุ้ยขึ้นมา นางก็ย่อมหาวิธีที่จะจัดการได้
เว่ยชิงยิ้มอย่างผู้ชนะให้ตู้ชิงหยู นางกัดฟันกรอดแต่ช่วยไม่ได้เพราะนั่นเป็นความต้องการของถังหลี่
เว่ยฉิงไปส่งถังหลี่ที่หน้าประตูบ้านสกุลเว่ย
เขามองป้ายตระกูลเว่ยที่ติดเอาไว้ แม้ว่าจะไม่ได้อยู่กับครอบครัวหลายปี แต่ภรรยายังไม่ลืมเขายังคงมีชื่อเขาอยู่ในครอบครัวนี้เสมอ นับว่าเป็นพรในชีวิตนี้ที่เขาได้ทำมาจึงทำให้เขาให้มาพบเจอกับภรรยาที่ดีประเสริฐเช่นนี้
“ท่านอยากจะเข้าไปนั่งเล่นข้างในสักครู่ไหม?” หลังจากที่ถังหลี่พูดจบ ตู้ชิงหยูรู้สึกเหมือนโดนหักหลัง
“เสี่ยวถังหลี่ระวังตัวไว้บ้าง อย่าได้ไว้ใจมากเกินไปนัก”
ตู้ชิงหยูเตือนเสียงต่ำ แต่เมื่อเห็นท่าทีของถังหลี่ตอนนี้ตู้ชิงหยูถึงกับจำนนเอ่ยวาจาไม่ออก
อย่างไรก็ดี เสี่ยวถังหลี่ของนางเป็นคนดีมาก หลังจากชายผู้นี้ไล่ตามนางอย่างสุดหัวใจ เขาอาจจะเป็นคนที่คู่ควรกับนางก็เป็นได้
ถังหลี่ยิ้มเอ่ยว่า “ข้าชอบเขา” ว่าแล้วก็ทำสีหน้าลำบากใจ
“ข้าจะทำอย่างไรดี?” นางหันไปมองเว่ยฉิงตาเป็นประกาย ลูกกระเดือกของเว่ยฉิงกลิ้งไปมายามที่ภรรยามองเขาแบบนี้ เขาแทบจะละทิ้งความเย็นชาที่เป็นเปลือกห่อหุ้มเอาไว้แล้วส่งยิ้มให้นางอย่างเปิดเผยตามนิสัยดั้งเดิมของเขา แต่ครั้งนี้เขาทำได้แต่เพียงโค้งริมฝีปากขึ้นชั่ววูบก่อนที่จะทำท่าเย็นชาเคร่งขรึมดุจเดิม
เมื่อเห็นท่าทางแสดงออกถึงความรักใคร่ของหญิงชายคู่นี้แล้ว ตู้ชิงหยูเอามือจับหน้าอกรู้สึกถึงระเบิดที่ทะลุทะลวงในหัวใจถึงหมื่นจุด
ช่างเป็นจิ้งจอกตัวผู้ที่ทำให้เสี่ยวหลี่หลงใหลจริง ๆ
แต่ถ้าเสี่ยวหลี่ชอบคนผู้นี้จริง ๆ ก็ไม่มีหนทางอื่นแล้ว เพียงแต่นางต้องคอยระวังไม่ให้คนผู้นี้กล้ามารังแกถังหลี่ หากเขากล้า นางจะไม่มีวันปล่อยเขาไปอย่างเด็ดขาด
ตู้ชิงหยูเหล่มองเว่ยฉิงอย่างมาดหมาย
ถังหลี่เปิดประตูบ้าน ทั้งเว่ยฉิงและตู้ชิงหยูตามเข้าไปข้างในด้วยกัน
เว่ยฉิงมาที่นี่ในตอนกลางคืนเท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นบ้านหลังนี้ในยามกลางวัน
ลานหน้าบ้านกว้างใหญ่มีทางเข้าออกสองทาง ดูสะอาดเรียบร้อย มีดอกไม้และต้นไม้ปลูกอยู่ในสวน ภรรยาเขาชอบปลูกดอกไม้ นางคงจะเป็นคนปลูกเอาไว้ เขานึกภาพยามที่นางปลูกดอกไม้และต้นไม้เหล่านี้ …นี่เป็นชีวิตประจำวันของนางยามที่เขาหายหน้าไปร่วมสองปี
ตู้ชิงหยูไม่พอใจมากเมื่อเห็นชายผู้นี้ทำท่าเดินไปมาราวกับเป็นเจ้าของบ้าน แต่เสี่ยวหลี่ตกหลุมรักคนผู้นี้ตั้งแต่แรกเห็น จนนางไม่อาจทัดทานได้
แต่ถ้าหากซานเป่าไม่ชอบเขา บางทีเสี่ยวหลี่อาจจะตัดใจได้ ไม่ใช่ว่าตู้ชิงหยูจะไม่อยากให้เสี่ยวหลี่สมหวังในความรัก เพียงแต่นางมีความคิดว่าหากผู้ใดได้เพลี่ยงพล้ำตกลงไปในหุบเหวแห่งความรักแล้วมักจะได้รับทุกข์มากกว่ามีความสุข
ผู้ชายคนนี้ดูดุร้าย ซานเป่าไม่น่าจะชอบเขาหรอก
ในตอนนั้นเองที่ร่างเล็ก ๆ วิ่งออกมาจากตัวบ้านอย่างร่าเริงมวยผมที่อยู่บนหัวสั่นไหวไปมา เมื่อเห็นเว่ยฉิงนางชะงักกึก ดวงตากลมโตเลิกกว้างด้วยความตกใจ จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นยินดี
“ท่านพ่อ!” ซานเป่าตะโกนเรียกอย่างมีความสุข โผเข้าหาอ้อมแขนของเว่ยฉิงทันที
เว่ยฉิงก้มตัวลงอุ้มลุกสาวขึ้นมาไว้ในวงแขน นางกอดคอเขาแน่น
ตู้ชิงหยู…….!
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เสี่ยวหลี่ซึ่งมีความรักอย่างลึกซึ้งกับสามีมาโดยตลอดจะไปตกหลุมรักผู้ชายที่เพิ่งเคยพบเจอกันในครั้งแรกได้อย่างไร! ตู้ชิงหยูไม่เคยเห็นสามีของถังหลี่มาก่อน แต่รู้ว่าเสี่ยวหลี่มักจะคิดถึงผู้ชายคนนี้มาตลอด ทำให้นางอดอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับตัวตนของชายผู้นี้ไม่ได้
นางหันไปมองถังหลี่ เห็นความสุขที่ฉายออกมาจากใบหน้าที่งดงามบอบบาง โชคดีที่สามีของถังหลี่กลับมาแล้ว นางจะได้ไม่ทนทุกข์จากความคิดถึงอีกต่อไป นอกจากนั้นเด็กน้อยซานเป่าก็คิดถึงบิดาของนางมาก ดูเอาเถิด! นางมีความสุขมากแค่ไหน…
………………………