เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 336 เทพเจ้าโรคระบาด
บทที่ 336 เทพเจ้าโรคระบาด
ฮั่วจีว์หวาดกลัวกู้หวนเนี่ยนจริงๆ เพราะเขาเป็นพี่ชายของกู้อิ๋น ฮั่วจีร์ทำร้ายน้องสาวเขาเข้าถึงกระดูก เดิมทีฮั่วจีร์มีสัญญาหมั้นหมายกับกู้อิ๋น แต่เป็นเพราะเขาหนีไปไม่อยากแต่งงานกับนาง ตั้งแต่นั้นมากู้หวนเนี่ยนเจอเขาครั้งใดจะเข้ามาทุบตีฮั่วจีว์เสียทุกครั้งไป เขาพยายามหลีกเลี่ยง แต่ไม่คิดมาก่อนเลยว่าวันนี้จะมาเจอกับเทพเจ้าโรคระบาดผู้นี้เข้าที่กลางถนน
เมื่อเห็นกู้หวนเนี่ยน ฮั่วจีว์ขนแขนตั้งชัน เขาหวาดกลัวจนอยากจะวิ่งหนี ชายหนุ่มย่อตัวหลบอยู่ข้างหลังถังหลี่อย่างขลาดเขลา แม้กู้หวนเนี่ยนจะหยาบคายดุร้ายแต่อย่างน้อยเขาไม่เคยทำร้ายผู้หญิง ถังถังจึงกลายเป็นโล่ป้องกันให้เขาไปโดยปริยาย!
ฮั่วจีว์ย่อตัวหลบหลังถังหลี่นางเป็นสตรีตัวเล็กๆ เท่านั้น จะไปบังผู้ชายตัวใหญ่เช่นเขาได้อย่างไร?
กู้หวนเนี่ยนวางเด็กทั้งสองลงกับพื้น บิดามารดาของเด็กวิ่งเข้ามาหากอดเด็กๆ ไว้พร้อมกับขอบคุณเขา
ถังหลี่มองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า คนผู้นี้คือพี่ชายร่วมสายเลือดของร่างเดิม เขาเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลา ตัวสูง คิ้วหนา มีดวงตากลมโต มองโดยรวมแล้วดูเหมือนผู้คนสกุลกู้จะสืบทอดรูปร่างหน้าตาดีกันมาทั้งสกุล
กู้หวนเนี่ยนมองถังหลี่ก่อน เขาชะงัก แต่เมื่อเห็นฮั่วจีว์เข้า ดวงตาเขาเย็นชาขึ้นมา
“ฮั่วจีว์เป็นเจ้าอีกแล้ว เจ้ายังกล้าเสนอหน้ามาให้ข้าเห็นอีกหรือ?”
“เหตุใดข้าจึงจะปรากฏตัวที่นี่ไม่ได้ ถนนแถวนี้ไม่ใช่บ้านเจ้านะ”
ฮั่วจีว์ยื่นหัวออกมา พูดอย่างขุ่นเคือง แต่หลังจากที่ได้สบสายตาของกู้หวนเนี่ยนเขาก็รีบกลับไปแอบที่หลังของถังหลี่อีกครั้ง ยามที่กู้หวนเนี่ยนเห็นฮั่วจีว์ครั้งใด ก็ทำให้นึกถึงการหลบหนีงานแต่งงานของเขาทุกครั้งไป
น้องสาวของเขาเป็นเด็กดีทำไมฮั่วจีว์จึงดูถูกนาง?
การที่เขาหนีงานแต่งงานไปเช่นนี้ทำให้น้องสาวเขาโดนชาวบ้านนินทาลับหลัง แม้ว่านางจะไม่ได้ชอบพอเขาก็ตามที แต่กู้อิ๋นไม่ควรเสียใจ ผู้ที่จะหนีงานแต่งงาน ควรเป็นน้องสาวเขามากกว่า!
กู้หวนเนี่ยนโกรธมาก เขาเดินตรงเข้าไปหา เมื่อฮั่วจีว์รู้ว่าตัวเองไม่อาจหลบเลี่ยงได้ เขาจึงกัดฟันโผล่หัวออกมา
“กู้หวนเนี่ยนอย่ารังแกกันให้มากนัก ข้าไม่ได้ชอบพอกู้อิ๋น ต่อให้เจ้าจะมองนางเป็นสมบัติที่ล้ำค่าของเจ้า ข้าก็ไม่ชอบ! แม้ว่าข้าจะหนีงานแต่งงาน แต่ข้าก็เคยให้โอกาสสกุลของเจ้าเป็นฝ่ายถอนหมั้นก่อน เจ้าอย่าใส่ร้ายข้าแต่ฝ่ายเดียว!”
“เจ้าจะโกรธอะไรข้านักหนาผ่านมากี่ปีแล้วก็ยังไม่สิ้นสุดใช่ไหม? ข้าสุดจะทนแล้ว เอาสิตีข้าให้ตายไปเลย!”
กู้หวนเนี่ยนยื่นมือออกไปหมายจะจับฮั่วจีว์มาตี แต่ในตอนนั้นเองถังหลี่ก็หยุดเขาไว้ จากการสนทนาระหว่างพวกเขาทำให้นางรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เดิมทีฮั่วจีว์มีสัญญาหมั้นหมายกับกู้อิ๋น แต่เพราะเขาไม่อยากแต่งงานกับนางจึงหนีไป แม้ว่าสกุลกู้จะยอมถอนหมั้นแต่โดยดี ทว่าเบื้องหลังกู้อิ๋นที่เสียหน้าก็มีพี่ชายอย่างกู้หวนเนี่ยนคอยเคียดแค้นฮั่วจีว์แทนนาง
ในนวนิยายต้นฉบับนั้นหลังจากที่กู้อิ๋นเกิดใหม่และเข้ามายังสกุลกู้ นางก็หว่านเสน่ห์ ทุกคนในครอบครัวต่างรักและเอ็นดูนาง ไม่ยอมปล่อยให้นางต้องรู้สึกทนทุกข์คับข้องใจสักอย่าง
เหตุการณ์ในตอนนี้ช่างสอดคล้องกับโครงเรื่องในนวนิยายเล่มนั้น
ถังหลี่รู้สึกสงสารเจ้าของร่างเดิม ช่างน่าสงสาร…
ถูกขโมยสถานะตัวตน ถูกขโมยครอบครัว และถูกแย่งความรัก… ถังหลี่มองกู้หวนเนี่ยน
“คุณชายกู้ โปรดฟังข้าก่อน” ถังหลี่เอ่ยขึ้นมา
กู้หวนเนี่ยนมองถังหลี่ เขารู้สึกประทับใจในตัวของสาวน้อยผู้นี้ตั้งแต่แรกเห็น จู่ๆ ก็เกิดความเอ็นดูนางอย่างไร้สาเหตุ เดิมทีเห็นฮั่วจีว์เขานึกคันมือคันเท้าอยากทุบตีคนผู้นี้ แต่เมื่อได้ยินที่สาวน้อยเอ่ยพูดออกมา เขาอดไม่ได้ที่จะหยุดฟัง
“คุณชายกู้ ข้ามีนามว่าถังหลี่เป็นพี่น้องร่วมสาบานกับฮั่วจีว์” ถังหลี่แนะนำตัวเอง
“ในเรื่องของการแต่งงานนั้นเป็นเพราะท่านมีความรักใคร่น้องสาวมาก แต่ทว่าพี่ชายของข้าไม่ได้ชอบพอกับนาง แตงที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมไม่หวาน [1] เขาจึงหนีการแต่งงานไป การกระทำของเขานั้นย่อมผิดทำนองคลองธรรม แต่สกุลฮั่วก็ได้ยื่นข้อเสนอให้ทางสกุลกู้เป็นฝ่ายถอนหมั้นก่อนเพื่อรักษาหน้าตาของทางสกุลกู้ คุณชายกู้ย่อมโกรธและยืนหยัดเพื่อน้องสาวของท่าน เมื่อเห็นเขา ท่านอยากทุบตีสั่งสอนเขา แต่ท่านสมควรหยุดการกระทำเช่นนี้ได้แล้ว” ถังหลี่หยุดพูดก่อนจะกล่าวต่อ
“ตอนนี้คุณหนูกู้ได้หมั้นหมายกับองค์ชายสามแล้ว นางได้คู่ครองที่เหมาะสม เห็นได้ว่าการถอนหมั้นในครั้งก่อนเป็นเรื่องที่ถูกต้องดีงามแล้ว ข้าอยากขอให้ท่านปล่อยมือจากพี่ชายข้าด้วยเถอะ”
กู้หวนเนี่ยนรักกู้อิ๋นเข้ากระดูก เขาไม่เปิดใจที่จะรับฟังเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับน้องสาวของเขาเลย แต่สิ่งที่สาวน้อยผู้นี้พูดออกมากลับฟังดูสมเหตุสมผล
กู้อิ๋นและองค์ชายสามเป็นคู่หมั้นกันและกำลังจะแต่งงานกันในไม่ช้า องค์ชายสามดีกว่าชายผู้นี้หลายเท่า พวกเขาเป็นคู่ที่เหมาะสมกันดีแล้ว เหตุใดเขาจึงยังจมอยู่กับอดีตแล้วไม่ก้าวไปข้างหน้าล่ะ?
“แม่นางพูดถูก” กู้หวนเนี่ยนมองไปที่ฮั่วจีว์
“ต่อไปข้าจะไม่ทำร้ายเจ้าอีก”
หลังจากพูดจบเขาก็เดินจากไป ฮั่วจีว์มองตามแผ่นหลังของกู้หวนเนี่ยนไปด้วยความตกตะลึง
เขากำลังจะโดนทุบตีจนต้องกลับไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่กับบ้านสักสี่ห้าวัน ถึงอย่างไรเขาก็สู้กู้หวนเนี่ยนไม่ได้อยู่แล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเทพเจ้าโรคระบาดผู้นั้นจะยอมปล่อยเขาไปจริงๆ
ฮั่วจีว์มองไปถังหลี่แววตาเป็นประกาย ถังถังเป็นคนช่วยชีวิตเขา! นางสามารถโน้มน้าวชายผู้นั้นได้ สุดยอดมาก!
“ถังถังพี่รองรักเจ้าเหลือเกิน!”
ฮั่วจีว์พูดรีบวิ่งไปหาถังหลี่ แต่แล้วไป๋มู่หยางก็ยื่นมือมายันหน้าอกเขาไว้
เสี่ยวถังแต่งงานแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะเป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน แต่ก็ไม่อาจจะเข้าใกล้จนเกินงามได้ ไม่เช่นนั้นน้องสาวของเขาจะเสียหาย
“อย่ารุ่มร่าม” ไป๋มู่หยางเตือน เขาหันไปหาถังหลี่ พูดกับนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“น้องเล็กหิวไหม? อาหารที่เจ้าสั่งเสี่ยวเอ้อร์เพิ่งนำมาให้ ไปกินกันเถอะ”
ทั้งสามเดินกลับไปยังห้องอาหารร่วมทานมื้อกลางวันด้วยกัน ทั้งไป๋มู่หยางและฮั่วจีว์ผลัดกันคีบอาหารใส่ชามของถังหลี่ หญิงสาวชอบความรู้สึกที่ได้รับการเอาใจแบบนี้มาก
เมื่อพวกเขาออกจากร้านอาหาร ก็พบเข้ากับชายหนุ่มในชุดสีม่วง อายุอานามใกล้เคียงฮั่วจีว์ เขามีดวงตาดอกท้อประกอบกับเสื้อผ้าที่หละหลวมไม่รัดกุมทำให้เขาดูเป็นชายเสเพลเจ้าชู้ ฮั่วจีร์มองเขาก่อนจะเดินถอยห่างออกไปอย่างรังเกียจ
ชายหนุ่มผู้นั้นเองก็มองฮั่วจีว์อย่างไม่ชอบใจเช่นกัน เขาทำเสียงขึ้นจมูกอย่างเยาะหยัน
จู่ๆ ก็มีหญิงนางหนึ่งพุ่งตัวเข้ามากอดชายหนุ่มดวงตาดอกท้อท่าทางเจ้าชู้ผู้นั้น
“กู้หลาง ในที่สุดข้าก็ได้พบท่าน”
“ทำไมช่วงนี้ท่านหายไปเลย ข้าตามหาท่านตั้งนาน หรือว่าท่านไม่ต้องการข้าแล้วหรือ? ท่านบอกว่าจะแต่งงานกับข้า…เหตุใดจึงไม่มาหาข้าเลยเล่า? เกิดอะไรขึ้น กู้หลางท่านไม่ต้องการข้าแล้วใช่ไหม?” นางกอดรัดชายผู้นั้นแน่น ร่ำไห้ออกมาอย่างน่าเวทนา
[1] แตงที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมไม่หวาน หมายถึง หากฝืนทำสิ่งที่มีเงื่อนไขไม่สมบูรณ์พร้อม ผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาไม่ดี