เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 53 เพื่อนบ้าน
บทที่ 53 เพื่อนบ้าน
ถังหลี่ตัดสินใจ ก่อนออกจากบ้านไป
หลังจากที่ครอบครัวสกุลเว่ยออกจากบ้านไปไม่นาน ทันใดนั้นประตูของบ้านหลังข้าง ๆ ก็เปิดออก สตรีวัยยี่สิบต้น ๆ เดินออกมา นางแอบย่องไปที่ประตูของบ้านถังหลี่และมองลอดเข้าไปในช่องประตู
“กุ้ยอิง เจ้ามองอะไรอยู่? ” จู่ ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของนาง เฉียนกุ้ยอิงตกใจมากนางรีบหันไปมองอย่างรวดเร็ว
“โอ้ย! พี่เถียน ท่านทำข้าเกือบหัวใจวาย” เถียนซื่ออาศัยอยู่อีกฟากหนึ่งของบ้านเฉียนกุ้ยอิง ครอบครัวนี้ทำการค้าขาย และเฉียนกุ้ยอิงมักจะมาพูดคุยกับนางบ่อยครั้งในเวลาที่นางว่าง เถียนซื่อโน้มตัวลงไปและมองลอดเข้าไปในบ้านเช่นกัน
“เจ้ากำลังดูอะไรอยู่หรือ? ”
“พี่เถียน บ้านหลังนี้ไม่ใช่ว่าประกาศขายหรือ? ข้าอยากรู้ว่าใครเป็นคนมาซื้อ… ก่อนหน้านี้ข้าเพิ่งเห็นว่าคนที่ซื้อไปเป็นเพียงพวกบ้านนอกที่มีลูกสองคน ดูครอบครัวตาเฒ่าจ่าวสิ! พวกเขาเลือกรับเงินจากพวกบ้านนอกแล้วสะบัดก้นหนีไป ทิ้งให้เรามีเพื่อนบ้านแบบนี้หรือ? ” เฉียนกุ้ยอิงพล่ามบ่นไม่หยุด
“บ้านนอกหรือ? ” เถียนซื่อแสดงความรังเกียจออกมา
“พวกบ้านนอกนี่มาอาศัยอยู่ด้านขวามือของบ้านท่าน เก็บทรัพย์สินตัวเองให้มิดชิดเถิด คนพวกนี้เป็นพวกชั้นต่ำ ชอบเอาเปรียบผู้อื่น!”
“ใช่ ข้าเคยไปอาศัยกับญาติที่บ้านนอกมาสองสามวัน เนื้อแห้งของข้าก็ถูกคนในบ้านหลังนั้นขโมยไป พวกมันเหมือนผีหิวโซอยากได้ข้าวของอย่างหน้าไม่อาย!” เฉียนกุ้ยอิงกล่าวขึ้นด้วยความรังเกียจ
“แย่จริง! พวกโลภมากหน้าไม่อาย พวกเด็ก ๆ ที่มาจากบ้านนอกก็คงนิสัยแบบนี้เหมือนกัน พวกมือเท้าสกปรก เจ้าควรใส่กลอนประตูบ้านให้แน่นขึ้นนะ” เฉียนกุ้ยอิงพยักหน้าตอบรับไม่หยุด
“ใช่แล้ว เด็กพวกนั้นเนื้อตัวมอมแมมเปื้อนดินเปื้อนทราย สกปรก ไม่มีการศึกษา! ข้าต้องคอยจับตาดูลูก ๆ ของข้าเอาไว้ ไม่เช่นนั้นจะนิสัยเสียตามพวกมันไป”
“ใช่ ของหายไม่สำคัญเท่าใดนัก…แต่ถ้าเด็ก ๆ ติดนิสัยไม่ดีมาคงแย่แน่! ข้ามีญาติคนหนึ่ง ลูกของนางไปเล่นกับพวกบ้านนอก เขาเป็นเด็กเรียนหนังสือเก่ง แต่ภายหลังกลับติดการพนัน! วัน ๆ ไม่อ่านหนังสือ เอาแต่เล่นพนัน เข้าบ่อนทุกวัน”
“โธ่เอ๋ย! เด็กบ้านนอกพวกนี้ช่างน่าอิดหนาระอาใจจริง ๆ ”
เฉียนกุ้ยอิงคิดทบทวน ดูท่านางต้องให้สามีหาเงินเพิ่มแล้ว จากนั้นก็ย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ที่ดีกว่านี้ นางต้องไม่ปล่อยให้พวกบ้านนอกคอกนาเหล่านี้มาทำลายชีวิตดี ๆ ของนาง
…….
เว่ยฉิงนัดแนะวันฉลองบ้านใหม่และถังหลี่ได้เดินทางเพื่อไปเชิญแขกของตัวเอง หญิงสาวมุ่งหน้าไปที่จวนสกุลไป๋
บ่าวรับใช้หน้าประตู เขารู้ว่าถังหลี่คือน้องสาวที่ล้ำค่าของนายท่านไป๋ จึงรีบเชิญนางเข้าไปในจวนอย่างดี ตอนนี้ร่างกายของไป๋มู่หยางดีขึ้นมาก สุขภาพของชายหนุ่มใกล้จะกลับมาเหมือนคนปกติทั่วไปแล้ว เมื่อสองวันก่อนเขาและฮั่วจีว์พากันขี่ม้าออกไปเล่นแถวชานเมือง นั่นเป็นสิ่งที่ไป๋มู่หยางไม่เคยแม้แต่จะกล้าฝันถึง..
ถังหลี่มองไปยังพี่ชายของนาง ความคิดแรกที่ผ่านแวบเข้ามาก็คือพี่ชายของนางหล่อมาก! ชายหนุ่มไร้วี่แววของความเจ็บป่วยและอ่อนแอ ไป๋มู่หยางเป็นบุรุษรูปงามและนุ่มนวล เป็นที่ชวนฝันของสตรีหลายคน
เมื่อได้ยินว่าถังหลี่ซื้อบ้านในตัวเมือง ไป๋มู่หยางก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมา น้องสาวเข้ามาอาศัยในเมืองเช่นนี้ หมายความว่าชีวิตของนางกำลังเจริญรุ่งเรือง และในอนาคตจะต้องราบรื่นอย่างแน่นอน
“ท่านพี่ ท่านต้องมางานฉลองบ้านใหม่ของข้านะ”
“ข้าจะไปแน่นอน”
ไป๋มู่หยางเริ่มคิดว่าเขาควรจะให้อะไรเป็นของขวัญแก่ถังหลี่ดี นางเป็นหญิงสาว นอกจากของขวัญจะต้องมีมูลค่าแล้ว ก็สมควรจะต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วย
และในฐานะพี่ชายคนรองฮั่วจีว์ย่อมได้รับคำเชิญเช่นกัน ชายหนุ่มได้บอกต่อเหล่ามิตรสหายของเขาอย่างรวดเร็ว ทั้งคนคุ้มกันและสหายที่สนิทของเขาล้วนเป็นพวกหัวโจกจากเมืองซ่างจิงด้วยกันทั้งนั้น เขาหนีการแต่งงานจากเมืองหลวงมาครั้งนี้ไม่ได้มาเพียงลำพังแต่ผู้เดียว ยังมีบรรดาเพื่อนสนิทต่างยกโขยงตามเขามาเพื่อใช้ชีวิตกินดื่มอย่างหนุ่มเจ้าสำราญอีกหลายคน
เมื่อพวกเขาได้ยินว่าจะมีงานฉลองขึ้นบ้านใหม่ แสดงว่าพวกเขาจะได้กินเหล้ากันอีกแล้ว ดังนั้นย่อมไม่รีรอที่จะตอบตกลงกันถ้วนหน้า
“แต่งานเลี้ยงนี้ พวกเจ้าต้องจ่ายคนละห้าตำลึงนะ!” ฮั่วจีว์กล่าว
“จีว์เหล่าจู พวกเราต้องจ่ายค่ากินเลี้ยงด้วยหรือ? ”
“โอ้… นี่มันไม่ใช่แบบที่เราเคยทำกันเลยนี่”
“จีว์เหล่าจู มันเหมาะสมกับฐานะทางบ้านของเราหรือ? จ่ายเงินเพื่อแลกอาหารและสุรา ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไปละก็ คนในเมืองซ่างจิงคงได้หัวเราะเยาะเป็นแน่”
“นางเป็นน้องสาวข้า ข้าอาจจะเอาเปรียบผู้อื่นได้ แต่ข้าไม่อาจเอาเปรียบกับน้องสาวข้าได้!” ฮั่วจีว์บอกพวกเขา
“น้องสาวของจีว์เหล่าจู? ”
“นางฟ้าที่ลงมาจุติที่โลกมนุษย์น่ะหรือ? ”
“ที่งามเหมือนเทพธิดาลั่ว[1]กลับชาติมาเกิดน่ะหรือ? ”
ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้าง พวกเขาจำได้ดีถึงสิ่งที่ฮั่วจีว์พร่ำบอกพวกเขาเกี่ยวกับน้องสาวคนนี้ ที่เหมือนนางฟ้าลงมาจุติ เหมือนเทพธิดาลั่วเซิ่นกลับชาติมาเกิด….
แต่ในแคว้นนี้จะมีสตรีที่งดงามถึงเพียงนั้นเชียวหรือ? พวกเขาไม่มีทางเชื่อแน่นอน เขาเคยจะให้ฮั่วจีว์พานางมาเจอหลายครั้งแล้ว แต่ชายหนุ่มเอาแต่ปฏิเสธ ทำให้พวกเขาไม่เชื่อในคำอวดอ้างของฮั่วจีว์อีกต่อไป
และครั้งนี้พวกเขาจะมีโอกาสได้ยลโฉมนางแล้ว!
พวกเขาจะฉีกหน้าฮั่วจีว์และหัวเราะเยาะเขาให้สาแก่ใจเลยทีเดียว
……
ไม่นานนักก็ถึงวันที่ย้ายเข้าบ้านใหม่
ถังหลี่และเว่ยฉิงแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน ชายหนุ่มเข้าไปซื้อผักในตลาดและถังหลี่ไปรับต้าเป่ากับสวี่เจวี๋ยที่สำนักหงเหวิน
หญิงสาวยืนรออยู่ตรงทางเข้าสำนักศึกษาหงเหวินก่อนจะเห็นเจ้าเกี๊ยวน้อยสองคนเดินออกมา ต้าเป่าและสวี่เจวี๋ยแต่งตัวคล้ายกัน พวกเขาสวมชุดยาวและสวมหมวกบัณฑิตรุ่นเยาว์ใบเล็ก ซึ่งทำให้ทั้งคู่ดูเหมือนบัณฑิตตัวน้อย พวกเขามีใบหน้าที่อ่อนโยนคล้ายฝาแฝด น่ารักมาก เด็กทั้งสองมองไปที่ถังหลี่ด้วยดวงตาดีใจ
“ท่านแม่!”
“ท่านพี่!”
ถังหลี่จับมือเล็ก ๆ คนละข้าง ก่อนจะพาพวกเขาเข้าไปที่บ้านหลังใหม่ หญิงสาวสอบถามเรื่องต่าง ๆ มากมายกับทั้งคู่เกี่ยวกับชีวิตในสำนักศึกษา เด็กน้อยตอบนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน คำที่พูดล้วนผ่านการคัดกรองมาอย่างดี เด็ก ๆ เล่าให้นางฟังถึงคำชมเชยที่อาจารย์มีต่อพวกเขา หญิงสาวได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกภูมิใจมาก นางได้รู้ซึ้งถึงความภูมิใจที่บิดามารดามีต่อบุตรของตนว่าเป็นอย่างไร?
“ท่านแม่ ในเมื่อเรามีบ้านอยู่ในเมืองแล้ว ข้าจะได้เจอท่านแม่บ่อยกว่านี้หรือไม่? ”
“ได้สิ แม่จะไปหาพวกเจ้าทั้งสองคนให้บ่อยขึ้น”
ดวงตาของเด็กน้อยทั้งสองเปล่งประกาย แม้ว่าต้าเป่าจะฉลาดแต่เขาก็ยังเป็นเพียงเด็กเล็ก ๆ คนหนึ่ง บางครั้งเด็กชายก็คิดถึงบิดามารดา เขาทำได้แค่ซ่อนตัวอยู่บนเตียงนอนและร้องไห้จนตาบวมช้ำ จนรุ่งเช้าก็ถูกเพื่อน ๆ หัวเราะเยาะ
ต้าเป่าไม่ได้อยากร้องไห้งอแงเช่นนี้ แต่เขาคิดถึงท่านพ่อกับท่านแม่ คิดถึงอ้อมกอดอันอบอุ่นของนาง คิดถึงน้ำเสียงอันอ่อนโยน และคิดถึงอาหารฝีมือท่านแม่มาก! อีกทั้งเขายังคิดถึงท่านพ่อ น้องชายและน้องสาวด้วย!
ตอนนี้สามารถเจอพวกเขาได้บ่อยขึ้นแล้ว!
ต้าเป่ากระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข
เมื่อกลับถึงบ้านทุกคนในครอบครัวเริ่มง่วนอยู่กับงาน ต้าเป่าและสวี่เจวี๋ยถอดเสื้อคลุมของพวกเขาออกและมาช่วยงานต่าง ๆ ด้วย ต้าเป่าเดินตามเว่ยฉิงไปช่วยล้างผัก สวี่เจวี๋ยจุดไฟในเตาและถังหลี่เป็นคนทำอาหาร มีเมนูเนื้อปลา ข้าวสวย น้ำแกงกระดูกตุ๋นในหม้อใบใหญ่ พร้อมกับผัดผักจานใหญ่ ถังหลี่ตั้งใจทำอาหารทุกอย่างเป็นอย่างดี
ไป๋มู่หยางมาถึงเป็นคนแรก เอ้อร์เป่าและซานเป่ายืนอยู่ที่หน้าประตูและทำหน้าที่ต้อนรับแขกที่มาในวันนี้ เด็กทั้งสองคนเชิญไป๋มู่หยางเข้ามาในบ้าน
“ท่านลุงเชิญนั่งขอรับ” เอ้อร์เป่าเชิญไป๋มู่หยางเข้าไปในห้องรับแขก
“ท่านลุงขา… ข้ารินน้ำชาให้นะเจ้าคะ” ซานเป่าปีนขึ้นไปบนม้านั่งตัวเล็กด้วยขาสั้น ๆ ของนาง ก่อนจะค่อย ๆ รินชาให้ไป๋มู่หยาง
ชายหนุ่มอดยิ้มไม่ได้เมื่อมองดูเจ้าก้อนแป้งน้อยทั้งสองที่ออกมาทักทายแขก เมื่อรับถังหลี่เป็นน้องสาว เขาก็ได้มีหลานตัวเล็ก ๆ เพิ่มขึ้นอีกสองสามคน ซึ่งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกมีความสุขยามเฝ้ามองพวกเขา
ฮั่วจีว์และสหายของเขามาถึงก่อนเวลาอาหารเย็น ฮั่วจีว์มีความคิดที่ดีว่าเขาจะพาเพื่อน ๆ มามอบเงินให้กับน้องสาวของตน ตอนนี้ชายหนุ่มกำลังถังแตกและหาเงินได้จากเพื่อน ๆ ไม่กี่คนเท่านั้น เขาเข้าใจความลิงโลดของเพื่อนตัวเองเป็นอย่างดี หากแต่การมาถึงเร็วเกินไปมันจะเป็นการสร้างปัญหาให้น้องสาวของเขาหรือไม่นะ?
ฮั่วจีว์พาเพื่อนทั้งสี่คนเข้ามาในบ้านอย่างสง่าผ่าเผย
“พวกเจ้าจำเอาไว้ว่านี่เป็นบ้านของน้องสาวข้า หากพวกเจ้ามีใครทำรุ่มร่ามกับนางละก็ ข้าจะทุบตีให้ตายเลย! เข้าใจหรือไม่? ” คุณชายฮั่วจีว์กล่าว
“รู้แล้วน่า จีว์เหล่าจู มาทำความรู้จักกับน้องสาวเจ้ากันเถิด!”
เขาทนรอแทบไม่ไหวแล้วที่จะได้ยลโฉมหน้าของน้องสาวฮั่วจีว์!
คงจะรูปร่างหน้าตาธรรมดาไม่เหมือนกับที่อีกฝ่ายโม้ไว้แน่นอน!
**********
[1] เทพธิดาลั่ว หรือลั่วเซิ่น เป็น เทพเจ้าแห่งน้ำที่คอยดูแลแม่น้ำลั่วในเทพนิยายยุคก่อนราชวงศ์ฉิน