เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 332 กู้อิ๋นหมั้นหมายกับจ้าวชู
- Home
- เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ
- บทที่ 332 กู้อิ๋นหมั้นหมายกับจ้าวชู
บทที่ 332 กู้อิ๋นหมั้นหมายกับจ้าวชู
หลังจากที่สกุลอู่ได้หมั้นหมายเว่ยฉิงกับถังหลี่ พวกเขาก็ได้เลือกวันมงคลสำหรับจัดพิธีแต่งงานขึ้น
สกุลอู่ให้ความสำคัญกับการแต่งงานในครั้งนี้มาก ฮูหยินอู่เป็นผู้จัดเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวเอง แม้จะไม่ได้หรูหรามากมายแต่นางทำทุกอย่างจนเต็มกำลัง
สกุลอู่นำเกี้ยวแปดคนหามมารับถังหลี่ งานแต่งงานครั้งนี้ยิ่งใหญ่และสวยงามเป็นที่เลื่องลือในเมืองชิงเหอ ผู้คนต่างกล่าวขวัญและแซ่ซ้องกันแทบจะทุกตรอกซอกซอยเลยทีเดียว
เมื่อถังหลี่แต่งเข้าสกุลอู่ เด็กทั้งสี่คนจึงกลายเป็นบุตรบุญธรรมของสกุลอู่ด้วย
ในที่สุดเว่ยฉิงก็สมปรารนา เขาไม่ต้องแอบย่องเข้าหาถังหลี่ในยามดึกๆ อีกต่อไป เขาจะได้นอนกอดภรรยาทุกวันในอ้อมแขน
เมื่อเว่ยฉิงกลับบ้าน เขามีความสุขมากแตกต่างจากยามที่เขาอยู่ที่ศาลาว่าการราวกับหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว
เดิมทีท่านอู่โหวและฮูหยินอู่กังวลว่าเขาจะเป็นคนเงียบขรึมเย็นชา ไม่สนใจอิสตรีไปตลอดชีวิตของเขา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะคิดมากไป
ในเวลาเดียวกันที่เมืองหลวง
จวนตระกูลกู้ได้รับพระบรมราชโองการจากฮ่องเต้แต่งตั้งให้คุณหนูกู้อิ๋นเป็นองค์หญิงอันเล่อ จากนั้นจึงมีข่าวว่าองค์ชายสามได้ขอคุณหนูกู้แต่งงาน ผู้คนรู้กันโดยทั่วว่าองค์ชายสามไม่เพียงโดดเด่น แต่ยังหล่อเหลา อ่อนโยนอีกทั้งสง่างาม เก่งทั้งบู๊ทั้งบุ๋นหาผู้ใดเทียบได้ยาก ไม่รู้ว่าจะมีลูกสาวตระกูลสูงศักดิ์จำนวนมากเพียงใดที่ได้ใฝ่ฝันถึงเขา การที่องค์ชายสามขอคุณหนูกู้แต่งงานนั้น แน่นอนว่าย่อมเป็นที่สนใจระคนริษยาอย่างมากมาย
ในเมืองหลวง ที่จวนตระกูลกู้ ชายหนุ่มร่างสูงและหญิงสาวคู่หนึ่งกำลังยืนสนทนากัน
“อาอิ๋น เจ้าอยากแต่งงานกับองค์ชายสามหรือไม่ หากเจ้าไม่อยากแต่ง ข้าจะขอร้องท่านพ่อท่านแม่ให้ปฏิเสธเขาไป” ชายหนุ่มร่างสูงเอ่ยกับหญิงสาวที่อยู่ข้างกาย ชายหนุ่มผู้นี้คือกู้หวนเนี่ยน ทายาทคนโตของสกุลกู้ และหญิงสาวผู้นี้คือกู้อิ๋นนั่นเอง กู้หวนเนี่ยนมองน้องสาวด้วยสีหน้าผ่อนคลาย
“พี่ชาย นั่นคือองค์ชายสามนะ ท่านจะปฏิเสธเขาได้หรือ?” กู้อิ๋นถามพร้อมกับเอียงใบหน้างดงามอ่อนหวาน
“ได้สิ ถ้าหากเจ้าไม่ต้องการย่อมไม่มีใครบังคับเจ้าได้ ทั้งบิดามารดาล้วนแต่ตามใจเจ้าอย่างแน่นอน ต่อให้ฝ่าบาทพระราชทานพระบรมราชโองการสมรสให้ หากถ้าเจ้าไม่ยินดี บิดาย่อมกราบทูลขอร้องฝ่าบาทได้”
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีหลายตระกูลส่งแม่สื่อมายังจวนสกุลกู้ แต่สกุลกู้ไม่เห็นคนเหล่านั้นอยู่ในสายตาด้วยรู้สึกว่าไม่คู่ควรกับบุตรสาวของพวกเขา รวมทั้งกู้อิ๋นก็ไม่ชอบด้วย พวกเขาจึงปฏิเสธไปจนหมด
ปีนี้กู้อิ๋นอายุสิบเก้าปีแล้ว ในแวดวงของสตรีชั้นสูงถือว่าอายุเกินเกณฑ์แต่งงานไปมากถึงกับมีคนเอาไปนินทาลับหลัง แต่คนในสกุลกู้ไม่สนใจ ตราบใดที่กู้อิ๋นไม่เต็มใจจะเข้าพิธีแต่งงานพวกเขาย่อมเลี้ยงดูนางได้ตลอดชีวิตอยู่แล้ว
อาอิ๋นของพวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานจากการอยู่นอกบ้านมานานหลายปีแล้ว พวกเขาต้องการให้นางได้สิ่งที่ดีที่สุดไม่อยากให้นางได้พบกับความทุกข์ใดๆ อีก กู้อิ๋นกอดแขนพี่ชาย “พี่ชาย ข้าไม่อยากให้ท่านพ่อขัดแย้งกับฝ่าบาท ไม่อยากให้จวนแม่ทัพกู้ต้องอับอายเพราะข้า.
กู้หวนเนี่ยนยิ้ม อาอิ๋นน้องสาวของเขาคนนี้ช่างเป็นเด็กดีกตัญญูรู้คุณจริงๆ จะหาใครดีไปกว่านางคงไม่มีอีกแล้ว
เขาไม่อยากให้นางเป็นกังวลแต่แล้วก็เห็นใบหน้าที่เขินอายของน้องสาว
“พี่ชาย ข้าชอบองค์ชายสามมาก ข้าอยากแต่งงานกับเขาเจ้าค่ะ”
กู้หวนเนี่ยนเห็นนางยิ้ม ดวงตาเต็มไปด้วยวสันตฤดู ดูราวกับว่านางชอบองค์ชายสามมากจริงๆ เนื่องจากอาอิ๋นชอบเขา จวนสกุลกู้ย่อมยินดี แต่ถ้าหากวันใดองค์ชายสามกลั่นแกล้งน้องสาวเขาล่ะก็ เขาจะไม่ไว้ชีวิตผู้ชายคนนั้น!
“เอาล่ะพี่รู้แล้ว” กู้หวนเนี่ยนลูบศีรษะน้องสาวเบาๆ อย่างรักใคร่ จากนั้นจึงได้เดินจากไป เขามักรีบร้อนอยู่เสมอ ในไม่ช้าเขาก็หายไปในพริบตา
เมื่อกู้หวนเนี่ยนจากไปแล้ว สีหน้ากู้อิ๋นเปลี่ยนจากไร้เดียงสาเป็นจริงจังขึ้นมาในทันใด
“คุณหนู ท่านอยากแต่งงานกับองค์ชายสามจริงๆ หรือเจ้าคะ?” จู๋เยว่สาวใช้คนสนิทของนางถามขึ้น กู้อิ๋นพยักหน้า
“จ้าวชูเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด”
ชาติที่แล้วนางตายด้วยความเกลียดชัง ตอนที่ใกล้ตายนั้นจึงตระหนักได้ว่าความรักเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์อย่างที่สุด เมื่อได้เกิดใหม่อีกครั้งนางจึงต้องการอำนาจ หากนางจะก้าวไปเป็นสตรีที่ยิ่งใหญ่ในใต้หล้านี้ นางจะต้องเป็นคนควบคุมความเป็นความตายของผู้อื่นเอาไว้ในมือ ผู้ชายที่นางเลือกจะต้องเป็นคนช่วยพานางเดินไปบนเส้นทางขรุขระนี้ได้ นั่นจึงต้องเป็นองค์ชายสาม ผู้ที่มีโอกาสได้ครองบัลลังก์มากที่สุด
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นางได้เฝ้าดูบรรดาองค์ชายทั้งหลาย สุดท้ายจึงได้มาเลือกองค์ชายสามเพราะตระกูลทางฝั่งมารดาของเขามีอำนาจ อีกทั้งเขายังเก่งทางบู๊และทางบุ๋นอย่างหาตัวจับยาก ที่สำคัญเขาหลงใหลในตัวนางทั้งยังไม่มีแม้กระทั่งพระชายาหรือนางสนมข้างกายแม้แต่ผู้เดียว แม้ว่ากู้อิ๋นจะตัดสินใจว่าชาตินี้นางจะไม่ขอรักใครเลยก็ตาม แต่ย่อมอดดีใจไม่ได้ยามที่มีคนมาชอบพอรักใคร่นาง อีกทั้งยังสามารถเป็นที่พึ่งในการแสวงหาอำนาจให้นางได้อย่างดีอีกด้วย
สกุลกู้เห็นด้วยกับข้อเสนอขอแต่งงานขององค์ชายสาม ในไม่ช้าจึงได้ตัดสินใจนัดวันหมั้นหมาย
ไม่กี่เดือนต่อมา สกุลกู้ได้จัดพิธีหมั้นอย่างสวยงาม ใครๆ ต่างพากันชื่นชมยินดีในชีวิตที่งดงามของกู้อิ๋น ที่ได้รับทั้งความโปรดปรานจากฮ่องเต้ อีกทั้งได้หมั้นกับองค์ชายสามผู้ที่เพียบพร้อมไปด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ จนใครๆต่างพากันอิจฉาไปทั้งเมืองหลวง
วันเวลาผ่านไปนับได้ครบหนึ่งปีพอดีหลังจากการหมั้นหมายของบุตรชายสกุลอู่และเถ้าแก่เนี้ยร้านหนิงเฟิง
ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายา อย่างแรกคือบุตรชายของเถ้าแก่เนี้ยฮวาได้ถือกำเนิดขึ้นมา เขาเป็นเด็กรูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์เหมือนเฉาจีเป็นอย่างมาก เรื่องนี้ทำให้เว่ยฉิงอิจฉา ทุกครั้งที่ภรรยากลับมาจากเยี่ยมเยียนเถ้าแก่เนี้ย เขาจะต้องเซ้าซี้นางไม่เลิกโดยหวังว่านางจะมีลูกออกมาเป็นครอก เรื่องนี้ทำให้ถังหลี่ทั้งโมโหทั้งขำ เพราะตอนนี้นางยังมีศัตรูเก่าอย่างกู้อิ๋น อีกทั้งการแก้แค้นครั้งใหญ่ของเว่ยฉิงก็ยังเป็นศึกหนักที่รออยู่ข้างหน้า ชีวิตของคนทั้งคู่ยังไม่สงบปลอดภัย พวกเขาจะมีบุตรด้วยกันได้อย่างไร…
เมื่อถังหลี่เห็นเขานั่งทรุดตัวอย่างโศกเศร้าที่มุมห้อง ไม่ขยับเขยื้อนกาย ก็ชวนให้เวทนายิ่งนัก นางอดไม่ได้ที่จะโน้มตัวไปปลอบโยนเขา ทันใดนั้นเว่ยฉิงได้กลายเป็นสุนัขตัวใหญ่กัดกินนางจนหมดทั้งตัวแทบไม่เหลือแม้แต่กระดูก ถังหลี่จึงได้ตระหนักว่านางถูกเว่ยฉิงหลอกเข้าให้แล้ว
แย่แล้ว!
เว่ยฉิงเป็นคนไร้เดียงสายามอยู่บ้าน หากออกนอกบ้านเมื่อไหร่ ท่าทีของเขาจะเปลี่ยนไป ในยามทำงานเขาเป็นคนน่าเชื่อถือ จริงจัง ในช่วงปีที่ผ่านมาเขาช่วยใต้เท้าเหวินไขปัญหาคดียากๆ หลายคดี ใต้เท้าเหวินชื่นชมเขาเป็นอย่างมาก
เจ้าคณะมณฑลเหวินรู้ว่าเว่ยฉิงอยากย้ายเข้าเมืองหลวงมาตลอด เมื่อเห็นว่ามีตำแหน่งว่างและเหมาะสมเขาจึงเขียนจดหมายแนะนำเว่ยฉิงให้อาจารย์ของเขาได้รับรู้ เว่ยฉิงจึงได้ทำงานเป็นขุนนางระดับสามในกรมอาญาซึ่งนับได้ว่าเป็นการเลื่อนตำแหน่งแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียว แต่สิ่งที่เว่ยฉิงให้ความสนใจไม่ใช่ที่ตำแหน่งสูงเช่นนั้น เขาต้องการเข้าไปยังกรมอาญาเพื่อหาสืบหาความจริงเกี่ยวกับตระกูลเซียวที่โดนกล่าวหาว่าสมคบคิดร่วมมือกับศัตรู
ย้อนกลับไปตอนนั้นแม้ท่านลุงของเขาจะสืบสวนเรื่องนี้มานานหลายปีแล้ว แต่กลับซับซ้อนเกี่ยวเนื่องกับผู้คนมากมาย หลายปีที่ผ่านมาท่านลุงของเขายังหาหลักฐานอะไรไม่ได้เลย
เป้าหมายของเว่ยฉิงคือล้างแค้น คืนความยุติธรรมให้ท่านแม่ ท่านปู่และลุงของเขา คนตระกูลเซียวต่อสู้กับให้แคว้นมาทั้งชีวิต พวกเขาไม่ควรจะมาโดนใส่ร้ายว่าเป็นคนทรยศคบคิดกับศัตรูเช่นนี้