เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 376 ขบวนสินค้าสกุลไป๋
- Home
- เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ
- บทที่ 376 ขบวนสินค้าสกุลไป๋
บทที่ 376 ขบวนสินค้าสกุลไป๋
“สามี ท่านคิดว่านั่นใช่ขบวนสินค้าของพี่ชายหรือไม่?” ถังหลี่ถาม
เว่ยฉิงมองอย่างไม่แน่ใจ จะว่าไปแล้วมีผู้คนนามสกุลไป๋มากมายเช่นกัน แต่ที่นี่เป็นเมืองฉินโจว ห่างไกลจากเมืองหลวงมาก จึงเป็นไปได้น้อยที่จะเป็นขบวนพ่อค้าของไป๋มูหยาง
“ข้าจะไปถามดู” จะใช่หรือไม่ก็จำเป็นต้องไปถามไถ่ หากถนนมีความกว้างพอเขาจะได้ร้องขอให้ขบวนพ่อค้าหลบหลีกเปิดทางให้เขาไปก่อน หากมัวแต่ตามท้ายขบวนอยู่เช่นนี้จะทำให้การเดินทางกลับเมืองหลวงล่าช้าไปได้
“สามีให้ข้าเป็นคนถามพวกเขาดีกว่า”
หากมีใครรู้ว่าเขาไม่ได้ป่วยจริงและลากลับมาหาท่านลุงสาม การลาป่วยของเว่ยฉิงอาจมีปัญหาได้ นางไม่อยากให้เขาปรากฎตัวโดยไม่จำเป็น
ถังหลี่ใส่เสื้อคลุมกำลังจะลงจากรถม้า บังเอิญเหลือบไปเห็นคนผู้หนึ่งขี่ม้าวิ่งเข้ามาหาน่าจะเป็นคนที่มาจากขบวนสินค้า
เว่ยฉิงให้คนขับรถม้าหยุดก่อน ผู้ที่มาเป็นชายอายุราวสามสิบปี รูปร่างเตี้ยใส่เสื้อบุผ้าฝ้ายท่าทางเฉลียวฉลาดคล้ายกับเป็นพ่อค้า ชายคนนั้นโค้งคารวะให้ผู้คนรถม้า
“ขออภัยด้วย ขบวนรถม้าของข้าขวางทางท่าน”
ถังหลี่ตอบเขา
“ไม่เป็นไร หากถนนกว้างมากกว่านี้ขอท่านเปิดทางให้ข้าผ่านไปก่อนได้หรือไม่?”
“ได้ขอรับข้าจะเปิดทางให้พวกท่านผ่านไปก่อน”
“ไป๋… ท่านเป็นคนจากตระกูลไป๋สายไหนหรือ?” ถังหลี่อดถามไม่ได้
“พวกเรามาจากตระกูลไป๋ในเมืองหลวงขอรับ” ชายผู้นั้นตอบ
“ตระกูลไป๋ในเมืองหลวงหรือ? ช่างบังเอิญเหลือเกินพวกเราเองก็มาจากเมืองหลวงเช่นกัน เจ้านายของท่านชื่ออะไรหรือ?”
“เจ้านายของข้าคือท่านไป๋มู่หยางขอรับ”
เมื่อชายคนนั้นตอบถังหลี่จึงได้รู้ว่าเป็นขบวนพ่อค้าของพี่ชายนาง…จริงๆ
ถังหลี่อดมองชายผู้นั้นอีกครั้งไม่ได้ แปลกมาก! นางไม่เคยเห็นเขามาก่อน หรือว่าเขาจะเป็นลูกน้องของไป๋มู่หยางที่ออกเดินทางคุมขบวนรถขนสินค้าให้ เขาอาจะต้องเดินทางไปต่างเมืองตลอดทั้งปี
ถังหลี่ไม่ได้เปิดเผยตัวตนของตนเอง อีกทั้งยังมีคนมากมาย ไม่เป็นการดีถ้าหากจะมีใครจดจำนางได้
“ข้าเคยได้ยินชื่อของไป๋มู่หยางมาก่อน ท่านจะไปเมืองหลวงหรือ?”
“ขอรับ แม่นาง ท่านเรียกข้าว่าจ้าวถิงก็ได้ หากท่านต้องการความช่วยเหลือเรื่องอะไรก็บอกข้าได้ขอรับ”
“ขอบคุณเถ้าแก่จ้าว” หลังจากถามไถ่เรียบร้อยดีแล้วจ้าวถิงจึงได้ขี่ม้าไปที่หน้าขบวนสินค้าตามเดิม
ถังหลี่ถอดเสื้อคลุมปิดม่านหน้าต่าง นางมองเว่ยฉิง
“ดูแล้วน่าจะเป็นขบวนสินค้าส่งเหล็ก” เว่ยฉิงพูดขึ้นมาก่อน พี่ชายของนางเป็นเจ้าของเหมืองแร่เหล็กในเมืองฉินโจว แต่พวกเขาไม่น่าจะผ่านเมืองฉินโจวเพื่อไปเมืองหลวง หรือว่าพี่ชายจะมีเหมืองแร่เหล็กในเมืองฉินโจวด้วย? ถังหลี่ครุ่นคิด
“ภรรยา เจ้าคิดอะไรอยู่หรือ?”
“สามีข้ารู้สึกสังหรณ์ใจบอกไม่ถูก”
“ไม่เป็นไร มีข้าอยู่เจ้าอย่าวิตกเกินไป” เว่ยฉิงอุ้มนางนั่งที่ตักของเขา จับหัวเล็กๆ ของภรรยาซบเข้าที่ไหล่ของเขา ถังหลี่พยักหน้า นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
“สามีข้าง่วงนอน”
“นอนเถอะ”
ถังหลี่จึงหลับไป ถังหลี่สังหรณ์ใจอยู่ลึกๆ ไม่นานนางก็ฝันร้ายอีกครั้ง
ในความฝันครั้งนี้ มีกลุ่มโจรได้มาปล้นและฉกชิงสินค้าไป พวกมันฆ่าคนในขบวนสินค้าจนตายหมด ผู้คนที่เคยมีชีวิตเหล่านี้ได้กลายเป็นซากศพที่ไร้วิญญาณช่างน่าสังเวชยิ่งนัก
พวกเขาต่างมีครอบครัว มีภรรยาและบุตรที่รอพวกเขาอยู่ที่บ้านแต่สุดท้ายพวกเขาก็ไม่ได้กลับบ้าน
ฉากต่อมาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองหลวง เป็นเพราะแร่เหล็กได้ถูกปล้นไปส่งผลให้ตระกูลไป๋เสียหายอย่างหนัก ที่เลวร้ายที่สุดก็เพราะแร่เหล็กนี้เป็นสินค้าที่ต้องส่งมอบให้ราชสำนัก พี่ชายของนางไม่อาจหาข้อแก้ตัวใดๆ ได้ทำให้ราชสำนักไม่พอใจ การค้าของสกุลไป๋ดิ่งลงเหวในชั่วพริบตา ไป๋มู่หยางได้รับผลกระทบอย่างหนักจนทนไม่ไหว
ถังหลี่ลืมตาขึ้น นางอยู่ในอ้อมกอดของสามี เขาใช้เสื้อคลุมห่มร่างของนางไว้ทั้งยังตบหลังปลอบโยนนางเบาๆ
“ฝันร้ายหรือ?”
ถังหลี่พยักหน้าก่อนที่จะกระซิบให้เว่ยฉิงฟังถึงเรื่องราวในความฝัน
เว่ยฉิงขมวดคิ้ว
“ไม่เป็นไร ข้าจะดูแลเรื่องนี้เอง” ในตอนนั้นเองที่รถม้าได้หยุดกระทันหัน
“นายท่านข้างหน้าถนนกว้างขึ้นแล้ว ขบวนสินค้ากำลังหลีกทางให้พวกเราขอรับ” องครักษ์ลับที่แต่งกายเป็นคนขับรถม้ากล่าวกับเว่ยฉิง
สามีภรรยามองหน้ากันจากนั้นจึงได้ใส่เสื้อคลุมพร้อมกับปิดหน้าลงจากรถม้า โดยมีจ้าวถิงกำลังสั่งให้ขบวนรถขนสินค้าหลีกทางให้รถม้าของถังหลี่
เมื่อเห็นคนทั้งคู่ จ้าวถิงทักทายพร้อมรอยยิ้ม
“พวกท่านรอสักครู่ไม่ช้าจะได้เดินทางต่อ”
ถังหลี่มองถนนก่อนพูดว่า
“ถนนนี่ยังไม่ได้กว้างนัก ไปต่ออีกสักหน่อยเถอะ”
“ถอยไปหลบที่ด้านข้าง” จ้าวถิงหันไปสั่งขบวนขนสินค้า ก่อนจะหันมาตอบถังหลี่
“ขบวนสินค้าพอจะเบี่ยงหลบข้างทางได้ พวกท่านรีบเดินทางเถิดจะได้ไม่ล่าช้าจนเกินไป”
ถังหลี่เงยหนาขึ้นมองท้องฟ้า
“เที่ยงวันแล้ว ข้าคิดว่าพวกเราน่าจะหยุดพักกินอาหารก่อนจะดีไหม?”
“แม่นาง ท่านควรขับรถม้าต่อไปอีกสักพักที่ข้างหน้ามีเมืองเล็กๆ อยู่ พวกเราจะไปค้างคืนที่นั่นหลังจากกินอาหารเสร็จแล้ว” จ้าวถิงพูด ถังหลี่รู้สึกว่าจ้าวถิงอยากจะให้พวกนางแยกทางจากเขาเหมือนเขารู้อะไรบางอย่าง
“ข้าหิวแล้ว กินก่อนเถอะ” เว่ยฉิงพูดอย่างมีอำนาจเหนือกว่า
“สามีข้าร่างกายย่อยอาหารได้เร็วกว่าปกติ เขาจึงหิวบ่อย ข้าต้องพักกินอาหารก่อน” ถังหลี่ยิ้มก่อนจะอธิบายให้จ้าวถิงฟัง
นางสังเกตสีหน้าของจ้าวถิงดูเขาไม่พอใจที่จะให้นางและเว่ยฉิงอยู่ในขบวนรถขนสินค้าด้วย
เว่ยฉิงเตรียมอาหารไว้แล้ว ในที่สุดก็ถึงถนนที่แคบเหมือนเช่นเดิม จ้าวถิงมองสามีภรรยาที่กินอาหารอย่างไม่รีบร้อนด้วยอาการขุ่นมัว ดังนั้นเขาจึงจำต้องให้ขบวนสินค้าพักกินอาหารเที่ยงเช่นกัน
“เถ้าแก่จ้าว นี่เป็นอาหารที่ขึ้นชื้อของเมืองฉินโจว ท่านอยากจะลองชิมดูสักหน่อยไหม?” ถังหลี่ตะโกนถามเขา
จ้าวถิงเดินเข้ามา ใบหน้าเขาไม่มีรอยยิ้มอีกต่อไป เขาชิมไปสองสามคำแล้วพูดเบาๆ ว่า
“พวกท่านรีบกินให้เสร็จแล้วรีบไปจะดีกว่า”
“เถ้าแก่จ้าว ท่านมีเรื่องยุ่งยากหรือ?”
“ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับท่าน” เขาตอบห้วนๆ
“เถ้าแก่จ้าว ข้าไม่อยากจะพูดมาก แต่ที่จริงแล้วข้าไม่ได้แค่รู้จักไป๋มู่หยางหากเขายังเป็นพี่ชายของข้าอีกด้วย” ถังหลี่พูดขึ้นมา
จ้าวถิงมองนางอย่างตกตะลึง
“ท่านคือคุณหนูถัง!”
แม้ว่าเขาจะเดินทางตลอดไม่ได้หยุดหย่อนตลอดทั้งปี แต่ทุกคนในสกุลมู่รู้จักน้องสาวบุญธรรมของไป๋มูหยางที่ชื่อถังหลี่เป็นอย่างดี ไป๋มู่หยางให้ความสำคัญกับนางและสนิทกับนางมาก
“ใช่” ถังหลี่หยิบจี้หยกให้เขาดู นั่นเป็นจี้หยกของสกุลไป๋ เป็นคุณหนูถังจริงๆ
จ้าวถิงตื่นตระหนก เขามองสามีภรรยาที่อยู่ตรงหน้า
“คุณหนู ที่จริงแล้วพวกเรากำลังถูกคนสะกดรอยตามมาตลอดทาง ข้าเกรงว่าพวกเขาจะมีเจตนาร้าย ทั้งยังจะมีอันตรายเกิดขึ้น ข้าจึงอยากให้พวกท่านหลบไปก่อน ข้าจะส่งคนไปปกป้องท่านเอง”
จ้าวถิงซึ่งดูภายนอกเป็นเพียงพ่อค้าผู้หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วเขาน่าจะเป็นคนสำคัญที่พี่ชายนางวางใจให้เคุมขบวนสินค้า พี่ชายนางให้ความสำคัญกับเขาเช่นนี้ เขาจะเป็นเพียงพ่อค้าธรรมดาได้อย่างไร? เขาเป็นคนดีจริงๆ แม้ไม่รู้ตัวตนของนางก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะให้พวกนางรีบออกไปจากขบวนสินค้าเพื่อจะไม่ได้เจอกับอันตราย แต่คนดีๆ เช่นนี้กลับมาตายเพราะน้ำมือของโจรชั่ว!
“พวกเจ้ามีกันกี่คน?” ถังหลี่ถาม
“ยี่สิบห้าคนเป็นผู้มีวรยุทธ์ทุกคน”
ยี่สิบห้าคน จ้าวถิงคิดจะแบ่งคนไปคุ้มครองนาง